Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
22 December 2024, 21:17:29

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618 Posts in 12,929 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  เหนือเกล้าชาวสยาม  |  พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเหล่าอริยสาวก  |  พระพุทธรูปและพระบรมสารีริกธาตุ  |  พระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุพระพุทธสาวก
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: พระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุพระพุทธสาวก  (Read 1759 times)
SATORI
สมาชิกกิตติคุณ
น้องใหม่ฝึกยิ้ม
*****
Offline Offline

Posts: 37


View Profile
« on: 26 December 2012, 23:44:37 »

พระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุพระพุทธสาวก


   

ความหมายของคำว่าพระบรมสารีริกธาตุ

   

--------------------------

"พระบรมสารีริกธาตุ" คือ พระธาตุส่วนย่อยที่บังเกิดแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยเฉพาะ
มิได้เป็นคำที่ใช้เรียก พระธาตุของพระอรหันตสาวก หรือพระธาตุเจดีย์ต่างๆ (บางทีอาจใช้คำว่า "พระบรมธาตุ" หรือ "พระสารีริกธาตุ" แทนได้)

"พระธาตุ" คือ กระดูก หรือ ส่วนของร่างกายต่างๆ เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง โลหิต ฯลฯ
ที่มีคุณลักษณะเป็นที่แตกต่างจากสามัญชนทั่วไป โดยมีลักษณะคล้าย ' ธาตุ ' ซึ่งหากมองโดย ไม่สังเกตให้ดีแล้ว ก็คล้าย กรวด หิน แก้ว เพชร ฯลฯ

คำว่า พระบรมธาตุ และ พระธาตุ ยังอาจใช้หมายถึงพระสถูปเจดีย์ต่างๆ ได้อีกด้วย เช่น พระบรมธาตุไชยา พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุพนม ฯลฯ

--------------------------------------------
อ้างอิงจาก  www.relicsofbuddha.com
--------------------------------------------

พระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุพระอรหันตสาวก


------------------

พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งสัจธรรม   มีหลักธรรมคำสอนที่สามารถปฏิบัติให้รู้ตามเห็นจริงได้  การบรรลุธรรมในพระพุทธศาสนานั้น  บรรลุที่ใจ 
ไม่สามารถแสดงออกให้ผู้อื่นรู้เห็นได้แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งซึ่งสามารถเป็นหลักฐานพยานแห่งการบรรลุธรรมในทางพระพุทธศาสนา นั่นคือ พระธาตุ


---------------

คำว่า พระธาตุ เป็นคำกลางๆ เรียกใช้แบบรวมๆ  ดังนั้นจึงมีการแยกประเภทของ พระธาตุ เป็น 2 ระดับคือ
ของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า  เรียกว่า พระบรมสารีริกธาตุ
ของพระอรหันตสาวกเรียกว่า พระอรหันตธาตุ

พระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้านั้น มีอยู่ 2 ประเภทคือ


-----------------

1. พระพุทธสรีระธาตุองค์ใหญ่ (ประเภทไม่แตกกระจาย)  คงรูปตามเดิม มี 7 ส่วนคือ

   1.1 พระอุณหิศ (กะโหลกศีรษะของพระพุทธเจ้าส่วนที่โปนออกไป) ประดิษฐานอยู่ ณ เมืองอนุราชสิงหฬ
   1.2 พระรากขวัญเบื้องขวา (ไหปลาร้า) ประดิษฐานอยู่ ณ เมืองอนุราชสิงหฬ
   1.3 พระรากขวัญเบื้องซ้าย(ไหปลาร้า) ประดิษฐานอยู่ ณ พรหมโลก
   1.4 พระทาฒธาตุขวาเบื้องบน(พระเขี้ยวแก้ว) ประดิษฐานอยู่ ณ ดาวดึงส์เทวโลก
   1.5 พระทาฒธาตุซ้ายเบื้องบน(พระเขี้ยวแก้ว ) ประดิษฐานอยู่ ณ เมืองคันธารรัฐ
   1.6 พระทาฒธาตุขวาเบื้องล่าง(พระเขี้ยวแก้ว)  ประดิษฐานอยู่ ณ ลังกาสิงหฬ
   1.7 พระทาฒธาตุซ้ายเบื้องล่าง(พระเขี้ยวแก้ว)  ประดิษฐานอยู่ ณ นาคพิภพ


