Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
23 December 2024, 02:23:36

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618 Posts in 12,929 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  หมวดหมู่ทั่วไป  |  สาระน่ารู้ (Moderators: CYBERG, MIDORI)  |  ทฤษฎีใหม่เสนอ "ผู้ชายถูกสร้างมาให้ชอบนมอึ๋มๆ เพราะการเล่นนมทำให้เกิดความผูกพัน"
0 Members and 3 Guests are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: ทฤษฎีใหม่เสนอ "ผู้ชายถูกสร้างมาให้ชอบนมอึ๋มๆ เพราะการเล่นนมทำให้เกิดความผูกพัน"  (Read 1273 times)
admin
Administrator
น้องใหม่ฝึกยิ้ม
*****
Offline Offline

Posts: 7

View Profile
« on: 21 December 2012, 13:43:58 »

หน้าอกผู้หญิงเป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตาและจิตใจมนุษย์เพศผู้ส่วนใหญ่ ทฤษฎีทางชีววิทยาที่แพร่หลายที่สุดอธิบายไว้ว่าสมองของผู้ชายถูกวิวัฒนาการคัดเลือกมาให้ประเมินประสิทธิภาพในการเจริญพันธุ์ของผู้หญิงจากขนาดของหน้าอก ผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่เป็นสัญลักษณ์ของการเป็นแม่พันธุ์ที่ดี ทฤษฎีนี้ก็ฟังดูเข้าทีมีเหตุผล มีหลักฐานงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่หุ่นดี, นมโต, เอวคอดกิ่ว เป็นลักษณะที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศหญิงและความสามารถในการตั้งครรภ์ (Proceedings of the Royal Society B DOI: 10.1098/rspb.2004.2712)

อย่างไรก็ตามทฤษฎีข้างต้นมีปัญหาอยู่ตรงที่เพศผู้ไม่น่าจะเป็นฝ่ายที่เรื่องมากในการจับคู่ผสมพันธุ์ เพราะตัวผู้ลงทุนแค่สเปิร์มซึ่งมีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับไข่ (รวมถึงการลงทุนแบ่งอาหารมาการเลี้ยงดูตัวอ่อนซึ่งมีราคาแพงมากสำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเมีย) ถ้าคิดตามนี้ ต่อให้ผู้หญิงนมโตเป็นแม่พันธุ์ที่ดีกว่า นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายต้องเลือกลงทุนลงแรงเลือกผสมพันธุ์กับผู้หญิงนมโตอย่างเดียว กลยุทธ์ที่น่าจะดีที่สุดสำหรับผู้ชายคือ "ฟันให้หมด" โดยไม่มีอคติเลือกนมเล็กนมใหญ่

ศาสตราจารย์ Larry Young แห่ง Emory University จึงเสนอทฤษฎีใหม่ขึ้นมาว่าความหลงใหลนมอึ๋มๆ ของผู้ชายนั้นเกิดจากลักษณะการจับคู่ของมนุษย์ที่เป็นแบบผูกพันผัวเดียวเมียเดียว (social monogamy) ซึ่งหาได้ยากมากในหมู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเกือบ 97% มีนโยบายผสมพันธุ์แบบหลายผัวหลายเมีย (ขณะที่นกส่วนใหญ่กลับอยู่กันแบบผัวเดียวเมียเดียว กระนั้นนกผัวเดียวเมียเดียวหลายชนิดก็ยังชอบแอบมีกิ๊กเวลาที่คู่ตัวเองเผลอ)

