|
ppsan
|
 |
« on: 15 September 2023, 16:47:37 » |
|
[11] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน สุครีพอาสายกเขาพระสุเมรุ พาลีลอบรักนางดารา โดย กลม บางบาน
ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์
ตอนที่ 11 สุครีพอาสายกเขาพระสุเมรุ พาลีลอบรักนางดารา
หลังจากรามสูรจับอรชุนเทพบุตรฟาดเข้ากับเหลี่ยมเขาพระสุเมรุจนถึงแก่ความตาย ทำให้เขาพระสุเมรุทรุดเอียงลงไปไม่ตั้งตรงเหมือนเก่า เดือดร้อนถึงพระอิศวร มีบัญชาให้เกณฑ์เหล่าเทวดา ฤๅษี ครุฑ และเหล่านาค มาช่วยกันฉุดชะลอให้เขาพระสุเมรุตั้งตรงให้ได้ดังเดิม ส่วนรามสูรนั้นมิได้สนใจใยดีแต่อย่างใด กลับไปสำเริงสำราญอยู่ในวิมานกลีบเมฆของตนเอง
ในการชะลอเขาพระสุเมรุครั้งนี้ พระอิศวรมีรับสั่งให้สองพญาวานร คือกากาศ (พาลี) และสุครีพ มาช่วยชะลอยกเขาพระสุเมรุร่วมกับเหล่าเทวดาด้วย ในการชะลอเขาพระสุเมรุในครั้งนี้มีแผนว่า จะใช้พญานาคพันเขาพระสุเมรุไว้แล้วให้เหล่าเทวดา พญาครุฑและผู้มีฤทธิ์กำลังทั้งหลายช่วยกันฉุดลากพญานาคเพื่อดึงให้เขาพระสุเมรุตั้งตรง
พอได้ฤกษ์งามยามดี ทุกคนก็เข้าช่วยกันพยายามฉุดรั้งดึงพญานาคที่ผูกไว้กับภูเขา แต่กลับไม่มีท่าที่ว่าเขาพระสุเมรุนั้นจะเคลื่อนกลับคืนมาแม้แต่น้อย ฉุดกระชากลากถูกันไปพักใหญ่ เหล่าผู้มาช่วยก็เริ่มล้าอ่อนแรงลงไป แต่เขาพระสุเมรุก็ยังไม่ขยับเขยื้อน จนทุกคนอ่อนใจ เมื่อเห็นดังเช่นนั้นสุครีพจึงทูลอาสาพระอิศวรไปว่า ตนจะทำให้เขาพระสุเมรุตั้งตรงคืนมาให้ได้
จากนั้นสุครีพก็ให้เหล่า เทวดา ครุฑ คนธรรพ์ นาค ฤๅษี ผู้มีฤทธิ์ ช่วยกันออกแรงดึงพญานาคที่พันเขาพระสุเมรุอีกครั้ง ขณะที่ทุกคนต่างช่วยกันดึงจนสุดแรงนั้น พญานาคก็ถูกดึงจนยืดออกเต็มที่ สุครีพก็ตรงเข้าไปใช้นิ้วชี้จี้เข้าตรงสะดือพญานาค เท่านั้นแหละ พญานาคสะดุ้ง (นาคสะดุ้ง=ชิ้นส่วนของหลังคาในงานสถาปัตยกรรมไทย) การหดตัวอย่างรวดเร็วช่วยดึงให้เขาพระพระสุเมรุขยับเคลื่อนขึ้นมา ฝ่ายกากาศลูกพระอินทร์เห็นเขาพระสุเมรุขยับด้วยไหวพริบของสุครีพน้องชาย จึงเนรมิตกายใหญ่แล้วใช้ไหล่เข้าดันเขาพระสุเมรไว้ จนทำให้เขาพระสุเมรุตั้งตรงขึ้นมาดังเดิม
