Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
17 November 2024, 11:41:10

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,443 Posts in 12,838 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  [36] ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์ ตอนที่ 36 พระรามรบกับรามสูร
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: [36] ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์ ตอนที่ 36 พระรามรบกับรามสูร  (Read 295 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,284


View Profile
« on: 14 October 2023, 20:05:48 »

[36] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน พระรามรบกับรามสูร โดย กลม บางบาน


ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์ ตอนที่ 36 พระรามรบกับรามสูร

.


หลังจากพิธีอภิเษกสมรสพระรามกับนางสีดาแล้ว พระรามได้พานางสีดากลับไปยังเมืองอโยธยา แม้ว่าท้าวชนกจะอยากให้พระรามอยู่ปกครองเมืองมิถิลามากแค่ไหน แต่ด้วยความเกรงใจท้าวทศรถ ท้าวชนกจึงยินยอมให้พระรามกลับไปยังเมืองอโยธยา

ระหว่างเดินทาง ได้เกิดเหตุอัศจรรย์บางอย่างในกองทัพของท้าวทศรถและพระราม เกิดเรื่องประหลาดคือ มีนกกระเต็นบินมาจิกธงชัยซึ่งเป็นธงประจำกองทัพ และบินผ่านด้านขวาเข้าป่าไป ทำให้ท้าวทศรถแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมนกจึงมาจิกธงชัยได้ น่าจะเป็นลางบอกเหตุอะไรสักอย่างแน่ๆ จึงเรียกให้โหรหลวงมา โหรได้ทำนายว่า จะเกิดการสู้รบกับใครคนหนึ่งตามทางแต่จะชนะศัตรู กองทัพก็เดินทางต่อไป

ขณะมาตามทางนั้น มีอสูรตนหนึ่ง เป็นอสูรที่ยิ่งใหญ่คือ รามสูร (ที่วิ่งไล่นางมณีเมขลา และจับพระอรชุนฟาดเข้ากับเขาพระสุเมรุ จนเอียงทรุด) ซึ่งใช้ชีวิตต่อมาที่บนสวรรค์ เป็นยักษ์ที่หยิ่งทนงตน แม้แต่เทวดานางฟ้ายังเกรงกลัว

วันนี้รามสูรได้เหาะลงมาบนพื้นดิน เพื่อเที่ยวชมป่า ได้มาพบเห็นกองทัพของท้าวทศรถที่ยิ่งใหญ่อลังการ์  จึงเกิดความไม่พอใจ เหาะลงไปยืนขวางหน้ากองทัพไว้ นายทหารกองหน้าจึงตวาดออกไปว่า

...แกเป็นใคร จึงบังอาจมาขวางทางกองทัพที่ยิ่งใหญ่ของท้าวทศรถแห่งกรุงอโยธยา จงรีบไสหัวหลีกไปซะ...

รามสูรได้ฟังดังนั้น ก็โกรธ ตะคอกกลับไปว่า...

...ใครกันยิ่งใหญ่ แกพูดอีกครั้งซิว่าใครเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เจ้ารู้ไหมว่าข้านี่แหละยิ่งใหญ่ที่สุด ข้าชื่อว่ารามสูร เป็นอสูรผู้ยิ่งใหญ่ทั้งบนฟ้าและสวรรค์...

เหล่าบรรดาทหารจึงชี้แจงว่า เป็นกองทัพของท้าวทศรถแห่งกรุงอโยธยาผู้ยิ่งใหญ่ เสด็จกลับจากงานอภิเษกสมรสของพระรามพระราชโอรสของพระองค์กับนางสีดา แกจะมาหาเรื่องแบบนี้ไม่ได้ ให้หลีกทางไปเสีย

พอได้ยินดังนั้น รามสูรโกรธมากกว่าเดิม และที่โกรธนั้น ไม่ใช่แค่คำว่า ยิ่งใหญ่ เท่านั้น แต่รามสูรโกรธเพราะได้ยินชื่อพระราม จึงใช้อาวุธฟาดฟันบุกเข้าไปในกองทัพจนถึงหน้ารถของพระราม แล้วชี้หน้าด่าพระราม

...แกใช่ไหมที่ชื่อพระราม ใจกล้ามาก แกกล้าดียังไงมาใช้ชื่อพระราม มาคล้องกับชื่อของข้า เพราะข้าชื่อรามสูร เป็นอสูรผู้ยิ่งใหญ่ แล้วนี่เมียแกใช่ไหม สวยดีนะ...
 
รามสูรเห็นนางสีดามีรูปโฉมงดงาม จึงอยากได้มาเป็นเมียของตน 

...เดี๋ยวข้าจะปราบแกให้สิ้นชื่อรามเลยทีเดียว แล้วก็จะเอาเมียแกมาเป็นเมียข้าแทน...

(การที่มีชื่อซ้ำกันหรือคล้ายใกล้เคียงกันนั้น ในสมัยโบราณถือเป็นเรื่องใหญ่ เป็นการตีตัวเสมอท่าน เพราะผู้ใหญ่บางคน เขาก็ไม่ชอบให้ใครมามีชื่อซ้ำกับตัวเอง เพราะรู้สึกว่า ข้าต้องเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น)

พระรามเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็โกรธมาก จึงหันไปตวาดรามสูรว่า

...แกเป็นอสูรที่ไหน กล้าดียังไงมาอาละวาดหาเรื่องตรงนี้ แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ฉันเป็นพระนารายณ์อวตารนะเฟ้ยเจ้ายักษ์เหม็น...

