Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
23 December 2024, 03:54:02

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618 Posts in 12,929 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  บุคคลต้นแบบ  |  ปูชนียบุคคล (Moderator: ppsan)  |  หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช  (Read 1554 times)
Smile Siam
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 331


View Profile
« on: 30 December 2012, 00:36:05 »

หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช


หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช

พลตรี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช


นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 13

ศาสตราจารย์ (พิเศษ) พลตรี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช (20 เมษายน พ.ศ. 2454 - 9 ตุลาคม พ.ศ. 2538) นักปราชญ์ นักเขียน นักการเมือง และศิลปินแห่งชาติ
นับเป็นปูชนียบุคคลท่านหนึ่งของไทย เป็นน้องชายแท้ ๆ ของ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี 4 สมัย สื่อมวลชนจึงนิยมเรียกทั้งคู่ว่า "หม่อมพี่ หม่อมน้อง"
นอกจากนี้ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ และ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ยังมีพี่สาวคือ หม่อมราชวงศ์บุญรับ พินิจชนคดี (สมรสกับ พลตำรวจเอกพระพินิจชนคดี หรือ พินิจ อินทรทูต)
 
เมื่อปลายปี พ.ศ. 2551 กระทรวงวัฒนธรรมของไทย ได้เสนอชื่อหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เป็นบุคคลสำคัญของโลกต่อองค์การยูเนสโก โดยมีทั้งเสียงสนับสนุนและคัดค้าน
ซึ่งต่อมาในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ทางองค์การยูเนสโกได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เป็นบุคคลสำคัญของโลก ใน 4 สาขา ได้แก่ การศึกษา
วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และสื่อสารมวลชน ในวาระครบรอบ 100 ปี ชาตกาล พ.ศ. 2554 โดยได้รับการประกาศพร้อมกันกับครูเอื้อ สุนทรสนาน ซึ่งได้รับในวาระ
ครบรอบ 100 ปี ชาตกาล พ.ศ. 2553

ประวัติ
 
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เกิดวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2454 ในเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ตำบลบ้านม้า อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นโอรสคนสุดท้อง
ในบรรดาโอรส-ธิดา ทั้ง 6 คน ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ กับหม่อมแดง (บุนนาค) (หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นคนที่ 4) โดยชื่อ "คึกฤทธิ์" นั้น
มาจากการที่ ชอบร้องไห้เสียงดังในวัยทารก จึงได้รับพระราชทานนามนี้จาก สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ
 
ชีวิตส่วนตัวสมรสกับ หม่อมราชวงศ์หญิงพักตร์พริ้ง ทองใหญ่ เมื่อ พ.ศ. 2479 มีบุตรธิดา 2 คน คือ หม่อมหลวงรองฤทธิ์ ปราโมช และ หม่อมหลวงหญิง วิสุมิตรา ปราโมช
ต่อมาได้แยกกันอยู่กับหม่อมราชวงศ์พักตร์พริ้ง
 
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช พักอยู่ที่บ้านในซอยพระพินิจ ซึ่งเป็นซอยย่อยอยู่ในซอยสวนพลู ถนนสาทรใต้ เขตสาทร บ้านหลังนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า "บ้านซอยสวนพลู"
 
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ นับเป็นบุคคลที่มีบุคลิกและบทบาทที่หลากหลาย มีชื่อเสียงในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการประพันธ์ การแสดง และยังเป็นนักการเมือง
ท่านเป็นผู้ก่อตั้งพรรคก้าวหน้า เมื่อ พ.ศ. 2488 ต่อมาได้ยุบรวมกับพรรคประชาธิปัตย์ในปีถัดมา ต่อมาก่อตั้งหนังสือพิมพ์สยามรัฐ เมื่อ พ.ศ. 2493
และก่อตั้งพรรคกิจสังคม เมื่อ พ.ศ. 2517 และได้ดำรงตำแหน่งเป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ 13 ของประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2518
โดยสามารถเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลทั้งที่มีจำนวน ส.ส.ในมือเพียง 18 คน รัฐบาลคึกฤทธิ์ในครั้งนั้นมี นายบุญชู โรจนเสถียร ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกิจสังคม
เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบาย "เงินผัน" เป็นที่รู้จักเลื่องลือทั่วไปในสมัยนั้น
 
ก่อนดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยรับบทเป็น นายกรัฐมนตรี ของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศหนึ่ง
ชื่อว่าประเทศ สารขัณฑ์ ในภาพยนตร์เรื่อง The Ugly American (1963) คู่กับมาร์ลอน แบรนโด เมื่อ ปี พ.ศ. 2506 และหลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เคยรับบทเป็นนักแสดงรับเชิญในภาพยนตร์ ผู้แทนนอกสภา กำกับโดย สุรสีห์ ผาธรรม นำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี เมื่อปี พ.ศ. 2526
 
