User Info
Welcome,
Guest
. Please
login
or
register
.
15 November 2024, 12:41:33
1 Hour
1 Day
1 Week
1 Month
Forever
Login with username, password and session length
Search:
Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ
http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,424
Posts in
12,831
Topics by
70
Members
Latest Member:
KAN
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
|
ภาพประทับใจ
|
ผนังเก่าเล่าเรื่อง
(Moderator:
ผนังเก่าเล่าเรื่อง
) |
[49] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกทัพนาสูร โดย กลม บางบาน
0 Members and 1 Guest are viewing this topic.
« previous
next »
Pages:
[
1
]
Author
Topic: [49] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกทัพนาสูร โดย กลม บางบาน (Read 414 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,265
[49] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกทัพนาสูร โดย กลม บางบาน
«
on:
31 July 2023, 08:57:43 »
[49] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกทัพนาสูร โดย กลม บางบาน
31 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกทัพนาสูร (1)
-ทศกัณฐ์เชิญท้าวทัพนาสูรให้มาช่วยรบ
พระฤๅษีโคบุตรกำลังจะก้าวเท้าออกจากราชปราสาท กลับหันหน้ามองดูทศกัณฐ์อีกครั้งอย่างห่วงใย พระอาจารย์ถอนใจ แล้วพูดอย่างอ่อนโยน
...หลานตาจะมามัวนั่งเศร้าอยู่เลย จงหาทางแก้มือกับศัตรูจะดีกว่า มา...มาใกล้ๆตาทั้งสององค์เลย เจ้าทั้งสองต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นเสาหลักแห่งลงกา...ตาขออวยพรให้เจ้ารบชนะศัตรู ขอให้มีแต่ความยินดีมาสู่หลานทั้งสอง... แล้วพระฤๅษีก็ออกไป
โคบุตรฤๅษีมิใช่นักบวชธรรมดา บ้างว่าท่านเป็นถึงชั้นพรหมฤๅษี ย่อมรู้อนาคตอย่างปรุโปร่ง ท่านรู้อยู่แล้วว่าศึกนี้ใครจะเป็นผู้แพ้ ชนะ แต่ด้วยความเป็นครูที่รักศิษย์ดั่งลูกตัว ใครจะกล่าวหาว่าทศกัณฐ์เป็นยักษ์อันธพาล พระอาจารย์ก็หาใส่ใจไม่ ท่านภูมิใจที่ศิษย์รักมิลืมวิชาความรู้ที่สอนไป เก็บจำได้ทุกระบวน ยังสามารถต่อยอดพลิกแพลงสิ่งที่สอนได้อย่างชำนาญการกว่าคนเป็นครูเสียอีก
สิ่งที่ชื่นใจที่สุดคือ เมื่อทศกัณฐ์ทุกข์ร้อนก็วิ่งมาหาครู ระดับพรหมยักษ์อย่างทศกัณฐ์สามารถเหาะขึ้นสวรรค์ได้ไม่ยากอยู่แล้ว แต่ก็ยังนึกถึงโคบุตรผู้เป็นอาจารย์ นี่คือสิ่งที่ครูทุกคนชื่นใจ รักศิษย์ที่ใครจะว่าแสนเลวดั่งลูก เพราะในสายตาของคนเป็นพ่อแม่ เหตุผลของลูกย่อมถูก น่าฟังเสมอ
เมื่อส่งอาจารย์กลับกุฏิแล้ว ทศกัณฐ์ล้มตัวลงนอนก่ายหน้าผากอย่างหมดแรงกาย สิ้นแรงใจ เพราะคราวนี้ข้าศึกสามารถบุกมาถึงที่นอนตน ที่น่าเจ็บใจคือมันสามารถออกไปตัวเปล่าโดยทิ้งอายไว้ให้เจ็บใจเล่น หากมันจะลงมือก็คงตายตกตามกันไปทั้งวัง แล้วคราวนี้จะรับศึกอย่างไรดี เพราะทั้งลูกทั้งพี่น้องที่คลานตามกันมาก็ตายหมด...
