Smile Siam
|
|
« on: 22 December 2012, 05:35:59 » |
|
การแพทย์ทางเลือก (Alternative Medicine) เขียนโดย ครูปีย์ ในปัจจุบันมีการกล่าวถึงการแพทย์ทางเลือกของนักวิชาการหลายท่านในลักษณะของการให้บริการทางการแพทย์ที่ใกล้เคียงกัน มีความชัดเจนและเข้าใจง่าย มีตัวอย่างของนายแพทย์แผนปัจจุบันสองท่านที่ให้แนวคิดและความหมายของการแพทย์ทางเลือกไว้ชัดเจนมากคือ นายแพทย์วีรชาติ เลิศนิธิกุล ได้กล่าวไว้ว่า "การแพทย์ทางเลือกหมายถึงการรักษาความเจ็บป่วยด้วยวิธีการใดๆก็ตามที่ไม่ใช่แผนปัจจุบัน แต่ถึงแม้ไม่ใช่วิธีของแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ก็ได้อ้างอิงทฤษฎีการแพทย์แผนปัจจุบันหลายอย่าง เพียงแต่วิธีการปฏิบัติอาจจะไม่เหมือนแพทย์แผนปัจจุบัน" นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน์ ได้กล่าวไว้ว่า "การแพทย์ทางเลือก เป็นศาสตร์เพื่อการวินิจฉัย รักษา และป้องกันโรคนอกเหนือจากศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้านไทย" ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่า การแพทย์ทางเลือกเป็นการแพทย์ที่ไม่ใช่การแพทย์แผนปัจจุบันหรือการแพทย์กระแสหลัก(Conventional Medicine) และไม่ใช่การแพทย์พื้นบ้านไทย(Indigenous Medicine) และก็ไม่ใช่การแพทย์แผนไทย(Traditinal Medicine) ซึ่งก็คงจะเป็นศาสตร์ที่ผสมผสานทั้งวิชาการทางการแพทย์และวิชาการที่ว่าด้วยมนุษย์และสิ่งมีชีวิตในทุกมิติ ศาสตร์การแพทย์ทางเลือก การให้ความหมายและความครอบคลุมของการแพทย์ทางเลือกในแง่ของศาสตร์เพื่อการวินิจฉัย รักษา และป้องกันโรค นอกเหนือจากศาสตร์ของการแพทย์ปัจจุบันนั้น กองการแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขปี2545 ได้จัดไว้เป็นศาสตร์3กลุ่ม ดังต่อไปนี้ 1.กลุ่มศาสตร์หรือเทคนิคของศาสตร์เพื่อปรับสมดุลของธาตุและสารชีวภาพในร่างกาย ศาสตร์ในกลุ่มนี้มีมากมายได้แก่ 1.1.สมุนไพรชนชาติต่างๆ 1.2.สูตรอาหารต่างๆ อาทิเช่น อาหารแมคโครไบโอติคส์(Macrobiotics) อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ และอาหารสูตรเฉพาะสำหรับผู้ป่วย 1.3.วิตามินบำบัด(Megavitamin) 1.4.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 1.5.การล้างพิษ(Detoxification) 1.6.สารชีวภาพอื่นๆเช่น โฮมีโอพาธี(Homeopathy) ไบโอ-โมเลคุลาบำบัด(Bio-Molecular Therapy) และการขับสารพิษ(Chelation Therapy) 2.กลุ่มศาสตร์หรือเทคนิคของศาสตร์เพื่อปรับสมดุลของโครงสร้างร่างกายในส่วนของกระดูกและกล้ามเนื้อ ศาสตร์ในกลุ่มนี้มีมากมายได้แก่ 2.1.การนวด ดัด และดึง ในแบบของวัฒนธรรมต่างๆ 2.2.การจัดกระดูกแบบจีน 2.3.การแพทย์จัดกระดูก(Chiropractic Medicine) 2.4.ดุลยภาพบำบัด 2.5.การออกกำลังกายแบบต่างๆเช่น โยคะ ชี่กง และไท้เก๊ก 2.6.วารีบำบัด(Hydrotherapy) 3.กลุ่มศาสตร์หรือเทคนิคของศาสตร์เพื่อปรับสมดุลของพลังงานในร่างกายและความสัมพันธ์กาย-จิต ศาสตร์ในกลุ่มนี้มีมากมาย ได้แก่ 3.1.สมาธิในแบบของวัฒนธรรมต่างๆ 3.2.การเสริมสร้างพลังในวัฒนธรรมต่างๆเช่น พลังกายทิพย์ พลังจักรวาล พลังออร่า พลังปิรามิด โยเร โยคะ ไท้เก๊ก-ชี่กง พลังจิต การสะกดจิต จินตภาพบำบัด และเวทย์มนต์ 3.3.การฝังเข็ม(Acupuncture) 3.4.การกดจุด(Reflexology) 3.5.ดนตรีบำบัด(Music Therapy) 3.6.