Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...

ภาพประทับใจ => ผนังเก่าเล่าเรื่อง => Topic started by: ppsan on 31 January 2024, 22:45:16

Title: การเสด็จประพาสต้น ครั้งแรก เมื่อ ร.ศ.๑๒๓ (พ.ศ. ๒๔๔๗) [7]
Post by: ppsan on 31 January 2024, 22:45:16
การเสด็จประพาสต้น ครั้งแรก เมื่อ ร.ศ.๑๒๓ (พ.ศ. ๒๔๔๗) [7]


(7.1) ตาช้าง-ยายพลับ "เพื่อนต้น"

ในจำนวน “เพื่อนต้น” ที่ได้ทรงพบปะพูดคุยในระหว่างเสด็จประพาสต้นนั้น เรื่องของ “ตาช้าง” นับว่าได้รับการกล่าวขานถึงมากที่สุด และเป็นรายที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณมากที่สุดด้วย โดยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น หมื่นปฏิพัธภูวนารถ ซึ่งหมายถึง ผู้เป็นที่พอพระราชหฤทัยแห่งพระมหากษัตริย์

ตาช้างเป็นชาวบ้านตำบลบางหลวงอ้ายเอียง แขวงกรุงเก่า อยุธยา เมียชื่อนางพลับ จัดว่าเป็นคนมีฐานะ และมีลูกด้วยกันถึง ๑๑ คน เป็นชาย ๕ คน หญิง ๖ คน

ในการเสด็จประพาสต้น ในปี พ.ศ. ๒๔๔๗ ขบวนเรือเสด็จได้เข้าคลองมะขามเฒ่าที่ชัยนาท แล้วทรงแวะประทับแรมที่บ้าน ขุนพิทักษ์บริหารกับนางจ่าง เจ้าของเรือเมล์เขียวที่ผักไห่ เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม วันรุ่งขึ้นรับสั่งให้เรือกลไฟพลับพลาแล่นไปทางคลองเจ้าเจ็ด มาออกบางไทร ส่วนขบวนเรือเสด็จจะไปออกทางคลองโผงเผง แล้วไปพบกันที่บางปะอิน แต่เรือพลับพลาไปผิดเส้นทาง มาเข้าคลองโผงเผงเส้นเดียวกับขบวนเรือเสด็จ ซึ่งนอกจากจะทำคลื่นให้เรือประทับโคลงเคลงแล้ว ยังทำให้ราษฎรสองฝั่งเข้าใจว่าทรงประทับอยู่ในเรือพลับพลา เลยออกมารอเฝ้ารับเสด็จกันริมฝั่งคลอง พระสงฆ์ก็สวดชยันโตเมื่อเรือผ่านหน้าวัด ทำให้เอิกเกริกไปตลอดเส้นทาง จนหาที่สงบจอดเสวยพระกระยาหารไม่ได้เลย

เมื่อเสด็จมาถึงบ้านหลังหนึ่งดูสงบดี สะพานท่าน้ำทอดออกมายาว จึงรับสั่งให้จอดเรือที่บ้านหลังนั้น ตาช้างเจ้าของบ้านเป็นคนมีอัธยาศัยดี เมื่อเห็นว่าผู้ดีบางกอกมาจอดเรือที่หน้าบ้านจึงกุลีกุจอมาเชื้อเชิญให้ขึ้นบ้าน กรมพระยาดำรงฯ ก็เข้ารับหน้าบอกว่าเป็นเรือตามเสด็จ จะขอจอดพักกินข้าวหน่อย ตาช้างได้ฟังก็ว่า นึกแล้วเชียว เห็นเรือเสด็จเพิ่งผ่านไป นี่คงตามไม่ทัน งั้นก็ขึ้นมาก่อน จะบอกให้เมียทำกับข้าวเลี้ยง

ตาช้างจัดแจงปูเสื่อต้อนรับแขกที่โรงเลื่อยข้างบ้าน แล้วขนน้ำชา ขนมมาเลี้ยง นั่งชนเข่ากับกรมพระยาดำรงฯและพระเจ้าอยู่หัว คุยโขมงโฉงเฉงว่าตัวเองเป็นคนคุ้นเคยกับบางกอกเป็นอย่างดี