ทันใดนั้น พญามารคิดถึงพี่น้องที่ไม่ได้คลานตามกันมา พี่น้องคนละแม่ ก็เป็นอสูรใหญ่ พลันนึกถึง ทัพนาสูร ผู้เป็นพี่คนละแม่ จึงสั่งมโหทร เสนาฝ่ายขวาให้ออกไปยังเมืองจักรวาล เพื่อทูลเชิญพญาทัพนาสูรให้เสด็จมาช่วยรบกับกองทัพศัตรู
ทัพนาสูรเป็นยักษ์ราชา เป็นลูกท้าวลัสเตียน พ่อเดียวกับทศกัณฐ์ แม่ชื่อว่านางจิตรมาลี หน้าสีแดง สวมมงกุฎยอดสามกลีบ ครองเมืองจักรวาล เป็นผู้ที่มีพละกำลังมาก สามารถนิมิตกายให้ใหญ่โตเท่าภูเขา
มโหทรกราบลาแล้วเหาะขึ้นฟ้า มุ่งหน้าสู่ทิศตะวันตก เมื่อถึงเมืองจักรวาลก็รุดเข้าเฝ้าท้าวทัพนาสูรทันที
...ถวายบังคมทัพนาสูรจอมราชา ข้าบาทมโหทร เสนาแห่งลงกา...
ราชาทัพนาสูรนั่งบนบัลลังก์สูง ขยับกายเชิงอึดอัด แล้วกล่าวเพื่อตัดพิธีการ
...น้องเราสบายดีอยู่รึ มโหทร...
มโหทรคลานเข่าเข้าใกล้มากขึ้น ดั่งบ่าวผู้คุ้นเคย
...อันพระอนุชา พญาทศกัณฐ์สุขกายดีตลอด แต่มิทรงสบายใจนัก เนื่องจากยามนี้ลงกามีศัตรูมารุกราน สองมนุษย์อธรรม มีนามว่ารามลักษมณ์ มีเหล่าบริวารวานรคอยช่วยเหลือ ยกพลข้ามสมุทรมาฆ่าฟันประชาแห่งลงกาล้มตายกันจำนวนมาก เชื้อวงศ์พรหมอสูรต้องพลีชีพเพื่อปกป้องแผ่นดินอย่างมิเสียดายชีวิต เหนือหัวทศกัณฐ์จึงขอเชิญพญาทัพนาสูรเสด็จยังลงกาเพื่อปราบไพรี...
เมื่อได้ฟังมโหทรคนสนิทของน้อง ท้าวทัพนาสูรเลือดขึ้นหน้าด้วยความโกรธ ลุกขึ้นกระทืบบาท ตะโกนว่าไอ้พวกมนุษย์ตัวเล็ก ถือดีอย่างไรมาท้าทายอำนาจแห่งมาร
...พวกมันหยามน้องกู ก็เหมือนหยามวงศ์พรหม...
...วาณุราชเสนาข้า จงเตรียมพลให้พร้อม กูจะเคลื่อนทัพสู่ลงกา...
วาณุราชทหารใหญ่ออกมาจัดทัพแห่งจักรวาลอย่างเต็มกำลังศึก
ทัพนาสูรเข้าสรงน้ำ แต่งองค์ชุดกษัตริย์แดง กระชับคันศรก้าวขึ้นสู่รถศึก ล้อของราชรถหลวงฝังด้วยมรกต และยังประดับด้วยช่อฟ้าอันมีเพชรพลอยติดทั้งห้ายอด เทียมด้วยสิงโตจำนวนสองพันตัว เสียงกลอง ฆ้อง แตรฝรั่งดังสนั่น แล้วเคลื่อนพลเหาะลอยข้ามทะเลจนมาถึงลงกา...
.
หัวโขน ท้าวทัพนาสูร
.
ท้าวทัพนาสูร เป็นพี่ชายต่างมารดาของทศกัณฐ์
.
ทศกัณฐ์ ยินดียิ่งนักที่พี่ชายเสด็จมาช่วยรบ
.
«
Last Edit: 30 May 2024, 20:18:31 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,265
Re: [49] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกทัพนาสูร โดย กลม บางบาน
«
Reply #1 on:
31 July 2023, 08:58:39 »
31 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกทัพนาสูร (2)
-ทัพนาสูรอาสารบ
ทศกัณฐ์ประทับนั่งคอยข่าวดีจากจักรวาลธานีตั้งแต่เช้า
กรมวังกราบทูลว่า บัดนี้พระเชษฐาทัพนาสูรเสด็จมาถึงหน้าประตูเมืองลงกาแล้ว...