ระหว่างการเล่นการเมือง หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ มีบุคลิกที่โดดเด่นเป็นตัวของตัวเองที่ทุกคนรู้จักดี คือ วาทะศิลป์ และบทบาทเป็นที่ชวนให้จดจำ เช่น
การผวนพูดเล่นชื่อของตัวเองเมื่อมีผู้ถามว่า หมายถึงอะไร โดยตอบว่า "คึกฤทธิ์ ก็คือ คิดลึก" เป็นต้น
 
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ได้รับฉายาจากนักการเมือง และสื่อมวลชนมากมาย เช่น "เฒ่าสารพัดพิษ" "ซือแป๋ซอยสวนพลู" ภายหลังเมื่อมีอาวุโสสูงวัย
จนสามารถแสดงความเห็นทางการเมือง ได้อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ จึงได้รับฉายาว่า "เสาหลักประชาธิปไตย"
นอกจากนี้อีกฉายาหนึ่งที่ใช้เรียก หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ในบางแห่งคือ "หม่อมป้า"
 
ในด้านวรรณศิลป์ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ มีผลงานหนังสือที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมากมาย ที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น สี่แผ่นดิน, ไผ่แดง,
กาเหว่าที่บางเพลง, หลายชีวิต, ซูสีไทเฮา, สามก๊กฉบับนายทุน และเรื่องสั้น "มอม" ซึ่งได้ใช้เป็นบทความประกอบแบบเรียนภาษาไทยในปัจจุบัน
บางชิ้นมีผู้นำไปทำเป็นละครโทรทัศน์ เช่น สี่แผ่นดิน, หลายชีวิต และทำเป็นภาพยนตร์ เช่น กาเหว่าที่บางเพลง
 
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2538 สิริรวมอายุ 84 ปี 5 เดือน 20 วัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 กระทรวงวัฒนธรรม
ได้เสนอชื่อให้ท่านเป็น บุคคลสำคัญของโลก กับทาง ยูเนสโก

การศึกษา
 
ในเบื้องต้น ท่านได้เข้าศึกษาในโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย (วังหลัง) จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และเดินทางไปศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ
ที่โรงเรียน Trent College จากนั้น ได้สอบเข้า 'วิทยาลัยควีนส์' (The Queen's College) มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เพื่อศึกษาวิชาปรัชญา,เศรษฐศาสตร์ และการเมือง
(Philosophy, Politics and Economics - PPE) โดยสำเร็จปริญญาตรีเกียรตินิยม (และ 3 ปีต่อมา ก็ได้รับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยดังกล่าว ตามธรรมเนียมสำหรับ
ผู้สำเร็จปริญญาเกียรตินิยม และได้ผ่านการใช้ความรู้ความสามารถในวิชาที่ร่ำเรียนมาจนมีประสบการณ์ช่ำชองมาระยะหนึ่ง)
 
ผลงานประพันธ์

นวนิยาย
    สี่แผ่นดิน
   ไผ่แดง
    กาเหว่าที่บางเพลง
    ซูสีไทเฮา
    สามก๊กฉบับนายทุน
    ราโชมอน
    ฮวนนั้ง
    โจโฉ นายกตลอดกาล
 
รวมเรื่องสั้น
    มอม
    เพื่อนนอน
    หลายชีวิต

สารคดี
    ฉากญี่ปุ่น
    ยิว
    เจ้าโลก
    สงครามผิว
    คนของโลก
    ชมสวน
    ธรรมคดี
    น้ำพริก
    ฝรั่งศักดินา
    สรรพสัตว์
    สัพเพเหระคดี
    ข้อคิดเรื่อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย
    โครงกระดูกในตู้
    พม่าเสียเมือง
    ถกเขมร
    เก็บเล็กผสมน้อย
    เบ้งเฮ็ก ผู้ถูกกลืนทั้งเป็น
    เมืองมายา
    เรื่องขำขัน
    โจโฉ นายกฯ-ตลอดกาล
    กฤษฎาภินิหารอันบดบังมิได้
    คนรักหมา
    ตลาดนัด
    นิกายเซน
    บันเทิงเริงรมย์
    วัยรุ่น
    สงครามเย็น
    อโรคยา
    สยามเมืองยิ้ม
    ห้วงมหรรณพ
 
บทละครเวที
    ลูกคุณหลวง
 
ประวัติการทำงาน
    รับราชการที่กรมสรรพากร
    เลขานุการที่ปรึกษากระทรวงการคลัง
    ผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด สาขาลำปาง (พ.ศ.2478-2486)
    รับราชการทหาร (เมื่อเกิดสงครามอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา ได้รับยศ สิบตรี)
    หัวหน้าฝ่ายสำนักผู้ว่าการและหัวหน้าฝ่ายออกบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
    ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การจำกัด
    เขียนบทความลงในคอลัมน์ "ซอยสวนพลู"
    อาจารย์พิเศษของคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำ พ.ศ. 2528
    พ.ศ. 2531 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนยศจากสิบตรี เป็นพลตรี (ทหารราชองครักษ์พิเศษ)
 

