ppsan
|
|
« on: 28 August 2024, 16:15:25 » |
|
"ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย" ของ สปัน เธียรประสิทธิ์ [7]
Vuttikorn Phavichitr ผู้ดูแล · 21 มีนาคม 2017 ·
ย้อนเรื่องราวชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านิยาย สปัน เธียรประสิทธิ์ ตอนที่ ๗
..
..
พ่อได้ต้อนรับหนุ่มจากอังกฤษ ด้วยความหวังที่จะได้เกี่ยวดองกัน แต่เพียงวันแรกที่ได้เจอกัน ฉันก็หงุดหงิดเสียแล้ว การพูดจาของเขาล้วนแต่เพ้อเจ้อเหมือนเด็ก จะต้องทำยังงั้นยังงี้ งานแต่งงานจะต้องยิ่งใหญ่
วันหนึ่งเพื่อนเก่าของฉันมาเยี่ยม เขาเห็นเข้าก็ทำสายตาเหยียดและรังเกียจที่จะพูดด้วย
"เพื่อนเธอทำไมดูทุเรศอย่างนี้ ขับรถเบนซ์เก่าๆ ถ้าแต่งงานกันแล้วไม่ต้องให้เข้าบ้านเขานะ อายพ่อแม่ ต้องเลิกติดต่ออย่างเด็ดขาด"
วันต่อมา เขากับพี่ชายและพี่สะใภ้มารับฉันออกไปทานข้าว พอรถออกจากประตูบ้าน ก็พอดีรถที่อยู่ข้างบ้านฉันวิ่งออกมา เพราะประตูติดกัน ในรถคือเพื่อนรักที่สุดของฉันคนหนึ่ง เพราะเธออยู่บ้านเดียวกันที่อังกฤษ ฐานะรวยมาก เป็นคนจีน นิสัยดี เขาก็ว่าฉันอีก
"ห้ามคบไอ้เพื่อนพวกนั้นนะ ไอ้พวกเจ๊กพวกจีน อายพ่อแม่พี่น้องเขาตาย แค่ตะโกนทักกัน เขาก็อายพี่ชายจะแย่อยู่แล้ว ทีหลังห้ามทัก"
เขาเป็นคนดูถูกคน ดูถูกทุกคน หาว่าเป็นคนชั้นต่ำไปหมด ยกตัวเองเป็นผู้ดีชั้นสูง เป็นอันว่า ถ้าฉันแต่งงานกับเขา ก็จะไม่มีเพื่อนเลย เพราะคบใครไม่ได้ เขาบอกว่าลูกนายกและลูกคนใหญ่โตที่รู้จักที่อังกฤษทำไมไม่ไปคบหาเขา เรื่องอะไรฉันจะไปหาเขาโดยที่เขาไม่ได้มาหาฉันก่อน
วันหนึ่งฉันยืนอยู่กับเขา ยุงกัดขา ฉันก้มลงไปเกา เขาโกรธมากถลึงตาใส่ฉัน หาว่าฉันทำน่าเกลียด ทุเรศมาก
เขาเป็นคนตาโต เมื่ออยู่อังกฤษ ชอบทำตาโตและง้างมือเหมือนจะบีบคอฉัน เขารู้ว่าฉันกลัวมากแต่เขาสนุกของเขา เขาทำหลอกฉันบ่อยมาก ฉันกลัววิ่งหนีทุกครั้ง ฉันได้แต่ขอร้องไม่ให้เขาทำแบบนี้ แต่เขาก็ยังทำจน ภาพผีของเค้าฝังใจฉัน เมื่อไหร่ฉันนึกถึงภาพเขาก็จะเห็นภาพผีที่น่ากลัว บางครั้งภาพนี้ยังตามไปหลอกหลอนใน เวลาที่ฉันโกรธและไม่พอใจเขา
ฉันอดทนต่อไปไม่ไหว จึงบอกพ่อว่า จะไม่ยอมแต่งงานกับเขา พ่อโกรธมากและยื่นคำขาดให้แต่ง ฉันก็ยืนกรานว่า แต่งไปฉันต้องเป็นบ้าแน่ๆ พ่อไม่ยอมบอกว่าได้ลงทุนซื้อรถแพงหรู ทำเครื่องเพชรราคาแพงให้ ฉันยังทำตัวเหลวไหล ทีพี่สาวฉันมีแฟนอยู่แล้วซึ่งรักกันมากที่อังกฤษ เขายังยอมเสียสละเพื่อพ่อ แต่งงานกับลูกป้าตามที่พ่อต้องการ ฉันเคยทำอะไรเพื่อพ่อบ้างไหม
หลังจากนั้นพ่อก็ไม่ยอมมองหน้าฉันอีกเลยและไม่พูดกับฉัน เหมือนฉันไม่มีตัวตน
ในช่วงนั้นเอง....มีชายคนหนึ่งเป็นนักร้อง เป็นผู้จัดการแผนกอัดเสียงของคุณอา มาหาคุณอาบ่อยๆและมาร้องเพลงให้ฟัง ในขณะที่ฉันได้รับความกดดันอย่างหนัก ได้ฟังเพลงก็สบายใจ และยิ่งกว่านั้นวันหนึ่งฉันนั่งอยู่ ชายนักร้องผู้นี้เดินผ่านเข้ามา ฉันก็ทักเขา ก็โดนถามกลับว่าเป็นใคร ฉันก็บอกว่าทำงานอยู่กับอา เขาก็ว่าฉันว่า ลดตัวไปทักเขาทำไม เขามันคนละชั้นกับฉัน ทีหลังห้ามเด็ดขาด ฉันหมั่นไส้สุดจะทน แต่ละครั้งที่เจอก็มีแต่เรื่องตำหนิห้ามโน่นห้ามนี่ มาวันหนึ่งฉันไปงานวันเกิดเพื่อนไฮโซ นักร้องผู้นี้มาร้องเพลง เขาเจอฉัน เขาพูดว่า
"คุณไม่ละอายใจหรือ ที่ใส่ชุดหรูหราราคาเท่ากับซื้อควายให้ชาวนาได้ 1 ตัว คุณชื่นชม มีความสุขกับชีวิตแบบนี้หรือ ในขณะที่หลายคนไม่มีจะกิน"
คำพูดนี้กินใจฉันมาก ทำให้ฉันประทับใจเขาเป็นคนมีอุดมคติดีนอกจากจะร้องเพลงดี
ระหว่างที่ฉันเบื่อที่บ้าน และจะต้องแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ประทับใจเลย ฉันจึงตัดสินใจไปกับเขา โดยจะไปใช้ชีวิตอยู่เชียงใหม่ ไม่อยากกลับมากรุงเทพฯ ไม่ต้องการเจอใคร ต้องการตัดตัวเองไปให้พ้นจากพ่อแม่และสังคม ที่ไม่เคยให้ความสุขกับฉัน
ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจที่ผิดอย่างมหันต์
ร้อยเรียงเรื่องราวจากหนังสือ ชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านิยายโดย คุณสปัน เธียรประสิทธิ์
โปรดติดตามตอนต่อไป
.
.
|