ppsan
|
|
« on: 16 October 2021, 09:51:09 » |
|
หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี "ความทรงจำที่มีต่อในหลวง รัชกาลที่ 9"
หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ซึ่งทรงรับใช้ใกล้ชิดใต้เบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงเล่าถึงเหตุการณ์และความทรงจำที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ตอนหนึ่งว่า
“...วันนั้น (วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559) ผมขึ้นเครื่องบินไปเชียงใหม่เพื่อไปดูโครงการหลวงตามปกติ เมื่อไปถึงสนามบินเชียงใหม่ ก็มีเจ้าหน้าที่ของโครงการหลวง ของการท่าอากาศยานไทย และคนของการบินไทยไปรอรับผมผมก็งงว่ามาทำอะไรกันเยอะแยะ จึงได้ทราบว่าหนิง (ม.ร.ว.ภวรี-ธิดา) โทรมาให้ผมนั่งเครื่องกลับกรุงเทพฯ ระหว่างรอขึ้นเครื่อง ลูกสาวก็โทรมาร้องไห้โฮและบอกว่า พระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้ว พวกเราสี่คนที่สนามบินก็ร้องไห้กันใหญ่
จะเรียกผมว่ายังไงผมก็ไม่รู้ แต่ทรงเป็นกันเองและพระราชทานความสนิทสนม ทรงชวนผมต่อเรือ เล่นเรือ หลังทรงต่อเรือเสร็จ มักรับสั่งชวนผมให้เป็นเพื่อนคุยกับพระองค์จนดึกดื่นเป็นประจำ
คืนหนึ่งพระองค์กับผมกำลังง่วนแต่งไม้ที่จะเป็นกระดูกงูเรือใบกันอยู่ ทันใดนั้น เกิดมีเสียงระเบิดตูม ๆ ตามด้วยเสียงรัวยังกับปืนกล ผมนึกในใจว่า จะเกิดรัฐประหารหรืออย่างไร เสียงดังขึ้นใกล้ ๆ พระตำหนักจิตรลดาฯ เสียด้วย แต่ เอ... คิดอีกทีก็ไม่น่าจะใช่เสียงระเบิดหรือปืน
คิดขึ้นได้ผมก็เลยพลิกข้อมือดูนาฬิกาเลยทราบว่า ที่แท้เสียงที่ได้ยินคือเสียงจุดพลุฉลองปีใหม่ที่เขาดิน ว่าแล้วผมก็ก้มลงกราบพระบาทและถวายพระพรปีใหม่ ผมกราบพระบาทพระองค์เป็นคนแรกไม่รู้กี่หน วันปีใหม่ วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระองค์ประทับอยู่กับผมโดยไม่มีคนอื่นเลย ผมก็ปลื้มใจมาก
ตอนผมอายุ 90 รับสั่งให้ผมเข้าเฝ้าฯ ที่ศิริราช เพื่อพระราชทานน้ำสังข์และให้พรวันเกิด พระสุรเสียงไม่ดังมากและช้า แต่ก็มีพระราชปฏิสันถารกับผมอยู่ตั้ง 3 ชั่วโมง
เวลาเข้าเฝ้าฯ พระองค์โปรดตรัสถึงเรื่องเก่า ๆ รับสั่งถึงสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และทุก ๆ เรื่องที่พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ
ต่อจากนี้ แม้จะไม่มีพระองค์อีกต่อไปแล้ว แต่ผมและทุกคนในโครงการหลวงก็ร่วมใจกันตั้งใจทำงานถวายพระองค์ตลอดไป พวกเราจะต่อยอดงานโครงการหลวงที่พระองค์ทรงริเริ่มไว้ให้ยังคงดำเนินสืบต่อไป...”
จากนั้น HELLO! ได้ประทานขออนุญาตทูลถามถึงพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ฉายพระรูปกับ ม.จ.ภีศเดช แต่ละภาพ ท่านภีที่มีพระชันษา 95 ปี ทรงถ่ายทอดเรื่องราวและบรรยากาศเหตุการณ์เมื่อครั้งนั้นได้อย่างแม่นยำและลื่นไหล น้ำเสียงของท่านภีทรงเปี่ยมไปด้วยความสำราญ พระทัย บ้างก็ทรงยิ้ม เสียงทรงพระสรวลทำให้ทราบว่าทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพระองค์ยังคงกระจ่างชัดในความทรงจำของท่านภีเสมอ ทว่า เมื่อทรงเล่าถึงภาพสุดท้าย จบลง ท่านภีทรงนิ่ง ทอดพระเนตรมองไปที่ฝูงนกเขาในสวนด้านนอกและมีรับสั่งเบา ๆ แต่ได้ยินชัดว่า
“คิดถึงพระองค์ คิดถึงจริง ๆ” น้ำพระเนตรท่านภีไหลรินอีกครา
Cr. นิตยสาร HELLO! ปีที่ 11 ฉบับที่ 24 วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2559
|