Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
23 December 2024, 03:50:35

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618 Posts in 12,929 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  เรื่องราวน่าอ่าน  |  หนังสือดี ที่น่าอ่านยิ่ง  |  "ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย" ของ สปัน เธียรประสิทธิ์ [2]
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: "ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย" ของ สปัน เธียรประสิทธิ์ [2]  (Read 419 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« on: 27 August 2024, 16:30:56 »

"ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย" ของ สปัน เธียรประสิทธิ์ [2]


Vuttikorn Phavichitr
ผู้ดูแล  · 15 มีนาคม 2017  ·

ย้อนเรื่องราวชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านิยาย
สปัน เธียรประสิทธิ์ ตอนที่ ๒

..



..


ฉันยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่า คุณย่ากับคุณยายฉันเป็นพี่น้องกัน มีแม่นมคนเดียวกัน นอนตักแม่นมกันคนละข้าง แต่ภายหลังคุณย่ากับคุณยายไม่ถูกกัน เนื่องจาก คุณยายได้เป็นคุณหญิง เป็นภรรยาเจ้าคุณ ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 6 แต่งงานให้ แต่ย่าผู้เป็นพี่แต่งงานกับพ่อค้า คุณยายไม่เคยมาเยี่ยมคุณย่า คุณย่าตัดขาดไม่นับพี่น้อง ฉะนั้น คุณพ่อของฉันจึงไม่ใช่คนอื่นไกล เป็นลูกพี่ลูกน้องกับคุณป้านั่นเอง เมื่อผู้ใหญ่ทราบว่าคุณพ่อกับคุณแม่ฉันรักกัน คุณย่าเกลียดแม่ฉันมาก เพราะแม่ไม่ยอมลงให้ พยายามจับแยก คุณย่าไปเชียร์ผู้หญิงคนใหม่ให้พ่อ แม่ยิ่งแค้นมาก วันหนึ่งแม่บังเอิญไปเจอคุณย่าที่สำเพ็ง จึงแกล้งชนคุณย่าจนตกฟุตบาท (เรื่องนี้คุณย่าเล่าให้ฟังแล้วฟังเล่า จนฉันติดหู)

เมื่อเป็นญาติกัน คุณป้าจึงสงสาร ได้ติดต่อให้พ่อมารู้จักมาเจอลูก ฉันจำพ่อไม่ค่อยได้แต่ก็ดีใจมากที่มีพ่อ      พ่อพาไปซื้อของที่ห้างไวท์เวย์ คนชั้นสูงและรวยเท่านั้นถึงจะเข้าได้ เพราะแพงมาก คุณพ่อซื้อตุ๊กตาลืมตาหลับตาได้ให้ฉัน ซื้อเปียโนอันเล็กๆแต่กดเป็นเพลงได้ให้พี่ใหญ่

ครั้นพอปิดเทอมคุณป้าก็มารับฉันไปอยู่ที่บ้านตามปกติ แต่ต่อมาภายหลังเกิดเหตุการณ์ซึ่งทำให้ฉันกลายเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง ดังจะเล่าต่อไปนี้

คุณพ่อได้ติดต่อคุณป้ามาขอรับลูกไปเที่ยวทะเล ฉันดีใจจนนอนไม่หลับ ด้วยความที่ฉันเป็นเด็กหน้าตาน่ารัก พ่อจึงเอ็นดูเป็นพิเศษ เอาฉันไปนอนด้วย  ฉันรู้สึกอบอุ่นมากเมื่อมาอยู่ใกล้พ่อเพราะชีวิตนี้อาจจะมีโอกาสครั้งนี้แค่ครั้งเดียว การไปเที่ยวทะเลครั้งนี้สนุกมาก จนสุดท้ายก่อนกลับญาติผู้น้องมาแกล้งฉัน ล้อฉันว่า "ไอ้หน้าซาลาเปา" ฉันโมโหเอาไม้ไล่ตี เขากระโดดขึ้นโต๊ะ ฉันกระโดดตาม แต่พลาดตกลงมา หน้าตาปูดบวมปากเจ่อเป็นครุฑ