“พวกผู้ดีบางกอกหลายคนรู้จักฉันดี ลูกชายฉันก็บวชอยู่ที่วัดเบญจะ พวกขุนน้ำขุนนางพอเห็นหน้าฉันก็ต้องร้องอ๋อทันที” ตาช้างคุย
“พระเจ้าอยู่หัวล่ะ เคยเข้าเฝ้าบ้างไหม ท่านเสด็จวัดเบญจะบ่อยๆ” กรมพระยาดำรงฯ ถาม
“ปัทโธ่ ทำไมจะไม่เคยเฝ้า บนเรือนนี่ก็มีรูปท่าน เห็นที่ไหนก็ต้องเข้าไปกราบพระบาททุกครั้ง”

คำคุยของตาช้างเรียกเสียงฮาได้รอบวง พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวลอย่างสำราญพระราชหฤทัย

ตาช้างเห็นว่าที่โรงเลื่อยนั้นอากาศอับจนอบอ้าว จึงเชิญทุกคนขึ้นเรือน ไปกินข้าวที่ยายพลับทำเสร็จแล้ว มีแกงไก่และบะช่อตำลึง

รายการที่บ้านตาช้าง ทำให้พระเจ้าอยู่หัวทรงพระสำราญและทุกคนสนุกสนานกันมาก เพราะตาช้างเป็นคนคุยเก่งและค่อนข้างจะขี้คุย มีแต่ พระยาโบราณราชธรนินทร์ ผู้ว่าราชการมณฑลกรุงเก่า เพียงคนเดียวที่ต้องซ่อนตัวอยู่แต่ในเก๋งเรือ โผล่หน้าออกมาไม่ได้ เพราะผู้คนแถวอยุธยาจำได้หมด

ที่สำรับกับข้าว ตาช้างกับยายพลับก็เข้าร่วมวงกับเจ้าชีวิตด้วย ตาช้างคุยไม่หยุดแถมยังหยอกล้อพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าตาช้างทำไปตามธรรมชาติไม่ได้เสแสร้ง แม้จะคุยเขื่องไปทุกเรื่อง ยิ่งฟังก็ยิ่งขำ ทำให้ทรงพระสรวลได้บ่อย

เมื่อเสร็จจากรับประทานอาหารแล้ว ตาช้างก็ทูลไหว้วานให้ช่วยซื้อปืนเมาเซอร์ให้ซักกระบอก อยากได้ไว้เฝ้าบ้าน ถึงมีเงินก็ไม่รู้ว่าจะซื้อที่ไหน และต้องขออนุญาตตีทะเบียนยุ่งยาก พระเจ้าอยู่หัวก็รับปากว่าจะจัดการให้

ตอนเสด็จกลับ ตาช้างไปส่งที่ท่าน้ำ ทรงส่งซองๆหนึ่งให้ ตาช้างก็ไม่สนใจ รับได้ก็ใส่กระเป๋าเพราะกำลังคุยเพลิน พอขบวนเสด็จพ้นไปแล้วกำนันก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาร้องบอกว่า

“แกรู้ไม๊ ใครที่มานั่งกินข้าวกับแกน่ะ ข้าแอบดูอยู่นานแล้วแต่ไม่กล้าเข้ามาบอก นั่นแหละพระพุทธเจ้าหลวง แกน่ะ เคราะห์ร้ายเสียแล้วที่ไปตีเสมอกับท่านเหมือนเป็นเพื่อนเล่น”

ตาช้างไม่ยอมเชื่อ หาว่ากำนันหลอก กำนันจึงเอาพระบรมฉายาลักษณ์ที่ไปหยิบมาเปรียบเทียบยื่นให้ดู ตาช้างก็ยอมรับว่าเหมือน แต่คงไม่ใช่

“พระเจ้าแผ่นดินที่ไหนจะมาเดินเล่นตามบ้านชาวบ้านแบบนี้” ตาช้างเถียง

แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าท่านมอบซองไว้ให้ซองหนึ่งจึงควักออกมาดู ก็เห็นเป็นธนบัตรรุ่นใหม่ที่ชาวบ้านนอกยังไม่เคยได้เห็น ตาช้างนับได้ ๕ ชั่ง หรือ ๔๐๐ บาท คนธรรมดาคงไม่มีใครเอาเงินมาให้มากถึงขนาดนี้ ตาช้างเลยหงายผลึ่งเป็นลมไป

