Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
หมวดหมู่ทั่วไป => สาระน่ารู้ => เรื่องที่ควรรู้เท่าทันระดับโลก => Topic started by: LAMBERG on 17 January 2013, 12:11:30
-
สมาคมฟรีเมสัน ดร. นิติภูมิ นวรัตน์
ผู้ อ่านท่านครับ ในหลายประเทศจะไม่ยอมให้คณะผู้นำของประเทศขึ้นมาสู่อำนาจอย่างไร้ทิศทาง บางประเทศเข้มข้นถึงขนาดมีองค์กรลับที่สุด เพื่อที่จะสรรหาและฝึกฝนผู้คนขึ้นไปสู่การมีอำนาจและการดูแลอำนาจ องค์กรหนึ่งซึ่งทรงพลังมากในสมัยโบราณหลายร้อยปี และยังคงทรงพลังต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงปัจจุบันก็คือ “ฟรีเมสันส์”
ขอเรียนซะก่อนนะครับ ว่าฟรีเมสันส์ไม่ใช่องค์กรศาสนา แต่เป็นศูนย์รวมใจของสมาชิกและภราดรภาพ ฟรีเมสันส์เคยถูกมองว่าเป็นพวกที่มีแนวความคิดขบถต่อสังคม ผู้อ่านท่านลองไปค้นชื่อของสมาชิกขบวนการปฏิวัติในสหรัฐฯ และในฝรั่งเศสดูซีครับ ไม่ว่าในสงครามประกาศอิสรภาพเมื่อ พ.ศ. 2318-2326 และการปฏิวัติฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2332-2342 หรือในการเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งสำคัญ ในประเทศทางแถบยุโรปและในอเมริกากลาง ท่านจะพบว่าสมาชิกขององค์กรฟรีเมสันส์มีบทบาทนำแทบทั้งสิ้น จึงมีหลายคนมองว่าฟรีเมสันส์เป็นองค์กรที่มีบทบาททางการเมือง แต่สมาชิกฟรีเมสันส์ก็ออกมาปฏิเสธว่า พวกตนไม่ยุ่งการเมือง
ฟรีเมสันส์เคยถูกมองว่าเป็นสมาคมลับ แต่พวกฟรีเมสันส์เองมองว่าพวกตนไม่ใช่สมาคมลับ แต่เป็นสมาคมที่กุมความลับต่างหาก
ถ้า ผู้อ่านท่านที่เคารพเข้าไปในเว็บไซต์ ท่านจะเห็นว่ามีการสมัครบุคคลเข้าเป็นสมาชิกของฟรีเมสันส์กันเปอะปะ ขอเรียนนะครับว่า คำประกาศรับสมัครเป็นสมาชิกฟรีเมสันส์ที่ท่านเห็นนั้น มักจะไม่เป็นความจริง เพราะการเข้าเป็นสมาชิกฟรีเมสันส์จริงๆจะมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมาก จะต้องเป็นชายที่มีความเป็นอิสระ ไม่ผูกพัน, เชื่อในความมีตัวตนของพระผู้เป็นเจ้า (จะพระเจ้าตามความเชื่อของชาวคริสต์หรือไม่ก็ได้) มีอายุไม่ตํ่ากว่า 18 ปี ต้องมีจิตใจดีงาม มีคุณธรรมและจริยธรรม และข้อสุดท้ายก็คือ จะต้องมีชาติกำเนิดที่เป็นไท ไม่เคยตกเป็นทาส
สมัยก่อน ห้ามผู้หญิงเป็นสมาชิกของฟรีเมสันส์อย่างเด็ดขาด จนกระทั่งวันหนึ่ง เอลิซาเบธ อัลด์เวิร์ธ มองลอดช่องอิฐผนัง บังเอิญไปพบเห็นการประกอบพิธีกรรมขององค์กรนี้ที่บ้านของคุณพ่อ เมื่อถูกจับได้ ชาวฟรีเมสันส์จึงแก้ไขปัญหาด้วยการยอมรับเธอเข้าเป็นสมาชิกหญิงคนแรก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็จึงเกิดองค์กรของสมาชิกฟรีเม-สันส์ที่รับผู้หญิงเข้าร่วมด้วย