งานวิจัยก่อนหน้านี้ก็แสดงให้เห็นว่าเวลาโดนสัมผัสที่หัวนม สมองผู้หญิงจะถูกกระตุ้นในส่วนเดียวกับเวลาโดนแตะที่อวัยวะเพศ และกระตุ้นให้สมองหลั่งฮอร์โมน oxytocin ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความรักและความผูกพันออกมา ตอนที่ลูกดูดนมแม่ ฮอร์โมน oxytocin นี่แหละเป็นตัวการสำคัญที่สร้างสายสัมพันธ์แม่-ลูก (ตรงนี้มีข่าวดีสำหรับผู้หญิงคือ การให้ลูกดูดนมไม่มีส่วนทำให้นมคล้อยยาน แต่ข่าวร้ายคือการขยายตัวชั่วคราวของหน้าอกขณะตั้งครรภ์แต่ละครั้งจะทำให้ผิวหนังและเอ็นที่รองรับหน้าอกยืดหย่อนยวบลงไป - Life's Little Mysteries)

ฉะนั้น Larry Young เลยมองว่า ผู้ชายที่มีสัญชาตญาณชอบนม, ชอบซุกหน้าลงไปเฟ้นฟอนเต้า-ดูดหัวนมซ้ายทีขวาทีระหว่างร่วมเพศ ฯลฯ จึงมีแนวโน้มที่จะสร้างสายสัมพันธ์กับคู่ของตนได้แนบแน่น ผู้ชายที่สามารถทำให้ผู้หญิงของตนรักฝังใจกับตนเองก็ย่อมประสบความสำเร็จในการส่งผ่านยีนไปยังรุ่นต่อไปมากกว่า เพราะเท่ากับว่าได้ลดความเสี่ยงที่จะโดนตัวผู้ตัวอื่นเข้ามาแย่งหรือแอบผสมพันธุ์กับคู่ตัวเมียของตน

นอกจากนี้ท่าผสมพันธุ์อันเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์ก็ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้พวกผู้ชายคลั่งนมประสบความสำเร็จด้วย การที่มนุษย์ร่วมเพศในท่าหันหน้าเข้าหากัน เปิดโอกาสให้ผู้ชายเข้าคลุกวงในสัมผัสหน้าอกผู้หญิงได้มากขึ้น ถ้าท่าผสมพันธุ์ของมนุษย์ยังเป็นท่ายอดนิยมของสัตว์แบบตัวผู้ขึ้นคร่อมหลังตัวเมีย การสัมผัสหน้าอกขณะร่วมเพศก็คงทำได้ไม่สะดวกนัก

อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์และนักมานุษยวิทยาบางคนก็เห็นว่าทฤษฎีของ Larry Young มีจุดอ่อนอยู่เนื่องจากทฤษฎีไม่ได้ครอบคลุมถึงปัจจัยทางวัฒนธรรมและสังคมซึ่งมีบทบาทอย่างมากในวิวัฒนาการของมนุษย์ เช่น Fran Mascia-Lees แห่ง Rutgers University ยกตัวอย่างชนเผ่าพื้นเมืองในแอฟริกาที่ผู้หญิงเปิดหน้าอกเปลือยโล่ง ไม่มีเครื่องแต่งกายปกคลุมส่วนบน ผู้ชายในเผ่านั้นก็ไม่ได้แสดงอารมณ์หื่นกระหายต่อหน้าอกหรือหัวนมผู้หญิงสักเท่าไร ก็ใช้ชีวิตมีความสัมพันธ์ทางสังคมกันอย่างปกติ

ซึ่งตรงนี้ Larry Young ก็เถียงว่า แม้ผู้ชายชนเผ่านั้นจะไม่ได้แสดงอาการหื่นต่อหน้าอกเปลือยๆ ที่เห็นชาชินอยู่ทุกวัน ก็ไม่ได้หมายความว่าระหว่างร่วมเพศจะไม่มีการสัมผัสกระตุ้นความรู้สึกที่หน้าอกฝ่ายหญิง

Larry Young อธิบายทฤษฎีของตัวเองไว้อย่างละเอียดในหนังสือขายดีของเขา The Chemistry Between Us (Current Hardcover, 2012) ที่แต่งร่วมกับ Brian Alexander


ที่มา - Life's Little Mysteries
แปลโดย http://jusci.net/node/2863

Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.053 seconds with 20 queries.