Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
วิถีสู่ชีวิตแห่งความพอเพียง => ศิลปะและวัฒนธรรมทางเลือก => Topic started by: ppsan on 22 July 2022, 10:40:00
-
การแสดงโขน ตอน "พระรามครองเมือง"
ภาพถ่ายการแสดงโขน จากงานราชพฤกษ์รวมใจภักดิ์รักพ่อหลวง [Part VI การแสดงโขน ตอน "พระรามครองเมือง"]
ภาพถ่ายการแสดงโขน จากงานราชพฤกษ์รวมใจภักดิ์รักพ่อหลวง ณ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549
มานำเสนอให้ชมกันเป็นภาพถ่ายชุดที่ 6 ภาพถ่ายชุดนี้เป็นของวันที่ 9 ธค. 51 วันนี้ตามโปรแกรมแล้วจะเป็นการแสดงโขน ตอน "พระรามครองเมือง"
.....
จับความตั้งแต่ในภาคสวรรค์ บรรดาเหล่าเทวดานางฟ้า ต่างพากันมาเข้าเฝ้าพระอิศวร บนวิมานยอดเขาไกรลาส
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229234387.jpg)
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229234453.jpg)
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229234491.jpg)
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229236126.jpg)
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229236159.jpg)
นนทก เป็นยักษ์อสูร เดิมมีอัธยาศัยอ่อนน้อม เรียบร้อย มีความเพียรและมีความอดทนอย่างยิ่ง
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229235902.jpg)
ที่เชิงเขาไกรลาศ นนทกมีหน้าที่ล้างเท้าให้กับเหล่าทวยเทพและบรรดาผู้มาเข้าเฝ้าพระอิศวร
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229237821.jpg)
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229237939.jpg)
ทุกครั้งที่นนทกทำหน้าที่ล้างเท้าให้กับเทวดา
ก็มักจะมีเทวดาเกเรคอยกลั่นแกล้งนนทกอยู่เป็นประจำ
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229237982.jpg)
บ้างก็ไม่ให้ล้างเท้าง่ายๆ บ้างก็เอามือจับหัวนนทกไว้
พอล้างเท้าเสร็จก็ถอนผมนนทกเสียทีละเส้นสองเส้น จนหัวล้านโล้น
ครั้นเมื่อไม่มีผมจะให้ถอนก็ใช้วิธีเขกหัวแทน
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229238098.jpg)
จนกระทั่งวันหนึ่ง
นนทกส่องดูเงาของตัวเองในอ่างน้ำเห็นศีรษะตนเองล้านโล้น
จึงเกิดความโทมนัสระคนโกรธเคือง ที่ตนอุตส่าห์ทำงานรับใช้เทวดาด้วยดีตลอดมา
แต่ก็ยังถูกรังแกจนดูอัปลักษณ์ ทำให้นนทกผูกใจเจ็บ
นนทกคิดจะล้างแค้นพวกเทวดาและบรรดาผู้มาเข้าเฝ้าพระอิศวรให้หนำใจ
เลยคิดเข้าเฝ้าพระอิศวร
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229238944.jpg)
นนทกได้เข้าเฝ้าและเล่าเรื่องทุกข์ใจของตนเองให้พระอิศวรทราบ
ว่าตนเองทำหน้าที่ล้างเท้าอย่างมีความมานะอดทนมาโดยตลอด
แต่แล้วพวกเทวดาเกเรมาคอยกลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ
จนศีรษะล้านโล้นทำให้รู้สึกทุกข์ใจเป็นยิ่งนัก
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229238284.jpg)
เมื่อพระอิศวรเป็นเจ้าได้ฟังคำกราบทูลของนนทกว่า
ได้บำเพ็ญเพียรสร้างความดี ความชอบมาเป็นเวลาช้านาน
พระอิศวรทรงคิดเมตตานนทก
ตรัสถามนนทกว่าอยากจะขอพรสิ่งใดก็จะประทานให้
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229238631.jpg)
นนทกอ้างว่าเพื่อป้องกันตนเองถูกรังแก จึงขอพรว่า
"ให้นิ้วข้าเป็นเพชรฤทธี จะชี้ใครจงม้วยสังขาร์
จะได้รองเบื้องบาทา ไปกว่าจะสิ้นชีวี ฯ"
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229240984.jpg)
ครั้นพระอิศวรได้รับฟังความทุกข์ใจของนนทก
และการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าเบื้องพระพักตร์ว่า
จะทำหน้าที่ด้วยความสัตย์สุจริตและด้วยความจงรักภักดี
ด้วยความเมตตาพระอิศวรจึงประสิทธิประสาทให้พร
ตามที่นนทกทูลขอ
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229241024.jpg)
เมื่อนนทกได้พรตามที่ขอ
ทำให้นนทกซึ่งเป็นยักษ์อสูรที่มีหน้าที่ล้างเท้า