ต่อมาโปรดเกล้าฯให้ตาช้างเข้าเฝ้าที่พระบรมมหาราชวัง พระราชทานปืนเมาเซอร์ให้กระบอกหนึ่ง แล้วโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็น หมื่นปฏิพัธภูวนารถ พระราชทานไม้เท้าสลักพระปรมาภิไธย จปร.ให้ตาช้าง และหีบหมากเงินสลักพระนาม จปร. ให้แก่ยายพลับ ถือเป็นใบเบิกทางเข้าเฝ้าในงานพระราชพิธีได้ใกล้ชิด

ตาช้างยายพลับเป็น “เพื่อนต้น” คู่หนึ่งที่รัชกาลที่ 5 ทรงถือเป็นเพื่อนคุ้นเคย เวลาล่วงเลยไปเมื่อเพื่อนต้นมาเฝ้าครั้งไร เหล่าราชองครักษ์พอเห็น "ชายถือไม้เท้ากับหญิงถือหีบหมากพระราชทาน" ก็เป็นอันรู้ได้ว่าเพื่อนต้นมาเฝ้า ราชองครักษ์ก็เปิดทางให้สะดวก

...


ตาช้าง "เพื่อนต้น"
ภาพฝีพระหัตถ์ทรงถ่ายครอบครัวของหมื่นปฏิพัทธ์ภูวนาท (นายช้าง) ผู้เอ่ยปากฝากซื้อปืนเมาเซอกับล้นเกล้า ร.๕ ด้วยเข้าใจว่าทรงเป็นขุนนางตามเสด็จฯพระเจ้าแผ่นดิน
(https://scontent.fbkk24-1.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/327987395_5825392817557694_6608024913100310116_n.jpg?_nc_cat=104&ccb=1-7&_nc_sid=3635dc&_nc_eui2=AeFs_5O5SNvkjMtQMkZkGVxVTNgdns2eqJNM2B2ezZ6ok2tV2hNhvfjqPuAaOBzSu5VVKGHVk6jVHewrb42bv6ti&_nc_ohc=0E-9V1FRCQoAX8kQUn7&_nc_ht=scontent.fbkk24-1.fna&oh=00_AfBcdCYBjvSGQ1cxk4UbSr0B94HZoN-_WCtSGiYXXcWGQw&oe=65BFC588)

.

ยายพลับ "เพื่อนต้น"
(https://scontent.fbkk24-1.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/327729428_483275783988532_2699232900785482210_n.jpg?_nc_cat=110&ccb=1-7&_nc_sid=3635dc&_nc_eui2=AeGbq0IeVrWy6EMP4t_imOHPLOlGFU-WNtEs6UYVT5Y20U5ru8Iuh5rfQYUtah9NEpPKFnj7uebrG61tXh12kzyf&_nc_ohc=iqoDB9aElYQAX-0PRl5&_nc_ht=scontent.fbkk24-1.fna&oh=00_AfBF_BOYKMsPSsFIWZ2T3JcVFQc1VTc71El9foPM_jmwBQ&oe=65BF6C0A)

.

ตาช้างกับยายพลับ เพื่อนต้นรัชกาลที่ ๕ เมื่อครั้งเสด็จประพาสต้น
ตาช้างและยายพลับนั่งเก้าอี้ ตาช้างเป็นจีนไว้ผมเปีย สวมเสื้อแบบจีน กางเกงหลวม ๆ อย่างจีน รองเท้าแบบจีน ยายพลับนุ่งโจงกระเบนแบบไทย สวมเสื้อแขนยาว ห่มสไบเฉียง สวมรองเท้า
(https://scontent.fbkk24-1.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/327881421_930582148307974_7386651993542720373_n.jpg?_nc_cat=102&ccb=1-7&_nc_sid=3635dc&_nc_eui2=AeGZHqHqrwl3gi9iv1hIwWvC8qqwI1OJgVfyqrAjU4mBVw7B6Aj2HQ07iMx9wdVk29TafNTMnEeU5b0vCasq-fgk&_nc_ohc=57ZckWPYoIwAX8I2kKE&_nc_ht=scontent.fbkk24-1.fna&oh=00_AfBkpzg5Uf0qVw0Bmn1VLgYTZIO7IIGUjN6zwzzuzeRZOw&oe=65BE5B07)

.

