ppsan
|
|
« on: 10 September 2023, 16:49:57 » |
|
[6] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน พระนารายณ์ปราบนนทก โดย กลม บางบาน
ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์
ตอนที่ 6 พระนารายณ์ปราบนนทก
.
หลังจากที่เราเกริ่นนำเรื่องรามเกียรติ์ไปแล้ว 5 ตอน วันนี้เราจะมาพูดถึงตัวละครสำคัญอันดับต้นๆของเรื่องคือ กำเนิดทศกัณฐ์ รวมไปถึงกำเนิดของเหล่าพี่น้องต่างๆมากมายของทศกัณฐ์ ที่จะโดนทศกัณฐ์ลากมาทำศึก แล้วก็ต้องเสียชีวิตตามทศกัณฐ์ไป ถ้าพร้อมแล้วตามกันไปเลยครับ
ณ กรุงลงกา...
ท้าวลัสเตียนครองกรุงลงกาเรื่อยมา มีมเหสี 5 องค์ โดยมเหสีสี่องค์ก็ตั้งครรภ์และคลอดลูกออกมาเป็นกุมารทั้งหมด
นางสุมณฑาเทวี (สุนันทา) คลอดบุตรชายออกมาตั้งชื่อว่า “กุเปรัน”
นางจิตรมาลีเทวี คลอดบุตรชายออกมาตั้งชื่อว่า “เทพนาสูร”
นางสุวรรณมาลัยเทวี คลอดบุตรชายออกมาตั้งชื่อว่า “อัครธาดา”
นางวรประไพเทวี (ประไพ) คลอดบุตรชายออกมาตั้งชื่อว่า “มารัน”
เว้นแต่เพียงนางรัชดาเทวีเท่านั้น ที่ยังไม่มีบุตร (แต่ต่อมาลูกของนางรัชดานี่แหละ ที่กลายเป็นตัวละครที่สำคัญที่สุดของเรื่องรามเกียรติ์ เลยทีเดียวคือ...ทศกัณฐ์)
.
ตัดฉากไปที่ เขาไกรลาส ที่ประทับของพระอิศวร
ยังมีอสูรเทวบุตร ชื่อว่า “นนทก” ทำหน้าที่ล้างเท้าเทวดาที่จะเข้าเฝ้าพระอิศวรที่บันไดเชิงเขาไกรลาส มาช้านาน เหล่าบรรดาเทวดาที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวร มักจะหยอกล้อนนทกอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะตบหัว ถอนผม (อย่างนี้มัน bully กลั่นแกล้งรังแกกันชัดๆ นี่หว่า... แต่เหล่าเทวดากลับบอกว่า ทำด้วยความรักความเอ็นดูนะจ๊ะนายจ๋า...) ถ้าเป็นแบบไทยๆ ก็น่าจะซื้อขนมนมเนยมาฝากนนทก มากกว่านะนายจ๋า
เมื่อถูกเทวแกล้งถอนผมทุกวี่วัน นานเข้าก็หัวล้าน เวลาใดที่นนทกส่องดูเงาตัวเองในอ่างน้ำล้างเท้าก็นึกเสียใจ และคับแค้นใจนัก ที่เทวดามาดูหมิ่นความเป็นชายด้วยการตบหัวถอนผม แล้วสักวันจะล้างแค้นให้จงได้ คิดแล้วจึงไปเข้าเฝ้าพระอิศวรเพื่อขอพร
เมื่อถึงไกรลาสก็รำพึงรำพันต่อหน้าพระอิศวรว่าตนนั้นรับใช้พระอิศวรด้วยการล้างเท้าเทวดาอยู่เขาไกรลาสนี้ด้วยความสุจริตมาแสนโกฏิปี (โกฏิ เท่ากับสิบล้าน) แล้วก็ร่ำไห้ต่างๆ นานา แล้วทูลขอพรจากพระอิศวร ฝ่ายพระอิศวรเห็น นนทกร่ำร้องโศกา ก็เกิดความเมตตาสงสาร จึงถามนนทกว่า
...เจ้าอยากได้พรอะไรล่ะ ไหนขอมาซิ... (พระอิศวร ใจดี แจกพรตลอด สายเปย์จริงๆ)
นนทกจึงกราบทูลไปว่า ...ขอให้นิ้วชี้ของข้านี้เป็นนิ้วเพชร มีฤทธิ์เดชชี้ผู้ใดผู้นั้นจะตายในทันที แล้วตนจะรับใช้พระอิศวรไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่...