ก่อน ที่จะเข้ารับพิธีกรรมเป็นฟรีเมสันส์เต็มตัว ผู้จะเป็นจะถูกเรียกว่า แคนดิเดต ที่มีความหมายว่า ผู้ถูกเสนอตัว คนที่เป็นแคนดิเดต จะสวมเสื้อและกางเกงธรรมดา แต่จะต้องพับแขนเสื้อขึ้นไปข้างหนึ่ง ขากางเกงก็จะพับขึ้นไปอีกข้างหนึ่ง ปล่อยข้างหนึ่ง จะต้องถูกผูกตาด้วยผ้าผูกตาสีดำ ซึ่งหมายถึงว่า ก่อนจะมาเป็นสมาชิกของฟรีเมสันส์ ยังคงอยู่ในโลกมืดที่มืดมน แคนดิเดตจะมีเชือกผูกเงื่อนคล้องที่คอ ต้องปล่อยปลายเชือกไว้ให้กับสมาชิกฟรีเมสันส์คนอื่นเป็นผู้ถือ
แคน ดิ เดตจะถูกนำไปอยู่ตรงระหว่างเสา 2 ต้น ที่หน้าโต๊ะบูชา เสาทั้ง 2 ต้นนี่แทนสัญลักษณ์ของเสา 2 ต้น ที่เคยอยู่ตรงหน้าวิหารแห่งโซโลมอน ระหว่างเสา 2 ต้น จะมีโต๊ะบูชาที่มีคัมภีร์ฟรีเมสันส์เปิดอยู่ หน้าที่เปิดของคัมภีร์จะมีสัญลักษณ์ไม้ฉากและวงเวียนวางอยู่ ที่นี่แคนดิเดตจะทำพิธีให้สัตย์สาบานปฏิญาณตน ว่าจะเชื่อในพระเจ้าของฟรีเมสันส์ และจะกระทำตนตามแบบอย่างของฟรีเมสันส์ คำปฏิญาณข้อสำคัญของแคนดิเดตก็คือ จะต้องรักษาความลับของหมู่คณะเท่าชีวิต
ตั้งแต่ อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงไม่มีเรื่องของพวกฟรีเมสันส์ แพร่งพรายออกสู่โลกภายนอก เมื่อสาบานเสร็จก็จะมีการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ เป็นชุดเครื่องแบบของสมาชิกฟรีเมสันส์ เมื่อพิธีสำเร็จแล้ว ก็จะมีการนำผ้าผูกตาและบ่วงคล้องคอเอาไปทิ้ง
จากนั้นสมาชิกใหม่ก็ จะ ได้ผ้ากันเปื้อนที่คาดไว้ตรงเอวแบบผ้ากันเปื้อนของทารก ที่ต้องใช้ผ้ากันเปื้อน ก็เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ พิธีกรรมที่ว่านี้ทำกันโดยเปิดเผย แต่พิธีกรรมหลังจากนั้นเป็นพิธีกรรมลับอีกหลายพิธี ซึ่งไม่เป็นที่เปิดเผยต่อคนอื่น ดังนั้น ใครก็ตามที่แอบไปได้เห็นการกระทำพิธีกรรมลับอันนี้ ก็จะต้องถูก ให้เข้าเป็นสมาชิกของฟรีเมสันส์
การรวมกลุ่มกันของประชาชน เป็น เรื่องดี แต่ต้องเป็นกลุ่มสว่าง การกระดิกพลิกตัวทุกอย่างของผู้นำ กลุ่มโปร่งใส แต่ถ้ากลุ่มนั้นเป็นกลุ่มลับที่มองไม่เห็น ผลก็อาจจะเป็นอีกอย่าง
แกรนด์ลอดจ์ออฟอิงแลนด์ เป็นองค์กรแม่ขององค์กรลับแห่งหนึ่งซึ่งมีอิทธิพลมาก เรียกว่าองค์กรลับฟรีเมสันสากล หลายประเทศมีองค์กรลับฟรีเมสันอยู่ในประเทศชาติบ้านเมืองของตน แม้แต่สหรัฐอเมริกาเริ่มมีการตั้งองค์กรลับฟรีเมสันขึ้นมาตั้งแต่ในยุคสมัย อาณานิคม สมาชิกขององค์กรพวกนี้จะมีการช่วยเหลือกันในทางลับอย่างเข้มแข็ง ใครในองค์กร ไปเล่นการเมืองก็มักจะได้รับการสนับสนุน นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามจึงรวมตัวกันตั้งเป็นพรรคการเมืองที่มีชื่อว่า “พรรคต่อต้านเมสัน” ขึ้นมา ต่อต้าน
