User Info
Welcome,
Guest
. Please
login
or
register
.
23 December 2024, 07:52:47
1 Hour
1 Day
1 Week
1 Month
Forever
Login with username, password and session length
Search:
Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ
http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618
Posts in
12,929
Topics by
70
Members
Latest Member:
KAN
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
|
ภาพประทับใจ
|
ผนังเก่าเล่าเรื่อง
(Moderator:
ผนังเก่าเล่าเรื่อง
) |
[47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
0 Members and 2 Guests are viewing this topic.
« previous
next »
Pages:
[
1
]
Author
Topic: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน (Read 698 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
[47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
on:
20 July 2023, 08:56:20 »
[47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
20 กรกฎาคม 2022 ·
เธอหนอเธอ...ขยี้..ลักษมณ์...
ขอเล่าเรื่องรามเกียรติ์ล่วงหน้า ในคืนวันนี้ เพราะพรุ่งนี้ไม่ว่างทั้งวัน หนุมานต้องพาพระลักษมัณ พระอนุชาหน้าทอง ไปโรงพยาบาล ตรวจสภาพร่างกาย เพราะบอบช้ำมาหลายครั้งแล้ว รวมทั้งฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก จากหอกโมกขศักดิ์ หอกสนิมของกุมภกรรณ และตอนต่อไปพระลักษมณ์ก็จะต้องโดนหอกกบิลพัท ของเฮียทศฯอีกแล้ว (คนเขียนบท ใจร้ายกับพระอนุชาเหลือเกิน เป็นผู้พิชิตความเจ็บปวดอยู่ได้คนเดียว) ก็เลยต้องพาไปตรวจเช็คฟิตร่างกาย งอมพระลักษมณ์จริงๆ
.
.
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 21:49:27 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #1 on:
20 July 2023, 08:57:44 »
20 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ (1)
-ทศกัณฐ์ให้ ยามลิวันและกันยุเวก ไปทูลเชิญเสด็จท้าวมาลีวราช
สองสารัณทูตเห็นการตายของพญาสัทธาสูร และบัดนี้ก็แน่ใจว่าวิรุญจำบังเสียทีแก่หนุมานแล้วอีกตนหนึ่ง สองมารทูตทหารม้า รีบตะบึงให้ถึงลงกาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
สองมารม้าใช้ หมอบกราบแทบบัลลังก์เจ้าแห่งลงกาทศกัณฐ์ เหงื่อโทรมกายพูดติดๆขัดๆ ลิ้นพันกันด้วยความตื่นกลัว
...บัดนี้....เออ....ทั้งพระสหายสัทธาสูรและพระนัดดาวิรุญจำบัง ได้พลีชีพเพื่อพระองค์แล้ว...
ทศกัณฐ์เหงื่อตก หน้าร้อน เย็นวาบไปทั้งตัว นั่งนิ่งเพราะไม่รู้จะรับสั่งอย่างไร พระสหายและหลานรักจะฟื้นขึ้นมา บัดนี้กษัตริย์มารได้แต่ประคองกายลงจากบัลลังก์อย่างยักษ์ชราธรรมดาๆตนหนึ่ง ความเศร้าทำให้หนทางดูมืดมน
พญามารค่อยๆเดินเข้าพระที่ ขึ้นเอนกายบนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยาก ถึงจะมีบริวารที่ต่างมีความงามเฉพาะตนอยู่รอบข้าง พญายักษ์รู้สึกว้าเหว่เหลือเกิน เจ้าแห่งอสูรไม่อาจรู้ว่า ตนคว้ามืออันบอบบางของนางงามตนใดมาไว้ที่อก เพียงแต่ให้แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้มิได้อยู่เพียงลำพัง ความหนาวเหน็บเข้าเสียดแทงหัวใจที่เคยแข็งแกร่ง
...ข้าหมดแล้วที่พึ่ง ลูกข้าตายหมด ข้าสิ้นน้อง ข้าไร้มิตร ข้าไม่เหลือญาติที่จะพึ่งพิงอีกแล้ว...ญาติ...
ทศกัณฐ์กลับสะดุ้งตื่น ดั่งมีแรงวิเศษเข้าร่าง ยักษ์ชราดูกระฉับกระเฉงขึ้นมาอีกครั้ง พญามารสะบัดมือน้อยๆ ที่เมื่อครู่ใช้พักใจอย่างไม่ไยดี
...ทหาร เจ้าจงไปตาม ยามลิวันและกันยุเวก...มาหาข้าด่วนที่สุด...
อีกมิเกินใจรอ สองกุมารผู้เป็นทายาทปิ่นลงกาก็มาถึง ทั้งสองมีปิ่นสลักปักที่หัวจุกอันแสดงว่าเป็นหน่อเนื้อเชื้อพรหมกษัตริย์ ทั้งสองผิวเขียวใสดั่งมรกตเนื้ออ่อน เอวคอดสันทัดตามชาติตระกูลสูง ผิวพรรณผ่องใสน่ารักสมวัยเด็ก ตาหน้าคมคายไหล่ผ่าเผยงามสง่าดุจอินทราชิตผู้บิดา สองราชนัดดาคลานเข้ามาถวายบังคม เงยหน้าส่งสายตาเชิงประจบเสด็จปู่
...องค์เหนือหัว มีกิจอันใดจึงให้ข้าหลวงไปตามหลานทั้งสอง โปรดรับสั่งเพื่อหลานจะได้สนองคุณด้วยเกล้า...
พญามารยินดีทุกครั้งที่ได้เห็นแววตาอินทรชิตในตัวหลานสองตนนี้ ถึงจะเป็นกุมารน้อยแต่ปฏิภาณไหวพริบในการเจรจา มิต่างจากอินทรชิต
...หลานเอย หลานขวัญของปู่ บัดนี้ปู่เดือดร้อนทั้งกายใจ เพราะการคุกคามของเจ้ามนุษย์รามลักษมณ์ มันฆ่าพ่อของเจ้า และญาติมิตรจนเราจะสิ้นวงศ์พรหมอยู่แล้ว ปู่นึกได้ว่าตะกูลของเรา มีพระญาติเป็นพรหมผู้เที่ยงตรง พระนามว่าท้าวมาลีวราช พรของท่านช่างศักดิ์สิทธิ์นัก และคำสาปแช่งของท่านก็รุนแรงชนิดทันตาเห็น ปู่ขอให้หลานทั้งสองไปทูลเสด็จเชิญท้าวมาลีวราช ให้มาพิพากษา ขับไล่ศัตรูเราให้พ้นจากลงกา แช่งให้มันตายตกกันไปทั้งสองพี่น้อง ความสงบสุขจะกลับมาสู่ชาวเราอีกครา...
สองราชกุมารยินดีที่จะได้แสดงฝีมือถวาย บุตรแห่งอินทรชิตถวายบังคมแล้วถอยออกห่าง ต่างดีใจที่จะได้ทำงานอันยิ่งใหญ่เพื่อเสด็จอัยกาและลงกา สององค์ชายกระโดดขึ้นม้างามสง่าดั่งผู้สืบเลือดแห่งขัตติยะ ควบอาชาข้ามน้ำข้ามเขา มุ่งสู่ยอดฟ้าคีรีอันเป็นที่ประทับของท้าวมาลีวราช...
.....
เหตุผลที่ทศกัณฐ์ใช้ให้สองกุมาร บุตรแห่งอินทรชิตไปเชิญท้าวมาลีวราช สามารถวิเคราะห์ได้เป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้
1. ยามลิวันและกันยุเวก เป็นหน่อเนื้อเชื้อพรหมสืบสานจากตนแท้ๆ การจะเชิญพรหมก็ต้องใช้หน่อเนื้อเชื้อพรหมไปทูลเชิญ
2. การเป็นเด็ก น่าจะได้รับการเอ็นดูมากกว่าเสนาอำมาตย์ เพราะอย่างไรท้าวมาลีวราชเป็นผู้ทรงเมตตาอยู่แล้ว จะได้ทรงเอ็นดูเหลนทั้งสองมากขึ้น
3. ทั้งสองกุมารฉลาดเยี่ยงอินทรชิต ได้รับการศึกษาจากในวัง จากพระอาจารย์โคบุตรฤาษีผู้เป็นครูของปู่ ของพ่อ ตลอดจนถึงราชกุมารทั้งสอง กริยามารยาทจึงเพรียกพร้อมรู้จักกาละและการเจรจา
.
โขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ
.
ยามลิวันและกันยุเวก สองกุมารเข้าเฝ้าทศกัณฐ์
.
ยามลิวันและกันยุเวก สองกุมารเข้าเฝ้าทศกัณฐ์
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 21:53:02 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #2 on:
20 July 2023, 08:58:45 »
20 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ (2)
-ยามลิวันและกันยุเวก เชิญท้าวมาลีวราช ไปพิพากษา
สองกุมารคลานเข้าเฝ้าหน้าพระพักตร์องค์พรหมมาลีวราช ถวายบังคมอย่างพร้อมเพียง สองกุมารได้แต่บอกตนเองว่า...ร่างกายของต้นตระกูลอสูร ช่างใหญ่โตงดงามอะไรเช่นนี้ รัศมีจากกายสว่างวาบจนต้องหลบตา แต่ผู้เข้าเฝ้ากลับรู้สึกถึงพลังอันเมตตาที่ท้าวมาลีวราชมีให้แก่ทุกชีวิต ใช่สิ เพราะท่านคือพรหม พรหมอันประเสริฐไม่มีความต้องการทางโลกเจือปน ท่านมีแต่ความเมตตา...
สองกุมารสกัดความประหม่า แล้วกราบทูลตามที่เสด็จปู่ทูลสั่งมา
...ข้าบาททั้งสองขอนมัสการมาลีวราชพรหมาผู้เมตตา ขณะนี้กรุงลงกาเดือดร้อนด้วยสองมนุษย์รามลักษมณ์ผู้นำพลลิงจองถนนข้ามสมุทรเข้ามารุกรานนครลงกา จนวงศ์พรหมาของพระองค์ตลอดถึงชาวประชาเดือดร้อนกันถ้วนหน้า พญาทศกัณฐ์จึงใช้ให้กระหม่อมมาทูลเชิญพระองค์ไปชำระความ ให้สองมนุษย์เลิกราวีเมืองมารเสียที...
ท้าวมาลีวราชรู้สึกแปลกใจ
...ฤทธิ์เดชขององค์ทศกัณฐ์ระบือไปทั้งสามโลก ทั้งอินทร์เทพ ยมยักษ์ ล้วนเกรงเดชแห่งขุนมารยิ่ง อีกอย่างเมืองมนุษย์กับลงกานั้นมีมหาสมุทรใหญ่กางกั้น สองพี่น้องนี้เป็นใครกัน จึงมีฤทธิ์มากขนาดทำให้พญาทศกัณฐ์เดือดร้อนได้ แล้วเหตุใดมนุษย์รามลักษมณ์จึงต้องอุตส่าห์ข้ามน้ำฝ่าอันตรายจนมาถึงเมืองมาร...