พญาทศกัณฐ์รุดออกจากวังเพื่อไปรับพี่ เมื่อเห็นทัพนาสูรดำเนินเข้ามาสู่ราชวัง พญาทศกัณฐ์ถลาเข้าคุกเข่าเพื่อจะถวายบังคมพระเชษฐาอย่างผู้เป็นน้องพึงกระทำ
แต่ก่อนที่เข่าของทศกัณฐ์จะแตะพื้น ทัพนาสูรรีบคว้าตัวน้องชายต่างมารดาเข้ากอด
...มิมีความเคารพใดจะสูงค่าเท่าความรักของเราพี่น้องแล้ว มา ทศพักตร์น้องพี่ เรามีอะไรที่ต้องคุยกันอีกเยอะ...
บัดนี้ภาพของจอมมารสองพี่น้องดูน่าปลาบปลื้มยิ่ง ข้าหลวงของราชสำนักลงกาไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อยู่ เพราะองค์เหนือหัวเมื่ออยู่ใกล้พระเชษฐา จักรพรรดิแห่งมารตนนี้ดูอ่อนโยนนอบน้อมเหมือนเด็กน้อยในทันตา
พญาทัพนาสูรไม่เพียงสง่างามอย่างจอมราชา แต่ราชะแห่งจักรวาลดูอบอุ่นโดยทุกชีวิตในบริเวณนั้นสามารถสัมผัสได้ สองกษัตริย์ประคองโอบกันขึ้นแท่นแก้ว โดยทศกัณฐ์หลีกให้พี่ขึ้นประทับอย่างเต็มองค์ก่อน ทัพนาสูรผายมือชวนน้องมานั่งข้างๆ
พญาทศกัณฐ์ถวายบังคมแล้วเข้าประทับเคียงกัน แต่ผู้เป็นพี่คว้าคอน้องมากอดอย่างเอ็นดู อย่างไม่สนใจพระราชพิธีต่างๆ สองราชานั่งกุมมือเหมือนจะไม่พรากจากกันไปไหนแล้ว
...พี่นี้คิดถึงเจ้าน้องรักคนนี้มากกว่าใคร พ่อคนเก่งเล่ามาสิว่าเจ้าสองมนุษย์มาจากไหน มันมีฤทธิ์เดชมากมายเลยหรือ และทำไมต้องบังอาจมารุกรานเมืองมารของเราด้วย...
ทศกัณฐ์ประนมมือแล้วเท้าความ...
.
เมื่อนั้น ท้าวยี่สิบกรยักษี
ฟังพระเชษฐาธิบดี อสุรีสนองพระบัญชา
อันซึ่งพี่น้องสองมนุษย์ เป็นบุตรทศรถนาถา
ได้ผ่านกรุงศรีอยุธยา มันมีฤทธาด้วยศรชัย
ถึงกระนั้นไม่เป็นไรนัก พอจะคิดหักเสียได้
แค้นด้วยพิเภกจังไร มันไปเป็นไส้ไพรี
แจ้งความแต่ต้นจนปลาย ถวายพระเชษฐาเรืองศรี
พระองค์ผู้ทรงฤทธี ภูมีจงได้เมตตา ฯ
.
แต่ทศกัณฐ์ก็ไม่ได้เล่าว่าไปแย่งเมียของพระรามมาก่อน บอกเพียงว่าพิเภกไปเข้ากับศัตรูเป็นไส้ศึก จนทำให้ตนเกิดความเสียเปรียบ ความผิดทุกอย่างจึงตกอยู่กับพิเภก
พระรามมีพิเภกจึงได้เปรียบหมู่มาร ในสายตาของทัพนาสูรนั้น ทศกัณฐ์ผู้เป็นน้องและนครลงกาเป็นผู้ถูกกระทำล้วนๆ พญาทัพนาสูรไม่เคยรู้สึกว่าตนถูกหมิ่นเกียรติเช่นนี้มาก่อน
...เจ้าพิเภกมันเห็นคนอื่นดีกว่าเลือดเนื้อเชื้อไขได้อย่างไร เลวจริงๆ เจ้ายักษ์ด้อยค่าตนนี้ ทศกัณฐ์น้องพี่ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่จะฆ่ามนุษย์ลิงป่าให้สิ้น แล้วจะจับพิเภกน้องเลวมาให้เจ้าเอง...
