ppsan
|
|
« on: 02 October 2023, 22:14:49 » |
|
[27] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน พระนารายณ์อวตาร โดย กลม บางบาน
ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์ ตอนที่ 27 พระนารายณ์อวตาร
.
ณ เมืองอโยธยา ท้าวทศรถครองแผ่นดินกรุงอโยธยามาเป็นเวลาช้านาน พระบารมีและพระเกียรติคุณแผ่ไพศาล เป็นร่มโพธิสมภารให้ไพร่ฟ้าประชาชีฤๅษีชีพราหมณ์ อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข แม้แต่เทพยเทวดานางฟ้าบนสรวงสวรรค์ต่างก็แซ่ซ้องสาธุการ
ท้าวทศรถทรงมีมเหสี 3 องค์ แต่ไม่มีโอรสธิดา การที่ไม่มีทายาทมาสืบต่อนี้ ไม่ได้กระทบแค่การปกครองบ้านเมือง ว่าจะไม่มีทายาทมาสืบต่อเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาใหญ่เพราะว่า วงศ์ตระกูลของท้าวทศรถ ถือว่าเป็นวงศ์ของพระนารายณ์ ที่จุติลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ ก็เพื่อคอยป้องกันอันตายของโลกมนุษย์จากเหล่ายักษ์ อสูรต่างๆ
ดังนั้น ท้าวทศรถจึงคิดที่จะทำพิธีขอโอรส จึงนิมนต์พระอาจารย์ทั้ง 4 อันได้แก่ พระวสิษฐ์ พระสวามิตร พระวัชอัคคี และพระภารทวาช มาเพื่อช่วยคิดการ มหามุนีทั้งสี่ได้แนะนำให้เชิญฤๅษีกไลโกฏมากรุงอโยธยา เพื่อร่วมทำพิธีขอโอรส เพราะฤๅษีกไลโกฏมีตบะกล้าแข็ง จะทำให้ได้โอรสที่มีฤทธิ์มาก
ท้าวทศรถพร้อมด้วยมหามุนีทั้งสี่จึงเดินทางไปยังกรุงโรมพัตเพื่อเชิญฤๅษีกไลโกฏมาทำพิธี พระกไลโกฏฤๅษีจึงทูลว่า ก่อนเริ่มพิธีจะต้องไปทูลพระอิศวรให้ทรงทราบเพื่อมีบัญชาเชิญพระนารายณ์ให้เสด็จอวตาร ว่าแล้วมหามุนีทั้งห้าก็พากันเหาะไปยังเขาไกรลาสเพื่อเข้าเฝ้าพระอิศวร แล้วทูลว่า
...บัดนี้โลกมนุษย์มีความเดือดร้อนเพราะพระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ได้ประทานพรและเทพอาวุธแก่ยักษ์โดยมิได้กลั่นกรอง แล้วพวกเหล่านั้นเกิดอหังการ์ องอาจหยาบช้ากำเริบฤทธิ์ ทำให้เดือดร้อนกันไปหมด คงมีแต่ท้าวทศรถเท่านั้นที่จะช่วยเหลือโลกได้ แต่พระองค์ไม่มีโอรส จึงควรให้พระนารายณ์อวตารไปปราบเหล่าอสูรยักษานั้น...
. ด้วยสามพระเป็นเจ้าประสาทพร ทั้งอาวุธศิลป์ศรแก่ยักษา มันจึ่งเที่ยวทำอหังการ์ องอาจหยาบช้ากำเริบฤทธิ์ .
พระอิศวรก็เห็นดีด้วย แล้วรำพึงว่า...เดี๋ยวนี้ยักษ์มันเก่งขึ้นนะ ถ้าพระนารายณ์ไม่อวตารลงไปปราบ ใครจะปราบยักษ์ได้... (ท่านอิ.ครับ ก็ท่านเองนั่นแหละ เป็นคนให้พร เหล่ายักษ์ทั้งหลายจึงเก่งขึ้น เพราะอาวุธก็เป็นอาวุธของพระอิศวร พรก็พรพระอิศวร น่ะนะ)
พระอิศวรจึงตอบตกลง...ได้ ข้าอนุมัติ ให้เชิญพระนารายณ์อวตารลงไปปราบยักษ์...