สองกุมารขยับตัวให้สบายขึ้น แล้วเล่าความเป็นมาจากที่เคยซักซ้อมไว้
...เรื่องราวมีอยู่ว่าพญาทศกัณฐ์ได้ออกประพาสป่า แล้วได้พบกับผู้หญิงนางหนึ่งนามว่าสีดา ผู้โดดเดี่ยวอยู่กลางอันตราย พญายักษ์ได้ชุบเลี้ยงนางไว้ด้วยความเอ็นดูอันบริสุทธิ์ใจ นางไร้ญาติขาดมิตรอยู่แต่ผู้เดียวมาแต่เล็ก พญาทศกัณฐ์เห็นเข้าจึงนึกสงสาร กลัวอันตรายจะมาสู่นาง จึงพานางมาเลี้ยงดูในสวนขวัญท้ายเกาะลงกา ท้าวเธอมิเคยคิดล่วงเกินใดๆเลย นอกจากจะเลี้ยงไว้เพื่อเอาบุญ แต่อยู่มาวันหนึ่ง สองมนุษย์รามลักษมณ์ผู้เป็นลูกท้าวทศรถ หลานท้าวอัศบาล กลับยกทัพวานรมาเพื่อจะชิงสีดา โดยอ้างว่าตนเป็นสามี จะมาชิงเมียกลับคืน มนุษย์ร้ายฆ่าฟันเหล่าพระญาติวงศ์อย่างเลือดเย็น จนพญาทศกัณฐ์พระปิตุลาของสองเกล้า ใช้ให้มาขอพระบารมีไปชำระความเพื่อปกเกล้าประชากรให้พ้นภัยนี้...
ท้าวมาลีวราชได้ยินนาม...ท้าวอัชบาล...สหายรักที่สนิทสนมกันมานานก็ยิ่งนึกแปลกใจ
.....แทรก.....
ขอเล่าลำดับความเป็นมาของความเป็นญาตินะครับ ท้าวมาลีวราช (เดิมชื่อมาลีวัคคพรหม) เป็นพี่ชายของท้าวสหบดี ผู้ดำริการสร้างและมอบนครลงกาให้พระญาติที่เป็นพรหมเหมือนกันชื่อท้าวจตุรพักตร์ ท้าวจตุรพักตร์เป็นปู่แท้ๆของทศกัณฐ์ปกครองลงกาอย่างร่มเย็น จนสืบมาถึงลูกคือท้าวลัสเตียน (ที่เริ่มมีหน้าเป็นยักษ์แล้ว) และสืบสายเลือดต่อมาถึงรุ่นหลาน คือทศกัณฐ์พระเอกของเรานี่เอง ท้าวมาลีวราชจึงมีศักดิ์เป็นปู่ของพญาทศกัณฐ์
เหตุที่ทำให้ท้าวมาลีวราช (ขณะนั้นยังเป็นมาลีวัคคพรหมอยู่) สนิทกับท้าวอัชบาลเนื่องจาก คราหนึ่งมีอสูรชื่ออสูรพรหม ทรมานกายจนพระอิศวรเห็นใจ
ประทานคทาเพชรและพรว่าจะไม่แพ้ผู้ใด แต่ท้าวมาลีวัคคพรหมผู้อยู่ในสภาขณะนั้นกังวลว่า อสูรพรหมจะเที่ยวเกเรทำให้ชาวโลกเดือดร้อน จึงขอให้พระอิศวรประทานพระขรรค์เพชรแก่ท้าวอัชบาลและประทานพรว่าให้สามารถชนะคทาเพชรและฤทธิ์ของอสูรพรหมได้
พระอิศวรจึงทรงใช้ให้ท้าวมาลีวัคคพรหมนำพระขรรค์มามอบให้ท้าวอัชบาล จนในที่สุดอสูรพรหมก็ตายด้วยพระขรรค์เพชรของท้าวอัชบาลจริงๆ ทำให้ต้นตระกูลยักษ์และต้นตระกูลมนุษย์ซึ้งน้ำใจกันและกัน สาบานกันเป็นเพื่อนตาย
เมื่อท้าวมาลีวัคคพรหมได้สำเร็จเป็นพรหม ขอลาพระอิศวรไปอยู่บนเขายอดฟ้า พระอิศวรเห็นในความเที่ยงตรงของพรหมองค์นี้ จึงประทานพรให้มีวาจาสิทธิ์ อวยพรผู้ใดก็เห็นผล แช่งใครก็จะชิบหายทันตา และมอบหมายให้ปกครองเหล่าคนธรรพ์ ยักษ์ นักสิทธิฤๅษี ประทานนามให้ใหม่ว่า...มาลีวราช...
.....แทรก.....
ท้าวมาลีวราชมั่นใจว่าหลานแห่งอัชบาล มิได้มีนิสัยเกเรตามที่สองกุมารทูลถวาย แล้วทั้งสองตระกูลจะมาทำการศึกเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวนั้น เป็นสิ่งที่มิควรอย่างยิ่ง องค์พรหมจึงตัดสินใจจะลงจากยอดฟ้าคีรีไปไกล่เกลี่ยให้กษัตริย์ของทั้งสองพงศ์กลับมาเป็นมิตรต่อกัน จึงประกาศต่อหน้าเทพสภาว่า
...ที่แท้สองพี่น้องรามลักษมณ์ก็คือหน่อเนื้อของท้าวอัชบาลเพื่อนรักเรานี่เอง มิน่าถึงสามารถบุกมาถึงลงกาได้ วงศ์วานแห่งท้าวอัชบาลนั้นคือวงศ์วานสืบจากเทพเหมือนกันและมีความสามารถพอที่จะล้างสุริย์วงศ์พรหมยักษ์ได้ เรากับท้าวอัชบาลนั้นเป็นเพื่อนตายกันมาก่อน แต่เนื่องจากระยะทางเมืองห่างกันไกล จึงห่างกันมิได้ไปมาหาสู่อย่างเคย จนกาลล่วงมาท้าวอัชบาลหมดบุญบนโลก เสด็จสู่สวรรค์แล้ว ข้าก็ไม่ได้ไปเยี่ยมอโยธยาซะที ดีหละครั้งนี้ข้าจะไปพบหลานของสหายรัก แล้วจะปรับความเข้าใจให้ลงกาและอโยธยาเป็นมิตรกันดั่งเช่นเดิม...
...มหาเสนาเทพจงเตรียมขบวน ข้าจะไปเยือนลงกา...
เทพเสนาทั้งสี่รับบัญชา ออกไปจัดขบวนเสด็จแบบชาวสวรรค์...
.
ยามลิวันและกันยุเวก เชิญท้าวมาลีวราช ไปพิพากษา
.
ยามลิวัน
.
กันยุเวก
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 21:55:29 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #3 on:
22 July 2023, 08:35:42 »
22 กรกฎาคม 2022 ·
ทศกัณฐ์โดนฟัน
หลังจากพาพระลักษมณ์ไปตรวจเช็คร่างกายเสร็จ ก็ให้พระองค์พักผ่อน เตรียมพร้อมสู้ศึกต่อไป แต่จะไหวหรือเปล่าไม่ทราบ เพราะพระองค์มีสภาพความดันโลหิตสูงถึง 178 หมอให้พักผ่อนมากๆ แต่ภารกิจนี้มันยิ่งใหญ่เกินจะพักได้ ต้องเจ็บอีกครั้ง ก็ขอให้พี่น้องแฟนๆพระลักษมณ์ เอาใจช่วยด้วยก็แล้วกัน...
จากนั้นข้าฯจึงชวนน้าสุครีพออกไปหาผลไม้อาหารมาสำรองไว้ในยามสงคราม เดินผ่านหน้าคลินิกทันตกรรม เจอเฮียทศฯ เดินออกมาพอดี สองในยี่สิบมือคลำประคองหน้าหนึ่งจากสิบหน้า ด้วยอาการเจ็บปวดและวิตกกังวล พอเจอหน้ากัน เฮียแกก็ตีบทยักษ์เข้าใส่ทันที...
เฮียเขาเดินออกมา แล้วตบหัวหนุมานเสียคว่ำข้าวเม่า(เป็นยังไงวะ ไอ้คว่ำแบบนี้) หนุมานฉุนขาด จะจัดหนักเฮียทศฯ แต่น้าสุครีพเข้าห้ามไว้ทัน
...ไอ้ลิงจ๋อ คราวที่แล้วมึงเล่นบทหนักเกินบท ชกหน้ากูจนกูบาดเจ็บ ผกก.บอกแล้วให้แค่เฉียดๆ แต่มึงก็เล่นกูซะเต็มหน้าเต็มปาก จนฟันกูร้าวแตกกระเทาะ 2 ซี่ มาหาหมอแล้ว กูต้องทำรากฟันเทียม ซี่ละ 45,000 บาท ไม่คุ้มกับค่าตัว ค่าเจ็บตัวเลยโว้ย มึงต้องช่วยกูออกค่าฟันซี่นึงนะ นะจ๊ะน้องมานของเฮีย...
สมน้ำหน้า โดนหมอ ฟัน(กรรโชกทรัพย์)ซะตั้งเกีอบแสน ฮ่า ฮ่า ฮ่าาา...
.
อ๋อยยย...เจ็บบบบ....2 ซี่เลยตรู...
.
แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับมึง ไอ้ลิงจ๋อ...
.
กรูเป็นใคร มึงรู้รึป่าววว......(กรูเองก็ยังไม่รู้เลยว่ากรูเป็นใคร)
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 22:06:37 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #4 on:
22 July 2023, 08:38:03 »
22 กรกฎาคม 2022 ·
ข้าคือ...พญามาร ผู้ยิ่งใหญ่ในสามโลก.
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 22:07:35 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #5 on:
22 July 2023, 08:38:53 »
22 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ (3)
-ท้าวมาลีวราชเสด็จประทับหน้าเมืองกรุงลงกา
จากนั้นองค์พรหมเสด็จเข้าสรงน้ำ (ดั่งกษัตริย์ทั่วไป) แต่งองค์ด้วยผ้าเนื้อละเอียดสีขาว สวมสังวาลมรกต ธำมรงค์เพชรติดก้อย รัดองค์เสร็จก็คว้าพระขรรค์แก้ว แล้วเสด็จขึ้นรถทรงอันเทียมด้วยม้าสวรรค์พลังดุจดั่งราชสีห์
ริ้วขบวนเดินบนอากาศตามจังหวะสังข์แตร ธงทิวปลิวไสวตามแรงพระพายที่โบกโบย ข้ามขุนเขา มหาสมุทร จนลงจากอากาศที่ลานกว้างหน้าเมืองลงกา ท้าวมาลีวราชสั่งให้หยุดขบวน แล้วตรัสสั่งหลังตรึกตรองอย่างระมัดระวัง
...ตัวข้านี้เป็นผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย หากเข้าไปในลงกา รามลักษมณ์ก็จะกังขาว่าข้าลำเอียง แม้นจะไปที่ค่ายของฝ่ายอโยธยา ทศกัณฐ์ก็จะน้อยใจ เอาหละเพื่อความเหมาะควรเราจะหยุดอยู่ที่นี่...
สองกุมาร ยามลิวันและกันยุเวก ที่ควบม้ามากับขบวนเสด็จ ชักม้าเข้าป่าตัดเข้าสู่ประตูลงกา กุมารยักษ์รีบไปกราบเสด็จปู่แจ้งความจำนงของท้าวมาลีวพรหม
...หลานทั้งสองได้ทำราชกิจสำเร็จแล้ว ได้ทูลมูลเหตุของคดี รวมถึงป้ายสีรามลักษมณ์ตามที่เหนือหัวสอนสั่ง บัดนี้ท้าวมาลีวราชเสด็จมาถึงชายเมืองลงกา แต่มิโปรดจะเข้ามาในเมือง เพราะทรงตรัสว่ารามลักษมณ์คือหลานของพระสหายสนิท หากเข้ามาในเมืองมารจะไม่เป็นการยุติธรรม ท่านจึงประทับที่สนามรบ ขอเชิญเสด็จปู่ออกไปเฝ้าด้วยเถิด...
