|
ppsan
|
 |
« on: 31 August 2024, 22:07:04 » |
|
"ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย" ของ สปัน เธียรประสิทธิ์ [12]
Vuttikorn Phavichitr
ผู้ดูแล · 28 มีนาคม 2017 ·
ย้อนเรื่องราวชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านิยาย
สปัน เธียรประสิทธิ์ ตอนที่ ๑๒
..
..
" สปันพยายามแย่งอดีตสามีนักร้องคนแรกจากภรรยาดาราหนังชื่อดัง "
หนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่งลงพาดหัวใหญ่มาก
หลังจากที่ฉันกังวลจนไม่มีใจจะทำงาน กลัว ลูกจะถูกจับเรียกค่าไถ่ จึงตัดสินใจส่งลูกหนิงคนโตไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ ส่วนลูกคนเล็กไปแล้วไม่ชอบ ขอกลับมาเพราะเขาอยากไปอังกฤษ เลยต้องกลับมาเรียนภาษาอังกฤษก่อนไป
คุณหมอจิตแพทย์ที่เคยรักษาฉันกลับมาเมืองไทยเพื่อมาเผาศพคุณพ่อ เลยมาเจอกันอีก ฉันพาเที่ยวต้อนรับเขาในฐานะที่เคยรักษาฉันมาก่อน เขาบอกว่าเขาไม่เหลือใครแล้ว เขาก็ชวนฉันไปอเมริกา ฉันก็ยังไม่ได้คิดจะไป เขาก็ไปชวนลูกหน่องซึ่งถูกใจกับคุณหมอมาก และ เด็กคนนี้ชอบจะหาสามีให้แม่อยู่เรื่อย เจอผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่จะเข้าไปชวนให้เข้ามาชอบแม่ เขาคงต้องการพ่อ พอเจอคุณหมอก็ไปบอกเขาว่า
" คุณหมอเหมาะสมกับแม่ของหน่องมาก เพราะแม่ของหน่องติ๊งต๊อง อยู่กับจิตแพทย์ท่าจะดี "
ลูกคนนี้เป็นคนติดตลก ชอบทำตลกให้คนหัวเราะอยู่เรื่อยๆ หมอจึงเอ็นดูมาก ต่อมาอีกไม่กี่เดือน ฉันก็ส่งลูกหน่องไปอังกฤษ ฉันก็หมดกังวลเรื่องลูก อยู่คนเดียวก็ว้าเหว่ในบางครั้ง แต่ก็สนุกอยู่กับลูกน้อง เพราะเราทุกคนรักกันเหมือนพี่น้อง
คุณหมอเมื่อกลับไปอเมริกาก็ได้โทรเข้ามาหาฉัน ๒-๓ ครั้ง และชวนให้ไปอยู่อเมริกา ฉันจะไปทำไมเล่า ไม่เคยคิดจะไปเลย จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ให้ต้องตัดสินใจโดยกระทันหัน
" สปันพยายามแย่งอดีตสามีนักร้องคนแรกจากภรรยาดาราหนังชื่อดัง " (ซึ่งฉันก็สนิทสนมกับภรรยาเขา เขาเป็นคนดีมาก เรายังโทรคุยกันอยู่เรื่อยๆ เวลาสามีเขาไม่อยู่ เวลาเขาไปอเมริกา ฉันก็ให้หนิงไปดูแลเขา เพราะสงสารเขา)
หนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่งลงพาดหัวใหญ่มาก พอมีข่าวใหญ่ รุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ต่างๆก็มารุมรอจะสัมภาษณ์ฉัน ฉันรำคาญไม่ยอมลงไปพบ ก็พอดีคุณหมอโทรมาจากอเมริกา ฉันเลยตัดสินใจตอบไปว่า จะไปโดยเร็วที่สุด คุณหมอบอกว่าจะส่งตั๋วมาให้ ด้วยความรำคาญเบื่อหน่ายที่จะอยู่เมืองไทย เพราะลูกก็ไม่อยู่แล้ว เลยหลุดปากไปว่า
" หมอจะแต่งงานกับฉันไหม ถ้ารับปากว่าแต่งจะไปทันที "
คุณหมอเริ่มลังเล ตอบมาว่า รู้จักกันก่อนไม่ดีหรือ เรายังไม่เคยเป็นแฟนกันเลย ฉันก็ตอบไปว่า ฉันจะไปอยู่กับหมอได้อย่างไรถ้ายังไม่แต่งงาน หมอคงสับสนเลยตอบส่งๆว่า
" แต่งก็แต่ง "
ฉันก็เลยยอมลงมาสัมภาษณ์หนังสือพิมพ์
ซึ่งเป็นการตัดบทที่ดีที่สุด หนังสือพิมพ์ก็เลยได้ประโคมข่าวอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้น ฉันก็เขียนจดหมายบอกลูกทั้งสองคน ซึ่งเขาก็ยินดีด้วย ฉันรีบตัดชุดแต่งงานและเอาติดตัวไปด้วย ไม่โหลดลงใต้ท้องเครื่อง เพราะมีประสบการณ์เรื่องกระเป๋าหายบ่อย กว่าจะเจอส่งมาให้ก็เป็นอาทิตย์ ไปถึงอเมริกาปรากฏว่าหายจริงๆ โชคดีที่เอาชุดหิ้วไปกับตัว ไปถึงหมอยังลังเล ฉันไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น พาหมอไปวอชิงตัน ไปจดทะเบียนที่สถานทูต หมอคงคิดว่าวันอาทิตย์สถานทูตปิด หารู้ไม่ว่า ฉันสนิทกับ อานันท์ ปันยารชุน เอกอัครราชทูตตั้งแต่สมัยเรียน ที่อังกฤษด้วยกัน
เขาสั่งให้คนมาเปิดสถานทูตจดทะเบียนสมรสให้ และ ต้องไปทำพิธีแต่งงานอีกที ที่ City Hall New York ที่เราอยู่ มีบาทหลวงมาทำพิธีสาบานตน ตลกมาก วันนั้นมีอีกคู่ที่ไปทำพิธีเป็นญี่ปุ่นแต่งชุดแต่งงานหางยาวหรูหรา ส่วนฉันอยู่ในชุดเสื้อโค้ทกันฝนรุ่มร่ามมาก และลากเอาอดีตนักเรียนของฉันซึ่งไปเปิดร้านอาหารไทย ที่นั่นมาเป็นพยาน
แต่ฉันก็ได้แต่งชุดสวยของฉัน ในการเลี้ยงฉลอง ที่ พลาซ่า โฮเต็ล ที่ใหญ่และมีชื่อเสียงของกรุงนิวยอร์ก ที่เซ็นทรัลพาร์ค
แต่ชีวิตฉันก็ไม่สงบเสียที......ตอนที่แต่งงานที่นิวยอร์ก ก็มีข่าวไม่ดีทางเมืองไทยอีก เกี่ยวกับเรื่องโรงเรียนของฉัน ใจคิดจะชวนหมอกลับมาอยู่เมืองไทย เพราะฉันไม่อยากทิ้งโรงเรียน อยู่ได้หนึ่งเดือนฉันก็ต้องรีบบินกลับมาจัดการปัญหาที่เมืองไทยอีกครั้ง
ร้อยเรียงเรื่องราวจากหนังสือ ชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านิยาย โดย คุณสปัน เธียรประสิทธิ์
โปรดติดตามตอนต่อไป
.
.
|
Author