ใครจะนึกว่า......อุบัติเหตุของฉันครั้งนี้ เป็นสาเหตุให้แม่ฉันเอามาว่าพ่อและห้ามไม่ให้มายุ่งเกี่ยวอีก

เราเดินทางกลับ ความสนุกยังค้างอยู่ในใจ แต่ยังไม่ทันตั้งตัวก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทันทีที่รถคุณพ่อวิ่งเข้าบ้านคุณป้า เสียงนั้นเหมือนฟ้าถล่ม

"เอาลูกชั้นไปทำไม ใครให้เอาไป"

ฉันตกใจมากรีบลงจากรถ เมื่อแม่เห็นหน้าตาที่ปูดบวมของฉัน ก็ยิ่งโกรธ

"เอาลูกชั้นไป แล้วหน้าตาแบบนี้กลับมาเหรอ  ทีหลังอย่ามายุ่งกับลูกชั้นอีก"

คุณป้าก็พลอยฟ้าพลอยฝนโดนไปด้วย แม่หันไปบอกว่า

"ตั้งแต่นี้ไปไม่ต้องไปรับหลานอีก ตัดขาดจากการเป็นพี่น้องกันตั้งแต่วันนี้"

นับตั้งแต่นั้นจนกระทั่งตายจากกัน แม่กับคุณป้าก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย กรรมนั้นมาตกที่ฉัน ฉันต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า หยุดสั้นยาวไม่เคยมีใครมารับ ได้แต่ยืนกอดเสาร้องไห้ มองดูคนอื่นเขากลับบ้านกัน

ชีวิตที่โรงเรียนวัฒนานี้อาภัพที่สุด เหมือนเด็กอนาถา ตอนบ่ายเพื่อนๆเข้าแถวรับขนมที่ผู้ปกครองฝากไว้ให้ แต่ฉันไม่มี ต้องไปแอบหลังต้นไม้ ฉันอายเขา ไม่อยากมอง เพราะเขาจะว่าอยากกินของเขา

วันคริสมาสต์พ่อแม่ทุกคนจะเอาอาหาร ขนม  ชุดสวยๆมาแต่งให้ลูกเพื่อประกวดแฟนซี ฉันได้แต่นั่งดู สมเพชตัวเอง เราไม่มีจะแต่ง มันน่าอายมากในความคิดของเด็ก  มีฉันคนเดียวที่แต่งชุดนักเรียน บังเอิญเห็นเด็กคนหนึ่งไม่ชอบโจงกระเบนที่แม่เขาเตรียมมาให้และเตะทิ้ง แม่เขาหาตัวใหม่มาเปลี่ยนให้ ฉันทนแบกหน้าไปขอยืมแม่เขา เพราะเขาไม่ใส่แล้ว แม่เขาก็ให้ ฉันดีใจมาก แม้จะต้องใส่เสื้อนักเรียนกับโจงกระเบน  ก็ยังดีกว่าไม่แต่งเลย

ปิดเทอมทุกคนกลับบ้านกันหมด ฉันเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้ง พี่ใหญ่นั้นไม่ค่อยได้เจอเพราะอยู่กันคนละฝั่ง ฉันเคยเห็นเขาไกลๆขึ้นรถไปกับคุณป้า เขาไม่เคยคิดถึงฉันเลย ฉันร้องไห้จนไม่มีน้ำตา คิดในใจเสมอว่า

"ทำไมแม่ต้องเอาฉันมาเข้าโรงเรียนเศรษฐี"
 
มันสร้างปมด้อยและกดดันฉันมาก เรียนก็ไม่รู้เรื่อง  สอบก็ตก

ฉันอยากจะเตือนพ่อแม่ทุกคนว่า ถ้าเราไม่พร้อมที่จะให้ลูกทัดเทียมคนอื่น ก็อย่าเอามาเข้าโรงเรียนที่มีแต่คนรวย ลูกจะมีปมด้อยเมื่อลูกไม่มีเหมือนเขา

ร้อยเรียงเรื่องราวจากหนังสืชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านิยายโดย คุณ สปัน เธียรประสิทธิ์

โปรดติดตามตอนต่อไป

.



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.05 seconds with 21 queries.