พญาทศกัณฐ์แสดงสีหน้ากังวล เพราะก่อนหน้านี้ออกสั่งการให้สนมกำนัลจัดเตรียมที่ประทับ พลับพลาเพื่อรับท้าวมาลีวราช บ้านเมืองถูกปัดกวาดจนสะอาดเอี่ยม บ้านเรือนในลงกาต่างตกแต่งให้ดูโอ่อ่าดั่งเมืองเทพ โรงครัวได้เตรียมอาหารคาวหวานสารพัดชนิด แต่ก็ต้องสะดุ้งที่พระอัยกาไม่ยอมเสด็จเข้ามาในเมือง แถมพระองค์ยังรู้จักต้นตระกูลของรามลักษมณ์อีก
...ถึงกูจะเป็นหลานแท้ๆ หากท่านรู้ว่าเราโกหก ท่านจะทรงกริ้วแล้วสาปแช่งกูแน่ๆ แต่เอาหละเราต้องรีบไปเข้าเฝ้าก่อนเจ้าพวกมนุษย์ เพื่อจะได้เป็นโจทย์ น้ำหน้าอย่างรามลักษมณ์รึจะสู้ฝีปากกูได้...
...เปาวนาสูร จงเตรียมรถให้พร้อม เราจะออกไปทูลเชิญท้าวมาลีวราชให้เสด็จเข้ามาหย่อนองค์ในลงกา...
อีกเช่นเคยตามราชประเพณีของกษัตริย์ จะไปไหนก็ต้องสรงน้ำก่อน พอเสร็จก็จะแต่งองค์ตามแต่โอกาส จากนั้นเจ้านครมารขึ้นรถตรงไปยังสมรภูมิเพื่อรับพระอัยกา...
เมื่อมาถึงสนามรบ ขบวนของเจ้าลงกาเวียนขวาสามรอบ รอบบริเวณที่ท้าวมาลีวราชประทับเพื่อเป็นการแสดงความเคารพอย่างสมพระเกียรติ แล้วหยุดรถที่เบื้องซ้ายขององค์อัยกา
ทศกัณฐ์ลงจากรถ เดินเข้าไปแล้วเปิดกรวยถวายธูปเทียนแพ โปรยดอกไม้หอมบูชาท้าวมาลีวราชตามราชประเพณี ในฐานะหลาน พญามารถวายบังคมอย่างนอบน้อม
...กระหม่อมขอถวายบังคมองค์พรหมผู้ปกเกล้าเหล่าสุริย์วงศ์พงศ์ยักษ์ให้อยู่อย่างผาสุกแต่กาลก่อนมา หม่อมฉันขอเชิญพระอัยกาเสด็จเข้าสู่นครลงกาเถิด ควรมิควรแล้วแต่จะทรงโปรด...
ท้าวมาลีวราชพยักหน้าน้อยๆรับความเคารพ มิได้ตรัสสั่งอันใดออกมาเป็นเสียง แต่ทรงตอบด้วยญาณความว่า
...ด้วยความยุติธรรม เราคงพูดอะไรกับเจ้ามากไม่ได้ เราต้องฟังความจากทั้งสองฝ่ายก่อนจะตัดสินคดีนี้ เอาหละเราจะเชิญเหล่าเทวดาให้มาเป็นพยาน...
.
เมื่อนั้น พระผู้ทรงปัญญาอัชฌาสัย
ฟังเจ้าลงกากรุงไกร มาเชิญเข้าไปพารา
มิได้ตรัสตอบพจมาน ตรึกไปด้วยญาณอุเบกขา
ตัวกูเป็นประธานโลกา จะว่าความฝ่ายเดียวไม่ควรนัก
จะเป็นที่ตำหนิติฉิน ดูหมิ่นทั่วไปทั้งไตรจักร
ว่าเข้าด้วยข้างทศพักตร์ หลานรักสหายจะน้อยใจ
จำจะประชุมเทเวศ กับองค์ตรีเนตรผู้ใหญ่
พร้อมกันในสมรภูมิชัย จึ่งจะให้ไปหาพระรามมา ฯ
.
แล้วทรงร้องประกาศด้วยอำนาจแห่งพรหม เรียกเหล่าเทพบนสวรรค์ทุกชั้น รวมถึงองค์จตุโลกบาล* ตลอดจนองค์อินทร์ ว่าวันนี้ท้าวเธอจะชำระความพิพาทระหว่างทศกัณฐ์เจ้าแห่งลงกาและพระรามแห่งอโยธยา ขอให้มวลเทพเสด็จลงมาเป็นพยานในการตัดสินนี้ด้วย
เทพต่างดีใจที่ท้าวมาลีวราชผู้เที่ยงตรงเข้ามาตัดสินกรณีพิพาทนี้ เพื่อจะได้จบสิ้นไม่มีใครตายเพิ่มเสียที เทพจากทุกชั้นฟ้ามุ่งหน้ามาที่สมรภูมิลงกา บัดนี้บริเวณสนามที่ใช้รบพุ่งกลับกลายเป็นสภาเทพบนดิน
เมื่อเหล่าเทพมาประชุมโดยเพรียกพร้อมแล้ว ท้าวมาลีวราชจึงเริ่มการไต่สวน
...นี่หลานเรา พญาทศกัณฐ์แห่งลงกา เจ้ามีเรื่องขัดเคืองกับพระรามในเรื่องใด จงบอกสาเหตุตามจริงมาเถิด...
ทศกัณฐ์ผู้ตั้งท่าจะทูลถวายมานานแล้ว จึงชี้แจงว่า...
.....
*จตุโลกบาล คือเทพผู้ประจำทั้งสี่ทิศ คือ
1. ท้าวธตรฐ เจ้าแห่งภูตและคนธรรพ์ ดูแลทิศตะวันออก
2. ท้าววิรุฬหก เจ้าแห่งเทวดาและกุมภัณฑ์ ดูแลทิศใต้
3. ท้าววิรูปักษ์ เจ้าแห่งนาค ดุแลทิศตะวันตก
4. ท้าวกุเวร เป็นเจ้าแห่งยักษ์ ดูแลทิศเหนือ (กุเปรัน ผู้เป็นพี่ชายต่างมารดาของทศกัณฐ์ เป็นเจ้าของบุษบกแก้วที่ทศกัณฐ์แย่งชิงมา จนพระอิศวรซัดให้งาปักที่อกของทศกัณฐ์)
.....
.
ท้าวมาลีวราชเสด็จขึ้นรถทรงอันเทียมด้วยม้าสวรรค์พลังดุจดั่งราชสีห์ เคลื่อนริ้วขบวนเหาะเหิรเดินไปบนอากาศ ข้ามขุนเขา มหาสมุทร จนลงจากอากาศที่ลานกว้างหน้าเมืองลงกา
.
ท้าวมาลีวราชเด็จประทับบนรถทรง ทศกัณฐ์ถวายความเคารพ
.
ทศกัณฐ์ถวายบังคมท้าวมาลีวราชอย่างนอบน้อม
.
ท้าวมาลีวราช เชิญองค์พระอินทร์ และท้าวจตุโลกบาล รวมทั้งเหล่าเทพยดาบนสรวงสวรรค์ ลงมาเป็นสักขีพยาน ในการตัดสินกรณีพิพาทนี้ด้วย
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 22:08:36 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #6 on:
22 July 2023, 08:40:00 »
22 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ (4)
-ทศกัณฐ์เป็นโจทย์กล่าวหาพระราม
ท้าวมาลีวราชพรหมประกาศเรียกให้เหล่าเทวาจากทุกชั้นฟ้ามาประชุมกันที่สนามรบนอกเมืองลงกา เพื่อเป็นพยานในการตัดสินกรณีระหว่างพญาทศกัณฐ์อันเป็นหลานชายองค์พรหม และพระรามเจ้าชายพลัดถิ่นจากอโยธยาผู้เป็นหลานของอัชบาลสหายรักแห่งพรหมมาลี
ทันทีที่ทศกัณฐ์มาถึง จอมอสูรรีบลงจากรถ คลานเข่าเข้ากราบพระอัยกาอย่างนอบน้อม เปิดกรวยถวายพานพุ่มธูปแพเทียนแพ ถวายเครื่องสูงเฉกเช่นบูชาเทพ
ท้าวมาลีวราชเข้าประเด็นทันที ทรงเริ่มสอบสวนถึงความเป็นมาของกรณีพิพาทที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นระหว่างสองเผ่าพันธุ์ที่ช่างห่างไกล
ทศกัณฐ์รีบชี้แจงอย่างไม่ติดขัด
...หลายปีมาแล้วหม่อมฉันไปเที่ยวชมพฤกษาสัตว์ในป่า บังเอิญเห็นหญิงนางหนึ่งมีนามว่าสีดา นางกำพร้าพ่อแม่ อยู่ตามลำพังท่ามกลางอันตรายในป่าใหญ่ หลานนึกสงสารจึงรับมาชุบเลี้ยงไว้เพื่อหวังจะเอาบุญ โดยให้นางพำนักที่สวนขวัญท้ายเกาะลงกา มิเคยแม้แต่จะคิดล่วงเกินนางเลยแม้แต่น้อย แต่อยู่ๆสองมนุษย์รามลักษมณ์ก็อ้างตัวว่าเป็นสามี ยกพลกระบี่จองถนนข้ามสมุทรมารุกราน อวดอ้างฤทธิเดชฆ่าฟันวงศ์มารจนแทบจะสูญสิ้น หลานจึงจำต้องทูลเชิญให้เสด็จปู่มาพิพากษาไล่ศัตรูไปให้พ้นนครมาร...
ท้าวมาลีวราชไม่ปักใจเชื่อต่อคำของทศกัณฐ์นัก เพราะยังเชื่อว่าลูกหลานของอัชบาลคงจะไม่ผ่าเหล่ากอขนาดนั้น
...ทศพักตร์หลานเรา ตัวปู่คือผู้ดูแลทั้งสามโลก คงไม่อาจจะด่วนตัดสินความจากคำให้การของเจ้าแต่ฝ่ายเดียว เพื่อความยุติธรรมเราต้องเรียกพระรามมาให้การเพื่อความกระจ่างในคดี...
...พระวิษณุกรรม ท่านช่วยไปตามพระรามให้เสด็จมาที่นี่ เพื่อแก้ต่างข้อกล่าวหาของทศกัณฐ์ด้วยเถิด...
พระวิษณุกรรมเหาะตรงไปเชิงเขามรกต ลงจากอากาศตรงเข้าแจ้งหมายเรียกแด่พระรามทันที
...องค์มาลีวราชพรหมผู้ดูแลชีวิตในสามโลกทรงเชิญให้องค์รามแห่งอโยธยา หลานแห่งอัชบาลผู้เป็นสหายรักเสด็จไปให้การแก้ต่างกรณีพิพาทอันมีพญาทศกัณฐ์เป็นโจทย์ พญามารกล่าวหาว่ารามแห่งอโยธยายกพลมารุกรานลงกา แล้วอวดอ้างว่าตนเป็นสามีแห่งสีดา จะมาทวงเอาเมียคืน...ขอเชิญองค์ชายเสด็จตามข้ามาแต่โดยเร็ว...
