Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
22 December 2024, 21:23:29

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618 Posts in 12,929 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  หมวดหมู่ทั่วไป  |  ศาลาพักใจ (Moderators: ppsan, Mocha)  |  เรื่องขำขำ...อีกแล้ว
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: เรื่องขำขำ...อีกแล้ว  (Read 2022 times)
p_san@
Global Moderator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,427


View Profile
« on: 17 January 2013, 15:00:43 »

ทำไมกล้วยจึงเรียก Banana
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 Long time ago…. ประมาณว่านานมากแล้ว
 มีฝรั่ง มาเที่ยวตลาดน้ำเมืองไทย
 และเห็นผลไม้มากมาย ฝรั่งก็มาดูที่กล้วย ก่อนอื่น
 
 แล้วฝรั่งถามแม่ค้าว่า “What is this?”
 แม่ค้าไม่รู้ภาษาอังกฤษจึงไม่ได้ตอบอะไร ฝรั่งเห็นดังนั้นจึงลองบีบดู
 บังเอิญฝรั่งมือหนักจึงบีบกล้วยเละ แม่ค้าเห็นจึงร้องโวยวายว่า “แบนแน่ๆ”
 
 ฝรั่งได้ฟังจีงร้องอ๋อแล้วก็บอกว่า “Oh! Banana”
 หลังจากนั้นฝรั่งก็มาชี้ที่มังคุด และถามว่า “Is this mango?”
 แม่ค้าชาวไทยกำลังโกรธที่ฝรั่งทำกล้วยเละ
 เลยตอบไปว่า “แมงโกส้น teen นะสิ”
 
 ฝรั่งก็ร้องอ๋อแล้วบอกว่า “Oh Mangosteen!”
 แล้วฝรั่งก็เหลือบไปเห็นมะละกอ ก็เอามือที่เลอะกล้วยไปจับ
 แล้วถามว่า “What is this?”
 แม่ค้าเห็นดังนั้นก็ยัวะมากที่มะละกอเลอะเทอะ จึงคว้าเอาสากขึ้นมาจะตีฝรั่ง
 แต่มีคนตะโกนห้ามแม่ค้าว่า “ป้าๆ อย่า”
 
 ฝรั่งได้ยินดังนั้นจึงนึกว่ามีคนบอกชื่อมะละกอ จึงร้องว่า “OH! papaya“

------------------------------------------

Logged
p_san@
Global Moderator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,427


View Profile
« Reply #1 on: 17 January 2013, 15:02:18 »

การผายลมบอกนิสัย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 ตามตำราโหงวเฮ้งโบราณ พิจารณานิสัยใจคอคนจากการผายลมได้ดังนี้

 คนใจเย็น คนที่กลั้นผายลมจนถึงจุดระเบิด
 คนไม่จริงใจ คนที่ผายลมแล้วหันไปจ้องหน้าเด็กคนข้างๆ
 คนงก คนที่ชอบยืนดมกลิ่นผายลมของตัวเอง
 คนขี้โอ่ คนที่ผายลมเสียงดังสนั่น แล้วยืนหัวเราะชอบใจ
 คนโชคร้าย คนที่พยายามผายลมขณะเอามือตบโต๊ะไปด้วย แต่พลาดจังหวะ
 นักวิทยาศาสตร์ คนที่สามารถวิเคราะห์ได้ หลังจากสูดกลิ่นผายลมเข้าไปว่าอาหารก่อน
 หน้านั้นประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันอย่างละกี่เปอร์เซ็นต์
 คนซาดิสต์ คนที่ผายลมในผ้าห่มแล้วกดคู่นอนให้เข้าไปดม
 คนเจ้าเล่ห์ คนที่ผายลมพร้อมกับไอกระแอมเบาๆ
 คนสุภาพ คนที่กล่าวขอโทษก่อนและหลังการผายลม แม้จะอยู่เพียงคนเดียว
 ผู้ดี คนที่กลั้นผายลมไว้หลายชั่วโมงจนท้องอืด เพื่อเก็บไว้กลับไปผายลมที่บ้าน
 คนมั่นคง คนที่ผายลมเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ต่อเนื่องและยาวนาน
 คนอำมหิต คนที่ผายลมไร้เสียง แต่กลิ่นเหม็นร้ายกาจ
 คนดีแต่พูด คนที่ผายลมดังปัง แต่ไร้กลิ่น
 คนหลายใจ คนที่ผายลม ปัสสาวะ และอุจจาระในเวลาเดียวกัน
 แพทย์ คนที่ล้างมือก่อนผายลม
 คนใจบุญ คนที่ยืนผายลมเหนือลม ให้ทุกคนได้รับอานิสงส์โดยทั่วกัน
 คนตาย คนที่ไม่เคยผายลมในปัจจุบัน แต่เคยผายลมในอดีต