ภาพขณะเข้าพบประธานเหมา เจ๋อ ตุง ในปี พ.ศ. 2518


กับท่านรัฐบุรุษ เติ้ง เสี่ยว ผิง

บทบาททางการเมือง
    พ.ศ. 2488-2489 เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งพรรคการเมืองพรรคแรกในเมืองไทย ชื่อ "พรรคก้าวหน้า"
    ได้ร่วมในคณะผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนแรก
    ได้ริเริ่มจัดตั้งพรรคกิจสังคม
    พ.ศ. 2518 ได้จัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้น และได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
    พ.ศ. 2519 ได้ตัดสินใจยุบสภาผู้แทนราษฎร บริหารประเทศประมาณ 9 เดือนเศษ
 
ผลงานที่สำคัญ
    หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา ขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการเปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่งเมื่อปี พ.ศ. 2518 หลังจากที่ตัดขาดความสัมพันธ์ระดับรัฐบาลมาเป็นเวลานาน
 
ภาพขณะเข้าพบประธานเหมา เจ๋อ ตุง ในปี พ.ศ. 2518

การวิพากษ์วิจารณ์
    สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ได้วิพากษ์วิจารณ์ผลงานของ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ โดยเฉพาะ สี่แผ่นดินว่า "ใช้เล่ห์เพทุบาย ในการมอมเมาผู้คนยิ่งกว่าให้ข้อเท็จจริงอย่างสุจริตใจ"
ส่วน ไผ่แดง กาเหว่าที่บางเพลง ฮวนนั้ง และซูสีไทเฮา สุลักษณ์ กล่าวว่าเป็นบทประพันธ์ที่ลอกเลียนมาจากภาษาต่างประเทศระดับ "ขโมยหรือปล้นสดมภ์มาเลยทีเดียว"
คำวิพากษ์วิจารณ์นี้อยู่บนพื้นฐานของการวิจัยปัญญาชนไทย 10 คน [7] ซึ่งมีอิทธิพลกับการสร้างจิตสำนึกให้คนไทยร่วมสมัย ซึ่ง หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ และ หลวงวิจิตรวาทการ
ก็อยู่ในรายชื่อปัญญาชนของการวิจัยดังกล่าวด้วย

-------------------------------------------

ในบั้นปลายชีวิต ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง หัวหน้าพรรคกิจสังคม ในปี พ.ศ. 2528 พร้อมทั้งปิดฉากของการนักการเมืองลง
แต่ก็ยังมีการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอยู่เรื่อยมาทั้งจากการให้สัมภาษณ์ และเขียนบทความ ลงในคอลัมน์ "ซอยสวนพลู"
นับว่าท่านเป็นผู้มีบุคลิกอันโดดเด่นด้วยการใช้วาทศิลป์อันยอมเยี่ยม ที่มีความร้อนแรง แสบสรรและแฝงด้วยอารมณ์ขันที่มีรสนิยม
หลายครั้งที่คำให้สัมภาษณ์และบทความในคอลัมน์ของท่านได้เป็นประเด็นร้อนในสังคมทันที
ยืนยันได้จาก การมีหนังสือและบทความมากมายที่รวบรวมเอาเกร็ดคำพูดและการแสดงออกของท่านถ่ายทอดออกมา

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์  ปราโมช  ป่วยด้วยโรคหัวใจจนต้องเข้ารับการผ่าตัดที่สหรัฐอเมริกา  เมื่อพ.ศ. 2530  และเข้ารับการรักษาพยาบาลเรื่อยมาเป็นระยะๆ 
จนกระทั้งถึงแก่อัญกรรม  ณ  โรงพยาบาลสมิติเวช  กรุงเทพฯ  เมื่อวันที่  9  ตุลาคม  พ.ศ. 2538

จะมีใครสักกี่คนที่ตลอดชั่วชีวิตได้สร้างสิ่งที่ควรบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ได้อย่าง พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
ในวาระสุดท้ายของชีวิตท่านได้พักอยู่ที่ "บ้านซอยสวนพลู" บ้านเรือนไทยไม้สัก ในซอยพระพินิจ ถนนสาทรใต้
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์  ปราโมช  ป่วยด้วยโรคหัวใจจนต้องเข้ารับการผ่าตัดที่สหรัฐอเมริกา  เมื่อพ.ศ. 2530 
และเข้ารับการรักษาพยาบาลเรื่อยมาเป็นระยะๆ  จนกระทั่งถึงแก่อัญกรรม  ณ  โรงพยาบาลสมิติเวช  กรุงเทพฯ 
เมื่อวันที่  9  ตุลาคม  พ.ศ. 2538 รวมอายุได้ 84 ปีเศษ โดยในปี พ.ศ. 2554 ท่านก็จะมีอายุครบ 100 ปีชาตะกาล

ยูเนสโกได้มีมติที่จะประกาศยกย่อง... ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ให้เป็น "บุคคลสำคัญของโลก"
 
 
 
 
 
 
 

 
 
 
 
 
 

 
 
 
 



----------------------------------------------------------------------------

« Last Edit: 30 December 2012, 00:38:37 by Smile Siam » Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.064 seconds with 20 queries.