จากเดิมที่มิได้มีฤทธิ์เดชแต่ประการใด
ได้กลายเป็นเทพอสูรที่มีฤทธิ์เดชมาก
คือมีนิ้วชี้เป็นเพชร ชี้ใครให้ตายก็ได้
หากนนทกยึดมั่นในคำถวายสัตย์ปฏิญาณ
และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระอิศวร
พระผู้มีพระบรมเจตนาที่จะให้สามโลกร่มเย็นเป็นสุข
ก็ย่อมใช้อำนาจและฤทธิ์เดชนั้น
เพื่อประโยชน์สุขของสรวงสวรรค์และสามโลก
นนทกก็จะมีแต่ความสุข ความเจริญ
เป็นที่รักใคร่ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229249586.jpg)
แต่นนทกได้ฤทธิ์และอำนาจแล้วเกิดความยินดีระเริงใจ
เกิดความหลงติดยึดว่า ฤทธิ์และอำนาจนั้นเป็นของตน
ไม่มีผู้ใดในสามโลกต่อสู้ต้านทานได้
จึงลืมคำที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระอิศวรเป็นเจ้า
แล้วใช้อำนาจนั้นในทางไม่ชอบ
เข่นฆ่าสังหารเทวดา ครุฑ นาค และคนธรรพ์ล้มตายลงเป็นเบือ
เพราะนนทกชี้นิ้วไปถึงไหน
". . .ต้องสุบรรณเทวานาคี ดั่งพิษอสุนีทนไม่ได้
ล้มฟาดกลาดเกลื่อนลงทันใด บรรลัยไม่ทันพริบตา ฯ"
ครั้นถึงคราวที่เหล่าเทวดานางฟ้ามาให้นนทกล้างเท้าก่อนขึ้นเฝ้าพระอิศวร เหล่าเทวดาต่างก็ยังรังแกนนทกอีกเช่นเคย
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229249713.jpg)
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229249803.jpg)
นนทกจึงเกิดความโกรธเกินจะยับยั้ง
แผลงฤทธิ์ชี้นิ้วเพชรไปยังเทวดานางฟ้าจนล้มหายกระจัดกระจายไป
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229249851.jpg)
เมื่อเป็นดังนี้ทั่วทั้งสามโลกก็เดือดร้อนวุ่นวายไปหมด
บรรดาครุฑ นาค คนธรรพ์และเหล่าเทวดาก็พากันไปหาพระอินทร์เทวราช
ผู้มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปของโลก
แล้ววิพากษ์วิจารณ์กันอึงมี่ไปว่า
ยักษ์อสรูนนทกที่เคยรับใช้ถวายงานพระอิศวรอยู่ที่เชิงเขาไกรลาศนั้น
บัดนี้กลับกลายเป็นอันธพาล
อาศัยนิ้วเพชรที่พระอิศวรเป็นเจ้าประทานพรให้มา
บังอาจเข่นฆ่าราวีเทวดา ครุฑ นาค และคนธรรพ์ทั้งปวง
จนเดือดร้อนทั่วไตรภพ
เมื่อปรึกษาหารือพร้อมกันแล้ว
พระอินทร์จึงนำเหล่าเทวดา คนธรรพ์ ครุฑ นาคทั้งหลาย
ไปเข้าเฝ้าฯ พระอิศวรเป็นเจ้า
กราบทูลกลียุคอันเป็นไปให้ทรงทราบทุกประการ
การกระทำรุนแรงของนนทกในครั้งนี้
ความทราบถึงองค์พระอิศวร
ซึ่งพินิจเล็งเห็นว่า
คงไม่มีผู้ใดเหมาะที่จะปราบปรามเหตุอันร้ายแรงนี้ได้
นอกจากพระนารายณ์เป็นเจ้า
จึงตรัสให้เชิญพระนารายณ์มาระงับเหตุ
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229250042.jpg)
เมื่อนั้น พระอิศวรบรมนาถา
ได้ฟังองค์อมรินทรา จึ่งมีบัญชาตอบไป
ไอ้นี่ทำชอบมาช้านาน เราจึ่งประทานพรให้
มันกลับทรยศกบฏใจ ทำการหยาบใหญ่ถึงเพียงนี้ ฯ
ตรัสแล้วจึ่งมีบัญชา ดูราพระนารายณ์เรืองศรี
ตัวเจ้าผู้มีฤทธี เป็นที่พึ่งแก่หมู่เทวัญ
จงช่วยระงับดับเข็ญ ให้เย็นทั่วพิภพสรวงสวรรค์
เชิญไปสังหารอ้ายอาธรรม์ ให้มันสิ้นชีพชีวา ฯ
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229250131.jpg)
ครั้นพระอิศวรเป็นเจ้ามีบัญชาเช่นนั้นแล้ว
พระนารายณ์จึงรับโองการแห่งจอมเทพ
แล้วตรองดูด้วยญาณก็ทราบว่า
ชะตากรรมของนนทกมาถึงวาระสุดท้ายแล้ว
แต่ชะตากรรมของนนทกจะดับสิ้นเพราะสตรี
ดังนั้นพระนารายณ์
จึงแปลงโฉมเป็นนางเทพอัปสรที่สวยสดงดงามกว่าใครในสามโลก
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229250211.jpg)
เมื่อพระนารายณ์ได้รับทราบโองการจึงเสด็จมายังเชิงเขาไกรลาส
และคิดหาวิธีปราบนนทก
โดยจำแลงเป็นนางเทพอัปสร รูปร่างหน้าตาหมดจดงดงาม
เข้าไปพูดจาล่อลวงยั่วยวนนนทก
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229250933.jpg)
ครั้นนนทกพลันได้เห็นนางอัปสรที่มีรูปโฉมงามเกินกว่าใคร
หน้าผ่องใส ปากสวย ผมสวย ตาสวย มือสวย
สวยเหมือนนางฟ้า ก็หลงรักหลงชอบนางอัปสรทันที
นนทกจึงคิดเข้าเกี้ยวนางอัปสรผู้เลอโฉม
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229251039.jpg)
นางอัปสรผู้เลอโฉม ได้วางกลท่ารำไว้
โดยสอนให้นนทกรำในท่าทางต่างๆ
ซึ่งท่ารำที่นางอัปสรใช้รำต่อมาถือว่าเป็นท่ารำแม่บท
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229252142.jpg)
นนทกจึงเดินเข้าไปถามนางอัปสรว่า “เจ้าต้องการสิ่งใด”
นางอัปสรจึงตอบไปว่า
“เราเป็นนางรำระบำใน จะมีรักได้เจ้าก็ต้องรำตามเรา”
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229252589.jpg)
นนทกจึงตอบไปว่า
“เชิญเจ้ารำเถอะให้สิ้นท่าที่เจ้าจำได้แล้วข้าจะรำตามไปไม่ให้ผิดเพลง"
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229252645.jpg)
ท่ารำแม่บท ที่ต้นด้วยคำว่า "เทพนม ปฐม พรหมสี่หน้า"
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229252674.jpg)
".........เทพนมปฐมพรหมสี่หน้า
สอดสร้อยมาลาเฉิดฉิน
ทั้งกวางเดินดงหงส์บิน
กินรินเลียบถ้ำอำไพ"
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229252731.jpg)
นางอัปสรซ่อนกลท่ารำ ไว้ที่ท่ารำนาคาม้วนหาง
ซึ่งท่ารำนี้ จะต้องให้นิ้วชี้ ชี้ลงตรงบริเวณหน้าขาของผู้รำ
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229252762.jpg)
นนทกหลงกลในท่ารำของนางอัปสร
นนทกร่ายรำตามในท่ารำนาคาม้วนหาง และชี้นิ้วไปที่ขาของตัวเอง
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229252790.jpg)
ด้วยฤทธิ์ของนิ้วเพชร ที่นนทกชี้ไปโดนขาของตัวเอง
จึงล้มลงด้วยฤทธิ์นิ้วเพชรของตนเอง
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229253278.jpg)
จากนั้นนางอัปสรที่อยู่ในร่างพระนารายณ์
ก็แปลงร่างคืนเป็นพระนารายณ์ และยืนเหยียบนนทกไว้
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229253314.jpg)
ครั้นนนทกเห็นนางอัปสรเป็นพระนารายณ์
นนทกจึงถามไปว่า “ข้ามีโทษอะไรให้ว่ามา”
เมื่อนั้นพระนารายณ์ได้ฟังจึงมีบัญชาว่า
“โทษเจ้านั้นใหญ่หลวงนักด้วยการโอหังไม่เกรงพระอิศวร
เจ้าฆ่าเทวดาโทษหนักถึงตาย
ข้าคิดเมตตา แต่จะไว้ชีวิตเจ้าไม่ได้ โทษของเจ้าคือตาย”
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229253534.jpg)
นนทกตัดพ้อว่า
“ซึ่งพระองค์ จะผลาญชีวี
เหตุใดมิทำซึ่งหน้า มารยาเป็น หญิงไม่บัดสี
ฤาว่ากลัวนิ้วเพชรนี้ จะชี้พระองค์ให้บรรลัย
ตัวข้ามีแต่สองมือ ฤาจะสู้ทั้งสี่กรได้
แม้นมีสี่มือเหมือนพระองค์ทรงชัย ที่ไหนจะทำได้ดั่งนี้”
พระนารายณ์ฟังแล้วก็ตอบว่า
“กูนี้แปลงเป็นสตรีมา
เพราะมึงจะถึงแก่ความตาย ฉิบหายด้วยหลงเสน่หา
ใช่ว่าจะกลัวฤทธา ศักดานิ้วเพชรนั้นเมื่อไร
ชาตินี้มึงมีแค่สองหัตถ์ จงไปอุบัติเอาชาติใหม่
ให้สิบเศียรสิบพักตร์เกรียงไกร เหาะเหินเดินได้ในอัมพร
มีมือยี่สิบซ้ายขวา ถือคฑาอาวุธธนูศร
กูจะเป็นมนุษย์แต่สองกร ตามไปราญรอนชีวี”
แล้วพระนารายณ์ก็ปลิดชีพนนทก
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229253668.jpg)
.....
ศึกรามเกียรติ์จึงเกิดขึ้นด้วยการที่นนทกถูกฆ่า
และจากคำท้าทายอาฆาตซึ่งกันและกัน
ระหว่างนนทกกับพระนารายณ์
นนทกได้ไปเกิดเป็นทศกัณฐ์
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229253900.jpg)
พระนารายณ์อวตารเป็นพระราม
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229427401.jpg)
โดยที่พระนารายณ์ทรงทูล
ขอจักร-ขอสังข์-ขอคธา-ขอพระลักษมี
จากพระอิศวรให้ร่วมไปเกิดเป็น
พระพรต-พระลักษมณ์ พระสัตรุดและนางสีดา (ตามลำดับ)
รวมทั้งเทวดาอีก 18 องค์ ก็พร้อมใจกันไปเกิดเป็นพญาวานร 18 มงกุฎ
จากนั้น ศึกระหว่างพระรามกับทศกัณฐ์ก็เกิดขึ้นด้วยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงอีกครั้งหนึ่งในหลายปีต่อมา
.......................................พักยกกันก่อน......................................