 ————————————–
 
Logged
p_san@
Global Moderator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,427


View Profile
« Reply #2 on: 17 January 2013, 15:03:26 »

ความผิดซ้ำซ้อน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 นายฉลาดรับเงินเดือนจากบริษัท ขาดไป 100 บาท???? จึงรีบกลับไปแจ้งสมุห์บัญชี
 สมุห์บัญชีชี้แจงเชิงต่อว่า ว่า
 “เมื่อเดือนที่แล้ว ผมจ่ายเงินเดือนผิด ให้คุณเกินไป 100 บาท ทำไมคุณถึงเฉย ไม่ทักท้วง”
 
นายฉลาดก็นึกขึ้นได้ว่า เป็นอย่างที่สมุห์บัญว่าจริงๆ? แต่ด้วยไหวพริบ ก็สำทับไปว่า
 
“ผมก็เป็นคนอย่างนี้แหละ ใครทำผิดครั้งหนึ่ง ผมพออภัยให้ได้ แต่ถ้ายังผิดซ้ำสองอีก ผมให้อภัยไม่ได้เป็นอันขาด"

------------------------------------


Logged
p_san@
Global Moderator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,427


View Profile
« Reply #3 on: 17 January 2013, 15:04:25 »

ก่อนแต่ง – หลังแต่ง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 ก่อนแต่งงาน
 
 ชาย : “ใช่เลย! ในที่สุดก็ถึงเวลาสักที ผมรอไม่ไหวแล้ว”
 หญิง : “เธอคิดจะเลิกกับฉันมั้ย”
 ชาย : “ไม่แน่นอน อย่าแม้แต่เพียงแค่คิด”
 หญิง : “เธอยังรักฉันอยู่หรือเปล่า”
 ชาย : “แน่นอน!”
 หญิง : “เธอเคยคิดจะเอาเปรียบฉันบ้างหรือเปล่า”
 ชาย : “ไม่มีทาง ทำไมเธอถึงถามอย่างนั้น”
 หญิง : “เธอจะจูบฉันมั้ย”
 ชาย : “ได้สิ”
 หญิง : “เธอจะทำร้ายฉันมั้ย”
 ชาย : “ไม่มีทางฉันไม่ใช่คนแบบนั้น”
 หญิง : “ฉันไว้ใจคุณได้”
 
 หลังจากแต่งงาน
 
 อ่านจากบรรทัดล่างสุด ขึ้นบน

------------------------------------

Logged
p_san@
Global Moderator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,427


View Profile
« Reply #4 on: 17 January 2013, 15:05:53 »

แม่กูสอน?
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

>เพื่อน ๆ บอกผมว่า
 ทำไมมึงดูหน้าตาไม่ค่อยฉลาด แต่เรียนเก่งจังวะ
 >ผมบอกเพื่อนผมว่า
 แม่กูสอน ให้ขยันแล้วก็ตั้งใจเรียน
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมพอมึงมีตังค์ มึงชอบเอาไปทำบุญ แจกเด็ก เลี้ยงพระวะ
 >ผมบอกเพื่อนผมว่า
 แม่กูสอน ให้รู้จักแบ่งปันคนอื่น ถึงเราจะมีตังค์น้อย แต่ก็มีคนอื่นที่เขาลำบากกว่าเรา
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมมึงชอบเล่นกีฬา เล่นเป็นหลายอย่าง แล้วไม่เคยเห็นมึงป่วยนอนโรงพยาบาลเลยวะ
 >ผมบอกเพื่อนผมว่า
 แม่กูสอน ให้กูออกกำลังกาย จะได้แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วยง่าย ๆ เพราะเรามีตังค์น้อย เจ็บป่วยจะลำบาก
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมมึงอารมณ์ดี ไม่เครียด ไม่โกรธใครบ้างเลยหรือไงวะ
 >ผมบอกเพื่อนผมว่า
 แม่กูสอน ให้เป็นคนอารมณ์ดี ทำให้คนที่อยู่ใกล้เรามีความสุข แล้วจะสบายใจกันทุกคน
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมมึงพูดกับคนอื่น ดูสุภาพ อ่อนน้อม ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นลุงแก่ ๆ เป็นเด็กเสริฟอาหาร
 หรือแม้แต่ขอทานที่มึงให้เศษตังค์แล้วเขาอวยพรให้มึง ทำไมมึงต้องขอบคุณขอทานวะ
 >ผมบอกเพื่อนผมว่า
 แม่กูสอน ให้พูดดี ๆ กับทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เราพูดดี ๆ กับเขา เขาก็จะได้พูดดี ๆ กับเรา
 