พระรามนั่งนิ่งเพราะแปลกใจที่เพิ่งเคยรู้ว่าต้นตระกูลยักษ์เป็นสหายรักกับท้าวอัชบาลผู้เป็นปู่ตน
...ผู้อาวุโสในที่นี้ ทั้งท่านสุครีพ องคต หนุมาน พิเภก ชมพูพาน ชมพูวราช...มีท่านไหนพอทราบถึงประวัติของต้นตระกูลเราบ้าง แล้วเกี่ยวดองกับท้าวมาลีวาราชพรหมอย่างไร...
ขุนกระบี่แต่ละตัวส่ายหัว เพราะต่างเกิดไม่ทันกาลครั้งนั้นจริงๆ
มีเพียง ชมพูวราช (หรือมีชื่อเดิมว่านิลเกสร เป็นลิงตัวแรกของโลก) ผู้อาวุโสแห่งกองทัพนารายณ์ ยันตัวขึ้นตรงถวายบังคม แล้วชี้แจง
...เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ขณะนั้นข้าก็ยังเด็กนัก เวลาผ่านล่วงแล้วเกือบจะหนึ่งกัลป์ ถึงแม้ข้าจะอยู่ในวัยชราแต่ก็ยังจำความได้ดี มียักษ์ตนหนึ่งชื่อว่าอสุรพรหมได้ทรมานกายเพื่อหวังจะเป็นพรหมอสูร เพื่อปกครองทั้งสามโลก การทรมานกายของอสูรตนนี้เป็นที่โปรดปรานของพระอิศวรอย่างยิ่ง จนจอมเทพประทานพรให้ตามอสุรพรหมขอ พรนั้นคือ อสุรพรหมสามารถชนะทุกชีวิตในสามโลก และพระอิศวรยังประทานคทาเพชรอันสามารถทำลายอาวุธทุกชนิดในไตรจักร
...แต่ท้าวมาลีวราชผู้อยู่ในเทวะสภาด้วยขณะนั้น มีความกังวลว่าอสุรพรหมจะใช้อำนาจในทางที่ผิด จึงทูลค้านขอให้พระอิศวรทรงประทานพระขรรค์เพชรที่สามารถชนะคทาเพชร และพรให้สามารถชนะอสุรพรหมแก่ท้าวอัชบาล เพื่อให้มีซักคนเป็นผู้คานดุลอำนาจของอสุรพรหม ที่ต่อมาพรหมยักษ์มีความกำเริบตามคำทำนายของมาลีวราชพรหม พระอิศวรเห็นชอบ จึงมอบหมายให้ท้าวมาลีวราชนำพระขรรค์เพชรมามอบให้ท้าวอัชบาล จนท้าวเธอทั้งสองสาบานเป็นเพื่อนตายต่อกัน นี่คือความเกี่ยวข้องระหว่างต้นตระกูลของพระองค์และของวงศ์อสูร...
พระรามได้รับความกระจ่าง...งั้นองค์มาลีวราชก็มีศักดิ์เป็นปู่ของเราเช่นกัน เราจึงต้องไปถวายอัญชลีด้วยฐานะแห่งหลาน...
...พญาสุครีพจงจัดขบวนเสด็จอย่าได้ช้า...
สุครีพมอบหมายให้เหล่าวานรที่มีตำแหน่งสำคัญประจำจุดต่างๆของกองทัพน้อย
.
ท้าวมาลีวราชประทับนั่งตรงกลาง ทศกัณฐ์อยู่บนรถทรงเบื้องซ้าย พระรามนั่งอยู่เบื้องขวา นางสีดานั่งอยู่ตรงหน้า (ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดพระแก้วฯ ห้อง ๙๖)
.
ท้าวมาลีวราชว่าความ
.
ทศกัณฐ์เป็นโจทย์กล่าวหาพระราม
.
พระรามเสด็จมาแก้ต่างข้อกล่าวหาของทศกัณฐ์
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 22:11:41 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #7 on:
23 July 2023, 07:35:10 »
23 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ (5)
-พระรามแก้ต่างข้อกล่าวหาของทศกัณฐ์
พระรามลักษมณ์เข้าสรงน้ำ แต่งองค์ทรงกษัตริย์ ขึ้นราชรถแห่งองค์อินทร์มุ่งหน้าไปยังที่ประทับขององค์พรหม...
เมื่อมาถึงสนามรบอันเต็มไปด้วยเหล่าเทพและมาร พระรามสั่งให้หยุดรถทรงตรงเบื้องขวาของพระอัยกา แล้วเดินเท้าเข้าไปใกล้องค์ประธานเพื่อถวายความเคารพอย่างนอบน้อม
ท้าวมาลีวราชรู้สึกประทับใจในรูปลักษณ์ของสองพี่น้องอย่างบอกไม่ถูก อาจจะเป็นเพราะพระฉวีที่งดงาม หรือกิริยาที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี หรืออาจจะเป็นเพราะสองพี่น้องมนุษย์มีเค้าหน้าของอัชบาลเพื่อนรักของพระองค์
...อันพญาทศกัณฐ์เป็นโจทย์ กล่าวหาว่ารามแห่งอโยธยาผู้ยกพลมาคุกคามลงกาโดยอวดอ้างว่าเป็นสามีของหญิงนามสีดา แล้วยังเข่นฆ่าขุนมารจนตายตกตามกันมากมาย รามแห่งอโยธยา ท่านมีอะไรจะแก้ต่างหรือไม่...
พระรามนั่งพับเพียบตัวตรงนิ่ง พร้อมชี้แจง
...อันพระบิดาของเกล้ากระหม่อม ท้าวทศรถได้ทรงรับปากกับพระนางไกยเกษี ให้พระพรตบุตรชายตน ผ่านนคร แล้วขับข้าบาทออกมาเดินดงให้ครบเวลาสิบสี่ปี ลักษมัณผู้น้องและสีดาชายาของข้าบาทขอติดตามออกมาเดินดงด้วย จนหก-ระเหินฝ่าอันตรายล่วงมาจนถึงชายป่าริมแม่น้ำโคทาวรี ตั้งใจปลูกอาศรมเพื่อพำนักรอจนให้เวลาครบสิบสี่ปีแล้วจะคืนอโยธยา
แต่อยู่มาวันหนึ่ง สีดาเห็นกวางทองแล้วนึกอยากได้ นางขอให้เกล้ากระหม่อมออกติดตามจับมาเพื่อจะเลี้ยงดู โดยกระหม่อมสั่งให้ลักษมณ์น้องชายอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้เพื่อคอยพิทักษ์นาง แท้ที่จริงกวางทองนั้นคือรากษส นามว่ามารีศแปลงมาล่อลวง แล้วยังปลอมเสียงชองหม่อมฉัน ร้องเรียกให้น้องตามมาช่วย จนน้องลักษมณ์จำต้องทิ้งให้สีดาอยู่ลำพังเพราะกลัวกระหม่อมจะได้รับอันตราย จอมมารทศกัณฐ์จึงใช้โอกาสนี้เข้าลักสีดาขึ้นรถเหาะมาลงกา
เกล้ากระหม่อมและน้องชายวิ่งกลับมายังอาศรม พบว่าสีดาได้หายตัวไปแล้ว จึงออกตามหาอย่างไร้ทิศทาง แต่โชคดีที่ได้เจอจอมปักษาสดายุ ผู้นอนรอความตาย ปีกหักอยู่เพียงลำพัง ก่อนจะสิ้นลมสดายุชี้ทาง แจ้งว่าทศกัณฐ์ลักสีดาไปทางเกาะลงกา
ข้าบาททั้งสองจึงออกติดตาม จองถนนข้ามสมุทรจนมาถึงเมืองอสูร ก่อนจะมีการรบพุ่งเกล้ากระหม่อมได้แต่งสารแล้วส่งองคตพาลีบุตรให้เป็นทูต เพื่อเข้าไปเจรจาเพื่อขอสีดาคืน โดยมิได้หวังจะให้เกิดสงครามจนลุกลามเช่นปัจจุบัน แต่ทศกัณฐ์กลับดื้อดีงมิยอมส่งภริยาหลานคืน จนทำให้เกิดความสูญเสียเลยเถิดมาถึงเพียงนี้ นี่คือมูลเหตุตามความจริง ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพิจารณา...
ท้าวมาลีวราชเริ่มจับได้ว่า ต้องมีฝ่ายใดโกหกพระองค์เป็นแน่ จึงหันมาถามทศกัณฐ์ หลานชาย
...รามแห่งอโยธยาเล่าว่า เจ้าให้มารีศแปลงเป็นกวางทองเข้าหลอกล่อให้สองมนุษย์หลงเชื่อ แล้วลักสีดากลับมาลงกา ความนั้นจริงหรือไม่...
ทศกัณฐ์รีบส่ายหน้าเหมือนไม่รู้
...เปล่าเลยเสด็จปู่...หลานจะใช้มารีศผู้เป็นพระญาติผู้ใหญ่ได้อย่างไร ไม่มี๊ ไม่มีจริงๆ... ข้าได้ชุบเลี้ยงสีดามาหลายปีแล้ว แต่อยู่ๆสองมนุษย์ก็มาอ้างว่าเป็นสามีนาง แถมยังมีหน้าบอกว่าตนส่งทูตมาเจรจาอย่างสงบ เจ้าองคตนั้นบุกเข้ามาแสดงฤทธิ์เดชพังประตูเมืองลงกาเสียย่อยยับ แสดงกิริยากระด้างกระเดื่องผิดวิสัยนักการทูต มิให้ความเคารพตัวข้าผู้สืบวงศ์พรหมแม้แต่น้อย แถมยังฆ่าขุนเสนาทั้งสี่ของกระหม่อมเสียอีก...
ท้าวมาลีวราชหันมาทางพระราม เชิงให้โอกาสแก้ต่าง
องค์รามยังมีสีหน้านิ่งเรียบอย่างผู้บริสุทธิ์ใจ
...ข้าแต่พระอัยกา พญามารมิยอมเปิดประตูเมืองเพราะปฏิเสธจะรับสารทูต จนทำให้องคตไร้ทางเลือก ต้องพังประตูนครเพื่อเข้าไปส่งข้อสารตามหน้าที่ ในเนื้อความของสารหมายเพียงให้ทศพักตร์คืนสีดาแด่ข้าผู้ภัสดา แล้วข้าบาทก็จะถอยทัพกลับอโยธยาอย่างสงบ แต่ทศกัณฐ์ก็ยังมิยอมคืนสีดา แถมยังสั่งให้สี่เสนามารเข้ารุมทำร้ายองคตผู้เป็นทูต บุตรแห่งพาลีจำต้องป้องกันตัวตอบโต้ จนเหล่าเสนามารเสียชีวิตตกตามกัน เหตุการณ์เป็นอย่างที่เกล้ากระหม่อมทูล บัดนี้ข้าน้อยไร้ซึ่งที่พึ่ง เห็นว่ามีเพียงพระองค์ผู้เป็นใหญ่เท่านั้นที่จะปกเกล้าคุ้มกระหม่อม ควรมิควร สุดแต่องค์พรหมจะทรงโปรด...
