Smile Siam
|
|
« on: 29 December 2012, 07:31:24 » |
|
การอนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ (แมลงดี) ศัตรูธรรมชาติของแมลงในนาข้าวที่สำคัญ ได้แก่ แมลงห้ำ มี 3 ชนิด • ด้วงเต่า - ปีกเป็นเงา มีสีส้ม สีแดง สีแสด บางชนิดมีจุดหรือแถบสีดำ ด้วงเต่าเป็นตัวห้ำช่วยกัดกิน เพลี้ยไฟและไข่ รวมทั้งหนอนตัวเล็กๆ ของหนอนกอข้าวและหนอนห่อใบข้าว • แมลงปอ - เป็นตัวห้ำจับศัตรูข้าวขนาดเล็ก เช่น ผีเสื้อ หนอนกอข้าว เพลี้ยกระโดด เพลี้ยจักจั่น กินเป็นอาหาร • มวนเขียวดูดไข่ - ลำตัวสีเขียว หัวสีดำ หนวดยาว ปากแหลม ใช้แทงเข้าไปดูด กินของเหลวภายในไข่ เพลี้ยจักจั่น และเพลี้ยกระโดด ที่ฝังตัวอยู่ในกาบใบข้าว ( ทำให้บางครั้งชาวนาเข้าใจผิดคิดว่าแมลงกำลังดูดกินต้นข้าว) แมลงเบียนมี 3 ชนิด • แตนเบียนดรายอินค - เป็นแมลงศัตรูธรรมชาติที่สำคัญของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และเพลี้ยจักจั่นข้าว บางชนิดไม่มีปีก – จับเหยื่อกินเป็นอาหาร • แตนเบียนไข่หนอนกอข้าว - สีเขียวสะท้อนแสงตัวเมียวางไข่เข้าไปในหนอนกอข้าว ทำให้ไข่เป็นสีดำ และไม่ฟักเป็นตัวหนอน หน้าที่ของแตนเบียนหนอนกอข้าว - ตัวสีดำ ตัวเมียมีอวัยวะวางไข่สำหรับแทงเจาะเข้าไปวางไข่ในลำตัวหนอนกอข้าว ตัวหนอนของแตนเบียนที่โตเต็มที่ จะเจาะผนังลำตัวหนอนกอข้าวออกมาสร้างใยและถ้าเป็นรังหุ้มลำตัวแล้วเข้าดักแด้ภายในรัง หลังจากนั้นจะเจาะรังไข่ออกมาและบินไปทำลายหนอนกอข้าวที่อยู่ใกล้เคียง หนอนกอข้าวที่ถูกแตนเบียนเข้าทำลายจะมีตัวสีเหลืองซีด เคลื่อนไหวช้าไม่กินอาหารและตาย แมงมุมที่พบในนาข้าว มีหลายชนิด • มีบทบาทสำคัญช่วยควบคุมแมลงศัตรูในนาข้าว โดยจับกินผีเสื้อหนอนกอข้าว เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยกระโดด และมวนศัตรูข้าว หน้าที่ของสัตว์ปีก • เช่น นกฮูก นกแสก เหยี่ยว พังพอน และงู เป็นศัตรูจับกินหนูในนาข้าว (วัชพืชบนคันนาควรเอาไว้ให้แมลงศัตรูธรรมชาติอยู่อาศัย) ศัตรูของข้าวและป้องกันกำจัด ระยะที่ 1 โรคข้าวที่สำคัญ คือ โรคไหม้ (เชื้อรา) ลักษณะอาการ ระยะกล้า ใบมีแผลจุดสีน้ำตาลลักษณะคล้ายรูปตากลางแผลสีเทากว้าง 2-5 มม. ยาว 10-15 มม. ถ้าระบาดรุนแรงต้นกล้าข้าวจะแห้งและฟุบตาย ระยะที่ 2 ระยะแตกกอ พบอาการของโรคบนใบข้อต่อใบ (คอใบ) และข้อลำต้น แผลบนใบมีขนาดใหญ่กว่าระยะกล้าลุกลามติดต่อกันได้ที่บริเวณข้อต่อใบมีลักษณะแผลช้ำสีน้ำตาลดำ ทำให้ใบหลุด ระยะที่ 3 ระยะออกรวง ถ้าเป็นโรคในระยะต้นกล้าเริ่มออกรวง เมล็ดจะลีบ แต่ถ้าเป็นโรคหลังต้นข้าวออกรวงแล้ว คอรวงจะเป็นแผลช้ำสีน้ำตาล ทำให้รวงข้าวหักง่าย (โรคเน่าคอรวง)