องค์กรลับบางแห่งมีประวัติก่อ ตั้งมายาวนานหลายร้อยปี มีธรรมเนียมปฏิบัติและกฎระเบียบที่เคร่งครัด การจัดรับสมาชิกใหม่ก็ทำได้ยาก สมาคมลับบางแห่งฆ่าสมาชิกทิ้งทันที หากจับได้ว่าสมาชิกผู้นั้นคิดคดทรยศหรือกำลังจะตีจาก
การเริ่มของ องค์กรลับพวกนี้ มีประวัติความเป็นมาไม่เหมือนกัน อย่างองค์กรลับฟรีเมสันเกิดจากการรวมตัวของช่างสร้างโบสถ์และวิหาร ในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่เรียกว่าสโตนเมสัน ช่างกลุ่มนี้ชุมนุมสุมหัวรวมตัวช่วยกันรับงาน จนบั้นปลายท้ายที่สุดก็ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยและมีอิทธิพลต่อพระและประชาชน
ปัจจุบัน ทุกวันนี้ สำนักงานใหญ่ของแกรนด์ลอดจ์ออฟอิงแลนด์อยู่ที่อาคารฟรีเมสันฮอลล์ กรุงลอนดอน การรวมตัวกันก็เหมือนสโมสรอื่นๆ เช่น สโมสรโรตารี สโมสรไลออนส์ ฯลฯ แต่สมาคมลับฟรีเมสันนี่เข้มแข็งและลึกซึ้งกว่า
สำหรับสมาคมลับฟรีเมสัน แต่ละกลุ่มลับที่จัดตั้งขึ้นมา จะถูกเรียกว่าคือลอดจ์ และหลายลอดจ์รวมตัวกันเป็นแกรนด์ลอดจ์
แก รนด์ลอดจ์แต่ละแห่งมีการบริหาร การกำหนดพิธีกรรมและข้อ บังคับเป็นอิสระ แต่มีข้อเหมือนกันคือต้องมีการประชุมแบบลับ และมีอุดมการณ์เดียวกันในเรื่องของภราดรภาพ ต้องนำเครื่องมือช่างมาสร้างเป็นสัญลักษณ์เชิงสถาปัตยกรรมรูปแบบต่างๆ สัญลักษณ์ส่วนใหญ่ของสมาคมลับฟรีเมสันแต่ละลอดจ์และแกรนด์ลอดจ์มักจะมีเป็น รูปไม้ฉาก วงเวียน ส่วนช่องว่างตรงกลางระหว่างไม้ฉากและวงเวียนมักจะมีรูปดวงดาวที่เจิดจ้า บางลอดจ์หรือแกรนด์ลอดจ์มีตัวอักษร G ที่มาจาก God พระเจ้า
กลุ่ม ชมรม หรือสมาคม อะไรก็แล้วแต่ เมื่อตั้งขึ้นมาแล้ว นโยบายหรืออุดมการณ์ของกลุ่มจะต้องแน่นอน ไม่ใช่รวนเรเป๋ไป เป๋มา แล้วแต่ว่าผลประโยชน์จะวิ่งวนไปทางไหนอุดมการณ์สำคัญ ของสมาชิกสมาคมลับฟรีเมสันก็คือ การมีขันติธรรมทางศาสนา ยึดมั่นในหลักเสรีภาพ และความเท่าเทียมกันของประชาชน
ไม่ให้ถือ ว่า กลุ่มของข้าใหญ่ พวกข้าจะปั้นน้ำเป็นตัวเพื่อใช้ประโยชน์ จากข่าวปลอมนี้ ปั่นหัวประชาชนให้หมุนไปทางไหนก็ได้ ถ้าเป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมชั่วเห็นแก่ตัวและก้าวร้าวอย่างที่ว่า ก็ยากที่จะดำรงคงอยู่คู่ ประเทศไปได้นาน เผลอแผล็บแป๊บเดียว อ้าว จบแล้ว แต่พวกที่ใช้ความยุติธรรมนำกลุ่มอย่างสมาคมฟรีเมสัน อยู่มานานตั้งแต่ประมาณ ค.ศ.1800 โน่น ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาล ที่ 1 ต่อเนื่องจนถึงสมัยปัจจุบัน ยาวนานประมาณกว่า 200 ปีแล้ว