-
การสงครามระหว่างพระรามกับทศกัณฐ์ เกิดขึ้นด้วยเหตุเมื่อ
พระราม พร้อมด้วยนางสีดา และ พระลักษมณ์ ละทิ้งเมืองออกมาอยู่ป่าตามกำหนด 14 ปี
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229333933.jpg)
ระหว่างนั้น ทศกัณฐ์ได้ทราบข่าวความงดงามของนางสีดา ผู้เลอโฉม
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229334032.jpg)
ทศกัณฐ์จึงคิดวางแผนชวนมารีศ ให้แปลงร่างเป็นกวางทองไปล่อตานางสีดา
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229334105.jpg)
มารีศมีศักดิ์เป็นน้าของทศกัณฐ์
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229334262.jpg)
มารีศแปลงร่างเป็นกวางทอง
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229334324.jpg)
ขณะที่พระราม นางสีดาและพระลักษมณ์ กำลังพักผ่อนกันอยู่ในป่า
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229336890.jpg)
นางสีดาเห็นกวางทองที่แปลงร่าง นางสีดาก็อยากได้กวางทองมาเลี้ยง
แต่พระลักษมณ์กลับทักขึ้นมาว่า มันแปลกๆ ที่กวางทองมาวิ่งเล่นแถวนี้
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229337027.jpg)
แต่นางสีดาอยากได้กวางทองตัวนั้น
ถ้าไม่ได้กวางทองขอตายดีกว่า
พร้อมกับเอ่ยปากขอให้พระรามออกไล่จับกวางทองให้ได้
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229337091.jpg)
พระรามจึงออกไปจับกวางทอง และช่วงที่ตามจับกวางทองอยู่นั้น
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229337222.jpg)
พระรามได้แผลงศรยิงกวางทอง
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229337336.jpg)
จากนั้นกวางทองได้แปลงร่างกลับเป็นยักษ์อสูรมารีส
และก่อนตายได้ส่งเสียงร้องเป็นเสียงของพระราม
...... เจ้าลักษมณ์ช่วยพี่ด้วย ๆ ......
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229337562.jpg)
นางสีดาและพระลักษมณ์เมื่อได้ยินเสียงร้องของพระราม
นางสีดาจึงขอให้พระลักษมณ์รีบตามเข้าป่าเพื่อไปช่วยพระราม
จนพระลักษมณ์ต้องออกตามเข้าป่าไปอีกองค์หนึ่ง
ครั้นเมื่อเหลือนางสีดาอยู่คนเดียว
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229341220.jpg)
ทศกัณฐ์เห็นนางสีดาอยู่เพียงคนเดียว จึงคิดวางแผนเพื่อลวงนางสีดา
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229344134.jpg)
โดยทศกัณฐ์ได้แปลงเป็นฤๅษีดาบส
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229341310.jpg)
ครั้นนางสีดาได้เห็นฤๅษีดาบส
จึงลงมานั่งและถามฤๅษีดาบสไปว่า เดินเข้าป่ามานี่แล้วจะไปที่ใด
ฤๅษีดาบสที่เป็นทศกัณฐ์นั้น กลับชวนพูดคุยทำนองเกี้ยวพาราสี
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229341844.jpg)
นางสีดาจึงพูดว่า เหตุไฉนฤๅษีผู้ทรงศีล กลับประพฤติตัวเยี่ยงนี้
ทศกัณฐ์ เห็นว่านางสีดาไม่หลงกล
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229341927.jpg)
และเมื่อกลลวงนั้นไม่สำเร็จ ทศกัณฐ์ในร่างฤๅษีดาบสก็แปลงร่างกลับมาเป็นทศกัณฐ์แล้วลักพานางสีดาขึ้นราชรถหนีไป
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229341992.jpg)
ระหว่างทางที่ทศกัณฐ์พานางสีดาหนีไปนั้น ได้พบกับพญานกสดายุ
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229342069.jpg)
นกสดายุนั้นเพื่อนรักของท้าวทศรถ นกสดายุจึงเข้าช่วยนางสีดา
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229342458.jpg)
ทศกัณฐ์แผลงศรใส่นกสดายุ ดอกแล้วดอกเล่า
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229342697.jpg)
แต่ทศกัณฐ์ก็ไม่สามารถฆ่านกสดายุให้ตายได้
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229342773.jpg)
นกสดายุกลับโอ้อวดไปว่า
"ไม่มีใครฆ่าเราได้ นอกจากแหวนพระยาอิศวรที่นางสีดาสวมอยู่นั่น "
ทศกัณฐ์จึงแย่งถอดแหวนจากนางสีดา
แล้วขว้างโดนนกสดายุปีกหางหักยับและล้มลงแน่นิ่ง
จากนั้นทศกัณฐ์ลักพานางสีดาไป
ระหว่างทางนางสีดาได้ทิ้งสไบไว้ในป่า
เพื่อหวังว่าพระรามจะตามมาช่วยและเจอสไบของนาง
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229442732.jpg)
ส่วนนกสดายุที่บาดเจ็บเจียนตายนั้น
ได้ใช้ปากคาบแหวนพระอิศวรไว้ และนอนรอความตาย
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229342958.jpg)
พระรามและพระลักษมณ์ได้ออกตามนางสีดา
จนมาเจอนกสดายุที่นอนบาดเจ็บอยู่
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229343277.jpg)
นกสดายุได้เล่าเรื่องการต่อสู้กับทศกัณฐ์ให้พระรามฟัง
พร้อมกับมอบแหวนของนางสีดาให้กับพระราม
ก่อนที่นกสดายุจะสิ้นใจ
ได้บอกกับพระรามให้ปลิดชีพตัวเองด้วยศรของพระราม
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229343503.jpg)
พระรามรู้สึกเศร้าใจเป็นยิ่งนักที่ต้องฆ่านกสดายุ
จากนั้นพระรามได้แผลงศรอัคนิบาต เกิดเป็นไฟ เผาศพให้นกสดายุ
พระรามและพระลักษมณ์ก็เดินป่าเพื่อตามหานางสีดาต่อไป
ในช่วงที่นางสีดาได้ทิ้งสไบไว้ในป่านั้น
ขณะนั้นมีลิงน้อยในป่าได้เห็นเหตุการณ์ และได้เก็บผ้าสะไบไว้
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229343638.jpg)
ระหว่างทางที่พระรามกับพระลักษมณ์เดินอยู่ในป่า
เทวดาได้นิมิตให้เดินทางไปยังทิศหรดี
เพื่อจะได้เจอกับลิงน้อยที่เก็บผ้าสไบของนางสีดาไว้
แล้วเมื่อพระรามตามหานางสีดาในป่า
ได้พบกับลิงน้อยในป่า
ลิงน้อยจึงมอบสไบของนางสีดาให้กับพระราม
พระรามรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถตามนางสีดาได้ทัน
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229343777.jpg)
จากนั้นพระรามและพระลักษณ์ก็ออกเดินป่าเพื่อตามนางสีดากลับคืนมา และเป็นจุดเริ่มต้นในการยกทัพไปตีเมืองลงกา
.......................................พักยกกันก่อน......................................
