ppsan
|
|
« Reply #1 on: 26 January 2024, 10:24:28 » |
|
"พระแก้วมรกต" เคยเป็นของรัสเซีย ? (ต่อ)
...เมื่อประมาณ 100 กว่าปีที่ผ่านมา ในสมัยรัชกาลที่ 5 ประเทศไทยอยู่ในช่วงที่ เราต้องเผชิญหน้ากับประเทศมหาอำนาจตะวันตก ที่เข้ามาเพื่อแสวงหาดินแดนตามลัทธิจักรวรรดินิยม หรือเรียกง่าย ๆ ว่า "ล่าเมืองขึ้น" นั่นเอง
ในเวลานั้น ประเทศเพื่อนบ้านรอบเรา ต่างล้วนตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น พม่า ก็ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ลาว กัมพูชาก็ล้วนเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส
สำหรับประเทศไทยเรา ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นจากปัญหานี้นะครับ ชาติตะวันตกโดยเฉพาะอังกฤษและฝรั่งเศส นี่ตัวดีเลยหล่ะ พยายามใช้ทุกวิถีทางที่จะเอาสยามประเทศไปเป็นอาณานิคมให้ได้ เราเองต้องใช้ทุกวิถีทางเช่นกันที่จะเอาตัวให้รอดจากการตกเป็นอาณานิคมตะวันตกให้ได้เช่นกัน
โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 5 ถือว่าเป็นช่วงที่สยามประเทศต้องเผชิญกับปัญหานี้ รุนแรงที่สุด พระมหากษัตริย์และผู้นำประเทศเวลานั้น ต้องใช้ทุกวิธีการและทุกวิถีทางในอันที่จะพาประเทศให้รอดพ้น
ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ว่า ครั้งหนึ่ง..พระแก้วมรกต..เคยตกเป็นของรัสเซีย ?!?
เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ.
ช่วงเวลานั้น รัสเซียยังปกครองในระบอบพระมหากษัตริย์ นิโคลัส (คนไทยสมัยนั้นเรียกท่านว่า ซาเรวิช) มกุฎราชกุมารแห่งรัสเซีย ซึ่งต่อมาพระองค์ได้ขึ้นเป็น พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์โรมานอฟและของรัสเซีย
พระองค์ทรงเป็นพระสหายกับรัชกาลที่ 5 ที่ได้ทรงทูลเชิญเสด็จมาสยามประเทศ และได้ต้อนรับพระองค์อย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ
ในการสนทนากันคราวหนึ่ง รัชกาลที่ 5 ได้มีพระราชดำรัสกับมงกุฏราชกุมารนิโคลัสว่า หากรัสเซียต้องการสิ่งใดในราชอาณาจักรสยาม ทางสยามประเทศก็ยินดีที่จะถวายให้ มกุฎราชกุมารนิโคลัสได้ยินดังนั้น จึงทูลขอพระแก้วมรกตจากรัชกาลที่ 5 !!!
ซึ่งรัชกาลที่ 5 ได้ฟังแล้วก็นิ่งไปพักหนึ่ง หลังจากนั้นจึงกล่าวพระราชทานยกพระแก้วมรกตให้ ทำให้มกุฎราชกุมารนิโคลัสทรงยินดีและประทับใจเป็นอย่างยิ่ง จึงได้กล่าวตอบว่า หากสยามประเทศต้องการสิ่งใด ทางรัสเซียก็ยินดีจะช่วยเหลือ
รัชกาลที่ 5 จึงทรงกล่าวทันทีว่า ถ้าอย่างนั้น ขอพระแก้วมรกตคืนสู่สยาม
ทำให้มกุฎราชกุมารนิโคลัสทรงเลื่อมใสในพระปรีชาของรัชกาลที่ 5 เป็นอย่างยิ่ง และยิ่งทำให้ทั้งสองพระองค์มีความสนิทสนมแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 นั้น สยามประเทศยังปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ซึ่งถือว่า คำพูดหรือพระราชดำรัสของกษัตริย์นั้น เป็นกฎหมาย และคำว่ากษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ถือได้ว่า พระแก้วมรกต เคยเป็นตกเป็นของรัสเซียนั่นเอง !!! (แม้จะเพียง ชั่วกระพริบตา หรือ เพียงชั่วฝ่ามือเดียว ไม่กี่ วินาที เองครับ 555 ..)
.
เมื่อครั้งที่รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสยุโรป ก็ได้เสด็จไปเยือนรัสเซีย พระเจ้าซาร์นิโคลัส โปรดให้ฉายพระรูปของพระองค์กับรัชกาลที่ 5 ที่นั่งเคียงคู่กัน เฉกเช่นประเทศที่มีเกียรติเสมอกัน พร้อมด้วยพระราชดำรัสที่ว่า "สยามเป็นมิตรแห่งเรา ใครคิดเป็นศัตรูก็เท่ากับเป็นศัตรูกับเราเช่นกัน"
.
ภาพนี้จึงมีเบื้องหลังที่น่าศึกษา และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งในหลายๆ สาเหตุ ที่ทำให้ประเทศไทยของเรา สามารถรักษาและดำรงเอกราชของประเทศ เป็นหนึ่ง ในไม่กี่ประเทศในโลกที่ไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของมหาอำนาจตะวันตก มาได้ จวบจนทุกวันนี้ .. เหตุการณ์นี้ ไม่ได้มาเพราะ ความบังเอิญ หรือ โชคช่วย แต่เป็นความพยายามของบรรพบุรุษทุกๆ ท่าน และเพราะ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทย
.
|