เมื่อชะลอเขาพระสุเมรุได้จนตั้งตรงดังเดิมแล้ว เหล่าเทวดาต่างก็กลับมาเข้าเฝ้าพระศุลี (อิศวร) แล้วต่างก็ลากลับยังวิมานของตน พระอิศวรเองก็เหาะกลับมายังวิมานยอดเขาไกรลาสดังเดิม พญากากาศก็กลับไปอาบน้ำแต่งองค์ทรงเครื่องงดงาม แล้วขึ้นเขาไกรลาสไปเข้าเฝ้าพระอิศวร เมื่อพระอิศวรเห็นกากาศขึ้นมาเฝ้าก็กล่าวยกย่องสรรเสริญ คุณความดีที่กากาศและสุครีพ เป็นตัวตั้งตัวตีที่ช่วยชะลอให้เขาพระสุเมรุกลับมาตั้งตรงได้ดังเดิม จึงเปลี่ยนชื่อให้กากาศใหม่ว่า “พาลีธิราช” อันเป็นที่มาของชื่อ “พญาพาลี” พร้อมทั้งมอบอาวุธตรีเพชรให้เป็นอาวุธประจำตัว และมอบพรอันแสนวิเศษว่า
...คราใดที่พาลีออกรบ ขอให้พละกำลังของศัตรูคู่ต่อสู้ลดลงกึ่งหนึ่ง แล้วขอให้แรงของศัตรูนั้นกลับมาเพิ่มให้พาลีอีกครึ่งนึงแทน (เพิ่มพลังขึ้นเป็นสองเท่า)...
จากนั้นจึงนำเอาผอบแก้วภายในบรรจุ “นางดารา” สาวสวรรค์ ฝากไปเป็นรางวัลความดีความชอบตอบแทนให้กับสุครีพน้องชายด้วย
เมื่อพระนารายณ์เห็นพระอิศวรฝากผอบนางดาราไปกับพาลีแบบนั้น ดูไม่เหมาะ จึงได้กล่าวทัดทานออกไปว่า
...หยุด หยุดเลยนะท่าน ทำแบบนี้ไม่ได้ ฝากผู้หญิงไปกับผู้ชาย ดูยังไงมันก็ไม่ดี เหมือนกับฝากปลาย่างไว้กับแมว เชื่อขนมกินได้เลยว่า ไปไม่ถึงครึ่งทางก็เสร็จพาลีแน่นอน ไม่ถึงสุครีพหรอก ข้าว่าอย่าเลย รอให้สุครีพมาเข้าเฝ้าครั้งหน้า แล้วท่านก็ค่อยให้สุครีพเองดีกว่า...
เมื่อพาลีได้ฟังคำพระนารายณ์ห้ามปรามดังนั้น จึงทูลตอบพระอิศวรไปว่า
...หากพระองค์ทั้งสองจะยังไม่ไว้ใจในตัวข้า ข้าก็จะขอให้สัตย์สาบานไว้ว่า หากต้องยักยอกเอานางดาราไว้เป็นชายาตน มิได้ร่วมห้องเคียงคู่สู่สมกับสุครีพผู้เป็นน้อง ขอให้ตนต้องตายด้วยคมศรของพระนารายณ์...