-
ส่วนทศกัณฐ์ได้พานางสีดาไปไว้ในสวน
ให้สหัสกุมารและยักษ์เฝ้าไว้
แต่ทศกัณฐ์ไม่สามารถเข้าใกล้นางสีดาได้เลย
เพราะบุญบารมีของนางสีดาบันดาลให้ทศกัณฐ์เมื่อเข้าใกล้จะร้อนเหมือนโดนไฟ
ในขณะที่พระรามกำลังเดินอยู่ในป่ากัลลีวัน
. . เทพารักษ์ได้ช่วยบันดาลให้พระรามเหนื่อย และพักในป่านี้
เพื่อที่จะได้หนุมานถวายตัวกับพระราม
และไปเป็นทหารเอกของพระราม ไว้ปราบยักษ์อสูร
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229424108.jpg)
ขณะที่พระรามเศร้าใจและเสียใจที่พลัดพรากนางสีดา
และทรงรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจึงได้นอนหลับพักผ่อนในป่าป่ากัลลีวัน
. . หนุมานชาญสมรซึ่งถูกพระอุมาสาปให้หมดฤทธิ์
เพราะความซุกซนไปหักกิ่งไม้ทำลายสวนของพระอุมา
ได้ตระเวณเที่ยวเล่นในป่าบริเวณนั้น
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229424200.jpg)
หนุมานพอดีปีนเล่นอยู่บนต้นไม้ และเก็บผลไม้อยู่นั้น
หนุมานได้มองเห็นพระราม พระลักษมณ์ นอนหลับอยู่
จึงแปลงเป็นลิงเผือกตัวน้อย
แล้วลู่ใบไม้โปรยใบไม้ใส่ทั้งสองพระองค์ เพื่อให้ตื่น
เพราะหนุมานอยากรู้ว่าเป็นใครถึงได้มานอนหลับในป่าเช่นนี้
พระลักษมณ์เมื่อได้เห็นลิงเผือกมาเล่นไม่รู้ที่ต่ำที่สูง
เลยออกไปไล่ลิงเผือก
แต่ฝ่ายลิงเผือกยังคิดเล่นสนุกสนานอยู่
จากนั้นพระลักษมณ์กับหนุมานเลยต่อสู้ไล่กันไปมา
จนพระรามตื่นขึ้นมา
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229424300.jpg)
เมื่อพระรามรู้สึกตัวตื่น ก็พิศดูลิงเผือกแล้วบอกพระลักษมณ์ว่า
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229424404.jpg)
"นี่ไม่ใช่ลิงธรรมดา เพราะมีกุณฑลขนเพชรและเขี้ยวแก้ว"
พระลักษณ์ทูลว่า "หม่อมฉันไม่เห็นสิ่งที่พระองค์ตรัสถึงนั้นเลย"
. . . หนุมานได้ยิน ก็นึกถึงคำมารดาได้ว่า
"แม้ใครเห็นกุณฑลขนเพชร และเขี้ยวแก้วของตน
ผู้นั้นคือพระนารายณ์อวตาร
ให้หนุมานถวายตัวรับใช้อย่างจงรักภักดีไปตลอด"
ลิงเผือกจึงกลายร่างกลับมาเป็นหนุมาน
และลงมาเข้าเฝ้าถวายตัวต่อพระราม
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229424482.jpg)
พระรามได้เห็นหนุมานแล้วก็รู้สึกเอ็นดูรักใคร่
จึงแก้คำสาปของพระอุมาให้ ด้วยการลูบหลังหนุมาน 3 ครั้ง
ฤทธิ์ของหนุมานจึงกลับมาคืนคงเดิม
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229424581.jpg)
ว่าแล้วหนุมานชาญสมรก็ตีลังกาโชว์ให้ชม 1 รอบ
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229424653.jpg)
ต่อมาหนุมานได้พาสุครีพมาเข้าเฝ้าเพื่อถวายตัวต่อพระราม
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229425295.jpg)
สุครีพเป็นลิงมีกายสีแดง เป็นลูกของพระอาทิตย์กับนางกาลอัจนา
สุครีพมีศักดิ์เป็นน้าของหนุมาน
เมื่อพระฤาษีโคดมรู้ความจริงจากนางสวาหะว่า
สุครีพไม่ใช่ลูกของตน แต่เป็นลูกชู้
จึงสาปให้กลายเป็นลิงพร้อมกับพาลีผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งเป็นลูกของพระอินทร์
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229425426.jpg)
เมื่อหนุมาน-สุครีพ ได้เล่าเรื่องในกรุงขีดขิน
ที่มีพาลี(พี่ชายของสุครีพ) ครองเมืองอยู่
แต่พาลีมีนิสัยไม่ดี ทำผิดศีลธรรมในหลายเรื่อง เช่น
ตอนที่พระอิศวรฝากนางดารามากับพาลีเพื่อให้กับสุครีพผู้เป็นน้อง
พาลีกลับยึดนางดาราไว้เป็นภรรยาเสียเอง
แล้วไล่สุครีพให้มาอยู่ในป่า
เมื่อพระรามทรงทราบเรื่องแล้ว ทรงคิดช่วยสุครีพ