สมาชิก ของ สมาคมลับฟรีเมสันนี่ไม่มีการจำกัดในเรื่องของ ศาสนา ศาสนิกชนของศาสนาไหนก็เข้าไปเป็นสมาชิกได้ แต่ต้องยอมรับที่จะต้องปรับปรุงตนเอง และต้องช่วยเหลือสาธารณะ การ เป็นสมาชิกสมาคมฟรีเมสันนี่เข้มมาก เข้มกว่าสมาชิกของโบสถ์ ซะอีก ดังนั้น คริสตจักรโรมันคาทอลิกจึงไม่ชอบสมาคมนี้ ทั้งที่ ในสหรัฐฯ และในยุโรป องค์กรนี้มีเครือข่ายระโนงโยงเยงอย่างกว้างขวาง แต่ในประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเคร่งอย่างสเปน รัฐบาลไม่อนุญาตให้ตั้งสมาคมลับนี้เด็ดขาด
เพราะสมาคมลับฟรีเมสัน ทรง อิทธิพล สมัยหนึ่ง จึงมีผู้คนกล่าวหาว่าสมาชิกของกลุ่มทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย สมาชิกหลายคนถูกทำร้าย จำนวนไม่น้อยที่ภรรยาของสมาชิกถูกบังคับให้ไปดึงสามีออกจากสมาคมให้ได้
ขณะนี้ มีสมาชิกของสมาคมลับฟรีเมสันอยู่กระจัดพลัดพรายทั่วไป ในดินแดนสหรัฐอเมริกาประมาณ 3 ล้านคน
ท่าน อาจจะเคยเห็นสถานสงเคราะห์/บ้านเมสันที่ดูแลเด็กกำพร้า คนชรา และภรรยาม่ายที่พึ่งตัวเองไม่ได้ สถานที่พวกนี้นี่แหละ เป็นหนึ่งในมากมายหลายผลงานของสมาคมลับฟรีเมสัน.
ผม ได้รับโทรศัพท์สอบถามจากท่านผู้รู้จักว่า องค์กรฟรีเมสันส์นั่นมีจริงๆไหม? ใครเป็นสมาชิกบ้าง? ขอเรียนยํ้าว่ามีจริงๆครับ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน และผมมีความเชื่อว่าจะยังมีต่อไปในอนาคตอีกนานเท่านาน
คน ระดับ โลกที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกขององค์กรลับตั้งแต่เด็กๆ องค์กรเหล่านี้รับสมาชิกยากมากจริงๆ แต่เมื่อรับไปแล้ว สมาชิกก็จะเขยิบขึ้นเป็นคนระดับโลก เดินทางมาไหนไปประเทศใด จะมีมือที่มองไม่เห็นคอยจัดการอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง เมื่อปฏิบัติ การงานสิ่งใด ก็จะมีมือที่มองไม่เห็นคอยจำกัดศัตรูเพื่อให้ท่านใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น
องค์กร ลับระดับโลกดังๆ ก็เช่น องค์กรหัวกะโหลกกระดูกไขว้ หรือ สกัลล์ แอนด์ โบนส์ สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ CFR, ไทรเลตเทรอล คอมมิสชัน, บิลเดอร์เบิร์ก และ อิลลูมิเนติ องค์กรลับทั้ง 5 แห่งเหล่านี้มีการจับมือแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ช่วยเหลือกัน ต่อมาจึงครองโลกได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดยิ่งขึ้น
อดีต ประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ผู้พ่อ สมัยหนุ่มเคยเข้าพิธีสาบานตนต่อหน้าคัมภีร์ฟรีเมสันส์ แต่ไม่ได้เข้าพิธีอย่างสมบูรณ์ จึงไม่ถือว่าเป็นสมาชิกของฟรีเมสันส์ ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช คนลูกก็เหมือนกัน พยายามหาทางเข้าเป็นสมาชิก แต่ทำพิธีได้ไม่ครบจึงไม่ถือว่าเป็นสมาชิกฟรีเมสันส์
http://forum.mthai.com/view_topic.php?mode=quote&comment=6&index=5&table_id=1&cate_id=34&post_id=30294
