Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
หมวดหมู่ทั่วไป => สาระน่ารู้ => Topic started by: ppsan on 17 January 2013, 12:25:09
-
สันดานนักการเมืองในประเทศหนึ่ง
องค์การนาซ่าจะส่งยานไปลงที่ดาวเคราะห์ที่เพิ่งค้นพบ ที่สำคัญก็คือว่า ดาวดวงนั้นอยู่ไกลมาก ไปแล้วคงไม่ได้กลับ
มีการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมจะเดินทางไปกับยานลำนี้ จนเหลือผู้สมัคร 3 คนสุดท้าย ซึ่งมี วิศวกร หมอ และนักการเมือง
ในรอบสุดท้ายเป็นการสอบสัมภาษณ์
วิศวกรบอก “ผมขอค่าตอบแทน 10 ล้านบาท ผมจะอุทิศให้มหาวิทยาลัยที่อบรมผมมา”
“ผมขอ 20 ล้าน ครึ่งหนึ่งให้ครอบครัวผม อีกครึ่งหนึ่งอุทิศให้สถาบันวิจัยเพื่อการรักษาโรคเอดส์” หมอเสนอ
“ผมเอา 30 ล้าน” นักการเมืองเจนประสบการณ์เสนอ
“ทำไมมากนักล่ะครับ” กรรมการผู้สัมภาษณ์ถาม
“จุ๊ๆๆๆ” นักการเมืองกระซิบบอก..............................
“สิบล้านผมเอา สิบล้านคุณเอาไป อีกสิบล้านให้วิศวกรไปเลย ดีมั้ย”
---------------------------------------------
-
สันดานนักการเมืองในประเทศหนึ่ง
เรื่องตลกของนักการเมืองที่ต้องทำตามสัญญากับประชาชนที่เขารัก
ช่วงนี้อุณหภูมิทางการเมืองร้อนฉ่า แทบจะเอาความร้อนในสถานการณ์แต่ละวันมาทอดไข่ดาวกินกันได้ทันที
ท่ามกลางกระแสยุบ ไม่ยุบสภา นักการเมืองท่านนี้หลบฉากพาพรรคพวก สามเกลอ มาร่วมงานศพ ที่เสียชีวิต
พวกเขามาเพราะคำสัญญาที่รับปากไว้ก่อนจะมีการตาย
(ชายคนหนึ่งสั่งเสียเพื่อนสนิทสามคนของเขาเมื่อเขาป่วยหนัก
“อั๊วฝากเงินนี่ให้พวกลื้อเก็บไว้คนละห้าหมื่น พออั๊วตายขอให้พวกลื้อช่วยเอาใส่ไว้ในโลงให้อั๊วด้วยนะ” เขาสั่งเสียก่อนจะสิ้นใจ
ในวันฝังศพของเขา เพื่อนทั้งสามคนคุยกันเรื่องเงินห้าหมื่น)
“อั๊วมีอะไรจะสารภาพว่ะ” เพื่อนคนที่เป็นหมอว่า “อั๊วใส่ซองเปล่าลงไปในโลงว่ะ เงินอั๊วเอาไปบริจาคซื้อเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลในชนบทหมดแล้ว”
“อั๊วก็มีอะไรจะสารภาพว่ะ” เพื่อนคนที่เป็นครูว่า “อั๊วก็ทำเหมือนลื้อ เพราะอั๊วให้เงินเป็นทุนการศึกษาของเด็กนักเรียนยากจนไปหมดแล้ว”
“พวกลื้อทำไมเป็นคนยังงี้วะ” เพื่อนคนที่เป็นนักการเมืองโวยวาย “รับปากเขาแล้วก็ต้องทำตามสัญญาสิวะ”
“อั๊วเสียใจว่ะ” เพื่อนสองคนว่าแล้วถามต่อ “ว่าแต่ว่าลื้อใส่เงินลงไปในโลงจริงๆหรือวะ”
“จริงสิโว้ย อั๊วเป็นนักการเมือง สัญญาต้องเป็นสัญญา” เขาทำท่าขึงขัง “เช็คห้าหมื่นบาทถ้วน พร้อมลายเซ็นของอั๊วของจริงเลยแหละ”
--------------------------------------------------------------------------------
ความยุติธรรมมีแต่ที่ศาลไคฟง....จะเอาอาร้ายยยยยยย...............กับศาลเจ้าศาลพระภูมิแถวนี้
--------------------------------------------------------------------------------
-
ผิดคนอื่นมองเห็นเช่นภูเขา
ผิดของเรามองเห็นเท่าเส้นผม
ตดคนอื่นเหม็นเบื่อเสียเหลือทน
ตดของตนแสนเหม็นไม่เป็นไร
(มล.ปิ่น มาลากุล)
-
สันดานนักการเมือง จากคณะราษฎร ในอดีต ถึง คณะกเฬวราก ในปัจจุบัน ไม่ต่างกันเลยแม้แต่น้อย !?!