โดยให้สุครีพไปท้ารบกับพาลีก่อน
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229431346.jpg)
แล้วพระรามก็ยกทัพไปช่วย
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229431440.jpg)
พระรามแผลงศรฆ่าพาลีตาย
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229431540.jpg)
. . . ก่อนพาลีจะตาย ได้รู้สึกผิด
จึงสั่งสอนหนุมานและสุครีพให้จงรักภักดีต่อพระราม
ตรงเรื่องนี้ต่อมาได้กลายเป็นตำนานในเรื่อง "พาลีสอนน้อง"
ด้วยความสำนึกในบุญคุณอันใหญ่หลวงของพระราม
หนุมานจึงมอบตัวเป็นข้ารับใช้
และนำพวกพ้องวานรทั้งกรุงขีดขินและกรุงชมพู
มาเป็นไพร่พลกระทำศึกกับทศกัณฐ์
แล้วพระรามก็ได้พลวานรในเมืองขีดขิน
ทั้งนิลพัทกับองคต และชมพูพาน
มาเป็นกำลังของกองทัพและนัดชุมนุมไพร่พลกันที่ภูเขาคันธมาทน์
ซึ่งพระอิศวรได้มาเนรมิตพลับพลาถวายไว้แล้ว พร้อมเครื่องทรง
เพราะทั้งสององค์ต้องลาเพศฤๅษีมาเป็นจอมทัพ
จากนั้นพระรามก็สั่งการให้มีการจองถนน-สร้างถนนไปยังกรุงลงกา
.......................................พักยกกันก่อน......................................
-
. . .ณ กรุงลงกา คืนหนึ่งทศกัณฐ์ได้นอนหลับและฝันร้ายว่า
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229432237.jpg)
"พระยาแร้งขาวบินมาจากทิศตะวันออก
ข้ามสมุทรที่พระลาน
แล้วมีแร้งดำบินจากทิศตะวันตกมาตีกัน
แร้งดำถูกตีตายกลายเป็นยักษ์"
แล้วยังฝันต่ออีกว่า
"ทศกัณฐ์ ได้เอากะลาน้ำมันมีไส้เชื้อไฟ วางในมือ
มีหญิงมาจุดไฟให้ลุกโพลงจนไหม้มือ และพิษไฟร้อนทั้งตัว"
เมื่อทศกัณฐ์ตื่นขึ้นมา รู้สึกร้อนใจเป็นยิ่งนัก
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229432385.jpg)
จึงสั่งให้เรียกพิเภกมาทำนายฝัน
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229432456.jpg)
พิเภกทำนายว่า ดังนี้ .. กะลา คือ เมืองลงกา
ไส้เชื้อไฟ คือ ทศกัณฐ์ .. น้ำมัน คือ วงศ์ยักษ์
ไฟลุกไหม้ คือ นางสีดา .. หญิงที่มาจุดไฟ คือ นางสำมะนักขา
แร้งขาว คือ พระราม .. แร้งดำ คือ ทศกัณฐ์
. . . แล้วสรุปว่า เป็นฝันร้าย
ทายว่าบ้านเมืองและวงศ์ยักษ์จะพินาศหมด เพราะศึกครั้งนี้
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229469254.jpg)
ทศกัณฐ์ จึงขอให้พิเภกช่วยสะเดาะห์เคราะห์ให้ พิเภกตอบว่า
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229432559.jpg)
"มีวิธีแก้อย่างเดียว คือ
ขอให้พี่ตั้งมั่นในสัตย์ธรรมรักษาศีล
และคืนนางสีดาไป ก็จะพ้นความวิบัติได้"
. . . ทศกัณฐ์ ฟังแล้วโมโหโกรธาเป็นยิ่งนัก
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229433923.jpg)
ทศกัณฐ์หาว่า พิเภกเข้าข้างศัตรู จึงทำร้ายลงโทษพิเภก
แต่บรรดายักษา ต่างก็ทูลขอต่อทศกัณฐ์ไม่ให้ฆ่าพิเภก
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229434374.jpg)
ทศกัณฐ์จึงเนรเทศพิเภกออกจาก กรุงลงกา
พรัอมกับลงโทษ นางตรีชาดา ชายาพิเภก
ให้ไปเป็นนางทาสีรับใช้นางสีดา อยู่ในสวน
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229434444.jpg)
. . .แต่พิเภกรู้ดวงชะตาของตนแล้วว่า
จะได้พระนารายณ์อวตารเป็นองค์อุปถัมภ์
จึงเหาะไปเฝ้าพระองค์ที่ภูเขาคันธกาลา
จนได้เจอกับพระราม
พระรามให้พิเภกถือน้ำพิพัฒน์สัตยาแล้วรับไว้เป็นโหรประจำทัพ
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229469547.jpg)
การสงครามระหว่างพระราม-พระลักษมณ์ กับ ทศกัณฐ์
ก็ได้เกิดการต่อสู้อยู่เป็นเวลานาน