ทศกัณฐ์เอนกายเข้าซบอกพี่อย่างเด็กน้อย
...ขอบพระทัยเสด็จพี่ ครานี้ลงกาเป็นหนี้บุญคุณพระองค์แล้ว...
ทัพนาสูรส่ายหน้า...บุญคุณอะไรกัน หน้าที่ปกป้องแผ่นดินของพรหมวงศ์คือหน้าที่เรา ยิ่งเราเป็นพี่น้องกัน จักรวาลและลงกามิใช่ใครอื่น...
พญาทศกัณฐ์ถลาเข้ากอดพี่อีกครั้ง นอนหนุนตักผู้เป็นพี่อย่างเด็กวางใจ...
.
ทัพนาสูรอาสารบ
.
.
.
.
.
.
«
Last Edit: 30 May 2024, 20:20:34 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,265
Re: [49] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกทัพนาสูร โดย กลม บางบาน
«
Reply #2 on:
31 July 2023, 08:59:39 »
31 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกทัพนาสูร (3)
-ทศกัณฐ์เลี้ยงต้อนรับทัพนาสูร
เจ้าลงการ้องสั่ง...ออกคำสั่งข้าออกไป ให้วิเสทนอกใน จัดถวายความสำราญแด่พระเชษฐาข้าโดยเร็ว แล้วให้จัดเลี้ยงสุรา อาหารแด่กองทัพแห่งจักรวาลอย่ามิให้ขาดตกบกพร่อง...
ทัพนาสูรยิ้มอย่างพอใจ แต่ก็โบกมืออย่างเกรงใจ...อย่าวุ่นวาย อย่าวุ่นวาย...
ขบวนเสนามารถวายบังคมแล้วคลานออกจากท้องพระโรงเป็นทิวแถว รีบรุดเข้าครัวร้องสั่งนางวิเสทให้โหวกเหวกลั่นโดยความโกลา เสนาผู้ใหญ่อีกฝ่ายเข้าตำหนักนางน้อยเพื่อให้ขันทีหลวงจัดนางในออกมาต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองตามราชประเพณี
.
บัดนั้น ฝ่ายนางพนักงานสาวสวรรค์
ล้วนทรงลักขณาวิลาวัณย์ ทั้งสิบสองกำนัลอสุรา
บ้างแต่งตัวหวีหัวกันไร ใส่กลิ่นตลบโอ่อ่า
ผัดพักตร์ผ่องเพียงจันทรา ขัดเกล้ากายาทุกนารี
นุ่งห่มประกวดอวดโฉม กล้องแกล้งประโลมเฉลิมศรี
จิ้มลิ้มพริ้มพร้อมทั้งอินทรีย์ ท่วงทีคมขำอำไพ
จัดสรรกันเป็นอลหม่าน โดยที่พนักงานน้อยใหญ่
ยกเครื่องเนื่องตามกันขึ้นไป ถวายองค์ท่านไทอสุรา ฯ
.
นางกำนัลทั้งสิบสองนาง ขนเครื่องเสวยขึ้นพระที่อย่างเป็นระเบียบ จัดวางอาหารคู่เครื่องเคียงตรงหน้าพระเชษฐาทัพนาสูร นางงามทั้งสิบสองเข้าประชิดองค์อย่างที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี บ้างตักอาหาร บ้างป้อนกับปาก บ้างนวดที่มือแขนขา บ้างถวายการสนทนาอย่างออดอ้อนให้ผ่อนองค์จากการเดินทางอันแสนไกล ถามสภาพความโอ่อ่าของเมืองจักรวาล ทัพนาสูรเล่าอวดความงามของนครตนอย่างลืมองค์
นางในพระราชสำนักได้รับการฝึกฝนทั้งกริยา มารยาท รวมถึงวิธีถวายการสนทนากับเจ้านายต่างเมืองในเชิงยอพระเกียรติอย่างมิให้รู้องค์ หลังจากอาหารนานาชนิดเข้าเรียงตัวได้ครึ่งกระเพาะ แถวนางรำก็เคลื่อนตัวสู่หน้าพระที่ แต่ละนางกรีดกรายตามจังหวะเพลงอย่างอ่อนช้อย ชม้ายตาทำเอียงอายเชิงมิกล้าสบพระเนตร
ทัพนาสูรยิ่งครื้นเครงชันกายพินิจความงามของแต่ละนางอย่างบรรจง
...ข้ามิคิดเลย ว่าลงกาจะเป็นแหล่งรวมสาวงามจากทั่วโลกได้มากมายขนาดนี้...