----------------

2. ประเภทแตกกระจายเป็นส่วนอื่นนอกจาก 7ส่วนนั้น จะไม่มีลักษณะเดิมของอัฐิเหลืออยู่

   2.1 ขนาดเล็กเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาด
   2.2 ขนาดกลางเท่าเมล็ดข้าวสารหัก
   2.3 ขนาดใหญ่เท่าเมล็ดถั่วเหลือง

--------------------
 
---------------------
 
---------------------
 
---------------------
 
---------------------

พระอรหันตธาตุของสาวกนั้นมีลักษณะแตกต่างจากพระบรมสารีริกธาตุ  คือมีขนาดใหญ่กว่า  วรรณะหยาบกว่า 
และหลากหลายลักษณะสัณฐานตามวาสนาบารมีของพระอรหันต์แต่ละองค์


--------------------

ตัวอย่างสัณฐานของพระอรหันตธาตุของพระสาวกในสมัยพุทธกาล เช่น

พระธาตุพระสารีบุตร  สัณฐานเป็นปริมณฑลบ้าง  รีเป็นไข่จิ้งจก พรรณขาวสีสังข์  สีพิกุลแห้ง สีหวายตะค้า


------------------

พระธาตุพระโมคคัลลานะ สัณฐานกลม  หรือรีเป็นผลมะตูม สีเหลือง สีขาว  เขียวช้ำใน ลายดังไข่นกบ้าง  ร้าวเป็นสายเลือดบ้าง


-----------------------

-----------------------

พระธาตุพระสีวลี สัณฐานดังเมล็ดในพุทรา  หรือผลยอป่า  หรือเมล็ดมะละกอ  วรรณสีเขียวดังผักตบบ้าง  สีแดงแบบสีหม้อใหม่บ้าง  สีพิกุลแห้งบ้าง เหลืองดั่งหวายตะค้า หรือขาวดั่งสีสังข์บ้าง


-------------------------

-------------------------

พระธาตุพระอานนท์สัณฐานดั่งใบบัวเผื่อน  พรรณดำดั่งน้ำรัก  หรือสีขาวสะอาดดั่งสีเงิน


-------------------------

พระธาตุพระองคุลีมาล สัณฐานคอดดังคอลาก ที่มีรูโปร่งตลอดเส้นผมลอดได้ก็มี พรรณขาวดังสีสังข์ เหลืองดังดอกจำปา สีฟ้าหมอก


-------------------------

พระธาตุพระอัญญาโกณฑัญญะ สัณฐานงอนช้อยดังงาช้าง พรรณขาวดังดอกมะลิตูม เหลืองอย่างหนึ่ง ดำอย่างหนึ่ง


-----------------------

อย่างไรก็ตามพระธาตุและพระบรมสารีริกธาตุก็มีคุณสมบัติเหมือนกันคือ

1. หากมีขนาดเล็กเท่าเมล็ดข้าวสารลงไปสามารถลอยน้ำได้  น้ำจะเป็นแอ่งบุ๋มลงไปรองรับพระบรมสารีริกธาตุไว้และปรากฏรัศนีเป็นแฉกๆ อยู่โดยรอบ


---------------------

----------------------

2. หากลอยน้ำพร้อมๆ กัน หลายองค์ ก็จะค่อยๆ ลอยเข้าหากันและติดกันในที่สุด


----------------

3. หากเป็นพระธาตุที่มีขนาดใหญ่ ก็สามารถที่จะเปล่งแสงในกาลเวลาอันสมควรได้ เสด็จมาเพิ่มจำนวนได้ เสด็จหายไปได้ ขยายองค์ใหญ่ขึ้นได้ รวมหลายองค์เข้าเป็นองค์เดียวได้


---------------------

ในแผ่นดินไทยของเราได้รองรับพระพุทธศาสนาเป็นเวลาเกือบพันปี  มีผู้ปฏิบัติธรรมได้บรรลุมรรคผลเป็นจำนวนมาก  แม้ในปัจจุบันก็ปรากฏเป็นข่าวเสมอว่ามีพระอริยสงฆ์ที่

มรณภาพแล้ว อัฐิแปรสภาพเป็นพระธาตุ  จึงทำให้เกิดมีการบันทึกลักษณะการแปรสภาพจากอัฐิหรือเศษกายของพระอริยเจ้าสู่ความเป็นพระธาตุ

การแปรสภาพจากอัฐิเป็นพระธาตุมี 4 ลักษณะ คือ

1. จากเดิมกระดูกเป็นฟอง  แล้วเริ่มหดตัวบางส่วน  รวมตัวเข้าเป็นผลึก  หินปูนจะมากขึ้นและเริ่มมน  จนเป็นพระธาตุโดยสมบูรณ์  มีลักษณะกลมรีคล้ายเมล็ดข้าวโพด