ครอบครัวของ ตาช้างและยายพลับ
(https://scontent.fbkk24-1.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/327052345_1165862374072974_7563167515686307920_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=3635dc&_nc_eui2=AeFKHu_PCuNEJjySqKYpniWweDe5U3iijeN4N7lTeKKN49kFSPkuYWvcQBhmB-dKqAZEHuwO1OKChHkLHshZOT1n&_nc_ohc=gAPjpxM3O0AAX_jxvY5&_nc_ht=scontent.fbkk24-1.fna&oh=00_AfDsx5jdwKXgcGwn7yJN_amyymSWrKuCP0d3zMOQqDgLRg&oe=65BF646E)

.

ภาพฝีพระหัตถ์ ร. ๕
บ้านตาช้างกับยายพลับ
(https://scontent.fbkk24-1.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/327604356_8604100179664384_1049386396391777053_n.jpg?_nc_cat=106&ccb=1-7&_nc_sid=3635dc&_nc_eui2=AeHYiKp2hFdMaE6gEQkjXM6kl9h3mIWCBYiX2HeYhYIFiL5UhIRT3H_KeZlAr-Z79xBcfky2FJ7Ct4K08fawFu_x&_nc_ohc=eH1DRJP-tOsAX9ai9ki&_nc_ht=scontent.fbkk24-1.fna&oh=00_AfDXKF9RnZ8Y7VOnegp_SMzSQfdxS-FB2Cule0we1aJTog&oe=65BECFA6)

.



Title: Re: การเสด็จประพาสต้น ครั้งแรก เมื่อ ร.ศ.๑๒๓ (พ.ศ. ๒๔๔๗) [7]
Post by: ppsan on 31 January 2024, 22:46:14

(7.2) ตาช้าง-ยายพลับ "เพื่อนต้น"

ภายหลังจากเสด็จประพาสต้นบ้านตาช้างครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๔๗ แล้ว ตาช้างได้ลงทุนลงแรงสร้างหอนั่งขึ้นที่บ้าน หลังหนึ่ง พ.ศ. ๒๔๔๙ เมื่อรัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสต้นบ้านตาช้างอีก ได้จัดรับเสด็จบนหอนั่งเป็นการแข็งแรง แต่เสด็จครั้งหลังนี้เนื่องจากรู้พระองค์ดีอยู่แล้ว จึงมีความระมัดระวัง อะไรๆ ก็ไม่สู้ขบขันเหมือนเสด็จครั้งแรกอีก

ยายพลับถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙ เมื่อต้นรัชกาลที่ ๖ และอีก ๕ เดือนต่อมาตาช้างก็ถึงแก่กรรมตามยายพลับไปใน พ.ศ. ๒๔๖๐ อายุได้ ๗๑ ปี

ตระกูลของตาช้าง ใช้นามสกุล "คชาธาร" คชา ก็แปลว่า ช้าง ตาช้างเป็นต้นตระกูล ตาช้างมีลูก ๑๑ คน หญิง ๖ ชาย ๕ สกุลของตาช้างประกอบอาชีพไร่นาค้าขาย นับเป็นสกุลคหบดี สรุปแล้ว ตาช้างยายพลับเป็นคนทำมาหากิน มีความร่ำรวยเอาการ

ตอนยายพลับถึงแก่กรรมนั้น ตาช้างได้บริจาคทรัพย์เป็นจำนวนสูงถึง ๒๐,๐๐๐ บาท สร้างศาลาการเปรียญขึ้นหลังหนึ่ง นิมนต์พระมาทำแจงตั้ง ๗๐๐ รูป ถึงตอนตาช้างถึงแก่กรรม นายไชย คชาธาร พร้อมลูกหลานจัดทำบุญใหญ่โต ตาช้างได้ให้ทรัพย์ไว้สำหรับบูรณะปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ และบูรณะศาลาการเปรียญที่ได้เคยสร้างไว้กับทั้งมีแจง จำนวนพระสงฆ์ ๑,๐๐๐ รูป

...