______________________________________________________________________________
บิลล์ คลินตัน ฉายแววผู้นำตั้งแต่ยังเด็ก สมัยเด็กได้ทำพิธีในสำนักเดอ โมเลย์ ซึ่งเป็นสำนักฟรีเมสันส์สำหรับเด็ก สมาชิกองค์กรลับฟรีเมสันส์ คนอื่นๆ ก็เช่น เฮนรี ฟอร์ด, วอลเตอร์ ไครส์เลอร์, โธมัส เจ วัตสัน, เอิร์ล วอร์เรน (หัวหน้าคณะทำงานสอบสวนคดีลอบสังหาร จอห์น เอฟ.เคนเนดี,เจ. เอดการ์ ฮูเวอร์ เจ้าพ่อเอฟบีไอ),กษัตริย์วิลเลียมที่ 4 แห่งอังกฤษ, กษัตริย์จอร์จที่ 4 แห่งอังกฤษ, กษัตริย์จอร์จที่ 6 แห่งอังกฤษ, โฮเซ เดอ ซาน มาร์ติน (วีรบุรุษของชาวอาร์เจนตินา), นโปเลียน โบนาปาร์ต, กษัตริย์ฮุสเซน แห่งจอร์แดน, ยาวะหะราล เนห์รู, ยิตซัค ราบิน, ยัสเซอร์ อาราฟัต, เซอร์ วินส์ตัน เชอร์ชิลล์,วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ต, ลุตวิก ฟาน บีโธเฟน, เกรน ฟอร์ด, คลาร์ค เกเบิล, จอห์น เวย์น, โธฮัน วูล์ฟกัง, ฟอน เกอเธ, จอห์น เกรน, เจมส์ วัตต์ ฯลฯ
ประธานาธิบดีของ สหรัฐฯ ตั้งแต่คนแรก จอร์จ วอชิงตัน มาจนถึงปัจจุบัน เป็นสมาชิกฟรีเมสันส์เต็มรูปแบบถึง 15 คน และรองประธานาธิบดี 19 คน
ปัจจุบัน ในสหรัฐอเมริกามีสำนักงานองค์กรลับฟรีเมสันส์ อยู่ครบทุกรัฐ องค์กรฟรีเมสันส์เข้าไปในสหรัฐฯเมื่อ พ.ศ. 2276 สำนักฟรีเมสันส์แห่งแรกตั้งที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเสตต์ แต่เป็นสาขาจากอังกฤษ สำนักงานที่เป็นของสหรัฐฯอย่างแท้จริงนั้น ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2277 ที่เมืองซาวันนา รัฐจอร์เจีย ต่อมาพวกฟรีเมสันส์ในสหรัฐฯแบ่งเป็น 2 สาย คือสายสมัยใหม่ และสายเก่าแก่ที่เรียกว่าสายแอนเทียนต์
ในหลายประเทศมี องค์กรลับ คอยดูแลความเป็นไปของชาติ โดยการรวบรวมคนที่ฉลาดจริงๆ มีการศึกษาดี เข้ามาอยู่ด้วยกัน คนพวกนี้จะเข้าใจความเป็นไปของโลก มีเครือข่ายระโนงโยง ไปเหมือนใยแมงมุม เมื่อมีปัญหาที่ประเทศชาติบ้านเมืองของตนต้องการความช่วยเหลือ สมาชิกขององค์กรลับเหล่านี้ก็จะใช้ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่สุดของตัวเอง เข้า ไปจัดการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น
ผมมีความเชื่อเป็นการส่วน ตัว ว่า ในประเทศไทยของเรา ก็มีสมาชิก องค์กรลับฟรีเมสันส์อยู่หลายคน สมาชิกขององค์กรที่ทรงอิทธิพลอย่าง CFR ก็น่าจะมีไม่น้อย
เมื่อใดที่คนเหล่านี้ก้าวเข้าไปสู่การเมืองและดูแลบริหารประเทศ ผมมีความเชื่อเป็นการส่วนตัวว่า ประเทศชาติจะสุขสงบครับ
หลัง จากที่ผมรับใช้เรื่องขององค์กรลับฟรีเมสันส์ไปแล้ว 2 วัน ก็มีคนตั้งคําถามว่า สมาคมลับ องค์กรลับระดับโลกอื่นๆ ยังมีอีกบ้างหรือเปล่า? และองค์กรลับต่างๆ เหล่านั้นมีอิทธิพลระโนงโยงใยมาถึงเราด้วยหรือไม่?