วันที่ พฤหัสบดี มิถุนายน 2554
สันดานนักการเมือง จากคณะราษฎร ในอดีต ถึง คณะกเฬวราก ในปัจจุบัน ไม่ต่างกันเลยแม้แต่น้อย !?!
ตอนได้อ่าน จดหมายรักจากจอมพล ป. ที่ “พี่” กิเลน ประลองเชิง แห่งไทยรัฐ เขียนไว้ในคอลัมน์ ชักธงรบ วันนี้นั้น
ผมรู้สึกชื่นชม จอมพล ป.อย่างจับจิตจับใจ...
ร่ำ ๆ จะนำเอาพฤติกรรมของจอมพล ป.ตามที่เขียนในจดหมายมาให้ นักการเมืองรุ่นใหม่ได้อ่าน และเรียกร้องให้มี จอมพล ป.กันมาก ๆ แล้วละครับ
แต่เมื่ออ่านบทความของ “พี่” กิเลน ประลองเชิง จบ ผมต้องเปลี่ยนใจ เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อ จอมพล ป.เสียใหม่ แล้วตั้งชื่อเรื่องสำหรับบทความนี้ว่า
สันดานนักการเมือง จากคณะราษฎร ถึง นักการเมืองกเฬวราก ในปัจจุบัน ไม่ต่างกันแม้แต่น้อย
ทำไมผมจึงเปลี่ยนใจอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ก็ขอให้มิตรรักแฟนเพลงอ่านเรื่องนี้ดูก่อนนะครับ
“พี่” กิเลน ประลองเชิง เขา ชักธงรบ เอาไว้ดังนี้ครับ..
0 0 0 0
เพื่อนคณะราษฎร ที่ร่วมเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิ.ย. 2475 มาด้วยกัน คู่ของหลวงประดิษฐ์มนูธรรม กับ หลวงพิบูลสงคราม นับได้ว่ารักกันมั่นคงมาก
ช่วงพระยามโนปกรณ์นิติธาดา เป็นนายกฯคนที่ 1 หลวงประดิษฐ์ฯ เจอข้อหาคอมมิวนิสต์ต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ หลวงพิบูลฯ กับพระยาพหลพลหยุหเสนา
ต้องออกแรงปฏิวัติ ช่วยหลวงประดิษฐ์ฯกลับประเทศจนได้
ความรักเพื่อนเริ่มมามีรอยร้าวเอาเมื่อญี่ปุ่นยึดไทย หลวงพิบูลฯเล่นเกมตามญี่ปุ่น หลวงประดิษฐ์ฯ เล่นเกมใต้ดิน ตั้งขบวนการเสรีไทย ต่อต้านญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นแพ้สงคราม หลวงพิบูลฯ ก็แพ้ตาม เจอข้อหาอาชญากรสงครามถูกจับเข้าคุก
ระหว่างที่นายพลโตโจ ญี่ปุ่นถูกศาลพันธมิตรตัดสินให้แขวนคอ ก็มีจดหมายจากหลวงพิบูลฯถึงหลวงประดิษฐ์ฯ มีข้อความดังต่อไปนี้
เรียน อาจารย์ที่เคารพและนับถือ
ผมเห็นงานของอาจารย์มีมาก ไม่อยากจะมารบกวนอะไร แต่บัดนี้ผมเป็นคนเคราะห์ร้าย ไม่รู้จะหันไปถึงใครได้ ก็จำเป็นต้องขอพึ่งอาจารย์ ตามแต่จะกรุณาได้