ทศกัณฐ์รู้ดีว่าจุดอ่อนของผู้กล้าคือสตรี
...ขออย่าลงอาญา เนื่องจากช่วงนี้ลงกาอยู่กลางศึก น้องเพียงแค่เรียกนางเล็กๆ หน้าตาพื้นๆ มารับรองเสด็จพี่เท่านั้นเอง หากบ้านเมืองร่มเย็นแล้ว น้องอยากจะเชิญเสด็จพี่มาพักผ่อนที่นี่นานๆ หรือท่านพี่จะอยู่ถาวรเพื่อปกครองประชา น้องก็ยินดี...
ทัพนาสูรได้ยินคำเชิญชวนอันหอมหวานจากทศกัณฐ์ก็ยินดียิ่งนัก เท่ากับน้องยอมหลีกทางให้ตนควบรวมทั้งจักรวาลและลงกา
...น้องพี่ก็ว่าไป พี่มาที่นี่เพื่อช่วยขับไล่ไอ้พวกมนุษย์โอหังให้พ้นๆ ไปจากลงกา เสร็จศึกแล้วเราพี่น้องค่อยมาคุยเรื่องอื่นๆ แล้วกัน...
ทัพนาสูรก็มิได้ปฎิเสธข้อเสนอของน้องร่วมบิดา เพราะถึงตนจะมีศักดิ์เป็นพี่ แต่เมืองจักรวาลก็เล็กกว่าลงกาอยู่มาก ใครหละจะไม่อยากเป็นเจ้าแห่งศูนย์กลางอาณาจักรอสูรอย่างลงกานคร
ดนตรียังมิทันจบ นางรำยังฟ้อนไม่ครบกระบวนท่า พญามารแห่งจักรวาลลุกขึ้นโดยไม่ให้สุ้มเสียง
...วาณุราชทหารข้า จงปลุกทหารให้ตื่นจากความรื่นรมย์ ตัวกูจะออกไปฆ่าศัตรูให้สิ้นคาใจน้องเรา เจ้าจงจัดทัพให้พร้อมสรรพ ข้าจะเคลื่อนทัพทันที...
ทศกัณฐ์มองดูท่าทางอันแข็งกร้าวของพี่ชายอย่างชื่นชม ทรุดตัวลงกับพื้น ถวายความเคารพอย่างสูงสุด
...บัดนี้ลงกาพ้นภัยแล้ว...
มารร้ายพยักหน้าให้มโหทรออกไปอำนวยความสะดวกแก่ทัพจักรวาล...
ทัพนาสูรก้าวออกจากบัลลังก์ เข้าสรงน้ำชำระกาย ประพรมน้ำหอมจนกรุ่นไปทั่วกาย รัดองค์ทรงกษัตริย์แดง เหน็บคทาเพชรที่เอว คว้าศรแล้วเร่งดำเนินขึ้นรถทรงที่จอดรออยู่แล้ว เคลื่อนพลจนถึงสนามรบ แล้วให้หยุดทัพเพื่อรอศัตรู...
.
ทศกัณฐ์เลี้ยงต้อนรับทัพนาสูร
.
ทศกัณฐ์เลี้ยงต้อนรับทัพนาสูร
.
นางในพระราชสำนักได้รับการฝึกฝนทั้งกริยา มารยาท ขนเครื่องเสวยขึ้นพระที่อย่างเป็นระเบียบ
.
«
Last Edit: 30 May 2024, 20:22:39 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,265
Re: [49] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกทัพนาสูร โดย กลม บางบาน
«
Reply #3 on:
01 August 2023, 08:47:26 »
1 สิงหาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกทัพนาสูร (4)
-ทัพนาสูรแปลงร่างใหญ่โต กลืนกินพลวานร
ฝ่ายพระรามตื่นจากบรรทม เข้าสรงน้ำ ลงสู่สมาคมกับเสนาวานรจากสองเมืองอย่างเคย พลันได้ยินเสียงโห่ร้องภาษามารที่เริ่มจะคุ้นชิน
...พญาพิเภกยอดโหรา วันนี้ผู้ใดคือนายทัพยักษ์หละนี่...