บ้านตาช้าง ยายพลับ กรุงเก่า อยุธยา
(https://scontent.fbkk24-1.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/327433030_3380415942217664_6131800435604437812_n.jpg?_nc_cat=102&ccb=1-7&_nc_sid=3635dc&_nc_eui2=AeES4JKi-1rvydoL5ISv81KFrUu917EKIKWtS73XsQogpXFPXR45x1qMdQZ-SH2gOBxBroDfd_QDQ0ix4dzwnS7x&_nc_ohc=kggarLqwNWkAX9d91ap&_nc_ht=scontent.fbkk24-1.fna&oh=00_AfCWS7m84DbMtRz23vPOF0THrBAbx1Y_uD6T1iJcejinfA&oe=65BF0E62)

.

(https://scontent.fbkk24-1.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/327731039_4151006961790491_9024661005135441187_n.jpg?_nc_cat=105&ccb=1-7&_nc_sid=3635dc&_nc_eui2=AeFdyNQnF0tQFGTfkKoy38qEDTq_wTS3HzENOr_BNLcfMdR7mcMyoa6Cw0PSAgvWp-ogaK2FBT7Q23sQQADnBF0F&_nc_ohc=UVC0PkROOH0AX8p4s65&_nc_ht=scontent.fbkk24-1.fna&oh=00_AfDCH91y2BF8c9mQVKb6R7dCm3TKT7z-MBn0mRo5zaQp3w&oe=65BF3E7A)

.

(https://scontent.fbkk24-1.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/327894959_700287854932063_322659493970866928_n.jpg?_nc_cat=108&ccb=1-7&_nc_sid=3635dc&_nc_eui2=AeGweRdpEM-tvPQlqbP6W5cCEnckPY7EZPwSdyQ9jsRk_KHKc9b79sYXCKAICME4k6_cLpDtUh3HlvLsAx9-0EW2&_nc_ohc=VeF_Hcj6Qq4AX8BbuzX&_nc_oc=AQkHCVKXO0Z91En1x8tZPEA6OzXNpkIJ8sC7k53A26jQPCx_iKPFSUMGXTIyjAu88QY&_nc_ht=scontent.fbkk24-1.fna&oh=00_AfCZkf5V5kQEGwcnIVWjUnjQNaP0cWcZLWlj6huV4JtWYQ&oe=65BF26F7)

.

ชาวบ้านทราบข่าว ร.๕ เสด็จ พากันมาต้อนรับ
(https://scontent.fbkk24-1.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/326817367_752123979662753_2820756450095841109_n.jpg?_nc_cat=102&ccb=1-7&_nc_sid=3635dc&_nc_eui2=AeGANaAEMTXXzwtWHWFMcGzo5TIn6eECntflMifp4QKe13j-sWAUPGMn4G46rEq3N3DWHa_wytctQvNqG8kgPi3V&_nc_ohc=wpZas-TY9_8AX_7blKs&_nc_ht=scontent.fbkk24-1.fna&oh=00_AfBCh0RXykbFpS0JtHVxu3JIFrb_KMNPqcaI3GMGGdQ_3w&oe=65BFDB12)

.

วัดที่ตาช้างไปทำบุญ
(https://scontent.fbkk24-1.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/326788622_489169100040619_3101420887859480416_n.jpg?_nc_cat=104&ccb=1-7&_nc_sid=3635dc&_nc_eui2=AeGA-jL5ShekNYmliaRrZJvM4DI5Wdkab4bgMjlZ2RpvhoiCOb3NdZVX8KXzdil5PmJ_Cdye3FwEMgPDcFHe2Zoy&_nc_ohc=jidXmuThR9wAX_XFxyd&_nc_ht=scontent.fbkk24-1.fna&oh=00_AfDVLyOza0zd_ZyxGMBmQQqFKw_kmd4DhTPB4E1G44Xaeg&oe=65BEE2BF)

.