ผมเรียนมานี้ หวังจะได้รับความกรุณาจากอาจารย์บ้างตามสมควร ในทางการเมืองของผมนั้น เวลานี้หรือต่อไป ผมเข็ด และรู้สึกตัวว่าโง่เง่า ไม่มีความสามารถเพียงพอ
ขืนทำอีกก็มีภัยมาสู่ตัวร่ำไป
ผมเลยขอเป็นชาวนาชาวไร่ ขออาจารย์อย่าเป็นห่วงผม ในทางการเมือง ผมเข็ดแล้ว เป็นตามีตามาดีกว่า
ผมพูดมามากแล้ว ถ้ามีผิดและรบกวนอาจารย์ก็ขออภัยด้วย ผมได้เขียนเล่าการปฏิบัติการต่อญี่ปุ่น และส่งไปทางประธานสภาฯ และให้เพื่อนฝูงอ่าน
มีความประสงค์อย่างเดียว จะช่วยให้เพื่อนฝูงไม่เป็นอาชญากรสงคราม รวมทั้งผมด้วย ตามสัญชาตญาณของคนต้องป้องกันตน
อาจารย์ขอได้กรุณาแก่ผมในเรื่องนี้ด้วย เพราะถ้านิ่งไว้ คนไม่รู้เหตุผลในการปฏิบัติของเรา ก็จะหาว่าเป็นคนขายชาติอยู่ตลอดไป ชื่อเสียงก็จะเสีย
ผมดีใจแล้วว่า ที่เราทำมาแล้วนั้น อย่างน้อยพระแก้วมรกตยังอยู่ ญี่ปุ่นไม่ขนเอาไปอย่างแห่งอื่น
เคารพและนับถืออย่างสูง
ป.พิบูลสงคราม
( ถ้าอ่านเพียงเท่านี้ จะดูดี และน่าชื่นชมนะครับ เพราะจอมพล ป.ยอมรับว่า ตัวเองโง่เง่าในทางการเมือง ไม่มีความสามารถ รู้สึกเข็ด จนกระทั่งอยากไปเป็นชาวไร่ชาวนา
ฟังดูเหมือนนายทหารบางคนที่ทะเร่อทะร่าเข้ามาเล่นการเมืองจนได้เป็นใหญ่ แล้วแพ้ แต่ไม่ยอมเลิก ผลุบ ๆ โผล่ ๆ เหมือนอะไรสักอย่าง อ้อ หัวเต่าน่ะครับ – ฮา – เชิญ
อ่านบทความของ “พี่” กิเลนต่อนะครับ )
ช่วงเวลาที่เขียนจดหมายนี้ หลวงพิบูลฯ ใช้ชื่อใหม่ เป็น จอมพล ป. พิบูลสงคราม หลวงประดิษฐ์ฯ ก็ใช้ตามสมัยนิยม เป็น นายปรีดี พนมยงค์
จอมพล ป. ถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.2488 ถึงวันที่ 23 มี.ค.2489 รวม 159 วัน ก็ถูกปล่อยตัว หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า พ.ร.บ.อาชญากรสงคราม 2488
เฉพาะที่บัญญัติย้อนหลังให้การกระทำก่อนวันใช้ พ.ร.บ.เป็นความผิดด้วยนั้น
ขัดกับรัฐธรรมนูญ เป็นโมฆะ
นคร พจนวรพงษ์ อุกฤษ พจนวรพงษ์ ให้ทรรศนะไว้ในหนังสือ ข้อมูลประวัติศาสตร์การเมืองไทย กรณีคดีนี้นักประวัติศาสตร์บางท่านกล่าวว่า
ผู้ที่วางแผนช่วยเหลือจอมพล ป. คือ นายปรีดี นั่นเอง
หลังรัฐประหาร 8 พ.ย.2490 ไม่กี่เดือน จอมพล ป. ก็กลับมาเป็นนายกฯ...