สุคนธบำบัด(Aroma Therapy) 3.7.สนามแม่เหล็กบำบัด(Magnetic Field Therapy) แนวทางดำเนินงานด้านการแพทย์ทางเลือกของกระทรวงสาธารณสุข กองการแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก(Department for Development of Thai Traditional and Alternative Medicine:DTAM) กำหนดแนวทางการดำเนินงานไว้ดังต่อไปนี้(อ้างอิงจากเอกสารบรรยายของนายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน์ ซึ่งเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต) 1.การแพทย์แผนจีน(Chinese Medicine) การแพทย์แผนจีนหมายความว่า การกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการตรวจ การวินิจฉัย การบำบัดโรค การป้องกันโรค หรือการฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกายตามศาสตร์และความรู้แบบแพทย์แผนจีนที่ถ่ายทอดและพัฒนาสืบต่อกันมา หรือตามการศึกษาจากสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาในหลักสูตรไม่ต่ำกว่าห้าปีของประเทศนั้น และคณะกรรมการประกอบโรคศิลปะให้การรับรอง ซึ่งประกอบด้วยการฝังเข็ม และการออกกำลังกายเช่น ไท้เก๊กและชี่กง 2.การแพทย์ทางเลือกอื่นๆ เช่นการรักษาทางกายภาพ(Physical Therapy) ประกอบด้วย 2.1.การนวด(Massage)หมายถึงการจัดการกับเนื้อเยื่อที่อ่อนนุ่มเพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษา เช่น การนวดแบบไทย และการนวดแบบสวีเดน(นิยามการนวดโดยสมาคมการนวดของอเมริกัน) 2.2.การฝังเข็ม(Acupuncture) ที่ใช้ในผู้ปวดศีรษะไมเกรนและปวดศีรษะจากความเครียด ถือเป็นทฤษฎีลมปราณฝังเข็มตำแหน่งจุดต่างๆ(Acupoint) 2.3.การกดจุด(Reflexology or Zone Therapy) เป็นการนวดหรือใช้แรงกดบนฝ่าเท้า ใช้เพื่อลดความเครียดและทำให้เกิดการผ่อนคลาย 2.4.การแพทย์จัดกระดูก(Chiropractic Medicine) ซึ่งมีหลักเกี่ยวกับการไหลเวียนของพลังชีวิต กระดูกสันหลังปกป้องไขสันหลังไว้ 3.วารีบำบัด(Hydrotherapy) 3.1.วารีบำบัดภายนอก(External Hydrotherapy):Bath and Douches 3.2.วารีบำบัดภายใน(Internal Hydrotherapy):Colonic Irrigation and Enemas 4.โภชนบำบัด ประกอบด้วย แมคดครไบโอติคส์ อาหารเสริม และมังสวิรัติ 5.การบำบัดด้วยพืช(Plant-based Therapy) เช่น Aroma Therapy 6.การบำบัดด้วยคลื่นและรังสี(Wave and Radiation Therapy) เช่น Oregon Therapy ,Pyramid Therapy และManetic Therapy 7.การบำบัดทางจิตและวิญญาณ(Mind and Spiritual Healing) 7.1.Biofeedback ฝึกฝนเพื่อคุมองค์ประกอบต่างๆของร่างกายที่ถูกควบคุมโดยระบบประสาทอัตโนมัติตามความสมัครใจ 7.2.Hypnosis ภาวะที่จิตถูกสะกด เป็นภาวะของจิตสำนึกที่เปลี่ยนแปลงไป ความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานของจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกในระหว่างภาวะปกติและภาวะถูกสะกดจิตจะกลับกัน 7.3.Mediation/Transcendental Mediation มีลักษณะของการสร้างประสบการณ์ เริ่มจากการผ่อนคลาย ปล่อยให้ความคิดในใจสงบลง ทำให้ความคิดไปถึงระดับการคิดที่ละเอียดอ่อนมากยิ่งขึ้น 7.4.Psychodrama มีพื้นฐานจากการที่คนเราต้องมีการเปลี่ยนบทบาทหน้าที่อยู่เสมอ 7.5.Spiritual Healing 8.Self Exerciseการออกกำลังกายประเภทต่างๆเช่น Yoga, Tai Chi, and Dancing http://www.jobpub.com/articles/showarticle.asp?id=2329
|