ท้าวมาลีวราชเห็นด้วยทิพย์อยู่แล้วว่า พระรามกล่าวแต่ความจริง ทศกัณฐ์หลานตนต่างหากที่โกหก แต่ท้าวเธอไม่อยากให้พญามารต้องอับอายต่อหน้าประชาชี จึงพยายามไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองยอมความกัน โดยทรงถามทศกัณฐ์
...นี่ทศพักตร์ ตอนเจ้าพบนางสีดาอยู่ตามลำพังในป่านั้น มีผู้ใดรู้เห็นเป็นพยานหรือไม่...
ทศกัณฐ์เหงื่อโทรมกาย เพราะกลัวความจริง
...ไม่..ไม่มีผู้ใดในบริเวณนั้นเลย แต่หม่อนฉันได้ขมวดหญ้าเป็นสัญญาไว้เป็นสัญลักษณ์...
ท้าวมาลีวราชยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่
...ขมวดหญ้าไว้เป็นสัญญา ทำอย่างกับเก็บของตกพื้นอย่างนั้นแหละ เหลวไหล...
...เอาหละรามแห่งอโยธยาผู้อ้างว่าเป็นสามีของสีดา จงบอกได้หรือไม่ว่าพ่อแม่ของนางนี้เป็นใคร นางมีชาติกำเนิดจากที่ใด...
พระรามขยับองค์ เริ่มบรรยายความเป็นมาของภรรยาโดยไม่ต้องคิด
.
เมื่อนั้น พระจักรรัตน์แก้วนาถา
นบนิ้วสนองพระบัญชา อันนางสีดายุพาพาล
กำเนิดในดวงประทุมมาศ ประหลาดกว่ามนุษย์ในสงสาร
พระชนกฤๅษีผู้ทรงญาณ ได้นางเยาวมาลย์มาเลี้ยงไว้
ยังห้องพระคันธกุฎี จนองค์เทวีจำเริญใหญ่
พระบิดาลาพรตจากไพร คืนเข้าเวียงชัยมิถิลา
ให้ตั้งพิธียกศิลป์ กษัตริย์มาสิ้นทุกทิศา
อันหมู่ฤๅษีเทวา ก็พร้อมหน้าช่วยการสยุมพร
องค์ท้าวชนกจักรวรรดิ ให้ผลัดกันยกธนูศร
ข้ายกได้ด้วยสถาวร พระบิดรชื่นชมยินดี
จึ่งแต่งการมงคลอภิเษก ให้นางเป็นเอกมเหสี
บรรดาเทวาทั้งนี้ ก็แจ้งแต่เดิมทีมาด้วยกัน ฯ
.
พระรามเล่าตั้งแต่ชาติกำเนิดของสีดา มาถึงพิธียกศรจนได้แต่งงานกับนางสีดา เทพเทวดาก็เป็นพยานในพิธีของตน ขณะนี้ทศกัณฐ์ได้แต่ซับเหงื่อ ลุกลี้ลุกลนกลัวภัยจะย้อนมาหาตัว
.
...ทศกัณฐ์ เจ้าให้มารีศแปลงเป็นกวางทองเข้าหลอกล่อให้สองมนุษย์หลงเชื่อ แล้วลักสีดากลับมาลงกา ความนั้นจริงหรือไม่...
.
พระรามแก้ต่างข้อกล่าวหาของทศกัณฐ์
.
...เปล่าเลยเสด็จปู่...หลานจะใช้มารีศผู้เป็นพระญาติผู้ใหญ่ได้อย่างไร...
.
ทศกัณฐ์รีบส่ายหน้าเหมือนไม่รู้
...ไม่มี๊ ไม่มีจริงๆ...
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 22:19:20 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #8 on:
23 July 2023, 07:36:17 »
23 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ (6)
-เชิญสีดามาให้การ
ท้าวมาลีวราชทรงเห็นถึงความมั่นใจในองค์ราม แต่หลักฐานการเป็นเจ้าของสีดาก็ยังไม่แน่นหนาพอ หากตัดสินไปตอนนี้ ฝ่ายทศกัณฐ์ยังสามารถหาข้อคัดค้านได้ จึงบัญชาให้พระวิษณุกรรมเหาะไปเชิญนางสีดามาให้การเป็นปากสุดท้าย
เพื่อความโปร่งใส มาลีวราชพรหมให้แต่ละฝ่ายแต่งผู้แทนร่วมขบวนไปด้วย ทศกัณฐ์สั่งให้มโหทรคุมพลไปหนึ่งพัน พระรามให้หนุมานคุมพลกระบี่จำนวนหนึ่งพันเช่นกัน ทั้งยักษ์ลิงต่างเข้าร่วมขบวนเชิญสีดา
พระวิษณุกรรมองค์เทพแห่งช่าง นำขบวนเชิญนางยาวเหยียดมาถึงสวนขวัญ เข้าแจ้งเหตุแก่สีดาว่า องค์มาลีวราชให้ตนมาตามไปให้การต่อหน้าพระพักตร์ นางสีดายินดียิ่งเพราะนี่คือทางเดียวที่จะทำให้ตนกลับไปอยู่กับสามี เพราะต่างฝ่ายต่างเสียเลือดเนื้อมามากพอแล้ว จึงชวนพระพี่เลี้ยงคือนางตรีชฎาและเบญกาย ขึ้นบุษบกมุ่งสู่พระลานนอกนครลงกา
ระหว่างการเดินทาง สีดาใจเต้นแรงเพราะมีความหวังจะได้พบรามผู้ภัสดาที่จากกันมาหลายปี นางตรีชฎาหวังว่าจะได้พบหน้าพิเภกผู้สามี แต่ขณะนี้ไม่มีผู้ใดสุขเท่าเบญกายที่ขณะนี้ประสานสายตาหยาดเยิ้มกับหนุมานผู้เป็นที่รัก อาจไม่มีใครสังเกตถึงความสุขของคู่รักที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง พญาลิงส่งตาหวานแต่นางอสูรทำค้อนอย่างไว้เชิงหญิง หนุมานยิ้มให้แต่เบญกายยิ้มน้อยๆแล้วทำเบือนหนี เป็นช่วงเล็กๆที่หวานชื่นของสองชายหญิง
อีกเพียงอึดใจ ขบวนเชิญสีดามาถึงสนามรบ สีดาส่องช่องม่านเห็นองค์พรหมสถิตอยู่กลางสภา ทศกัณฐ์และเหล่ายักษ์อยู่ด้านซ้าย องค์รามและพระอนุชาอยู่ฝั่งขวา สีดารู้สึกอัดอั้นเพราะเห็นคนรักตรงหน้าแต่มิอาจเข้าไปใกล้ นางได้แต่ร้องไห้อยู่หลังม่าน
จนท้าวมาลีวราชต้องเรียกให้พระวิษณุกรรมเคลื่อนบุษบกมาตรงหน้าพระพักตร์ องค์พรหมบัญชาให้นางสีดาตัวการของคดีเข้าเฝ้า
ทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าขบวนเชิญสีดา องค์รามใจสั่นเลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง เพียงแค่เห็นมือขาวมือนั้น องค์รามจำได้ว่านั่นคือภรรยาตน
สีดาเปิดม่านกั้น บรรจงย่างเท้าออกจากบุษบกอย่างไม่รีบร้อน รอยดำเนินแต่ละก้าวเสมอกัน เท้าขาวทั้งสองข้างล้ำกันแต่ไม่เกิดช่องไฟ นางประนมนิ้วอันเรียวงามทั้งสิบอภิวาท ย่อองค์ถวายบังคมต่อมาลีวราชพรหม ความสง่างามของธิดาแห่งพระชนกสามารถรุกรานให้มวลเทพตกตะลึง
นางหันหน้าอาบน้ำตา ก้มลงกราบองค์รามด้วยใจอันภักดี องค์รามมิอาจถอนสายตาจากภรรยาที่พรากกันแสนนาน น้ำตาหยดน้อยเอ่อล้นสองเนตรของพระอวตาร ความอัดอั้นจนจุกพระศอทำให้เจ้าชายนักรบไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร นี่เป็นเครื่องแสดงว่าการพลัดพรากจากคนรักสามารถทรมานได้ทุกชีวิต... เพราะแม้แต่ตัวพระเจ้าเอง ก็ยังทรงหนีไม่พ้น...
ท้าวมาลีวราชถึงกับชะงักกับความงามของสีดาเช่นกัน ทรงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสองกษัตริย์ถึงยอมเสียไพร่พลรบพุ่งกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อผู้หญิงคนนี้ ขนาดพระองค์เองก็ยังรู้สึกหวั่นไหวในความเพรียกพร้อมของนาง แต่ด้วยฐานะแห่งพรหมจึงทรงวางอุเบกขา ยับยั้งถอนอารมณ์ได้ แต่พระองค์ยังแอบนึกชมนางกับพระองค์เอง
.
เมื่อนั้น พระทรงจตุศีลยักษา
ครั้นเห็นนวลนางสีดา เสน่หาปลาบปลื้มฤทัย
อั้นอัดกำหนัดในนาง พลางกำเริบราคร้อนพิสมัย
พิศเพ่งเล็งแลทรามวัย มิได้ที่จะขาดวางตา
ชิชะโอ้ว่าสีดาเอ๋ย มางามกระไรเลยเลิศเลขา
ถึงนางสิบหกห้องฟ้า จะเปรียบสีดาได้ก็ไม่มี
แต่กูผู้รู้ยศธรรม์ ยังหมายมั่นมุ่งมารศรี
สาอะไรกับอ้ายอสุรี จะมิพาโคติกาตาย
โอ้อนิจจาทศกัณฐ์ สู้เสียพงศ์พันธ์ฉิบหาย
ม้ารถคชพลวอดวาย ฉิบหายเพราะนางสีดา
ตัวกูผู้หลีกลัดตัดใจ ยังให้หุนเหี้ยนเสน่หา
ที่ไหนมันจะได้สติมา แต่วิญญาณ์กูยังแดยัน
ขวยเขินสะเทินวิญญาณ์ กว่านั้นไม่เหลือบแลแปรผัน
ไม่ดูสีดาดวงจันทร์ พระทรงธรรมเธอคิดละอายใจ
บิดเบือนพักตร์ผินไม่นำพา ขืนข่มอารมณ์ปราศัย
อั้นอัดอดยิ้มไม่ได้ เยื้อนแย้มว่าไปแก่สีดา
เจ้าผู้จำเริญสิริภาพ ปลาบปลื้มเยาวะยอดเสน่หา
เจ้าเป็นเอกอรรคกัญญา หน่อนามกษัตราบุรีใด
ทำไมจึ่งมาอยู่นี่ สุริวงศ์พงศ์พรอยู่ไหน
ลูกผัวเจ้ามีหรือไม่ บอกไปให้แจ้งบัดนี้
.
พระราชนิพนธ์ในพระเจ้ากรุงธนบุรี
.................
ทีนี้เราลองมาดูบทชมนางสีดาของ ร.๑ กันบ้างนะครับ
.