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมพี่ ๆ น้อง ๆ มึงตั้งหลายคน ทำไมรักใคร่กันดี ไม่เคยทะเลาะกันเลยวะ
 >ผมบอกเพื่อนผมว่า
 แม่กูสอน ให้พี่น้องรักกันทุกคน เพราะหมากับแมวที่อยู่บ้านเดียวกัน มันยังรักกันได้ ทำไมพี่น้องกัน จะรักกันไม่ได้
 
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมมึงถึงรักชาติ รักแผ่นดิน รักในหลวง มากมายนักวะ
 >ผมบอกเพื่อนว่า
 แม่กูสอน ให้กูสำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน บุญคุณของพระมหากษัติรย์ ทุกพระองค์
 แม่กูสอน ให้กูรู้จักคำว่า จงรักภักดี ตั้งแต่กูยังไม่รู้ความหมาย จนทุกวันนี้ กูรู้แล้วว่า
 คำว่า จงรักภักดี นั้น ยิ่งใหญ่เพียงใด
 
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมแม่มึงถึงสอนอะไรมึงมากมายจังเลยวะ
 >ผมบอกเพื่อนว่า
 ที่กูเป็นกูอยู่จนทุกวันนี้ ก็เพราะ ” แม่กูสอน”
 แม่กูสอนอะไร กูทำตามแม่กูสอนทุกอย่าง
 มีอย่างเดียวที่แม่กูไม่ได้สอน แต่กูทำ แล้วกูทำมาตั้งแต่เด็กแล้ว
 แม่กูไม่ได้สอนให้รักแม่ แต่……กูรักแม่ว่ะ
 
 ใครไม่รัก………………กูรัก

-----------------------------

Logged
p_san@
Global Moderator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,427


View Profile
« Reply #5 on: 17 January 2013, 15:08:59 »

คู่ทุกข์ คู่ยาก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แมน โดนรถชนอาการสาหัส แต่โชคดีที่ สมรเมียสาวไม่เป็นอะไร
 
แมนอยู่ในอ้อมแขนของสมรเมียรักระหว่างส่งโรงพยาบาล
 
แมน: สมร ผม กำ ลัง จะ ตาย…..
 
สมร: ไม่ค่ะแมน คุณต้องไม่เป็นไรนะค่ะ
 
ทั้งคู่ ฟูมฟายเหมือนหนัง ละครทั่วๆ ไป
 
แมน:เมื่อสองปีก่อน ธุรกิจผมพังพินาศ ก็มีคุณอยู่ใกล้ๆ
 
สมร: ก็ฉันเป็นเมียคุณนี่ค่ะแมน
 
แมน: เมื่อปีที่แล้วศาลฟ้องผม ให้ล้มละลาย ก็มีคุณอยู่ไม่ห่าง
 
สมร: โธ่ แมนอย่าพูดแบบนั้นสิคะที่รัก
 
แมน: ปลายปีที่แล้ว จำได้ไหมผมโดนยิงเกือบตาย ก็มีคุณอยู่ใกล้ๆ อีก
 
สมร: อย่าพูดเลยค่ะ ยังไงสมรก็ไม่ทิ้งคุณหรอกค่ะ แมน
 
แมนสำลักเลือดที่ไหลออกทางปาก กำลังจะตาย
 
แมน: สมร เข้ามาใกล้ๆ ผมสิ
 
สมรเอียงหูเข้าไปใกล้ให้แมนสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย
 