รามสูรได้ยินแล้วก็ไม่เชื่อ

...ห๊ะ พระนารยณ์อวตารรึ อภิโธ่ ก็เป็นมนุษย์อยู่กันเห็นๆนี่นะ ยังจะมาปากดีโม้อย่างกับสมรักษ์แน่ะ...

...เจ้ารู้ไหม ข้านี่แหละ รามสูร ตัวจริงเสียงจริง ตัวเป็นๆเลย ข้าเป็นอสูรผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยปราบแม้กระทั่งพระอรชุนมาแล้วเว้ย เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวเห็นดีกัน...

จากนั้นจึงเกิดการสู้รบระหว่างพระรามกับรามสูร

เริ่มจากรามสูรแกว่งขวานสำแดงฤทธิ์ ทำให้เกิดควันปิดดวงอาทิตย์ และมองไม่เห็นตัวรามสูร พระรามจึงแผลงศรรามจันทร์ออกไปทำให้เกิดแสงสว่างและแลเห็นตัวรามสูร

ครั้นแล้วรามสูรก็แผลงศรของตนไปยังพระราม แต่ศรนั้นยังไม่เข้าประชิดถึงตัวพระราม พระรามจึงแผลงศรอัคนิวาตออกไป กลายเป็นจักรแก้ว ทำลายศรของรามสูร

สุดท้ายรามสูร จึงเอาขวานของตนขว้างออกไปเพื่อไล่ศรอัคนิวาต พระรามเห็นดังนั้นจึงแผลงศรพลายวาทออกไปทำลายล้างขวานรามสูร

รามสูรพยายามฉุดกระชากลากรถของพระราม พระรามก็กระโดดลงมาสู้กับรามสูรต่อ ใช้คันธนูไล่ฟาดรามสูรจนเจ็บช้ำไปทั้งร่างกาย ล้มลงและพ่ายแพ้อย่างสู้ไม่ได้ ในขณะที่รามสูรกำลังอดสูกับตัวเองอยู่นั้น ก็ก้มหน้ารำพึงรำพันว่า

...ข้าเป็นอสูรผู้ยิ่งใหญ่ รบชนะมาแล้วทุกทิศ แม้แต่พระอรชุนผู้ยิ่งใหญ่ข้าก็ชนะมาแล้ว แต่ข้าต้องมาพ่ายแพ้แก่มนุษย์อ่อนแอ ตัวเล็กนิดเดียวแบบนี้ด้วย ไม่! ไม่! ไม่จริ๊งงง...

แล้วเงยหน้าขึ้นมามองพระราม ปรากฎว่าภาพที่เห็นนั้น ไม่ใช่มนุษย์ 2 มือธรรมดา แต่กลับเห็นพระรามมี 4 กร ถือสังข์ จักร และคฑาเพชรเป็นเงาพระนารายณ์ซ้อนอยู่ รามสูรตกใจสุดขีด ร้องดังออกมา

...โอ้ พระนารายณ์จริงๆ นี่พระนารายณ์อวตารชัดๆ... โธ่เอ๋ย ข้ากำลังสู้กับใครอยู่นี่... ก็เลยรีบร้องขอโทษขออภัยต่อพระราม

...ข้าแต่พระเป็นเจ้า ข้าผิดไปแล้ว ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว...

เมื่อพระรามเห็นว่า รามสูรขอโทษ และกลับตัวกลับใจแล้ว ก็เลยยกโทษให้รามสูร

รามสูร จึงถวายคันศรของตัวเองให้แก่พระรามไป แล้วบอกว่า

...คันศรนี้ เป็นคันศรวิเศษที่ปู่ของข้าได้มาจากพระอิศวร ท่านจงเก็บไว้ใช้เถอะ... แล้วรามสูรก็แยกตัวจากไป

เมื่อพระรามได้คันศรของรามสูรมา แต่เห็นว่าพระองค์ก็มีคันศรอยู่แล้ว จึงฝากคันศรของรามสูรไว้กับพระพิรุณ เทพแห่งฝนฟ้า จากนั้นก็โยนคันศรขึ้นฟ้า พระพิรุณก็รับเก็บไว้ให้พระรามไปใช้ในโอกาสต่อไป

.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,284


View Profile
« Reply #1 on: 14 October 2023, 20:06:30 »


พระรามต่อสู้กับรามสูร


.

พระรามต่อสู้กับรามสูร และรามสูรถวายศรพระราม


.

รามสูร


.

พระรามสู้กับรามสูร


.

รามสูรถวายศรพระราม


.

พระรามฝากศรนี้ไว้กับพระพิรุณ


.


เมขลาและรามสูร


.



« Last Edit: 06 June 2024, 20:57:30 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,284


View Profile
« Reply #2 on: 06 June 2024, 21:02:02 »



พระรามรามสูร


.

พระรามต่อสู้กับรามสูร และรามสูรถวายศรพระราม


.

พระรามแผลงศรสังหารพญาขร


พระรามใช้ธนูรามสูรต่อสู้ขร


.



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.078 seconds with 24 queries.