เมื่อนั้น ท้าวมาลีวราชรังสรรค์
เห็นสีดาวิลาวัณย์ งามดั่งดวงจันทร์ไท่ราคี
มาตรแม้นถึงองค์พระอุมา นางสุชาดาโฉมศรี
นางสุจิตราเทวี สุนันทานารีอรทัย
ทั้งสุธรรมานงคราญ จะเปรียบงามเยาวมาลย์ก็ไม่ได้
ทั้งสวรรค์ชั้นฟ้าสุราลัย ไกลกันกับโฉมนางสีดา
กระนี้แลหรือทศกัณฐ์ จะไม่ผูกพันเสน่หา
พาโคตรวงศ์ในลงกา แสรสุรโยธาวายปราณ
แต่กูผู้ทรงทศธรรม์ ยังหวาดหวั่นเคลิ้มไปด้วยสงสาร
หากมีอุเบกขาญาณ จึงประหารเสียได้ไม่ไยดีฯ
.
ขนาดท้าวมาลีวาราชผู้เป็นพรหม ยังฝืนองค์ไม่ให้ชมความงามของสีดาไม่ได้ ทรงเปรียบความงามของเทพีนางฟ้าองค์ต่างๆ แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับความสวยของสีดา ที่น่าสนใจคือในพระนิพนธ์ฉบับพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาพรหมมาลีวราชยังทรงอดที่จะหยอดคำหวานขณะรับสั่งสืบความจากนางสีดาไม่ได้เหมือนกัน แสดงในวรรคที่ว่า...
เจ้าผู้จำเริญสิริภาพ ปลาบปลื้มเยาวะยอดเสน่หา
เจ้าเป็นเอกอรรคกัญญา หน่อนามกษัตราบุรีใด
.
ท้าวมาลีวราช เชิญนางสีดามาให้การเป็นปากสุดท้าย
.
ชิชะโอ้ว่าสีดาเอ๋ย มางามกระไรเลยเลิศเลขา
ถึงนางสิบหกห้องฟ้า จะเปรียบสีดาได้ก็ไม่มี
.
มาตรแม้นถึงองค์พระอุมา นางสุชาดาโฉมศรี
นางสุจิตราเทวี สุนันทานารีอรทัย
ทั้งสุธรรมานงคราญ จะเปรียบงามเยาวมาลย์ก็ไม่ได้
ทั้งสวรรค์ชั้นฟ้าสุราลัย ไกลกันกับโฉมนางสีดา
.
นางประนมนิ้วอันเรียวงามทั้งสิบอภิวาท ย่อองค์ถวายบังคมต่อมาลีวราชพรหม
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 22:23:31 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #9 on:
24 July 2023, 09:25:41 »
24 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ (7)
-ท้าวมาลีวราชตัดสินให้ทศกัณฐ์คืนนางสีดาให้พระราม
องค์พรหมรีบตั้งสติกลับมาสอบถามให้ได้ความ
...ดูก่อนสีดา บอกเรามาสิว่าเจ้าเป็นลูกใคร บ้านเมืองของเจ้าอยู่ที่ไหน เหตุใดจึงมาอยู่ในเมืองยักษ์ จงวางใจและบอกความจริงแก่เรามา...
สีดาปาดน้ำตาบนแก้มใส แล้วเล่าถึงชาติกำเนิดของตนตั้งแต่ต้น
...หม่อนฉันเกิดจากดอกบัว พระชนกมาเห็นเข้าจึงฝากไว้กับพระแม่ธรณีให้เลี้ยงดู ต่อมาพระชนกทรงออกจากเพศดาบสแล้วพาข้าน้อยกลับเข้านครมิถิลา ทรงเชิดชูรักถนอมดั่งพระธิดา จนหม่อนฉันเจริญวัยอันควรออกเรือน พระบิดาจึงจัดพิธียกมหาธนูโมลีอันมีเหล่าเทพฤๅษีต่างๆเป็นประธาน ทรงเชิญกษัตริย์ทั่วทั้งแผ่นดินให้มาประลองยกศรสิทธิ์ แต่ไม่มีผู้ใดสามารถยกธนูแห่งศิวะได้ สุดท้ายเจ้าชายรามจันทร์แห่งอโยธยาเป็นผู้เดียวที่สามารถยกธนูขึ้น โดยมีองค์อินทร์เหล่าเทวดาต่างร่วมสดุดี พระบิดายินดียิ่งนัก จึงพระราชทานพิธีอภิเษกสมรสให้เราทั้งสองอย่างยิ่งใหญ่
จากนั้นองค์รามผู้ภัสดา พาข้าบาทกลับสู่อโยธยาในฐานะอัครมเหสี แต่ไม่นานจากนั้นองค์รามต้องออกพรตเดินป่าเพื่อรักษาคำสัตย์ของพระบิดาเป็นเวลาสิบสี่ปี ข้าบาทจึงขอติดตามไปปรนนิบัติดูแลสวามีด้วยหน้าที่ภรรยา พระลักษมณ์ก็ขอตามมาด้วยเพื่อถวายงานพระเชษฐา ข้าบาททั้งสามระหกระเหินเผชิญอันตรายจนถึงริมแม่น้ำโคทาวรี ปักหลักปลูกอาศรมอยู่อย่าสงบในเพศฤๅษี
จนอยู่ว่าวันหนึ่ง ข้าบาทเห็นกวางทองแล้วอยากได้มาเลี้ยงดู จึงขอให้องค์รามออกติดตาม จากนั้นได้ยินเสียงองค์รามร้องเรียกขอให้ช่วยเหลือ พระลักษมณ์ออกติดตามไปช่วยพระเชษฐา ขณะที่ข้าน้อยอยู่ตามลำพัง ทศกัณฐ์ทำหยาบช้าบุกรวบตัวหม่อมฉันขึ้นรถเหาะไปยังลงกา ตัวข้าบาทร้องบอกยักษ์ร้ายว่ามีภัสดาแล้ว แต่ขุนมารก็หาสนใจไม่ ระหว่างทาง ยักษาต่อสู้กับสดายุผู้เป็นใหญ่ในหมู่นก และทศกัณฐ์ก็ฆ่าสดายุตาย
จากนั้นมา ข้าบาทถูกกักขังในสวนขวัญท้ายเมืองมาร ทศกัณฐ์เฝ้าพะนอให้ข้าบาทใจอ่อนยอมตัดใจจากองค์รามแล้วมาเป็นเมียยักษ์ ขนาดจะให้กราบ ให้อุ้มชูอย่างไรก็ยอม แม้หม่อมฉันจะด่าว่าด้วยวาจารุนแรงอย่างไร จอมมารก็หาละอายไม่ แถมยังคาดโทษเหล่าพี่เลี้ยงให้มาเกลี่ยกล่อมหม่อมฉันให้ใจอ่อนยอมเป็นเมียยักษ์ให้จงได้ หากไม่สำเร็จก็จะประหารเหล่านางอสูรอย่างไม่เลือกหน้า ทุกข้อความที่กราบทูลล้วนแต่เป็นความสัตย์จากสีดา...
.
ท้าวมาลีวราช ชื่นชมในความฉะฉานของสีดา เพราะหากเทียบสติปัญญาอันเป็นเลิศกับความงามของนางแล้ว ความสวยของนางแทบจะไม่มีค่าอีกเลย เพราะความฉลาดของหญิงย่อมคงทนกว่าความงามที่ต้องมีวันหมดไป
องค์พรหมร้องก้อง ถามเหล่าเทวดา
...ท้าวเวสสุวัณผู้เที่ยงตรง พระอินทรราชาแห่งสวรรค์ และเทวดาจากทุกชั้นฟ้า คำให้การขององค์รามและนางสีดาสอดคล้องกันอย่างเป็นเนื้อเดียว ช่างแตกต่างกับคำให้การของทศกัณฐ์มากนัก ข้าขอถามความเห็นของเหล่าเทพเทวาว่าเหล่าท่านคิดอ่านกันอย่างไร...
เทวดาทุกองค์ ต่างเห็นชอบว่าคำให้การของพระรามและนางสีดานั้นเป็นความจริง
ท้าวมาลีวพรหม จึงผินพักตร์ไปทางทศกัณฐ์
...คำให้การของสีดาและองค์รามล้วนแต่ยืนยันว่าเจ้าเป็นผู้ผิด ผิดเมียผู้อื่น จะมีอะไรแก้ตัวหรือไม่ทศพักตร์...
ทศกัณฐ์ปาดเหงื่อ แต่แสร้งทำหน้าว่าถูกปรักปรำ
...อันความแถลงของรามและสีดานั้นไม่จริง...พระองค์เป็นถึงพรหมก็น่าจะส่องญาณทิพย์ดู ก็จะรู้ว่าความจริงเช่นที่หลานบอก ใช่สินะ...พระรามนั้นมีรูปลักษณ์หล่อเหลาหนุ่มแน่น เป็นธรรมดาที่สีดาจะเกิดหลงเสน่หา อีกอย่างทั้งสองเป็นมนุษย์เช่นกัน อย่างไรก็ต้องเข้าข้างกันเอง วันที่ข้าบาทพบนางกลางป่า นางยืนยันเองว่ายังไม่มีผัว
แล้ววันนี้พระองค์จะเอาความสัตย์จากพระอินทร์ก็คงไม่ได้ เพราะองค์อำมรินทร์ยังโกรธแค้นที่เสียท่าพ่ายแพ้ต่ออินทรชิตลูกกระหม่อม บัดนี้ได้โอกาสคงคิดจะแก้แค้นให้สาแก่ใจ...
ท้าวมหามาลีวราชพรหม เริ่มเบื่อหน่ายกับความดื้อของพระนัดดา
...อันคำให้การของพระรามนั้น นางสีดาหาเคยได้ยินไม่ แต่เหตุใดถึงได้ตรงกันอย่างไม่มีที่ติ ระหว่างที่ท้าววิษณุกรรมไปไปเชิญนาง ก็มีมโหทรเสนาของเจ้าติดตามไปด้วย เทพเทวดาคงไม่สามารถบอกข้อความแก่นางก่อนจะเข้ามาประชุม...
ทศกัณฐ์รีบต่อคำ...ข้าบาทไม่รู้หรอกว่าใครนำความไปบอกนางสีดา แต่รู้กันอยู่แล้วว่าหลานนั้นไม่มีใครรัก เพราะวงศ์ยักษ์นั้นเก่งกาจกว่าเทวดา ยิ่งรามลักษมณ์มารุกรานเข่นฆ่าชาวอสูร หมู่เทพคงจะดีใจ ไม่ต้องดูอะไรมาก ขนาดองค์อินทร์ยังให้ราชรถแก่เจ้ามนุษย์ แถมยังให้พระมาตุลีมาเป็นสารถี อย่างนี้ไม่เรียกว่าเข้าข้างกัน ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร...
ท้าวมาลีวราชเริ่มโกรธในความไหลลื่นของหลานชาย
...นี่ทศกัณฐ์ เจ้าอย่าพาลกล่าวโทษอ้างถึงเทพเทวดา องค์อินทร์จะมีใจเอนเอียงไปทางมนุษย์หรือไม่ข้าไม่รู้ แต่มึงคิดว่ากูพิพากษาอย่างไม่ยุติธรรมหรือไร...
จากการพิจารณาคำให้การของพระรามและสีดานั้นตรงกัน มึงต่างหากที่ผิดบิดเบือนเรื่องราวเอาประโยชน์เข้าหาตน โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมความถูกต้อง ขนาดยอมลงมือขโมยเมียคนอื่นมาครอบครอง...