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229441803.jpg)
เหตุการณ์เกิดสู้รับกันในหลายๆ ศึกสงคราม
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229441842.jpg)
ศึกสงครามแล้ว สงครามเล่า
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229441880.jpg)
การต่อสู้ก็ยังไม่แพ้ชนะกัน
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229441936.jpg)
หลายครั้งต่อหลายครั้งที่พระราม-พระลักษมณ์ แผลงศร ใส่ทศกัณฐ์
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229441968.jpg)
แต่ทศกัณฐ์ก็ไม่ตาย
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229442002.jpg)
. . .พระรามจึงได้สอบถามพิเภกว่า
เหตุใดจึงฆ่าทศกัณฐ์ไม่ตาย
พิเภกจึงแจ้งว่า
"ทศกัณฐ์ได้ถอดดวงใจฝากพระฤๅษีโคบุตรไว้
จึงทำให้ทศกัณฐ์ถูกฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย"
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229440177.jpg)
หนุมานจึงออกอุบายร่วมกับองคต มาลวงพระฤๅษีว่า
ขอเป็นข้ารับใช้ทศกัณฐ์แทนพระราม
พระรามนั้นใจร้ายใจดำต่อตนเป็นอย่างมาก
พระฤๅษีถูกอ้อนวอนมากๆ ก็ใจอ่อน
จึงพาไปจะฝากตัวเป็นข้าทศกัณฐ์
แต่ก่อนไป หนุมานก็หลอกถามจนรู้ว่า
กล่องดวงใจทศกัณฐ์อยู่ที่พระฤๅษีนี่เอง
จึงบอกให้พระฤๅษีถือไปด้วย
เพราะกลัวพระรามจะใช้ใครมาขโมย ระหว่างที่ท่านไม่อยู่
พระฤๅษีหลงเชื่อ ก็ถือกล่องดวงใจทศกัณฐ์ไปด้วย
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229440203.jpg)
หนุมานพลันเอ่ยถามพระฤๅษี
"ทำไมทศกัณฐ์ไม่เก็บดวงใจเอง ขอรับพระเจ้าตา"
หนุมานแกล้งถามซื่อ ๆ
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229469047.jpg)
"ถ้าดวงใจใกล้ตัวก็จะวิ่งเข้าในอกตามเดิม ต้องไว้ห่าง ๆ" พระฤๅษีตอบตามตรง
"ถ้าอย่างนั้น ท่านฝากกล่องดวงใจไว้กับองคตดีกว่าและอยู่นอกวัง
แล้วพาอีฉันไปถวายตัวก่อน เพราะถ้าท่านตาถือกล่องเข้าวังไป
เดี๋ยวหัวใจจะวิ่งเข้าร่างท้าวทศกัณฐ์ก็จะต้องเดือดร้อนทำพิธีใหม่
แล้วค่อยพาองคตไปถวายตัวภายหลัง"
พระฤๅษีโคบุตรเห็นชอบ ก็เลยฝากกล่องดวงใจไว้กับองคตโดยดี
พอเดินไปได้ไม่เท่าไร
หนุมานก็หลอกลวงอีกว่า
"ขอให้อีฉันกลับออกไปเตือนองคต ให้ระวังพวกยักษ์ดี ๆ
เพราะลิงกับยักษ์ไม่ถูกกันมาก่อน
อีฉันจะไปบอกองคตให้ชี้แจงแก่พวกยักษ์ว่า
องคตเป็นลูกศิษย์พระเจ้าตา
มาอยู่ที่นี่เพื่อถวายตัวเป็นข้าทศกัณฐ์ จะได้ไม่เกิดเหตุร้าย
อีฉันวิ่งเร็ว เดี๋ยวเดียวก็มา ท่านแก่แล้วรออยู่ที่นี่ดีกว่าขอรับ"
"เออ ดีก็ดี ไปเร็ว ๆ มาเร็ว ๆ นะ"
พระฤๅษีตกลงง่าย ๆ
. . . หนุมานรีบไปนิมิตกล่องดวงใจใหม่อีกกล่องให้เหมือนกัน
ส่งให้องคต และสั่งให้ฝังกล่องจริงซ่อนไว้ที่ฝั่งทะเลก่อน
พอฤๅษีท่านกลับออกมา ก็มอบกล่องดวงใจเก๊ให้
แล้วองคตรีบกลับไปรักษากล่องจริงไว้
และถ้าเมื่อไรเห็นหนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือนในท้องฟ้า
ก็ให้รีบนำกล่องจริงมาให้หนุมานทันที
. . . ครั้นฤๅษีพาหนุมานมาเป็นข้ารับใช้ของทศกัณฐ์
ทีแรกทศกัณฐ์จะไม่ยอมรับหนุมาน
เพราะเรื่องเคืองแค้นเรื่องเก่าๆ มากมาย
แต่พระฤๅษีรับรองไว้ดี ทศกัณฐ์จึงรับไว้
และรู้ว่าหนุมานเก่งเป็นทหารเอก
ทศกัณฐ์ซึ่งชอบผู้มีฝีมือทางรบก็โปรด
ถึงกับตั้งเป็นโอรสบุญธรรมทรงมงกุฏ
. . . ฝ่ายองคตก็ทำการเรียบร้อย ตามหนุมานสั่งทุกอย่าง
และมาอยู่รักษากล่องดวงใจจริง
รอหนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือนอยู่ริมทะเล
