Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
05 October 2024, 12:44:40

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,283 Posts in 12,754 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  [26] ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์ ตอนที่ 26 ฤๅษีกไลโกฏ
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: [26] ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์ ตอนที่ 26 ฤๅษีกไลโกฏ  (Read 100 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,131


View Profile
« on: 01 October 2023, 20:40:21 »

[26] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ฤๅษีกไลโกฏ โดย กลม บางบาน


ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์ ตอนที่ 26 ฤๅษีกไลโกฏ

.


กล่าวถึงเมืองโรมพัตตัน ท้าวโรมพัต ผู้ครองเมืองกลุ้มพระทัยอยู่นาน 3 ปีแล้ว เพราะฝนแล้ง ทำให้ราษฎร อดอยากไปทั่ว บวงสรวงเทวดาก็ไม่ได้ผล ตั้งพิธีขอฝน นานถึง 7 เดือน 7 วัน ก็ไร้วี่แวว

แล้วมีนายพรานป่าคนหนึ่งผู้รู้สาเหตุ มาขอเข้าเฝ้า แล้วทูลว่า

...สาเหตุที่เกิดฝนแล้งนาน 3 ปีติดต่อกันนี้ ก็เพราะว่าพระฤๅษีตนหนึ่งชือ ฤๅษีกไลโกฎ ได้บำเพ็ญตบะแรงกล้าเป็นนิจ จึงบันดาลให้ดินฟ้าอากาศแห้งแล้งในแมืองนี้...

ท้าวโรมพัตจึงรู้สาเหตุที่ฝนฟ้าแห้งแล้งไม่ตกต้องตามฤดูกาล จึงจำเป็นจะต้องแก้ไข โดยหาวิธีที่จะให้ฤๅษีกไลโกฎ ออกจากฌาณสมาธิ เลิกบำเพ็ญตบะ พระองค์จึงเลือกใช้วิธีที่พระอินทร์ใช้ประจำ เวลาอยากก่อกวนตบะพระฤๅษี พระองค์จึงโปรดให้นางอรุณวดี ราชธิดาโฉมงาม ร่างอรชรอ้อนแอ้น ออกไปที่ป่าหิมพานต์ ไปยั่วยวนทำลายตะบะพระฤาษีกไลโกฎ

พระฤๅษีกไลโกฎหรือพระฤๅษีหน้าเนื้อ เพราะท่านมีหน้าเป็นเนื้อหรือกวาง ด้วยว่ามีมารดาเป็นนางกวาง พ่อเป็นพระฤๅษี ด้วยความที่ถือเพศเป็นฤาษีมาช้านาน ไม่เคยเห็นสตรีเพศ ประกอบกับบิดาเคยสั่งห้ามมิให้แตะต้องสัตว์ซึ่งมีเขาที่หน้าอก

ครั้นเมื่อนางอรุณวดี เดินเข้าไปในอาศรม ในสภาพเปลือยเปล่าครึ่งท่อน ด้วยความที่ไม่เคยเห็นสตรีเพศมาก่อน ฤๅษีกไลโกฎก็ถึงกับงุนงง ฉงนใจว่า นางเป็นสัตว์ประเภทอะไรกันแน่ เพราะตั้งแต่เกิดมาพระฤๅษีก็ไม่เคยเห็นมนุษย์ผู้หญิงสตรีเพศ ด้วยพ่อนั้นเป็นพระฤๅษีผู้ชายแบบตน ส่วนแม่เป็นนางกวาง (ไม่ใช่มนุษย์ผู้หญิง) ดังกล่าวมาแล้ว จึงกล่าวถามไปว่า

...ทำไมหน้าตาเจ้าช่างประหลาด ผิดกับสัตว์ตัวอื่นอย่างนี้ ข้าอยู่ในป่าก็เคยเห็นแต่เก้งกวาง สมัน และแรต แต่เขามันงอกที่บนหัว แต่ทำไมของเจ้านี่ช่างประหลาดเสียจริง เขาอะไรมางอกอยู่ที่หน้าอก ช่างประหลาดแท้...

...เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่ เล่าให้ฟังหน่อยซิ เจ้าน่ะพูดได้หรือเปล่า...

.
(บทกลอน)
       เมื่อนั้น                    พระกไลโกฎฤๅษี
ไม่เคยเห็นรูปสตรี       มีความสงสัยก็พิศดู
เห็นเขาติดอกครัดเคร่ง       ดั่งปทุมตูมเต่งทั้งคู่
สัตว์นี้เป็นไฉนจึงไม่รู้       จะเป็นหมู่เดียรฉานนามใด

ตริแล้วจึ่งกล่าววาที       เอ็งนี้เป็นสัตว์จำพวกไหน
จึงมีเขาที่อกกูหลากใจ       ไม่เคยพบเห็นแต่ก่อนมา
.


เมื่อเห็นได้ที นางอรุณวดี จึงทำหน้าเศร้าตีสนิท บอกไปว่า

...พระฤๅษีเจ้าคะ ข้าเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าสัตว์อื่นๆน่ะ เขามันก็อยู่บนหัว แล้วก็เป็นเขาแข็งๆ จับไปมันก็แข็ง แต่เขาของข้า ไม่รู้ทำไมเหมือนกันจึงงอกตรงหน้าอก และที่สำคัญมันนิ่มด้วยนะ ข้าก็เลยมาหาพระฤๅษีวันนี้แหละ อยากให้ตรวจดูให้หน่อยว่าข้าเป็นอะไร ผิดปกติหรือเปล่า...

.
(บทกลอน)
        เมื่อนั้น                          นางอรุณวดีเสน่หา
ได้ฟังจึ่งตอบพระสิทธา                เขาข้านี้น่าอัศจรรย์      
ไม่งอกในเศียรเหมือนฝูงสัตว์    มาพลัดขึ้นที่อกเหมือนแกล้งปั้น    
เต่งตั่งดังดวงบุษบัน       อ่อนละม้ายคล้ายกันกับสำลี

พระองค์ผู้ทรงตบะญาณ       ขอประทานโปรดเกล้าเกศี
พิเคราะห์ดูให้รู้ว่าร้ายดี       ข้าเป็นดั่งนี้ด้วยอันใด
ว่าพลางทางเข้าปรนนิบัติ              สัมผัสทำนวดเฟ้นให้
ด้วยกลมารยาพิราใน                   แกล้งยั่วยวนใจพระมุนี
.

ว่าพลางนางก็แนบกายเข้าประชิดแล้วแสร้งนวดเฟ้นด้วยอากัปกริยายวนยั่ว แม้นว่าพระกไลโกฏฤๅษี จะเป็นผู้ทรงศีลมีฌานสมบัติแก่กล้า แต่หาได้เป็นพระอิฐพระปูนแต่อย่างใด ทั้งตบะทั้งใจของฤๅษีเป็นอันกระเจิดกระเจิงแตกแยกย่อย จึงพลาดท่าเสียทีให้กับนางอรุณวดี

พระฤๅษีไม่รู้เล่ห์กลอุบาย ก็เลยจับเขาของนาง (นม) เพราะลืมคำสอนของพ่อที่สั่งเอาไว้ก่อนตายจากไปว่า

...สัตว์อะไรก็ตาม ที่เขาอยู่บนหัว ไม่เป็นไร ไม่ต้องไประวังมัน แต่ถ้าสัตว์อะไรที่เขาอยู่บนหน้าอก ให้ระวังมันไว้ให้ดี มันจะทำลายตบะของเจ้า...

.
(บทกลอน)
        เมื่อนั้น                          พระกไลโกฎฤๅษี
ไม่รู้ในกลสตรี                          ลืมที่คำสั่งพระบิดร
เข้าประคองต้องเต้าสุมณฑา    กายาแนบเนื้อดวงสมร
ให้เกิดประดิพัทธ์อาวรณ์     ถึงไม่มีผู้สอนก็เป็นไป

เชยแก้มแนมเนตรเกศวรรณ          เกษมสันต์ในความพิสมัย
ภุมรินบินเคล้าสุมาลัย                 แทรกไซ้เกสรปทุมมาลย์
เชยซาบอาบสร้อยเสาวรส            สุบงกชคลี่กลีบหอมหวาน
ร่วมภิรมย์สมสุขสำราญ               ในสถานศาลาอารญ ฯ
     
ก็เสียตบะกิจพิธีกรรม์            พลาหกครื้นครั่นคะนองฝน
ฟ้าเปรี้ยงเสียงสนั่นอึงอล             ตกจนนองพื้นพสุธา ฯ

.