ขอตอบว่า แน่นอนครับ มีมานานแล้ว ถ้าผู้อ่านท่านยังจําชนวนของสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ อาร์คดยุก ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ แห่งออสเตรียถูกลอบสังหาร โดยนักศึกษาชาวเซอร์เบีย ซึ่งฆาตกรที่ถูกจับได้เป็นสมาชิกของกลุ่มแบล็กแฮนด์ที่สนับสนุนโดยองค์กรลับ ฟรีเมสัน
ส์
สงครามโลกครั้งที่ 1 ทําให้เกิดสันนิบาตชาติ (ภายหลังมีสงคราม โลกครั้งที่ 2 จึงเกิดองค์กรลักษณะเดียวกัน คือ สหประชาชาติ) แนวความคิดขององค์กรโลก ทําให้คนกลุ่มหนึ่งมองเห็นวิธีการควบคุมโลกอย่างเป็นองค์รวม จึงตั้งสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ Council On Foreign Relations หรือ CFR ขึ้นในสหรัฐฯ เมื่อ พ.ศ.2464 คนที่เริ่มคือ พันเอก เอ็ดเวิร์ด เอ็ม เฮาส์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ โดยเฮาส์วิ่งไปแจกแจงแถลงความคิดและวิ่งเต้นขอเงินสนับสนุน จาก กลุ่มธุรกิจเซซิล โรดส์, กลุ่มเจพี มอร์แกน, กลุ่มโรธส์ไชลด์, กลุ่มคาร์เนกีและกลุ่มร็อคกีเฟลเลอร์
ประสงค์ ที่แถลงอย่างเป็นทาง การในการตั้ง CFR ก็คือ ต้องการให้ CFR เป็นองค์กรที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ที่ทุกชาติจะเดินทางไป ในแนวทางเดียวกันและ จับมือกันแก้ไขปัญหาอย่างเป็นองค์รวมในระดับนานาชาติ
CFR ต้องการทําให้โลกเป็นหนึ่งเดียว และเป็นเจ้าของตัวจริงในทฤษฎีการจัดระเบียบโลกใหม่ ให้โลกมีสังคมเดียว ศาสนาเดียว มีรัฐบาลเดียว มีประเทศเดียวในโลกที่เป็นศูนย์กลาง (สหรัฐฯ) ที่ใช้เครือข่ายการบริหารที่กระจายไปตามเมืองหลวงใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ปารีส โตเกียว กรุงเทพฯ ลอนดอน ฯลฯ CFR ต้องการให้ประเทศต่างๆ แปรสภาพเป็นรัฐ หรือเป็นจังหวัด โดยมีรัฐบาลกลางอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
เพื่อไม่ให้มหาอํานาจโลกที่เป็นศูนย์กลางล่มสลายได้ง่ายดายเหมือนที่กรุงโรมเคยล่มมา
แล้ว ศาสตราจารย์ ดร.แคร์รอลล์ ควิกลีย์ แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ จึงเสนอทฤษฎีพลวัตของสังคมมนุษย์แนวใหม่ ที่ให้มหาอํานาจซึ่งเป็นศูนย์กลางสร้างเครือข่ายที่ประสานกันได้ทั่วโลก และจะต้องไม่มีการแทรกแซงระหว่างเครือข่ายต่างๆ แต่ให้มีการร่วมมือกันที่เรียกว่า ภราดรภาพต่อกัน อีกทฤษฎีหนึ่งซึ่ง ดร.ควิกลีย์สร้างขึ้นเพื่อนํามาใช้ในการคุมโลกของ CFR ก็คือ ทฤษฎีโต๊ะกลม ซึ่งให้ทุกคนในเครือข่ายสามารถนั่งสานประโยชน์ด้วยกันได้อย่างลงตัว
