Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
22 December 2024, 17:17:16

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618 Posts in 12,929 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  Profile of ผนังเก่าเล่าเรื่อง  |  Show Posts  |  Messages

Show Posts

* Messages | Topics | Attachments

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - ผนังเก่าเล่าเรื่อง

Pages: [1]
1
ยามเมื่อผลประโยชน์มากันคนละท่อน้ำ้เลี้ยง คนที่เคยยืนเคียงก็กัดกันด้วยกวี


2
หลังจากหมดยุคของอาจารย์ เหม เวชกร ก็เห็นจะมีแต่ท่านนี้ (อาจารย์คำนวณ ชานันโท)

ปัจจุบันท่านอายุ ๘๐ ปีแล้วที่ฝากผลงานจิตรกรรมทางพุทธศาสนสาที่สวยงามให้เราได้ชม
วัดบางวัดที่ไม่เขียนงานจิตรกรรมแบบโบราณก็จะนิยมเขียนแนวอาจารย์เหม เวชกร แต่ก็ยังไม่เคยเห็นมีใครเขียนแนวอาจารย์คำนวณ

แต่ถ้าท่านใดชอบงานแนวนี้ ทีมงานผนังเก่าทำให้ได้นะครับ




3
งานคัดลายเส้นลวดลาย(รดน้ำ)พนักธรรมมาสน์วัดเชิงท่าอยุธยา โบราณเขียนอย่างไรก็คัดลอกตามฝีมือครูโบราณเยี่ยงนั้นนะครับ


4


<a href="http://www.youtube.com/v/PsxfvwuCqxo?version" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/PsxfvwuCqxo?version</a>

Vincent Willem van Gogh (1853-1890)

จิตรกรชาวดัชท์ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล ด้วยผลงานที่บุกเบิกแนวทางใหม่ของศิลปะแบบโมเดินท์อาร์ต-เอ็กส์เพรสชั่นนิสท์ ที่สร้างอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นต่อมา

อย่างมากมาย แวนโก๊ะนับเป็นผู้มีพรสวรรค์ทางศิลปะระดับอัจฉริยะ แต่กลับมีปัญหาในการอยู่ร่วมกับผู้คนโดยทั่วไป ทำให้ไม่ได้รับการยอมรับในด้านส่วน

ตัว ทั้งต้องต่อสู้เพื่อเสนองานศิลปะ และทนทุกข์ทรมานจากอาการป่วยทางจิตประสาท ซึ่งสะท้อนออกมาในงานเขียนของเขาด้วยการใช้สีสันอันร้อนแรง

การปัดพู่กันแบบหยาบๆ และลายเส้นที่มีลักษณะเฉพาะตัว อาจเพราะผลงานที่ล้ำยุคสมัยทำให้ภาพเขียนของเขากว่า 1500 ภาพ มีเพียงภาพเดียวที่นับว่า

“ขายได้” ขณะผู้เขียนยังมีชีวิตอยู่ แวนโก๊ะตัดสินใจใช้ปืนสั้นจบชีวิตตัวเองลง ขณะมีอายุได้เพียง 37 ปี เนื่องจากเชื่อว่าผลงานศิลปะจะมีผู้ให้ความสนใจ

มากขึ้นหากศิลปินเสียชีวิตลง ชีวประวัติของเขานับ เป็นโศกนาฏกรรมเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ศิลปะ

-------------------------------------------------





The Starry Night
Oil on canvas 73x92 cm.
Saint-Remy : June,1889

ภาพเขียนสีน้ำมันที่มีชื่อเสียงที่สุดชิ้นหนึ่งของแวนโก๊ะ เก็บรักษาไว้ที่ The Museum of Modern Art, New York ปัจจุบันควรมีมูลค่านับพันล้านบาทหากนำ

ออกประมูล โดยปกติแล้วผลงานของแวนโก๊ะมักเขียนขึ้นใน เหตุการณ์สถานที่จริง แต่ภาพนี้ถูกเขียนจากจินตนาการขณะพักรักษาตัวด้วยอาการป่วยทาง

จิตประสาท แวนโก๊ะมักบรรยายถึงแนวคิดในผลงานทุกชิ้นไว้อย่างลึกซึ้งแต่กลับไม่มีการกล่าวถึงภาพนี้เอาไว้เลย ภาพจึงได้รับการวิเคราะห์วิจารณ์

อย่างกว้างขวาง บางทีตอนนี้เขาอาจอยู่ในที่แห่งใดแห่งหนึ่งเฝ้ามองโลกนี้ผ่านภาพเขียนของเขา และอาจไม่มีใคร สามารถเข้าใจความหมายที่แท้จริงของ

ภาพ The Starry Night ในใจเขาได้ตลอดกาล...