พอจับเขาของนางแล้ว ธรรมชาติก็ทำหน้าที่ของมัน พระฤๅษีเกิดกระสันซ่านเสียว ราคะจริตกำเริบฤทธิ์ทุกขุมขน จนสูญเสียพรหมจรรย์ ตบะที่บำเพ็ญมาจึงหมดสิ้น ซึ่งส่งผลให้ฟ้าฝนเป็นใจ ฝนที่อั้นมานานจึงตกโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า เนืองนองทั้งแผ่นดิน...ฝนเอย ฝนตก คางคกร่าเริงกันไปทั่วทั้งเมืองโรมพัตตัน...
 
พอเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นแล้ว นางอรุณวดีก็เลยบอกพระฤๅษีว่า

...พระฤๅษีเพคะ จริงๆแล้วฉันไม่ใช่สัตว์อะไรหรอกเพคะ ฉันเป็นมนุษย์เจ้าค่ะ เป็นธิดาของเจ้าเมืองโรมพัตตันที่อยู่ริมป่านี่แหละค่ะ แต่ที่ท่านนั่งบำเพ็ญตบะสมาธิแก่กล้า จนฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ทำให้ชาวบ้าน ชาวไร่ชาวนาเดือดร้อนอดอยาก พ่อก็เลยบอกว่าให้ทำยังไงก็ได้ให้ท่านออกจากฌาณสมาธิ...

...ตอนนี้ฉันจึงอยากเชิญท่านให้เข้าไปอยู่ในเมืองด้วยกัน ไม่ต้องอยู่ป่าแล้วละ เพราะไหนๆเราก็เป็นผัวเมียกันแล้ว...

พระฤๅษีเอง ก็ยังงงๆอยู่ แต่สุดท้ายก็เลยคิดว่า ถ้าจะอยู่ในป่านั่งฌาณสมาธิต่อ ก็ยังติดใจในกามรสจึงยอมเข้าไป อยู่ในเมืองกับนางอรุณวดีด้วยกัน   

.
   เมื่อนั้น       พระกไลยโกฏิอาจารย์ใหญ่
ฟังนางหวลทุกข์ฉุกใจ             ก็คิดได้ถึงคำบิดา
เอะกูผิดแล้วครั้งนี้       มาร่วมรสฤดีเสน่หา
ให้เสียดายตบะกิจวิทยา       อนิจจาจะทำประการใด

ครั้นจักละนางอยู่สร้างพรต    เสียดายรสที่ร่วมพิสมัย
จำกูจะตั้งหน้าไป       จะเป็นกระไรก็ตามที
คิดแล้วจึงตอบวาจา                ซึ่งจะพาเราไปบูรีศรี
สุดแต่สีกาจะปราณี                 รูปนี้มิให้อนาทรฯ
.

เมื่อเข้ามาอยู่ในวังแล้ว พระกไลโกฏฤๅษีมัวแต่ลุ่มหลงในความภิรมย์สมสุขกับนางอรุณวดี วัตรปฏิบัติที่ผู้เป็นมหามุนีพึงกระทำจึงงดเสียหมดสิ้น

.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,131


View Profile
« Reply #1 on: 01 October 2023, 20:41:47 »


พระกไลโกฏฤๅษี






นางอรุณวดี








.

นางอรุณวดี ยั่วยวนพระฤๅษีกไลโกฎ




.



« Last Edit: 06 June 2024, 10:26:43 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,131


View Profile
« Reply #2 on: 06 June 2024, 10:27:56 »













Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.094 seconds with 23 queries.