หลังกรณีสวรรคต ร.8 นายปรีดี ต้องลี้ภัยไปอยู่ฝรั่งเศส
เกมการเมืองพลิกด้าน เพื่อนรักกลับต้องมาเป็นเพื่อนแค้น ไล่ล่าล้างผลาญกันเต็มพิกัด
หนุ่มๆสาวๆสมัยใหม่ อาจเชื่อคำมั่นสัญญา ทางการเมือง ไม่แก้แค้น ไม่ยุบไม่ย้ายทหารใหญ่ ฯลฯ แต่สำหรับคนแก่รู้ราตรีกาล... คำสัญญาการเมือง เป็นเรื่องลมๆแล้งๆ
ตัวอย่างอดีต ถ้านายปรีดีไม่อ่านจดหมาย ไม่ใจอ่อนช่วยเพื่อนจอมพล ป. เอาไว้...นายปรีดีอาจไม่เป็นผู้แพ้
บทเรียนสงครามการเมือง ฝ่ายใจอ่อน เชื่อคนง่าย มักเป็นฝ่ายแพ้.
0 0 0 0
เป็นไงครับ สันดานนักการเมืองในคณะราษฎร ที่ผมเคยตราหน้าว่าร่วมกันปล้นพระราชอำนาจจากพระมหากษัตริย์..
...จอมพล ป.เดือดร้อน มีจดหมายไปถึง นายปรีดี โอดครวญว่าเข็ดการเมืองแล้ว ตัวเองโง่อย่างนั้นอย่างนี้ จะไปทำไร่ทำนาแล้วละ..
แต่ พอตัวเองขึ้นมามีอำนาจ แทนที่จะให้การช่วยเหลือ นายปรีดี ที่ได้รับความเดือดร้อนเพื่อตอบแทนบุญคุณ
กลับปฏิบัติการไล่ล่าล้างผลาญกันเต็มพิกัด – ฮา
ผมว่า ไม่ต่างไปจาก ระบบการเมืองของไทยในสมัยนี้เลยนะครับ ด่าพ่อล่อแม่กันในสภาผู้แทนราษฎรปาว ๆ เหมือนผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ
หรือไม่ก็ถึงขั้นใช้กริยาและคำหยาบคายในสภาฯเข้าใส่กัน
แล้วเป็นไงครับ พอออกมานอกห้องประชุมกลับกอดคอคุยกันเฉย..
นั่นยังไม่เลวร้ายเท่าบางคน อี้อ๋อ อ้อล้อ เป็นนายเป็นบ่าวเหมือนคู่บุญกันแท้ ๆ พอนายเจอภัยการเมือง มันตอบหน้าตาเฉย หมดเวลาแล้วนายไปโน่น – ฮา
นี่หรือระบอบประชาธิปไตย ที่นักการเมืองเอามาอ้างเพื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
นับจากปี 2475 ถึงปี 79 ปีแล้วนะครับ
มันยังก้าวไปไม่ถึงไหนเลย....
ไม่แน่นะครับ หลังวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 อาจมีปรากฎการณ์เลว ๆ เกิดขึ้นให้เห็นคือพรรคที่มีเจ้าของตัวจริงถีบหัวเรือลำเก่าที่กำลังจะจมน้ำ..
อาจดอดไปเกาะท้ายเรือลำที่เจ้านายคนเก่าสร้างขึ้นมาใหม่อีกก็ได้
กเฬวรากมักเป็นจะอี้ แลเฮย !
โดย ภาณุมาศ_ทักษณา
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=726239
-------------------------------------------------------------------------------
-
สันดานนักการเมือง...สันดานรัฐมนตรี
วันที่ พฤหัสบดี ตุลาคม 2550
สันดานนักการเมือง...สันดานรัฐมนตรี
สันดานนักการเมือง...สันดานรัฐมนตรี
สันดานแห่งการเอาตัวรอดของมนุษย์น่าจะเป็นเรื่องปกติ
พอๆ กับ สันดานของการโกหกพกลมของนักการเมือง
ถึงวันนี้ยังคงดิ้นรน หาป้อมค่ายการเมืองไม่สะเด็ดน้ำ สำหรับมนุษย์พันธุ์ "นักการเมือง"
โดยเฉพาะที่หลุดรอดร่างแห ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี 111 คน คงรอดตัวไปบ้างแล้ว
ส่วน 111 คนนั้น ต่างเป็น"อีแอบการเมือง" กันถ้วนหน้า เพราะปัญหาทางกฎหมาย
จะว่ากันมากก็ไม่ได้ มันเป็นหนทางทำมาหากินของเค้านี่นะ...