พิเภกคำนวณตามตำราที่เรียนมา สีหน้าไม่สู้ดี เพราะตะลึงกับตัวเลขตรงหน้า
...ศึกนี้ใหญ่นัก พญาทัพนาสูรเจ้านครจักรวาล จอมมารผู้มีศักดิ์เป็นพี่ทศกัณฐ์ยอมทิ้งเมืองมาช่วยรบ ยักษ์ตนนี้มีกำลังมาก สามารถเนรมิตกายให้ใหญ่เท่าภูเขากลืนกินทุกชีวิตที่ขวางหน้า ขอกราบทูลเชิญพระองค์จักรีออกไปรับมือกันอสูรตนนี้ด้วยเถิด...
พระรามผินพระพักตร์ไปทางสุครีพกษัตริย์แห่งขีดขิน
...ขอให้ท่านช่วยจัดทัพเพื่อเราจะได้ไปรับมือมารด้วยกัน... พระรามตรัสสั่งกึ่งไหว้วานพญาสุครีพด้วยพระสุรเสียงที่เกรงใจ
และบัดนี้ก็ดูเหมือนสุครีพจะยอมรับคำสั่งด้วยความเต็มใจ เพราะในขณะนี้ บุตรแห่งพระอาทิตย์ไร้ข้อกังขาว่าพระรามคืออวตารของพระนารายณ์จริงหรือไม่ เพราะหากเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ป่านนี้คงตายไปตั้งแต่ยังไม่ข้ามฝั่งมาถึงลงกาเสียอีก
ในหมู่สิ่งมีชีวิต มนุษย์จัดเป็นสัตว์ที่อ่อนแอที่สุด เพราะมนุษย์ไม่เข้าใจธรรมชาติ ไม่ปรับตัวอย่างรวดเร็วดั่งสิ่งมีชีวิตอื่นๆ มนุษย์เก่งในการหาข้ออ้างใส่ตัว ไม่เคยจะยอมรับว่าตนคือชนเผ่าที่อ่อนแอ ได้แต่โทษสิ่งโน้นสิ่งนี้
สุครีพจัดทัพใหญ่ ให้หนุมานหลานชายเป็นกองหน้า กองทหารเกียกกายนำโดยนิลเอก นิลนนท์เป็นยกกระบัตร ตบท้ายด้วยนิลขันผู้ได้รับความไว้ใจให้เป็นกองหลัง
พระรามชวนพระลักษมณ์เข้าสรงน้ำ แต่งองค์ เพื่อนำทัพออกรับอสูร เมื่อทัพวานรเดินมาถึงสนามรบ พระรามสั่งให้หยุดขบวนเพื่อดูเชิง
ทัพนาสูรถึงกลับตะลึงเมื่อเห็นรูปงามของสองมนุษย์ คนพี่งามดั่งพระอินทร์ คนน้องก็ดูหมดจดเหมือนพระจันทร์คืนแรม แต่ก็อดแค้นไม่ได้ที่มนุษย์ตัวกระจ้อยร่อยบังอาจมารุกรานเมืองบิดาตน
...จักราวุธ ขุนมาร จงโจมตีเหล่ามนุษย์ วานร อย่าได้ยั้ง....บุก...