 
----------------
 
----------------
 
----------------

---------------
 
2. จากกระดูกที่เป็นชิ้นยาว  แนวเยื่อกระดูกเป็นเส้นบางๆ  เยื่อกระดูกเกาะเป็นผลึกหินปูนจนเต็มรูพรุน  และแปรเป็นพระธาตุซึ่งคงรูปเดิมของชิ้นอัฐิ

 
---------------
 
---------------

---------------

---------------

3. ชิ้นอัฐิธรรมดามีองค์พระธาตุผุดขึ้นและค่อยๆโตขึ้น และหลุดออกเป็นพระธาตุโดยสมบูรณ์

 
------------------------
 
----------------------

4. ในขณะเผาศพมีวัตถุธาตุเศษกาย  ส่องแสงประกายหยดออกจากร่าง  ตกกระทบกับสิ่งที่รองรับ  ก็กระจายออกเป็นพระธาตุขนาดต่างๆ


------------------------

------------------------

นอกจากการแปรสภาพของอัฐิ  ยังมีการแปรสภาพจากส่วนอื่น เช่น แปรสภาพจากเส้นเกสา  โดยมีการรวมตัวกันเป็นเส้นเกสา มีเส้นในใสๆ งอกออกมาเกี่ยวพันกันจนแน่น 
แล้วรวมตัวเป็นเนื้อเดียวกันและเป็นพระธาตุในที่สุด  บางครั้งก็มีพระธาตุงอกออกมาจากปลายของเกสา และหลุดออกมาเป็นพระธาตุโดยสมบูรณ์

 
-----------------
 
----------------

-----------------

-----------------

-----------------

ในบางครั้งก็มีผลึกพระธาตุเสด็จมาประทับรวมกับเส้นเกสาโดยปาฏิหารย์   แม้ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ก็มี


----------------

การแปรสภาพเป็นพระธาตุจากส่วนต่างๆของร่างกายของท่าน  เช่น  กระดูกสะบ้า  เส้นเกสา เล็บ ฟัน  ชานหมาก  ข้าวก้นบาตร  เป็นต้น


----------------

------------------

-------------------

------------------

แม้วัตถุมงคลของท่าน  บางครั้งก็มีพระธาตุเสด็จมาเกาะอยู่ด้วย  นอกจากนี้เถ้าอังคารก็สามารถแปรสภาพเป็นพระธาตุได้ 
หรืออุจจาระของท่านก็สามารถแปรสภาพเป็นพระธาตุ  จนบางสำนักต้องสั่งให้เอาปูนมาโบกทับส้วมของท่านไว้  ไม่ให้คนมาขุด 
น้ำที่สรงอัฐิเก็บไว้ไม่เททิ้งก็มีการรวมตัวแปรสภาพเป็นพระธาตุได้


----------------

-----------------

------------------

-----------------

พระอริยสงฆ์ไทยที่แปรสภาพเป็นพระธาตุนั้น  มีจำนวนมากยิ่งนัก  อาทิ เช่น

หลวงปู่เสาร์  กันตสีโล


---------------------------

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


-------------------------

ครูบาศรีวิชัย  สิริวิชโย
ครูบาผาผ่า  ปัญญาวโร
หลวงปู่ดูลย์  อตุโล


----------------------------

หลวงปู่เทสก์  เทสรังสี


----------------------------

หลวงปู่ต่วน  อินทปัญโญ
หลวงปู่ชอบ  ฐานสโม
หลวงปู่หลุย  จันทสาโร


----------------------

หลวงปู่สีลา  อิสสโร
หลวงปู่ขาว  อนาลโย


--------------------

หลวงปู่พรหม  จิรปุญโญ
หลวงปู่ตื้อ  อจลธัมโม
หลวงปู่แหวน  สุจินโณ


--------------------------

หลวงปู่ฝั้น  อาจาโร


---------------------------

หลวงปู่คำดี  ปภาโส
หลวงปู่ครูบาพรหมา  พรหมจักโก


------------------------

สมเด็จพระมหามุนีวงศ์  วัดนรนาคสุนทริการาม
หลวงปู่สิม  พุทธาจาโร


--------------------------

หลวงปู่เหรียญ  วรลาโภ
พระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตามหาบัว  ญาณสัมปันโน)
หลวงปู่อุ่น  อุตตโม
หลวงปู่สาม  อกิญจโน