แมน: จำไว้นะ…….อี หมอน………….มึง นะ มัน ตัว ซวย………

------------------------------------------

Logged
p_san@
Global Moderator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,427


View Profile
« Reply #6 on: 17 January 2013, 15:11:13 »

ลูกฝรั่ง ช่างคิด
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

  ในห้องเรียนครูสาวสวยคนหนึ่งกำลังพยายามสอนนักเรียนในวิชาคณิตศาสตร์
 เธอยกตัวอย่างโจทย์ให้นักเรียนว่า
 “มีนก 3 ตัว เกาะอยู่บนสายไฟ นายพรานเอาปืนยิงโดนนกตัวหนึ่งตกลงมา
 จะเหลือนกกี่ตัวบนสายไฟ ?”
 “ไม่เหลือเลยครับ” เด็กชายบ๊อบ ตอบด้วยแววตาเด็กมีความคิดอ่าน
 “ไม่ใช่ ไม่ใช่ เอ้า เธอลองคำนวณดูอีกทีสิ”
 ครูสาวตอบด้วยความอดทน พร้อมทั้งชูนิ้วขึ้นสามนิ้วประกอบการอธิบาย
 “มีนกสามตัวเกาะบนสายไฟ นายพรานยิงไปหนึ่ง”
 ครูสาวพูดจบพร้อมทั้งลดนิ้วลงหนึ่งนิ้ว
 “จะมีนกเหลืออยู่บนสายไฟกี่ตัวเอ่ย ?”
 “ไม่เหลือเลยครับ” เด็กชายบ๊อบตอบย้ำอีกอย่างขึงขัง
 ครูสาวชักสงสัยในความมั่นใจของลูกศิษย์
 “ง่ายมากครับ” เด็กชายบ๊อบตอบ
 “เมื่อนายพรานยิงปืนหนึ่งนัดโดนนกหนึ่งตัว
 นกที่เหลือจะตกใจบินหนีไปหมด”
 “อืม ดี ถึงแม้ว่าไม่ถูกต้องตามโจทย์และหลักคณิตศาสตร์
 แต่ครูชอบวิธีคิดของเธอนะ” ครูสาวตอบ
 “เอาอย่างนี้ดีกว่าครับครู ให้ผมถามมั่ง” เด็กชายบ๊อบเริ่มบ้าง
 “มีผู้หญิงสามคนนั่งบนม้านั่ง กำลังกินไอติมดุ้นยาวอยู่
 ผู้หญิงคนแรกเลียแท่งไอติม
 ผู้หญิงคนที่สองกัดแท่งไอติม ส่วนผู้หญิงคนที่สามดูดแท่งไอติม
 ผมถามครูว่า ผู้หญิงคนไหนแต่งงานแล้ว”
 ครูสาวมองหน้าเด็กชายบ๊อบ ถึงทำหน้าไม่ถูก
 แต่หน้าครูสาวก็แดงระเรื่อขึ้นแล้วอึ้งไป
 “ครู ครู ผมถามอีกทีก็ได้นะ มีผู้หญิงสามคนนั่งบนม้านั่ง
 กำลังกินไอติมดุ้นยาวอยู่ ผู้หญิงคนแรกเลียแท่งไอติม
 ผู้หญิงคนที่สองกัดแท่งไอติม ส่วนคนที่สามดูดแท่งไอติม ผมถามครูว่า
 ผู้หญิงคนไหนแต่งงานแล้ว”
 “เอาอย่างนี้แล้วกันนะเธอ” ครูเริ่มกระซิบที่ข้างหูเด็กชายบ๊อบ
 “ครูว่าผู้หญิงคนที่ดูดไอติมแท่งน่ะ เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว”
 “ไม่ใช่ครับครู คนที่แต่งงานแล้ว
 คือคนที่มีแหวนแต่งงานสวมอยู่ที่นิ้วมือไงครับ”
 เด็กชายบ๊อบอมยิ้ม พร้อมกับพูดตบท้าย
 “ถึงครูจะตอบไม่ถูก แต่ผมก็ชอบวิธีคิดของครูนะ”

-----------------------------------------

Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.043 seconds with 20 queries.