ท้าวมาลีวราชกวาดสายตาทั่วมหาสมาคม
...เราขอตัดสินให้ทศกัณฐ์แห่งลงกา คืนนางสีดาแก่องค์รามแห่งอโยธยาทันที...
หมู่มวลเทพและวานรยิ้มรับคำตัดสิน แต่ฝ่ายมารทำฮึดฮัด แสดงความไม่พอใจ...
.
...ดูก่อนสีดา บอกเรามาสิว่าเจ้าเป็นลูกใคร บ้านเมืองของเจ้าอยู่ที่ไหน เหตุใดจึงมาอยู่ในเมืองยักษ์ จงวางใจและบอกความจริงแก่เรามา...
.
...คำให้การของสีดาและองค์รามล้วนแต่ยืนยันว่าเจ้าเป็นผู้ผิด ผิดเมียผู้อื่น จะมีอะไรแก้ตัวหรือไม่ทศพักตร์...
.
...พระองค์เป็นถึงพรหมก็น่าจะส่องญาณทิพย์ดู ก็จะรู้ว่าความจริงเช่นที่หลานบอก...
...ใช่สินะ...พระรามนั้นรูปหล่อ แต่หลานขี้เหร่ ไม่มีใครรัก...ไม่ต้องดูอะไรมาก ขนาดองค์อินทร์ยังให้ราชรถแก่เจ้ามนุษย์ แถมยังให้พระมาตุลีมาเป็นสารถี อย่างนี้ไม่เรียกว่าเข้าข้างกัน ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร...
.
ท้าวมาลีวราชกวาดสายตาทั่วมหาสมาคม
...เราขอตัดสินให้ทศกัณฐ์แห่งลงกา คืนนางสีดาแก่องค์รามแห่งอโยธยาทันที...
หมู่มวลเทพและวานรยิ้มรับคำตัดสิน แต่ฝ่ายมารทำฮึดฮัด แสดงความไม่พอใจ...
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 22:31:53 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #10 on:
24 July 2023, 09:26:41 »
24 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ (8-แปด)
-ท้าวมาลีวราชแช่งให้ทศกัณฐ์ต้องตายด้วยศรของพระราม
ทศกัณฐ์ได้แต่ส่ายหน้า ตาทั้งสิบคู่แดงก่ำจากความโกรธ ยกมือขึ้นพนมดั่งขอความเห็นใจจากปู่เป็นครั้งสุดท้าย
...คำให้การของนางแพศยาสีดานั้นไม่มีความจริงเอาซะเลย และหากส่งนางให้พระรามไป ก็จะทำให้วงศ์อสูรเราเสียเกียรติ ชาวโลกจะนินทาว่าวงศ์พรหมนั้นอ่อนแอ เข้านอบน้อมต่อเหล่ามนุษย์และลิงป่า อสุรวงศ์จะอับอายจนแทรกกายหนีทั้งสามโลก...
บัดนี้ ท้าวมาลีวราชยิ่งโกรธหนัก
...ทศพักตร์เจ้าจะทำตามคำสั่งของข้าหรือไม่ จงคืนสีดาแก่องค์รามเสียเถิด ข้าผู้เป็นพรหมได้ตัดสินคดีนี้เอง ใครหน้าไหนมันจะกล้านินทาเหยียดหยามเจ้า...ข้าท้าวมาลีวราชพรหมสั่งให้เจ้าคืนนางสีดากลับสู่องค์ราม...
ทศกัณฐ์ทำลอยหน้าลอยตายียวน ไร้ซึ่งความเกรงใจผู้เป็นปู่
...แล้วทีเจ้ารามมันฆ่าญาติโยมของกระหม่อมหละ ใครจะรับผิดชอบ หรือจะสามารถชดใช้ชีวิตของลูกข้าได้ ถึงอย่างไรหลานก็จะไม่ส่งสีดาคืน ขอสู้จนตัวตายยังจะดีกว่า...
ท้าวมาลีวราชลุกขึ้นกระทืบบาท ชี้หน้าทศกัณฐ์
...ทำไมมึงถึงได้หน้าด้านอย่างนี้นะ เพราะความดื้อของมึงจะพาวงศ์พรหมตายจนหมดสิ้น เพราะมัวแต่หลงสตรีทั้งที่เขามีผัวอยู่แล้ว ลาภยศสมบัติก็มีมากมายแต่ทำไมมึงจึงคิดหาแต่สิ่งอัปรีย์...
...กูขอแช่งให้ทศกัณฐ์ต้องตายด้วยศรของพระราม สู้กี่ครั้งก็ขอให้มันแพ้ทุกครั้ง...
พระวิษณุกรรม โปรดจงนำสีดากลับไปส่งที่สวนขวัญดังเดิม...
.
เมื่อนั้น ท้าวมาลีวราชรังสรรค์
ได้ฟังทศเศียรกุมภัณฑ์ ดึงดันองอาจอหังการ
พระพิโรธโกรธกริ้วกระทืบบาท เปล่งซึ่งสีหนาทบรรหาร
เหวยไอ้ทรชนคนพาล มึงมาหน้าด้านเจรจา
เสียแรงเป็นวงศ์พรหเมศ ลือเดชทั่วทศทิศา
สมบัติพัสถานโอฬาร์ ควรหรือยังว่าไม่รักยศ
จะว่าให้ดีสิไม่ฟัง โอหังหยาบช้าสาหส
พาไอ้จังไรใจคด เอาแต่ทรยศมาใส่ตัว
ความเจ็บความอายก็หาไม่ กราบไหว้สตรีท่วมหัว
ลุแก่โลภหลงเมามัว ถือเอาที่ชั่วว่าเป็นดี
เมื่อมึงพอใจทรลักษณ์ ไม่รักสุริย์วงศ์ยักษี
ขอให้วิบัติอัปรีย์ อย่ามีสิ่งซึ่งสถาวร
มาตรแม้นจะออกต่อยุทธ์ ให้ตายด้วยอาวุธแสงศร
ขององค์พระรามสี่กร พ่ายแพ้ฤทธิรอนทุกวันไป
ว่าแล้วสั่งวิษณุกรรม์ อันมีปัญญาอัชฌาสัย
จงพาสีดาอรไท คืนไปยังสวนมาลี ฯ
.
เหล่าทหารวานร อดรนทนไม่ได้ต่อความหยาบช้าของทศกัณฐ์ จึงจะเข้ารุมทำร้ายพญายักษ์ พระรามได้ห้ามไว้
...ช้าก่อนเหล่าขุนกระบี่ผู้ภักดีในข้า ขอให้เหล่าท่านจงอยู่ในความสงบ โอกาสนี้คือการถวายความเคารพให้องค์พรหม วาระนี้มิใช่เวลาจะก่อสงคราม...
เหล่าวานรได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน คันไม้คันมือ อยากจะลงโทษยักษ์ฝีปากกล้าแทนนาย
ขณะนี้มิมีผู้ใดจะโศกเศร้าเท่าสีดา เดิมทีนางหวังว่า ท้ามมาลีวราชจะส่งตัวนางคืนแก่องค์ราม แต่กลับรับสั่งให้พระวิษณุกรรมนำนางกลับไปที่สวนขวัญดั่งเดิม สีดายังมองหน้าองค์รามอย่างไม่เต็มตา ยังไม่ได้พูดจากันให้หายคิดถึง แล้วพระลักษมณ์หละ ผู้ที่นางรักและเอ็นดูดั่งลูก นางได้แต่เหลือบดูชายอันเป็นที่รักเป็นครั้งสุดท้าย แล้วจำต้องถวายบังคมลาท้าวมาลีวราชและองค์รามผู้ภัสดา
พระวิษณุกรรม นำสีดาและนางกำนัลอสูร ขึ้นบุษบกลอยเลื่อนกลับสู่สวนขวัญ...
.
ท้าวมาลีวราชว่าความ
.
...ทศพักตร์เจ้าจะทำตามคำสั่งของข้าหรือไม่ จงคืนสีดาแก่องค์รามเสียเถิด ข้าผู้เป็นพรหมได้ตัดสินคดีนี้เอง ใครหน้าไหนมันจะกล้านินทาเหยียดหยามเจ้า...ข้าท้าวมาลีวราชพรหมสั่งให้เจ้าคืนนางสีดากลับสู่องค์ราม...
.
ท้าวมาลีวราชลุกขึ้นกระทืบบาท ชี้หน้าทศกัณฐ์
...ทำไมมึงถึงได้หน้าด้านอย่างนี้นะ เพราะความดื้อของมึงจะพาวงศ์พรหมตายจนหมดสิ้น เพราะมัวแต่หลงสตรีทั้งที่เขามีผัวอยู่แล้ว ลาภยศสมบัติก็มีมากมายแต่ทำไมมึงจึงคิดหาแต่สิ่งอัปรีย์...
.
...กูขอแช่งให้ทศกัณฐ์ต้องตายด้วยศรของพระราม สู้กี่ครั้งก็ขอให้มันแพ้ทุกครั้ง...
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 22:40:37 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #11 on:
25 July 2023, 09:23:19 »
25 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ (9)
-ท้าวมาลีวราชอวยพรให้พระรามรบชนะทศกัณฐ์
พญาทศกัณฐ์เจ็บแค้นที่ท้าวมาลีวราชอัยกา ด่าว่าประจานตนต่อหน้าเทวสภา ถือเป็นการไม่ให้เกียรติตนผู้เป็นประมุขแห่งยักษ์ เสียแรงที่นับถือ นับศักดิ์ว่าเป็นปู่ รู้อย่างนี้ไม่เชิญมาจะดีกว่า ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ มารร้ายอกตัญญู คิดจะหาโอกาสยกทัพไปบดขยี้ยอดฟ้าคิรีให้จงได้
เมื่อการไม่เป็นไปดั่งใจหวัง พญามารเดินสะบัดหน้าออกจากที่ประชุม โดยไม่ถวายความเคารพต่อท้าวมาลีวราชพรหมผู้อัยกา เดินตึงตังขึ้นรถราชทรง แล้วตะโกนสั่งให้โลทันออกรถกลับวังทันที...
ท้าวมาลีวราชได้แต่ถอนใจในความเลวของพระนัดดา หักใจไม่ถือโกรธตามวิสัยพรหม หันมาตรัสสั่งกับพี่น้องรามลักษมณ์ด้วยสายตาที่เอ็นดูดุจญาติสนิท
.
เมื่อนั้น ท้าวมาลีวราชเรืองศรี
ครั้นทศกัณฐ์กลับไปธานี จึ่งมีวาจาอันสุนทร
ดูก่อนพระรามพระลักษมณ์ เจ้าผู้สิทธิศักดิ์ด้วยแสงศร
พ่อจงศรีสวัสดิ์สถาวร ให้ขจรเดชาทั้งแดนไตร
อันทศพักตร์อาธรรม์ อย่าให้มันต่อฤทธิ์เจ้าได้
บรรดาพวกพาลที่จองภัย จงอยู่ในใต้เบื้องบทมาลย์
อันตัวอัยกาจะลาเจ้า ไปเขายอดฟ้าราชฐาน
ว่าแล้วเลิกหมู่บริวาร เหาะทะยานไปโดยเมฆา ฯ
.