( ผมไม่ทราบว่า มีนักการเมืองคนใหนใน 111 คน ที่สำนึกผิดเลิกเล่นการเมือง )
แรงกระเพื่อมทางการเมืองเริ่มจะลดน้อยลง เมื่อกลุ่มทุนวางตัวได้ชัดเจน
นักการเมืองที่หวังพึ่งพิงแหล่งการเงิน ย่อมหากลุ่มที่ตนเองได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
ส่วนนโยบายค่อยว่ากันทีหลัง...นี่ก็เข้าข่าย...สันดานนักการเมือง...อีกเหมือนกัน
การเดินเกมหาเสียงของพรรคการเมืองก็เริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อใกล้ประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง
พรรคปชป. วางเกมไว้ที่วาระประชาชน - ประชาชนต้องมาก่อน
ด้วยเดิมพันงบโฆษณาเกือบ 60 ล้านบาทในเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา
( สมัยเลือกตั้งปี 44 ปชป.ใช้เงินของพรรคซื้อสื่อเพียง 5.7 ล้านบาท
ในขณะที่พรรคไทยรักไทยคือพรรคที่มียอดซื้อสื่อทางโทรทัศน์สูงสุด คิดเป็นเม็ดเงิน 68.7 ล้านบาท ...ข้อมูลมติชน)
นี่ขนาดแค่ไหว้ครูกันเล่น ๆ ในขณะที่กรรมการใหญ่ ( กกต. ) ยังไม่สับมือมือให้ชกกันด้วยซ้ำ
การเตรียมการและการใช้เงินก็เป็นไปอย่างคึกคัก...
การหาเสียงแบบเก่า ๆ ประเภทเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น อาจจะกลับมาอีกครั้ง
ถ้ายังไงก็โปรดระลึกไว้ว่า กฎหมายเลือกตั้งห้ามการหาเสียงสาดโคลนฝ่ายตรงกันข้าม
โดยเฉพาะ มาตรา 53 วงเล็บ 5 บอกว่า...
*******************
มาตรา ๕๓ ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ
เลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเอง หรือผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองใด หรือให้งดเว้น
การลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
(๕) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิด
ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด
*******************
แต่ยังไม่ทันไร ก็สาดฉี่ราดกันให้เปรอะไปทั้งวงการ
หรือนี่คือ "สันดานนักการเมือง" ที่ยังแก้ไม่หาย
ความจริงแท้คืออะไรยังไม่รู้ แต่สันดานนักการเมืองก็ชอบพูดเอามันเข้าว่า
โกหกพกลมไปโดยไม่คิดว่าประชาชนมีหูตากว้างใกล มีสื่อที่ตามติดสืบค้นข้อมูล
นักการเมืองประเภทนี้ไม่เคยคำนึงว่าใครจะเสียหาย จากคำพูดของตน
หนักหนานักก็ไปขอโทษขอโพยกันทีหลัง...กี่ปีต่อกี่ปี ก็ยังเป็นเช่นนี้เสมอมา
เหมือนสันดานคนชอบโกหกพกลมของนักการเมืองรุ่นเก่าที่นักการเมืองด้วยกันแฉโพยเอาไว้
แต่สุดท้าย ประชาชนจะเชื่อใคร ก็ต้องขึ้นกับข้อมูลและคนร่วมสมัยจะได้ร่วมพิจารณากัน
ผมก้อบข้อเขียนคำนำของนายวีระ มุสิกพงศ์ ในหนังสือ "สันดานรัฐมนตรี"
ฉบับตีพิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2521 มาให้อ่านเล่น ๆ
มีเวลาจะก้อบมาให้อ่านทั้งฉบับ
แล้วเราจะรู้กันว่า ระหว่างวีระ มุสิกพงศ์ กับสมัคร สุนทรเวช ใครเป็นฝ่ายพูดจริง ใครเป็นฝ่ายโกหก
เพราะในหนังสือเล่มนี้มีคำโปรยที่หน้าปกว่า...