คืนดวงดาวพร่างพราวฟ้า... แต่งแต้มจานสีเธอด้วยสีฟ้าสีเทา
เฝ้ามองทิวาวารแห่งคิมหันต์ฤดู
ด้วยดวงตาที่หยั่งรู้ความหม่นมัวในใจฉัน

เงื้อมเงาทาบทาทิวเขา ขีดเขียนภาพร่างทิวไม้และหมู่ต้นแดฟโฟดีล
สัมผัสสายลมรวยริน และความเยือกเย็นแห่งฤดูกาลเหน็บหนาว
จากมวลสีสันแต่งแต้ม...บนพื้นลินินขาวราวหิมะ...

และแล้วฉันพลันเข้าใจ... สิ่งใดที่เธอเพียรบอกฉัน
ยากเย็นเพียงไหนที่เธอสู้ฝ่าฟัน
และเหนื่อยยากเพียงใด เพื่อปลดปล่อยเหล่าผู้คน
ไม่มีใครรับรู้ ไม่เคยมีใครเข้าใจ
อาจบางที...จะมีใครรับฟังบ้างแล้ว...

คืนดวงดาวพร่างพราวฟ้า... ดั่งดอกไม้เพลิงโชติช่วงสุกใส
หมู่เมฆหมุนคว้างกลางเงาหมอกม่วงหม่น...
สะท้อนในดวงตาสีครามของวินเซนต์

สีสันแปรเปลี่ยนความเข้มจาง ท้องทุ่งยามอรุณดั่งโรยเม็ดอำพัน
ใบหน้าอันทุกข์ทน กร้านกรำทรมาน...
พลันได้รับการบรรเทา...ใต้มือเปี่ยมรักแห่งศิลปิน

บัดนี้ฉันจึงเข้าใจ... สิ่งใดที่เธอพร่ำบอกฉัน
ยากเย็นเพียงไหนที่เธอสู้ฝ่าฟัน
และเหนื่อยยากเพียงใด เพื่อการปลดปล่อยเหล่าผู้คน
ไม่มีใครรับรู้ ไม่เคยมีใครเข้าใจ
บางทีตอนนี้...จะมีใครรับฟังบ้างแล้ว...

แม้ไม่อาจมีใครรักเธอ... แต่รักเธอยังคงเที่ยงแท้เพียงนั้น
และเมื่อยามสิ้นไร้ความหวัง....โอ้ คืนแห่งดาราพร่าพราย...
เธอได้พลีใจกาย เช่นเหล่าผู้มีรักได้เคยกระทำ...

แต่วินเซนต์เอ๋ย... ฉันอาจบอกเธอได้เพียงว่า?
โลกนี้ไม่เคยคู่ควร... กับผู้งดงามเช่นเธอ...

คืนดวงดาวพร่างพราวฟ้า....
รูปเหมือนแขวนไว้ในห้องโถงเวิ้งว้างว่างเปล่า?
ใบหน้าในภาพไร้กรอบ... ติดผนังไว้โดยไร้นาม
กับดวงตาที่ยังเฝ้ามองสรรพสิ่งและไม่เคยลืมเลือน

เหมือนเหล่าคนจรพลัดถิ่นที่เธอเคยพบพาน...
คนยากไร้ในอาภรณ์คร่ำคร่า...
ดั่งหนามสีเทาเงิน กุหลาบแดงสดใส...
ถูกขยี้แหลกลาญ กลางผืนหิมะขาวสะอาด

บัดนี้ฉันจึงคิดเข้าใจ...สิ่งใดที่เธอเพียรบอกฉัน
ยากเย็นเพียงไหนที่เธอสู้ฝ่าพัน
เหน็ดเหนื่อยเพียงใด กับการปลดปล่อยเหล่าผู้คน
พวกเขาไม่เคยรับรู้... ยังไม่มีใครยอมรับฟัง...

อาจบางที...พวกเขาไม่มีวันเข้าใจ...

Pages: [1]
SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.089 seconds with 21 queries.