เมื่อพระอิศวรได้ฟังคำสาบานแล้วก็ยินดี ฝากนางดาราไปกับพญาพาลี แล้วบ่ายหน้าเหาะกลับไปยังนครขีดขิน
เมื่อกลับมาถึงนครขีดขิน แทนที่พาลีจะนำผอบนางดาราไปมอบให้กับสุครีพน้องชาย กลับนำผอบนั้นเข้าไปยังเตียงนอนของตนเอง แล้วก็เปิดผอบให้นางดารานั้นออกมา เมื่อเปิดมาไม่เห็นสุครีพ แต่กลายเป็นพาลีลูกพระอินทร์ผิวกายเขียวผ่องดุจแสงมรกตเช่นนั้น ก็ผินหน้าหลบไปไม่ยอมพูดจาด้วย
พาลีจึงได้แต่พร่ำพรรณนาว่าจะรักดูแลนางดาราผู้นี้เป็นอย่างดี มิได้มีร้าย จะแต่งตั้งให้เป็นมเหสีเอกเป็นใหญ่เหนือเหล่าสนมทั้งปวง ว่าพลางก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ โอบมือลูบไล้ต้องกายนางดารา เมื่อชายเข้ามาประชิดตัว ด้วยกลัวผิดทำชั่วน่าละอาย ได้ปัดป้องแล้วร้องตอบพาลีออกไปว่า
...เรานี้พระศุลี (อิศวร) มอบมาให้เพื่อตอบแทนความดีความชอบของสุครีพ ท่านไม่ควรขัดบัญชา ผิดสัตย์ต่อคำสาบานที่ให้ไว้กับพระนารายณ์อีกด้วย อย่ามัวแต่มาหลงใหลแต่เพียงตัวข้าเลย สนมสาวอัปสรของท่านก็มีให้สำเริงสำราญอยู่ถมไป...
ได้ฟังวาจานางดาราดังนั้น พาลีจึงได้ตอบไปว่า
...อย่าคิดอันใดให้มากนักเลย เรื่องเจ้าจักต้องมาเป็นชายาแก่พญาสุครีพน้องพี่ เพราะเหตุพระศุลีเจาะจงประทานเจ้าฝากกับพี่มานี้ก็เป็นเรื่องมิควรทำ ตัวพี่เองก็มีความดีความชอบควรได้รับปูนบำเหน็จรางวัลนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดา ก็น่าจะมอบเจ้ามาให้พี่ด้วย อย่าได้เคลือบแคลงสงสัยอันใดเลย...
ว่าพลางก้เอื้อมมือคว้าเอวนางดารามาประชิด แลคร่ำครวญขอความเห็นอกเห็นใจให้กับพาลีผู้นี้ที่หลงรักเจ้าเป็นพ้นทวี มิมีอะไรเทียบได้ แต่มือไม้ก็ไม่ได้หยุดอยู่กับที่ ลูบไล้ออกไปพัลวัล นางดาราก็ตัดพอต่อว่าปัดป้องไปพอเป็นพิธี
ว่าแล้วพาลีก็เข้าอิงแอบเนื้อแนบเนื้อ แลโลมเชยชมมณฑาทองของน้องทั้งซ้ายขวา กอดจูบลูบแก้ม จ้องมองตา แล้วเสน่หาก็รุมเร้ารุมรึงแสนตรึงใจ เหมือนพายุใหญ่พัดผ่านท้องมหาสมุทร กระฉอกคลื่นเดือดดาลผุดกระเซ็นซัดอยู่ฉาดฉาน เหล่าฝูงปลาก็ว่ายแหวกเริงสำราญ น้ำซ่าซ่านปลาก็แหวกว่ายกลางสายชล
เมื่อนางดาราได้ดื่มรสรักของพาลี แสนอร่อยหอมหวลหวานซึ้งตรึงจิต ด้วยแรกเริ่มรู้รสแห่งรัก ดุจปักษาคราได้ออกบิน ก็หลงใหลระเริงรื่นชื่นกลิ่นหวานแห่งห้วงรักอันเร่าร้อนนั้น ให้พลันหลงลืมไปเสียสิ้น ลืมสุครีพ ลืมตัว ลืมอาย ลืมความเป็นอัปสรสาวสวรรค์ ลืมค่ำลืมคืน ลืมกลางวัน ลืมกระทั่งคำบัญชาพระศุลี
จากการที่ผิดคำสาบานนี้ จะส่งผลต่อชีวิตของพาลีอย่างยิ่งใหญ่ในอนาคต...
.
เขาพระสุเมรุ
.
เขาพระสุเมรุทรุด
.
ชะลอเขาพระสุเมรุ
.
ผอบนางดารา
.
พาลีเกี้ยวนางดารา
.
|
Author