เพื่อให้ทศกัณฐ์เชื่อในหนุมาน หนุมานจึงอาสาออกรบ
โดยแต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศออกไปด้วย และได้พบกับพระลักษมณ์
ซึ่งพระลักษณ์เข้าใจผิดว่าหนุมานทรยศ
เพราะเห็นแก่เงินและยศศักดิ์ และเกิดโต้เถียงกันจนเย็น
หนุมานจึงว่า
"เย็นแล้ว ต้องกลับกรุงลงกาก่อน พรุ่งนี้เราจะออกมารบใหม่
จะจับตัวพวกเจ้าไปให้ทศกัณฐ์ให้หมดเลย"
ทศกัณฐ์รู้เข้าก็ชื่นใจ และชมเชยว่าหนุมานเก่งมาก
และยกสมบัติอินทรชิตให้เป็นรางวัล รวมทั้งนางสุวรรณกันยุมาด้วย
. . ส่วนพระลักษมณ์นึกๆ แล้วสงสัยหนุมาน
แต่ไม่ยกทัพกลับ เพราะเกรงหนุมานจะทรยศ
จะใช้ ความว่องไวกลับมาโจมตีกระทันหัน
จึงให้สุครีพกับนิลนนท์ ไปเล่าเรื่องนี้ให้พระรามฟัง
พระรามนึกรู้ว่าเป็นอุบายของหนุมาน
จึงสั่งให้สุครีพและนิลนนท์ กลับไปอยู่ช่วยพระลักษมณ์
พอรุ่งเช้า พระรามก็ยกทัพมาสมทบ
. . ฝ่ายหนุมานก็ชวนทศกัณฐ์มารบด้วย
ทศกัณฐ์จึงจัดทัพใหญ่ออกมารบกับพระราม
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229441418.jpg)
พอมาถึงสนามรบ หนุมานก็ออกอุบายว่า
ตนจะหายตัว ไปจับพระรามและพระลักษมณ์มัด
ถ้าทศกัณฐ์เห็นตน เหาะไปในท้องฟ้าเมื่อไร
ก็ให้ยกทัพเข้าไปรบทันที
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229441510.jpg)
แล้วหนุมานก็หายตัวเหาะขึ้นท้องฟ้า ไม่ให้ใครเห็นเลย
และหาวเป็นดาวเป็นเดือน ให้สัญญาณเฉพาะองคต
องคตจึงรีบนำกล่องดวงใจกล่องจริง มาให้หนุมานตามนัดหมายกัน
และหนุมานได้ชูกล่องดวงใจ อันเป็นตอน "หนุมานชูกล่องดวงใจ"
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229440638.jpg)
จากนั้นหนุมานได้นำกล่องดวงใจของทศกัณฐ์ไปถวายให้กับพระราม
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229440902.jpg)
หนุมานได้เล่าอุบายในการได้มาซึ่งกล่องดวงใจของทศกัณฐ์ถวายด้วย
พระลักษณ์ชมเชยว่า "ลิงเจ้าเล่ห์อย่างนี้ หาไม่ได้อีกแล้วในสามโลก"
. . .ดังนั้น ในการรบวันรุ่งขึ้นอีกวัน พระรามจึงแผลงศร ฆ่าทศกัณฐ์ตายได้
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229440971.jpg)
โดยหนุมาน เป็นผู้ขยี้ดวงใจพระยายักษ์ทศกัณฐ์
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229441025.jpg)
ก่อนจะเริ่มการฆ่าฟันนี้ ทศกัณฐ์ได้ตัดพ้อต่อว่าหนุมานเป็นอันมาก
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229441096.jpg)
หนุมานจึงบอกว่า
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229441207.jpg)
"ท่านคืนพระแม่สีดามาเถิด แล้วเราจะคืนกล่องดวงใจให้
เรื่องทั้งหลายเกิดขึ้นเพราะท่านหลงผิดไป"
ทศกัณฐ์ฟังแล้วก็รู้สึกว่าตนผิดจริงๆ แต่ก็ไว้ยศ ไม่ยอมแก่ศัตรู และอ้างว่า
"เรื่องทั้งหลายเกิดขึ้นเพราะพรหมลิขิต บันดาลให้เป็นไปแท้ๆ"
(https://www.bloggang.com/data/abird/picture/1229441255.jpg)
เป็นอันจบตอน "พระรามครองเมือง" ไว้เพียงเท่านี้
สำหรับเนื้อเรื่องรามเกียรติ์ได้คัดลอกมาจาก
//www.siamnt.com/literature-ramakien/html/ramakien-literature-1.html
ขอขอบคุณนักแสดงทุกๆ ท่านที่ร่วมแสดงโขนชุดนี้ให้ชมกันด้วย และรวมถึงทีมงานอื่นๆ ทุกๆ ทีมงานด้วย
และก็ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายการแสดงโขนชุดพระรามครองเมืองนี้ด้วย
.....
ขอขอบคุณภาพและเรื่องจาก
https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=abird&month=05-2010&date=24&group=39&gblog=8