ด้วย ทฤษฎีนี้นี่แหละครับ CFR จึงประสานไปยังองค์กรลับที่จัดตั้งมานานแล้วเป็นร้อยปี และองค์กรลับใหม่ๆ ซึ่งมีอิทธิพลระดับประเทศและระดับภูมิภาคอย่างองค์กรลับ ฟรีเมสันส์, บิลเดอร์เบิร์ก, อิลลูมิเนติ, สมาคมสกัลล์แอนด์โบนส์ (สมาคมหัวกะโหลกกระดูกไขว้) และสมาคมลับไทรเลตเทอรอล คอมมิสชัน
องค์กร ลับ CFR จึงเป็นองค์กรที่มีศักยภาพสูงสุดในการควบคุมโลกในยุคนี้ มีการทํางานอย่างเป็นระบบระเบียบมาก มีผู้นําประเทศ รัฐมนตรี นายทหาร นายธนาคาร ฯลฯ ที่อยู่ตามรัฐบาลต่างๆ ทั้งโลกสูงถึง 4,000 คน
เมื่อ รับใช้ถึงฟรีเมสันส์และ CFR แล้ว นิติภูมิก็อดไม่ได้ที่จะลากปากกาถึง บิลเดอร์เบิร์ก ซึ่งจัดประชุมกันครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2497 ที่โรงแรมบิลเดอร์เบิร์ก เมืองอูสเตอร์บีก ประเทศฮอลแลนด์ สมาชิกกลุ่มนี้ทั้งที่ตายไปแล้วและที่ยังอยู่ก็มี เฮนรี คิสซิงเจอร์, บิลล์ เกตส์ (เศรษฐี อันดับ 1 ของโลก), เดนนิส เฮียเลย์ (อดีตผู้นําพรรคแรงงานและ รมว.ความมั่นคงของอังกฤษ), เดวิด ร็อคกีเฟลเลอร์, เจ้าชายเบิร์นฮาร์ด (พระสวามีของราชินีจูเลียนาแห่งเนเธอร์แลนด์),โรนัลด์ รัมส์เฟลด์ ฯลฯ
กลุ่ม บิลเดอร์เบิร์กประชุมสามัญกันทุกปีอย่างเปิดเผย โดยจะมีสมาชิกเข้าร่วมประชุม 100 ที่นั่ง ประชุมเสร็จก็มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่าประชุมอะไรกันไปบ้าง แต่จะไม่พูดถึงวาระลับซ่อนเร้นที่รู้กันเฉพาะในหมู่สมาชิกเท่านั้น
การ ถล่มอัฟกานิสถานและอิรัก ความพยายามในการสกัดกั้นจีนความรุนแรงในบางจังหวัดของบางประเทศ ฯลฯ นโยบายต่างๆ เหล่านี้มีการวางแผนและประสานจาก องค์กรลับของโลกแทบทั้งนั้น ฝีมือระดับประเทศไม่มีทางทราบและไม่มีทางแก้ไขได้
ฝากไว้อีก ที ครับ ว่าฝีมือของคนเดียวระดับประเทศไม่มีทางแก้ไขอะไรได้ ต้องฝีมือของคนหลายคนที่มีเครือข่ายระโนงโยงใยในหลายองค์กรโลกเท่านั้น
นิติภูมิ นวรัตน์
http://forum.mthai.com/view_topic.php?mode=quote&comment=6&index=5&table_id=1&cate_id=34&post_id=30294