------------------------------

หลวงปู่บุญจันทร์  กมโล
หลวงปู่ชา  สุภัทโท


----------------------

หลวงปู่บุญ  ชินวโส
หลวงปู่เจี๊ยะ  จุนโท


-----------------------------

ครูบาบุญปั๋น  ธัมมปัญโญ
หลวงปู่ผาง  จิตตคุตโต
หลวงปู่บัว  สิริปุณโณ
หลวงปู่วัน  อุตตโม
หลวงปู่จวน  กุลเชฏโฐ


------------------------

หลวงปู่สิงห์ทอง  ธัมมวโร
หลวงปู่สุภาพ  ธัมมปัญโญ
พระราชพรหมญาณ(หลวงพ่อฤาษี ลิงดำ)


---------------------------

หลวงปู่หล้า  เขมปัตโต


------------------

หลวงปู่ผาง  ปริปุณโณ
หลวงปู่ลี  ฐิตธัมโม
พระโพธิธรรมาจารย์(หลวงปู่สุวัจน์  สุวโจ)


-----------------------------

ครูบาสมหมาย  นันทิโย
คุณแม่ชีแก้ว  เสียงล้ำ


-------------------------

และยังมีอีกหลายท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม


--------------------------

สำหรับปัจจัยที่ทำให้อัฐิของท่านแปรสภาพนั้น  มีผู้รู้กล่าวว่าเป็นเพราะพลังจิตของท่านที่ฝึกมาดีแล้ว  จิตของท่านเป็นจิตบริสุทธิ์  จึงทำให้กายของท่านเป็นของบริสุทธิ์ได้ด้วย


การแปรสภาพช้าหรือเร็วนั้น  ขึ้นอยู่ที่ว่าท่านบรรลุธรรมแล้วมีชีวิตอยู่ต่อนานหรือไม่  ถ้าท่านมีชีวิตครองธาตุขันธ์อยู่นาน 
ย่อมเป็นที่แน่ใจได้ว่าจะสามารถแปรสภาพเป็นพระธาตุได้แน่นอน  และรวดเร็ว  แต่ถ้าท่านบรรลุธรรมแล้ว  มรณภาพไปโดยเร็ว   
ไม่เป็นที่แน่ใจว่าจะสามารถแปรสภาพเป็นพระธาตุได้หรือไม่  หรืออาจจะเป็นแต่ใช้เวลานาน

ร่างกายบางส่วนที่ท่านเพ่งจิตบ่อยๆก็สามารถจะแปรสภาพเป็นพระธาตุได้  และมีความใสบริสุทธิ์สะอาดกว่าส่วนอื่น
เพราะธาตุกายเป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติธรรมและพุทธศาสนิกชนทั่วไปให้ความเคารพอย่างสูงสุดและพยายามแสวงหามาไว้สักการบูชา 
บางครั้งก็ได้มาแต่เพียงอัฐิชิ้นเล็กๆที่ยังไม่แปรสภาพหรือเส้นเกสาที่ยังไม่แปรสภาพ  ถึงกระนั้นก็ยังเป็นที่หวงแหนของเจ้าของยิ่งนัก

เพราะพระธาตุนั้นเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของท่านผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ  เป็นพยานแห่งการบรรลุธรรมให้ผู้ที่สักการบูชาได้ยึดถือเป็นแบบอย่าง
และมีกำลังใจในการทำความดี  มีกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติธรรมให้เห็นธรรม  เพราะเมื่อเห็นพระธาตุแล้วก็รู้ว่าการปฏิบัติธรรมนั้นได้ผลจริง  บริสุทธิ์จริง พ้นทุกข์จริง

คำบูชาพระบรมสารีริกธาตุ
นะโมฯ 3 จบ
อิติปิโส  วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ
อิเมนาพุทธตังโสอิ  อิโสตังพุทธปิติอิ

 
สถานที่จัดแสดงพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุสมัยพุทธกาล
พระบรมธาตุเจดีย์มหาจักรีพิพัฒน์  วัดญาณสังวราราม จ.ชลบุรี

----------------------------------------------
เอกสารอ้างอิง
สารคดีพระธาตุ วัดอโศการาม  พิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและสมโภชน์  พระธุตังคเจดีย์  เมษายน พศ. 2551
ตำราพระธาตุ  พร้อมด้วยสัณฐานและวรรณพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุพุทธสาวกขีนาสวะอรหันต์เจ้าทั้งหลายโดยสังเขป  ของโรงพิมพ์การศาสนา
พระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์  นาวาอากาศโท  ภาสกร จูฑะพุทธิ

ที่มา : http://www.kaolud.com/publicize/pratart/pratart.html

=================================

[/size]
« Last Edit: 13 June 2013, 00:14:45 by นักประพันธ์ » Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.057 seconds with 21 queries.