แต่ปัญหาคือ พระนารายณ์ยังบรรทมหลับอยู่เหนือบัลลังก์นาค (พระนารายณ์บรรทมสินธุ์-หลับตลอด และที่ประทับประจำของพระนารายณ์คือสวรรค์ชั้นไวกูณฐ์ ซึ่งอยู่ทิศเหนือของเกษียรสมุทร หรือทะเลน้ำนม) ดังนั้นพระอิศวรจึงให้พระอินทร์ไป(ปลุก)เชิญพระนารายณ์
พระนารายณ์ได้ทราบก็ขอประทานจักรแก้ว คทาเพชร, มหาสังข์ทักษิณวัตร, และบัลลังก์นาค ให้ตามมาเกิดเป็นผู้ช่วยเหลือ รวมทั้งขอให้พระลักษมีกับเทวดาทั้งหลาย ได้มาเกิดร่วมกันช่วยเหลือในการศึกครั้งใหญ่นี้อีกด้วย พระอิศวรก็โปรดประทานให้ทุกประการ
โดยให้ พระนารายณ์ จักร สังข์กับบัลลังก์นาค และคทา จุติเป็นโอรส 4 พระองค์ของท้าวทศรถแห่งกรุงศรีอยุธยาฯ แต่ละองค์นามว่า พระราม พระพรต พระลักษมณ์ และพระสัตรุด ตามลำดับ ส่วนพระลักษมี ให้ลงไปจุติเป็น "สีดา" ธิดาของทศกัณฐ์เจ้ากรุงลงกา โดยให้สีดาเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งจนนำไปสู่การใช้กำลังสู้รบกันระหว่างพระรามและทศกัณฐ์
. เจ้าไปเกิดเถิดเป็นกษัตริย์ สุริย์วงศ์จักรพรรดิมหาศาล ทรงนามพระรามอวตาร ในสถานกรุงศรีอยุธยา จักรเป็นพระพรตยศยง ถัดองค์พระนารายณ์เชษฐา ฝ่ายสังข์บัลลังก์นาคา เป็นพระลักษมณ์อนุชาฤทธิรอน อันซึ่งคทาวราวุธ เป็นพระสัตรุดชาญสมร องค์พระลักษมีบังอร ไปเกิดในนครลงกา ชื่อว่าสีดานงลักษณ์ เป็นบุตรทศพักตร์ยักษา .
พร้อมทั้ง ฐานกำลังที่เตรียมการไว้ล่วงหน้า เพื่อสนับสนุนพระนารายณ์บนโลกมนุษย์ มีเหตุบันดาลให้เป็นพงศ์เผ่าพญาพานร ซึ่งบัดนี้ได้ตั้งมั่นเป็นสองธานี อันได้แก่ เมืองขีดขินและเมืองชมพู ครั้นเมื่อเทวดาทั้งหลาย ต่างขันอาสาไปเป็นกำลังพลในกองทัพของพระนารายณ์ พระอิศวรจึงได้บัญชาจัดแบ่งให้ลงไปเกิดเป็นวานรในเมืองทั้งสอง โดย ๑๕ เทวดาผู้สำคัญได้ลงมาเกิดเป็นทหารเอกของพระราม รวบรวมรายชื่อเทวดาอื่นๆ ที่ลงมาเกิดเพื่อการนี้ ตราบันทึกไว้ได้ถึงเจ็ดสิบเจ็ดเล่มสมุด
. เมื่อนั้น ฝูงเทพเทวาน้อยใหญ่ ต่างทูลอาสาพระภูวไนย จะขอไปเป็นพลพระอวตาร มาล้างเหล่าอสุรพาลา ที่หยาบช้าเบียนโลกทุกสถาน พระราหูฤทธิไกรชัยชาญ เป็นทหารชื่อนิลปาน พระพินายนั้นเป็นนิลเอก พระพิเนกนั้นเป็นนิลขัน พระเกตุเป็นเสนีกุมิตัน พระอังคารเป็นวิสันตราวี พระหิมพานต์จะเป็นโกมุท พระสมุทรนิลราชกระบี่ศรี พระเพลิงเป็นนิลนนท์มนตรี พระเสารีเป็นนิลพานร พระศุกร์เป็นนิลปาสัน พระหัสนั้นมาลุนทเกสร พระพุธเป็นสุรเสนฤทธิรอน พระจันทรเป็นสัตพลี วิรูฬหกวิรูปักษ์สองตระกูล เป็นเกยูรมายูรกระบี่ศรี เทวัญวานรนอกนี้ บาญชีเจ็ดสิบเจ็ดสมุดตรา ฯ .
แล้วพระอิศวรจึ่งตรัสอำนวยอวยพรแก่เทพเทวดาผู้ลงไปเกิดเป็นวานรทั้งหลาย มาตรแม้นว่าต้องสิ้นชีพด้วยฝีมือยักษ์ เมื่อลมพัดโชยมาคราใด ให้ฟื้นคืนชีพในบัดดล.
.
(เพิ่มเติม) พระนารายณ์จะบรรทมอยู่บนอาสนะในวงขนดของพญาอนันตนาคราช ซึ่งมีเศียรหนึ่งพัน และมีพระชายาคือพระลักษมี นั่งปฏิบัติอยู่แทบพระบาท หากไม่มีเหตุเภทภัยทุรพาล พระนารายณ์ก็บรรทมอยู่อย่างนั้น ครั้นเมื่อเกิดเป็นทรุยุค พระนารายณ์ก็จะตื่นบรรทมเพื่อไปปราบ เรียกว่า “อวตาร”
เพราะเหตุที่พระนารายณ์ประทับและบรรทมบนอนันตนาคราช รูปพระนารายณ์ประทับหรือบรรทมแบบนี้จึงเรียกว่า “วิษณุอนันตศายิน” หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า “นารายณ์บรรทมสินธุ์”
.
|