กองทัพจักรวาลเข้าฟันแทง ยิงหน้าไม้ ปืนไฟเข้าใส่ทหารฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ยั้ง จนทัพวานรต้องถอยหนีแปรขบวนเป็นปีกกาโอบตีตอบโต้ทัพหน้าของทัพนาสูร จนทหารยักษ์ตายเกลื่อน
ขณะนี้ทัพนาสูรมิแปลกใจว่าเหตุใดยักษ์ถึงแพ้ลิง ยักษ์หัวขาดเพราะลิงรุมกัด ทั้งถีบจนเสียกระบวน ลิงป่าไม่ต่อสู้อย่างเป็นแบบแผน จะว่าสู้แบบกองโจรก็ว่าได้ เมื่อทัพนาสูรเห็นว่าทหารของตนเสียเปรียบในการปะทะ จึงชักศรสิทธิ์ขึ้นพาดสาย ท่องคาถาแล้วแผดไป แตกจำนวนเหนือคนานับ ศรแล่นเข้าปักอก ตัดหัว มือตีนเหล่าลิงป่าขาดกระจุย
ด้วยปฎิกิริยาพระรามแผลงศรพรหมมาสตร์ตอบโต้พญามารบ้าง ศรแห่งเทพเข้าเข่นฆ่าตั้งแต่ทหารเลวจนถึงเสนาแห่งจักรวาลนคร จนป่นปี้แทบหมดทัพ
ศรร้ายวิ่งพุ่งชนราชรถของราชามารพังยับไม่เหลือซาก ทัพนาสูรตกลงจากรถนอนอยู่บนพื้น แต่เพียงชั่วครู่ มารร้ายกลับยันกายขึ้น ท่องพระเวทบูชาคุณพรหม บันดาลให้ร่างกายใหญ่โตเท่าขุนเขา ปิดท้องฟ้าจนทั่ว แผ่นดินมีแต่ความมืด
ทัพนาสูรใช้จังหวะที่ทัพลิงเกิดโกลาหล เอามืออันใหญ่โตตามขนาดกาย โกยฝูงลิงเข้าปาก กลืนกินเป็นอาหาร
พระรามมิเห็นอะไรเลย เพียงแต่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของทหารตน จึงตะโกนถามพิเภกว่าเกิดอะไรขึ้น
พญาพิเภกตั้งสติได้ รีบถวายคำปรึกษาแด่นาย...
...ทัพนาสูรเนรมิตกายให้ใหญ่เท่าภูเขาจักรวาล บังพระอาทิตย์จนมืดมิด บัดนี้มันอ้าปากกลืนกินทหารลิงของเราจนจะหมดทัพอยู่แล้ว...
พระรามไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะจะแผลงศรออกไป ก็ไม่รู้จะยิงไปทิศทางไหน จึงร้องเรียกทหารใหญ่
...พญาสุครีพ ท่านจัดการเจ้าทัพนาสูรเสียเถิด ก่อนที่มันจะกินทหารของเราหมดทัพ...
.
ทัพนาสูรชักศรสิทธิ์ขึ้นพาดสาย ท่องคาถาแล้วแผดไป แตกจำนวนเหนือคนานับ ศรแล่นเข้าปักอก ตัดหัว มือตีนเหล่าลิงป่าขาดกระจุย
.
พระรามแผลงศรพรหมมาสตร์ตอบโต้พญามารบ้าง ศรแห่งเทพวิ่งพุ่งชนราชรถของราชามารพังยับไม่เหลือซาก ทัพนาสูรตกลงจากรถนอนอยู่บนพื้น
.
พระรามแผลงศรพรหมมาสตร์ตอบโต้
.
ทัพนาสูร เนรมิตกายให้ใหญ่เท่าภูเขาจักรวาล บังพระอาทิตย์จนมืดมิด บัดนี้มันอ้าปาก เอามือโกยฝูงลิงเข้าปาก กลืนกินเป็นอาหาร
.
«
Last Edit: 30 May 2024, 20:25:09 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,265
Re: [49] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกทัพนาสูร โดย กลม บางบาน
«
Reply #4 on:
01 August 2023, 08:48:28 »
1 สิงหาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกทัพนาสูร (5)
-ทัพนาสูรสิ้นชีวิต
ลูกพระอาทิตย์ไม่ยอมเสียเวลา เสกร่างกายให้ใหญ่ดั่งพรหม มีสี่หน้าแปดมือ พลางเหลือบเห็นร่างอันมหึมาของทัพนาสูร นอนกินฝูงประชาวานรของตนอยู่ สุครีพชักพระขรรค์เข้าตัดมือทั้งสองข้างของพญามารขาดกระจุย เลือดสาดลงดินดั่งสายฝน
ทัพนาสูรสะดุ้งเฮือกด้วยความเจ็บปวด ยันกายที่อยู่ใต้พื้นดินขึ้นมา เหยียบเหล่าวานรกระจอกด้วยความแค้น
...ไอ้ลิงร้าย ถึงมึงจะตัดมือกูขาด แต่กูก็ยังมีตีนที่จะเหยียบเหล่าบริวารของมึงจนจมดิน ดูสิดู...