นี่มิใช่การเหยียบคนล้ม ( ตอนนั้นสมัครล้ม...ตอนนี้ วีระล้ม ?..หรือเปล่า..!! )
แต่เป็นความจริงหลายๆ ประการ
ที่ถูกปิดบัง ซ่อนเร้นมาตลอดเวลา แห่งการสร้างตัวของคนๆ หนึ่ง
ซึ่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรัฐมนตรี
ด้วยวิธีการ "โกหกคำโต โกหกบ่อย ๆ"
ถ้าวีระ พูดจริง สมัครก็โกหก
ถ้าวีระโกหก สมัครก็ดีเลิศประเสริฐศรี
..."ก่อนพูด..เราเป็นนายคำพูด....แต่เมื่อพูดไปแล้ว คำพูดนั้นเป็นนายเรา..."
แต่อย่างน้อยเรื่องนี้ก็จะพิสูจน์ "สันดานนักการเมือง" ได้อีกรูปแบบหนึ่ง
นั่นคือ เมื่อสมประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายฝ่าย...ด่ากันให้ตายก็ไม่เอาความ
ให้มันได้ยังงี้สิ..."สันดานนักการเมือง"
ว่าง ๆผมจะขอก้อบข้อเขียนคุณวีระมานำเสนอเป็นเรื่องไป...อย่ามาฟ้องเรียกค่าลิขสิทธิ์เชียว...
ผมไม่มีให้หรอกครับ...อิ อิ
โดย Canไทเมือง
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=137575
-------------------------------------------------------------------
-
สายใยไทยทั้งเมือง
วันศุกร์ ที่ 19 สิงหาคม 2554
หมอเหวงจะว่ายังไง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าอย่ามัวแต่ไปแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นกระดาษ ให้แก้ที่สันดานนักการเมืองดีกว่า!
Posted by Canไทเมือง
"ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” ลั่นแก้ไขรัฐธรรมนูญแค่ข้อเขียนในกระดาษ ชี้ต้องแก้สันดานนักการเมือง
"วันนี้มีการพูดเรื่องวาทกรรมนิติรัฐและนิติธรรมจะมีคนเข้าใจเรื่องนี้มากน้อยสักกี่คน เพราะคนพูดบางคนก็ยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่านิติรัฐและนิติธรรม
อย่างกรณีการยุบพรรคการเมืองก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ"
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ลงข่าวว่า วันนี้ (19 ส.ค.) ที่โรงแรมกรินเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะอดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550
กล่าวถึงกรณีที่อาจจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า วิกฤตการเมืองขณะนี้ก็มีแต่พูดว่าจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่มันก็แค่ข้อเขียนในกระดาษ ถ้าจะแก้ปัญหาต้องแก้ที่สันดานนักการเมือง
รัฐธรรมนูญของไทยที่ผ่านมาในอดีตเกือบทั้งหมดได้สะท้อนบริบทความเป็นจริงของสังคมไทย แต่ประเทศของเราไปลอกเลียนแบบกฎหมายสูงสุดของประเทศกลุ่มอารยะ
ในสมัยที่ตนเป็นกรรมาธิการยกร่างรับธรรมนูญปี 50 ก็พยายามที่จะให้มีบทบัญญัติเพิ่มในเรื่องของหน้าที่พลเมืองเข้าไปให้มาก แต่ก็ถูกขัดขวาง
00000
พวกหมอเหวง เสื้อแดงที่เรียกร้องหาประชาธิปไตยที่แท้จริงจะว่ายังไง
แก้ที่สันดานนักการเมืองก่อนดีมั๊ย
ถ้าสันดานดี ทุกอย่างก็ดีหมด
อย่ามัวไปโทษรัฐธรรมนูญกันอยู่เลย
แคน ไทเมือง
http://www.oknation.net/blog/canthai/2011/08/19/entry-1
-------------------------------------------------------------------------------