ช่วงเวลาระบาด (หน้าหนาว) 1. อากาศเย็น 2. มีน้ำค้างบนใบข้าวจนถึงเวลาสายหรือมีหมอกติดต่อกันหลายวัน การป้องกันกำจัด • ใช้พันธุ์ข้าวต้านทานเช่น สุพรรณบุรี 1 ชัยนาท 1 หอมหลองหลวง 1 แพร่ 1 สันป่าตอง 1
• โรคกาบใบแห้ง ( เชื้อรา ) ลักษณะอาการ ช่วงระยะแตกกอถึงเก็บเกี่ยว แผลเกิดที่กาบใบ ใกล้ระดับน้ำมีสีเขียวปนเทา ขอบแผลมีสีน้ำตาล แผลอาจขยายใหญ่มากขึ้นและลุกลามขึ้นไปบนกาบใบข้าว และกาบใบธง ใบและกาบใบเหี่ยวและแห้งตาย ถ้าข้าวแตกกอมาก ต้นเบียดกันแน่น โรคจะระบาดรุนแรงมากขึ้น (เบื่อความชื้นสูง) • โรคเมล็ดด่าง (เชื้อรา) ลักษณะอาการ เช่น รวงข้าวด่างดำ เมล็ดมีรอยแผลเป็นจุดสีน้ำตาลดำลายน้ำตาลสีเทาหรือทั้งเมล็ดบางเมล็ดลีบ และมีสีน้ำตาลดำทำให้ผลผลิตเสียหายมาก ช่วงเวลาระบาด - ทุกฤดูการปลูกข้าว ฝนตกชุก ความชื้นในอากาศสูง มีหมอกจัดติดต่อกันหลายวัน • ข้าวที่อ่อนแอกับโรคเมล็ดด่าง เช่น กข9 สุพรรณบุรี 60 สุพรรณบุรี 90 หอมคลองหลวง 1 - ใช้เมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่ไม่เป็นโรค หากเลือกไม่ได้ให้ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวแช่ปุ๋ยน้ำ พด.2 หรือ พด. 7 จากสมุนไพร • โรคขอบใบแห้ง (เชื้อแบคทีเรีย) ลักษณะอาการ ระยะกล้า มีจุดเล็กลักษณะฉ่ำน้ำที่ขอบใบล่างต่อมา 7-10 วัน จุดขยายเป็นทางสีเหลืองยาวตามใบ ใบแห้งเร็ว ส่วนที่ยังมีสีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีเทา ถ้าอาการรุนแรงต้นข้าวอาจเหี่ยวตายทั้งต้น ช่วงเวลาระบาด - เมื่อมีฝนตกพรำติดต่อกันหลายวัน ระดับน้ำในนาสูง หรือเมื่อภาวะน้ำท่วม การป้องกันกำจัด – ในแปลงที่เป็นโรค ไถกลบตอซังข้าวทันทีหลังเก็บเกี่ยว - ทำลายพืชอาศัย เช่น ข้าวป่า หญ้าไซ เป็นต้น - ใช้พันธุ์ข้าวต้านทาน เช่น กข7 กข23 สุพรรณบุรี60 สุพรรณบุรี1 สุพรรณบุรี2 หอมคลองหลวง1 หอมสุพรรณ ปทุมธานี1 สุรินทร์1 แพร่1 สันป่าตอง1 - ไม่ระบายน้ำจากแปลงที่เป็นโรคสู่แปลงข้างเคียง • โรคใบหงิก (เชื้อไวรัส) ลักษณะอาการ ต้นเตี้ย แคระแกร็น ใบสีเขียวเข้ม ใบแคบและสั้นกว่าปกติ ปลายใบบิดเป็นเกลียว หรือขอบใบแหว่งวิ่น เส้นใบบวมที่หลังใบ และกาบใบข้าวต้นที่เป็นโรคจะออกรวงช้า รวงไม่สมบูรณ์ เปอร์เซ็นต์เมล็ดลีบสูง ช่วงเวลาระบาด - เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เป็นตัวนำโรคมา มักระบาดหลังจากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดรุนแรง การป้องกันกำจัด 1. ไถกลบตอซังที่เป็นโรค 2. ทำลายพืชอาศัยของเชื้อไวรัส เช่น ข้าวป่า ขาเขียด หญ้าข้าวนก หญ้ารังนก หญ้าไม้กวาด • เพลี้ยไฟ - ลักษณะ เป็นแมลงขนาดเล็กมีสีดำ - ทำลายข้าวโดยดูดกินนำเลี้ยงจากใบข้าว - ทำให้ปลายใบแห้ง ขอบใบม้วนเข้าหากัน - ถ้าระบาดมากจะทำให้ข้าวตายทั้งแปลง ช่วงระบาด - ระยะต้นกล้า - อากาศแล้ง - ฝนทิ้งช่วง การป้องกันและการกำจัด - ดูแลแปลงระยะต้นกล้าอย่าให้ข้าวขาดน้ำ - เมื่อเกิดการระบาดของเพลี้ยไฟ ให้ไขน้ำให้ท่วมยอดข้าว 1 – 2 วัน - แล้วให้ปุ๋ยเร่งการเจริญเติบโต • เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และเพลี้ยกระโดดหลังขาว เป็นแมลงทั้งสองชนิด ชอบบินมาเล่นกับแสงไฟเวลากลางคืนลักษณะการทำลาย จะดูดกินน้ำเลี้ยงบริเวณโคนกอข้าว เป็นพาหะนำโรคใบหงิกมาสู่ต้นข้าวถ้ามีมากจะทำให้ต้นข้าวแห้งตายทั้งแปลง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลจะเป็นตัวนำโรคใบหงิกมาสู่ข้าวอีกด้วย • เพลี้ยจักจั่นสีเขียว ลักษณะการทำลาย ดูดน้ำเลี้ยงจากใบข้าว เป็นแมลงพาหะนำโรคใบสีส้มมาสู่ข้าว • หนอนห่อใบข้าว ลักษณะการทำลาย เป็นผีเสื้อกลางคืน ตัวหนอนสีเขียวใสปนเหลือง หัวสีน้ำตาลทำลายใบข้าว โดยตัวหนอนจะใช้ใยเหนียวจากปากยึดขอบใบข้าวสองข้างติดกันตามความยาวของใบหุ้มตัวหนอนไว้ และอาศัยแทะกิน ส่วนที่เป็นสีเขียวของใบข้าวถ้าระบาดรุนแรงในระยะตั้งท้องอาจทำให้เมล็ดข้าวลีบ • หนอนห่อใบข้าว ลักษณะการทำลาย หนอนกอข้าวมี 4 ชนิด คือ สีครีม แถบลาย หัวดำ สีชมพู หนอนกอข้าวทั้ง 4 ชนิด เป็นผีเสื้อกลางคืนชอบเล่นแสงไฟเวลากลางคืนหนอนทั้ง 4 ชนิด ทำลายต้นข้าวเหมือนกัน คือ ตัวหนอนกัดกินภายในลำต้นข้าว ในข้าวที่ยังเล็กหรือข้าวกำลังแตกกอ จะเกิดอาการ ยอดเหี่ยว และแห้งตาย หากหนอนกอทำลายระยะข้าวตั้งท้องทำหรือหลังจากนั้น ทำให้รวงข้าวมีสีขาวเมล็ดลีบทั้งรวง (เรียกว่าข้าวหัวหงอกรวงข้าวที่มีอาการดังกล่าวจะดึงหลุดออกมาได้ง่าย) • แมลงสิง ลักษณะการทำลาย แมลงสิงเป็นมวนชนิดหนึ่ง ลำตัวเรียวยาว ตัวมีกลิ่นเหม็นฉุน ตัวเต็มวัยยาวประมาณ 15 มิลลิเมตร ด้านบนมีสีน้ำตาล ด้านล่างสีเขียวหนวดยาวเท่ากับลำตัว แมลงสิงทำลายข้าวโดยทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยใช้ปากดูดกินน้ำเลี้ยงจากเมล็ดข้าวระยะเป็นน้ำนม ทำให้เมล็ดลีบหรือไม่สมบูรณ์ ถ้าระบาดมากผลผลิตข้าวจะลดลง แปลงข้าวที่มีแมลงสิงระบาดจะได้กลิ่นเหม็นฉุน ช่วงเวลาระบาด ระยะข้าวออกรวงเมล็ดเป็นน้ำนม การป้องกันกำจัด - ใช้สวิงโฉบจับตัวอ่อนและตัวเต็มวัยในนาข้าวที่พบระบาดและนำมาทำลาย - ตัวเต็มวัยชอบกินเนื้อเน่า นำเนื้อเน่าแขวนไว้ตามแปลงนาและจับมาทำลาย - หลีกเลี่ยงการปลูกข้าวอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการแพร่พันธุ์ - เมื่อพบการระบาดมาก ใช้สารป้องกันกำจัดแมลง
|