Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
วิถีสู่ชีวิตแห่งความพอเพียง => เกษตรทางเลือก => เพอร์มาคัลเจอร์ => Topic started by: Smile Siam on 29 December 2012, 08:11:04
-
เพอร์มาคัลเจอร์ #4 : เรื่องเล็กๆ ของการเก็บน้ำฝน
วันนี้มีเวลาน้อยก็ขอเขียนเรื่องเล็กๆ ของการเก็บน้ำฝนแล้วกัน การเก็บน้ำฝนไว้ใช้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของคนไทยเลย ตามหลักของเพอร์มาคัลเจอร์ถ้าเราปล่อยให้น้ำฝนที่สะอาดไหลไปโดยไม่ได้เก็บไว้ใช้งาน เมื่อเราต้องการใช้น้ำสะอาดก็จะต้องใช้น้ำประปา ซึ่งในขบวนการผลิตน้ำประปาก็มีการใช้พลังงานและสารเคมีใส่เข้าไปอีกในระบบกรอง และระบบส่งน้ำ นับว่าไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเสียเลย
เพียงเพราะเราไม่เก็บน้ำฝนไว้ใช้งานทำให้มีการใช้พลังงาน และทรัพยากรธรรมชาติโดยไม่จำเป็น เพอร์มาคัลเจอร์จึงสนับสนุนการเก็บน้ำฝนไว้ใช้งานในครัวเรือน และรางน้ำฝนก็เป็นเครื่องมือหนึ่งที่เราคุ้นเคยกันดี ปัญหาของการเก็บน้ำฝนคือหลังคาของเราไม่ได้สะอาดอยู่เสมอ อาจจะมีขี้นก หรือฝุ่นละอองปนเปื้อน วิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้น คือการแยกน้ำที่ไหลผ่านรางน้ำฝนในช่วงฝนตกใหม่ๆ ไว้สำหรับรดน้ำต้นไม้ หรือทิ้งไปเลย และเริ่มเก็บน้ำฝนหลังจากฝนตกไปสักพักไว้สำหรับดื่ม หรือปรุงอาหาร ปัญหาคือวิถีชีวิตของเราเปลี่ยนไปแล้ว ไม่มีคนอยู่บ้านเป็นประจำที่สามารถมาเป็นตุ่มน้ำฝนเมื่อฝนตกไปสักพักแล้วเหมือนเมื่อก่อน เพราะทุกคนในบ้านก็ต่างออกมาทำงาน ไปโรงเรียน หรือทำธุระอื่นนอกบ้าน ทำให้การเก็บน้ำฝนสะอาดโดยการคอยแยกน้ำช่วงต้นทิ้งทำได้ค่อนข้างยาก (ทำได้เฉพาะวันที่มีคนอยู่บ้าน) ส่วนของผมยิ่งแล้วใหญ่เพราะผมไปสวนเพียงสัปดาห์ละครั้ง แถมวันที่ไปสวนก็สวดภาวนาไม่ให้ฝนตกจะได้ดูแลต้นไม้นาน แล้วผมจะเก็บน้ำฝนสะอาดให้พอใช้ได้อย่างไร?
เมื่อเริ่มศึกษาเพอร์มาคัลเจอร์มากขึ้นทำให้ผมค้นพบตัวอย่างการแก้ปัญหานี้ โดยการทำระบบที่จะเก็บน้ำฝนหลังจากที่ฝนตกไปแล้วสักพักโดยอัตโนมัติ และไม่ต้องใช้พลังงานอะไรมาก มีอย่างน้อย 2 ตัวอย่าง
(http://img9.uploadhouse.com/fileuploads/16745/167458795167d6eddaa2366ca3813c81dbe020f3.jpg) (http://www.uploadhouse.com/viewfile.php?id=16745879&showlnk=0)
แบบแรกใช้กับถังที่มีฝาเปิดด้านบน โดยอาศัยน้ำฝนที่ตกช่วงแรกไปในถังซึ่งต่อกับคานกระดก เมื่อน้ำฝนเยอะพอก็จะกระดกให้น้ำฝนที่ตกช่วงหลังๆ ไหลลงไปในถังเก็บน้ำฝนแทน แต่ถังแบบเปิดมีข้อเสียคือต้องเปิดฝาไว้ตลอดเวลาอาจจะมีฝุ่นหรือใบไม้ร่วงไปตรงฝาที่เปิดไว้ได้ ทำให้ต้องมีตาข่ายดักไว้ด้านบน แต่ตาข่ายดังกล่าวอาจจะไม่แข็งแรงมากพอสำหรับหนู นก หรือแมลงที่อาจจะเจาะตาข่ายเข้าไปในถังได้
(http://img8.uploadhouse.com/fileuploads/16745/1674589835960b4f42bc11b4de315dbddfc5a95d.jpg) (http://www.uploadhouse.com/viewfile.php?id=16745898&showlnk=0)
แบบที่สองจะใช้กับถังปิด (คล้ายๆ ถังเก็บน้ำที่มีขายในปัจจุบัน) และใช้ท่อน้ำเข้าทำเป็นรูปตัวยู (U) เพื่อกันสัตว์/แมลงไม่ให้เข้าถังผ่านทางท่อขาเข้า แต่เนื่องจากเป็นถังปิดทำให้น้ำฝนที่มากเกินไปไม่สามารถล้นผ่านฝาด้านด้านบนได้ จึงอาจจะต้องมีท่อระบายน้ำล้นของถังเก็บน้ำซึ่งก็ควรที่จะมีท่อรูปตัวยู เพื่อป้องกันสัตว์/แมลงเข้าทางท่อน้ำล้น กลไกตามภาพข้างบนจะทำให้น้ำฝนช่วงแรกไหลลงถังเก็บน้ำสกปรก และน้ำฝนช่วงหลังไหลลงกรวยที่ต่อกับท่อน้ำเข้ารูปตัวยู
ทั้งสองแบบจะมีการเจาะรูที่ถังน้ำเพื่อรีเซทระบบให้กลับไปอยู่ตำแหน่งเดิมก่อนฝนตก โดยขนาดของรูจะเป็นการปรับระยะเวลาที่ระบบจะรีเซท
นอกจากนั้นถ้ามีต้นไม้ใหญ่อยู่ใกล้บ้านก็ควรจะมีที่กันไม่ให้ใบไม้ไปอุดทางน้ำในระบบรางน้ำฝน โดยอาจจะสามารถทำได้หลายแบบดังนี้
(http://img4.uploadhouse.com/fileuploads/16746/1674604796b9c0b42efa49601d92f2fc8e6ff245.jpg) (http://www.uploadhouse.com/viewfile.php?id=16746047&showlnk=0)
เท่านี้เราก็จะสามารถสร้างระบบช่วยเก็บน้ำฝนที่สะอาดเอาไว้บริโภคในบ้าน โดยไม่ต้องมีคนคอยเฝ้าเวลาฝนตกอีกต่อไป ผมยังคงมีความเชื่อในพลังความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ผมเชื่อว่าจะมีเพื่อนสมาชิกที่สามารถค้นคิดวิธีการอื่นที่จะช่วยเก็บน้ำฝนหลังจากที่ฝนตกไปสักพักโดยอัตโนมัติ ขอให้สนุกสนานกับการคิดนะครับ