ทัพนาสูรใช้เท้าอันมหึมา กดขยี้เหล่าลิงน้อยตายคาที่ครั้งละจำนวนมากๆ สุครีพรีบลดขนาดร่างกาย เข้าเฝ้าพระราม รายงานว่าตนได้ตัดแขนทั้งสองข้างของทัพนาสูรสำเร็จแล้ว ขอให้องค์รามจงรีบสังหารจอมมารโดยเร็ว
พระรามยิ้มน้อยๆ เชิงชื่นชมเสนาตน สั่งให้พระมาตุลีชักรถให้เข้าใกล้ทัพนาสูรยิ่งขึ้น องค์อวตารน้าวศรพรหมาสตร์อย่างสุดแรง แล้วยิงเข้าปากทัพนาสูร ศรสิทธิ์เข้าทำลายอวัยวะทุกส่วนที่วิ่งผ่าน คว้านตับไต ไส้ทะลักออกมากองอย่างน่าสมเพช
พิเภกยกมือขึ้นลาพี่ผู้ร่วมบิดาเป็นครั้งสุดท้าย อโหสิกรรมที่ตนทำในศึกนี้...
เมื่อทัพนาสูรท้องแตกตาย เหล่าศพทหารวานรก็ทะลักออกมากองทั่วพื้นสนามรบ ลมจากพระพายจะพัดเท่าไหร่ เหล่าทหารลิงก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอย่างเคย พิเภกจึงทูลชี้แนะว่า...
...การศึกครั้งก่อนๆ ทหารวานรตายจากอาวุธยักษ์ผู้อธรรม พระพายจึงสามารถชุบชีวิตให้ฟื้นคืนได้ แต่ครานี้เห็นจะยากเพราะเหล่าวานรตายด้วยการกินของทัพนาสูร องค์วายุจึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้... มีอยู่ทางเดียวคือ ขอให้พระองค์ยิงศรขึ้นฟ้าเพื่อขอความช่วยเหลือจากพระอินทร์...
พระรามมิมีทางเลือก จึงต้องทำตามที่พิเภกทูลเสนอ องค์รามยิงศรขึ้นฟ้า เสียงสนั่นพื้นสะเทือน
พระอินทร์ผู้กำลังพักผ่อนอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต ได้ยินเสียงลั่นก็ตกใจ รีบส่องดูว่ามีเภทภัยใดในโลกหรือไม่ พลันเห็นกองทัพพระรามอยู่ในสภาพที่ย่อยยับ เสียกำลังพลไปเป็นจำนวนมาก จึงร้องสั่งให้พระวิษณุกรรม์นายช่างสวรรค์ นำน้ำทิพย์ไปประพรมให้เหล่าศพทหารลิง
พระวิษณุกรรม์มิรอช้า เหาะอยู่เหนือสนามรบ เทน้ำทิพย์เป็นฝนโปรยปรายชุบชีวิตลิงเล็กใหญ่ให้ฟื้นคืนกลับมาดังเดิม ทั้งกองทัพวานรถวายความเคารพกันอย่างพร้อมเพียงด้วยใจขอบคุณ
พระรามสั่งทหารถอยทัพกลับสู่พลับพลาด้วยความอ่อนเพลีย...
.
สุครีพสู้รบกับทัพนาสูร
.
สุครีพสู้รบกับทัพนาสูร
.
พระรามน้าวศรพรหมาสตร์อย่างสุดแรง แล้วยิงเข้าปากทัพนาสูร ศรสิทธิ์เข้าทำลายอวัยวะทุกส่วนที่วิ่งผ่าน คว้านตับไต ไส้ทะลักออกมากองอย่างน่าสมเพช
.
«
Last Edit: 30 May 2024, 20:27:15 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,265
Re: [49] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกทัพนาสูร โดย กลม บางบาน
«
Reply #5 on:
30 May 2024, 20:29:06 »
ปรับปรุงภาพใหม่
Logged
Pages:
[
1
]
« previous
next »
SMF 2.0.4
|
SMF © 2013
,
Simple Machines
| Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.057 seconds with 24 queries.
Loading...