พระอิศวรเห็นว่านนทกทำงานอย่างสุจริตมาช้านาน จึงประทานพรให้นิ้วเพชรแก่นนทกไปตามที่ต้องการ
...โอเค โอเค นนทก เจ้าจะได้พรตามที่ต้องการ...
เมื่อได้รับพรแล้ว นนทกก็กลับมาทำหน้าที่ล้างเท้าเทวดายังเขาไกรลาสเช่นเดิม
เมื่อกลับมาถึงเชิงเขาไกรลาส ก็มานั่งรออยู่ริมอ่างน้ำใหญ่ด้วยใจกำเริบ ว่าตนเองได้รับพรแต่พระอิศวรมาแล้วมิต้องยำเกรงผู้ใดอีกต่อไป
ฝ่ายเทวดา พญาครุฑ มาเข้าเฝ้าพระอิศวรก็เข้าล้างเท้า พลางหยอกล้อนนทกเล่นอย่างที่เคยทำทุกครั้ง ครานี้นนทกกลับโกรธแล้วตวาดออกไปว่า
...ทำไมมาแกล้งกันทุกวัน แกล้งจนข้าไม่เหลือผมสักเส้นให้ติดหัว...
ด้วยความโกรธจึงชี้นิ้วเพชรที่ได้พรมานั้นออกไป ชี้ไปถูกเหล่าเทวดา พญาครุฑ พญานาค ผู้ใดโดนชี้ก็ตายในทันที!!!
ฝ่ายท้าวสหัสนัยน์ (พระอินทร์) เห็นเหตุการณ์ว่านนทกได้รับพรมีนิ้วเพชร ชี้เทวดาตายไปจำนวนมาก ก็เข้าเฝ้ากราบทูลเรื่องให้พระอิศวรทราบ พระอิศวรจึงมีบัญชาให้ไปเชิญพระนารายณ์มาปราบนนทกผู้นี้เสีย เพื่อความสงบสุขของสวรรค์
เมื่อได้รับคำสั่ง พระนารายณ์จึงคิดแผนปราบนนทก โดยให้มันสำนึกด้วยตัวเองดีกว่า ว่าที่มันตายเนี่ย ตายเพราะตัณหาราคะของตัวเอง
พระนารายณ์จึงแปลงกายมาเป็น นางสุวรรณอัปสรสววรค์ เหาะไปใกล้ๆ ยังสถานที่ที่นนทกจะเดินผ่านมา เมื่อเห็นนนทกเดินมาก็ทำเป็นเดินเข้าไปให้นนทกเห็น เมื่อนนทกเห็นเทพอัปสรสวรรค์รูปโฉมงดงามอ้อนแอ้นก็หลงรัก จึงเข้าไปซักถาม
ฝ่ายอัปสรสวรรค์ร่างแปลงของพระนารายณ์ ก็ตอบไปว่า
...นนทกเจ้าบังอาจนัก กล้ามาทักทายพูดจากับเรา “สุวรรณอัปสร” ผู้เป็นนางฟ้อนจับระบำรับใช้ขององค์พระอิศวร...
นนทกจึงเข้าไปพูดจาเกี้ยวพาราสี นางสุวรรณอัปสรจึงออกอุบายล่อลวงว่าเราเป็นนางรำ ถ้าจะมีไมตรีจิตต่อกันก็ลองรำตามก็แล้วกัน ด้วยความหลงรัก นนทกจึงตอบไปว่าเจ้ารำให้ครบกระบวนท่าเถิด ตัวพี่จะรำตามเจ้าไปเอง แล้วนางสุวรรณอัปสร ซึ่งเป็นพระนารายณ์แปลงมาก็เรื่อมร่ายรำโดยมีนนทกรำตาม . เทพนมปฐมพรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลาเฉิดฉิน ทั้งกวางเดินดงหงส์บิน กินรินเลียบถํ้าอำไพ
อีกช้านางนอนภมรเคล้า ทั้งแขกเต้าผาลาเพียงไหล่ เมขลาโยนแก้วแววไว มยุเรศฟ้อนในอัมพร
ลมพัดยอดตองพรหมนิมิต ทั้งพิสมัยเรียงหมอน ย้ายท่ามัจฉาชมสาคร พระสี่กรขว้างจักรฤทธิรงค์
(เป็นชื่อท่ารำต้นแบบของการรำไทย)
. นนทกร่ายรำตามนางอัปสรไปเรื่อยๆ ทุกท่าทุกตอนจนถึงท่าที่เรียกว่า “นาคาม้วนหาง” ที่ต้องจีบนิ้วแล้วชี้ไปที่ขา เมื่อนนทกเผลอรำตามก็ใช้นิ้วเพชรชี้ไปที่ขาตัวเอง ด้วยพรศักดิ์สิทธิ์ของนิ้วเพชร นนทกจึงขาหักล้มลงทันที ส่วนนางสุววรณอัปสรก็กลับกลายร่างเป็นพระนารายณ์เหยียบหน้าอกนนทกไว้พร้อมที่จะสังหาร
เมื่อนนทกเห็นว่านางอัปสรนั้นคือพระนารายณ์ ด้วยความโกรธจึงเอ่ยปากถามไปว่า
...ตัวข้าทำผิดเรื่องอะไร ท่านถึงมาทำร้ายกันเช่นนี้...
พระนารายณ์จึงตอบไปว่า
...ความผิดที่ใช้นิ้วเพชรฆ่าเทวดาครั้งนี้ของเจ้าถึงตาย ตัวเรานั้นก็เมตตาเจ้า อยากจะไว้ชีวิต แต่เป็นบัญชาของพระอิศวร เราเองก็มีอาจขัดได้ จำต้องสังหารเจ้าในบัดนี้...
นนทกได้ฟังดังนั้นก็ตอบไปว่า
...การจะปราบเรานั้นทำไมไม่ทำเสียซึ่งหน้า ไม่อายหรือที่แปลงเป็นสตรีมาทำมารยา หรือว่าเกรงกลัวนิ้วเพชรนี้ จะชี้พระองค์ให้บรรลัย (ตาย) ตัวข้านั้นมีแต่สองมือ ที่ไหนหรือจะสู้ผู้มีสี่มืออย่างพระองค์ได้ ทำไมถึงต้องทำเรื่องน่าอายอย่างนี้...
พระนารายณ์ได้ฟังก็ตอบกลับไป
...ที่กูแปลงมาเป็นสตรีนี้ หาได้กลัวนิ้วเพชรของมึงไม่ แต่ตัวมึงนั้นเองต่างหากเล่า ที่จะต้องตายฉิบหายด้วยความหลงใหลใน เสน่ห์ของอิสสตรี (อิด-สัด-ตรี ผู้หญิง) ชาตินี้มึงมีแต่สองหัตถ์ (สองมือ) จงไปอุบัติ (เกิด) เอาชาติใหม่ให้มีสิบหัวสิบหน้า เหาะเหินเดินได้ในอากาศ มียี่สิบมือถืออาวุธธนูศร แต่ตัวกูจะไปเกิดเป็นมนุษย์มีสองกร (มือ) แล้วจะตามไปราญรอนเข่นฆ่ามึงให้จงได้...
แล้วก็เงื้อตรีศูลตัดหัวนนทกขาดกระเด็นไป เสร็จกิจแห่งการปราบนนทก พระนารายณ์ก็เสด็จกับไปประทับที่เกษียรสมุทร (ทะเลน้ำนม กลางมหาสมุทร) ตามเดิม
.
ฝ่ายนางรัชดาเทวี ที่ยังไม่มีลูกก็ตั้งครรภ์ขึ้นมาหลังจากนั้น ด้วยเหตุว่าอสูรเทวบุตรนนทกมาจุติ (ตาย จากสวรรค์ แล้วมาเกิด)ในครรภ์ของนางรัชดาเทวี
หลังจากนนทกมาจุติ เป็นโอรสองค์โตของนางรัชดาเทวีแล้ว ก็ยังมีน้องต่อจากตนอีกหลายคน เช่น กุมภกรรณ พิเภก ขร ทูษณ์ ตรีเศียร และนางสำมนักขา
จบไว้แค่นี้ก่อนนะ แล้วเจอกันตอนใหม่
.
|