ท้าวมาลีวราชอวยพรให้พระรามรบชนะทศกัณฐ์และศัตรูได้ทุกหน้า ชื่อเสียงของกษัตริย์หนุ่มจะขจรไปไกลทั่วทั้งสามโลก แล้วท้าวเธอก็สั่งเลิกสภา กลับสู่เขายอดฟ้าพร้อมหมู่เทวดาผู้ติดตาม
เมื่อพระรามส่งเสด็จพระอัยกาจนลับตาแล้ว ก็หันกลับมารับสั่งให้ทหารวานรเลิกทัพกลับสู่พลับพลา...
.
ท้าวมาลีวราชอวยพรให้พระรามรบชนะทศกัณฐ์และศัตรูได้ทุกหน้า ชื่อเสียงของกษัตริย์หนุ่มจะขจรไปไกลทั่วทั้งสามโลก
.
แล้วท้าวเธอก็สั่งเลิกสภา กลับสู่เขายอดฟ้าพร้อมหมู่เทวดาผู้ติดตาม
.
เมื่อพระรามส่งเสด็จพระอัยกาจนลับตาแล้ว ก็หันกลับมารับสั่งให้ทหารวานรเลิกทัพกลับสู่พลับพลา...
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 22:45:45 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #12 on:
25 July 2023, 09:24:22 »
25 กรกฎาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ (10)
-ทศกัณฐ์จะฆ่านางสีดา
พญาทศกัณฐ์ไม่ยอมรับคำตัดสินของของท้าวมาลีวราช ที่ตัดสินคดีให้คืนสีดาสู่พระรามผู้สวามี ระหว่างทางกลับลงกา พญามารรู้สึกเจ็บใจที่ต้นกระกูลของตนไปเข้ากับฝ่ายศัตรู หงุดหงิดกับแผนที่วางไว้ไม่ได้ดั่งใจ ทั้งแค้นทั้งอายที่ปู่หักหน้าตนในสภาเทพ ที่สำคัญยังโดนสาปให้ตายด้วยศรของมนุษย์กระจอกอีกด้วย
ทศกัณฐ์นึกทบทวนกลับไปมา...
...สาเหตุของความฉิบหายของกู มาจากนางสีดานี่เอง...
...เอาหละ กูจะกำจัดนางสังเวยความเลวทรามที่กูต้องเผชิญ...
...โลทัน จงหักรถเข้าสวนขวัญ...
เมื่อมาถึงสวนอันร่มรื่น ที่เดิมที่ตั้งใจจะสร้างเป็นรังรักระหว่างตนกับสีดา มารชราเคยวาดภาพว่าตนจะได้ใช้ชีวิตบั้นปลายกับนางมนุษย์อันเป็นที่รักในสวนนี้ สีดาจะเป็นหญิงคนสุดท้ายที่ตนจะภักดี นางจะเป็นจุดหยุดพักสุดท้ายของชีวิตชายตนนี้ เมื่อถึงเวลานั้นจะไม่มีการเมืองต้องพิจารณา จะไม่มีการศึกที่ตนกรำมาทั้งชีวิตอีกต่อไป จะมีเพียงตนกับสีดาเท่านั้น แต่บัดนี้พญามารมีแต่ความโกรธ
...นางมนุษย์นำมาแต่ความสูญเสีย...
ราชาอสูรลงจากรถ คว้าดาบกระชับแน่น เดินตรงรี่เข้าสู่พลับพลา
.
เมึ่อนั้น ทศเศียรสุริวงศ์ยักษา
ครั้นเห็นลักษมณ์รามราชา ทั้งพระอัยกาจรลี
เธอเร่งกริ้วโกรธพิโรธใจ ยังไม่เข้าไปกรุงศรี
ฮึกฮักอักอ่วนอสุรี กูจะฆ่าสีดาทรามวัย
กูจะแหวะปากเจียนเศียรเกล้า จะเอาลูกมะพร้าวห้าวยัดใส่
ให้สาอี่คนดีมิเกรงภัย ท้าวไทก็เหาะระเห็จมา
ครั้นถึงสวนแก้วอุทยาน บันดาลโกรธกริ้วเข่นฆ่า
เผ่นโผนโจนจับสาตรา เงื้อง่าพิฆาตเทวี
.
พญามารสาวเท้าประชิดร่างสีดา เงื้อดาบหมายเด็ดหัวชีวิตตัวการให้ออกจากร่าง สีดาตกใจสุดขีด แต่สิ่งที่ทำได้คือเพียงใช้แขนอันบอบบางทั้งสองยกขึ้นกันการจู่โจมของอสูรร้าย นางหลับตารับชะตากรรม แต่กลับมีแต่เสียงดาบที่ผ่านอากาศอันว่างเปล่า ไม่มีคมดาบตกลงมาสู่ร่างกายนางแม้แต่น้อย เพราะองค์ราพณ์ได้แต่ฟันดาบผ่านไปในอากาศ น้ำตาไหลเปื้อนอาบทั้งสองแก้มของราชาเฒ่าแห่งลงกา
แต่พลันที่สีดาตั้งสติได้ นางเอามือทั้งสองข้างลดลงเช่นผู้ยอมแพ้ ชันตัวคุกเข่าแล้วสยายผมอันดำขลับ นางรวบผมไปทางขวาข้างต้นคออันบอบบาง ยอดพธูของราชาก้มหน้าหลับตาลงอย่างดุดสดี เปิดเพียงต้นคอขาวเป็นการเชิญชวนให้พญาอสูรลงดาบดั่งตั้งใจ
.
๏ สีดาก็ยืดยื่นเศียรให้ ฟันฟอนลงไปเถิดยักษี
ทศกัณฐ์ซวนเซด้วยความสับสน...เธอคือเหตุแห่งความพินาศ ด้วยความเป็นกษัตริย์ข้าต้องฆ่านางอย่างมิใยดี แต่ แต่นี่ข้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ หัวใจข้าบอกว่า เพื่อความรักจากเธอ สีดา หากจะต้องพบกับความพินาศมากกว่านี้สักร้อยพันเท่า พี่ก็จะยอม แล้ว...พี่จะฆ่าเจ้าได้อย่างไร...
๏ พญามารง่าเงยพาที ตัวพี่จะฆ่าเจ้ากลใด
ทศกัณฐ์ปล่อยดาบในมือทิ้ง แล้วทรุดกายนั่งบนแท่นอย่างหมดแรง พญามารลดศักดิ์ศรีของตนจนชิดแนบติดดิน
.
โอ้ว่านวลนางสีดา กรุณาพี่เถิดอย่าม้วยไหม้
พี่อดทนจนสู้บรรลัย เหมือนได้เมตตาปรานี
ขอเชิญยุพยอดยุพาพาล สู่สถานพระนิเวศด้วยพี่
ถึงมาดไม่ไยดี สนทนาพาทีด้วยกัน
เออนี่ทำไมเจ้าขึ้งโกรธ โทษพี่อย่างไรจึ่งหุนหัน
ชํ้าแสนโศกาจาบัล ดีร้ายเจ้ารัญจวนสามี
โอ้ว่าเขลารักเขาไย หาเหลียวดูไม่หรือเมื่อกี้
ผัวนางขว้างนุชนารี ตัวพี่จึ่งไม่ชิงชัย
ฝ่ายเจ้าก็ดูอยู่ท่ามกลาง เหมือนอย่างพี่ว่าหรือไม่
ผัวเจ้ากังขาราคีไป นัยเนตรพี่เห็นอยู่กับตา
อันพี่กับเจ้าเยาวมิ่ง จริง ๆ ไม่ทิ้งกนิษฐา
สู้ม้วยด้วยสร้อยสุดา ไฉนขวัญตามิปลงใจ
สงสัยขอนี้พี่แคลง พี่หากล่าวแกล้งซักไม่
ขอถามความข้องในใจ อย่าได้โศกสร้อยโศกี
.
ขอแสดงความเห็นนะครับ ถึงตรงนี้คำพูดทุกคำของทศกัณฐ์ออกมาจากใจลูกผู้ชายจริงๆ ผมไม่ทราบว่าหากสีดาปลงใจเป็นขององค์ทศเศียรแล้ว ท้าวเธอจะยังรักนางเท่านี้รึเปล่า แต่ในพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงสื่อถึงความรักที่ทศกัณฐ์มีต่อสีดาแบบ...ถึงไม่ใช่รักแรกของกัน แต่ขอเถอะขอเพียงเสี้ยวใจของเธอก็ยังดี...
ทศกัณฐ์ยังแอบหยอดว่า...สังเกตเห็นนะว่านัยน์ตาของพระรามสามีเจ้ายังมีความกังขาในความบริสุทธ์ของเจ้าอยู่...
เราอาจจะมองว่าทศกัณฐ์นั้นใส่ร้ายพระราม แต่ผู้ผ่านโลกมามากมายอย่างทศกัณฐ์ มองตาใครก็สามารถอ่านใจได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ตอนต่อต่อไปเราจะรู้ว่าพระรามมีความหนักแน่นในสีดาเพียงใด
ทศกัณฐ์ได้แต่วิงวอน...หากเจ้ายังไม่ปักใจรับรักพี่ แค่คุยกันดีดีก็ได้ เห็นไหมเมื่อตอนอยู่ในมหาสภา พี่สามารถฆ่าเจ้ารามผัวเจ้าได้อย่างไม่ยากนัก แต่เพราะพี่ให้เกียรติเจ้าผู้เป็นที่รัก พี่จึงต้องสะกดอารมณ์ให้ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาต่อปากต่อคำ...
เมื่อจะฆ่าสีดาก็ฆ่าไม่ลง จะขืนใจรวบรัดนางก็ไม่อยากทำ เมื่อได้ตรัสทุกอย่างจนหมดก้นบึ้งของหัวใจแล้ว คงไม่มีประโยชน์อันใดที่จะมาเสียเวลาถอนลมหายใจทิ้งที่นี่
ก่อนจะกลับขึ้นรถทรงทศกัณฐ์หันมาตรัสสั่งตรีชฎาอย่างนุ่มนวล
...หากเจ้าสามรถโนมน้าวให้นางเปลี่ยนใจได้ ข้าจะตบรางวัลให้อย่างงาม...
.
ปลอบพลางทางใช้ตรีชฎา มึงวิงวอนว่ามารศรี
เกลี้ยกล่อมให้ยอมประเวณี กูจะมีบำเหน็จมา
.
สีดาผู้อาภัพ
.
สีดาก็ยืดยื่นเศียรให้ ฟันฟอนลงไปเถิดยักษี
.
ครั้นถึงสวนแก้วอุทยาน บันดาลโกรธกริ้วเข่นฆ่า
เผ่นโผนโจนจับสาตรา เงื้อง่าพิฆาตเทวี
.
ฮึกฮักอักอ่วนอสุรี กูจะฆ่าสีดาทรามวัย
.
กูจะแหวะปากเจียนเศียรเกล้า จะเอาลูกมะพร้าวห้าวยัดใส่
ให้สาอี่คนดีมิเกรงภัย ท้าวไทก็เหาะระเห็จมา
.
โธ่ว้อยยย...
ก่อนจะกลับขึ้นรถทรงทศกัณฐ์หันมาตรัสสั่งตรีชฎาอย่างนุ่มนวล
...หากเจ้าสามารถโนมน้าวให้นางเปลี่ยนใจได้ ข้าจะตบรางวัลให้อย่างงาม...
.
ปลอบพลางทางใช้ตรีชฎา มึงวิงวอนว่ามารศรี
เกลี้ยกล่อมให้ยอมประเวณี กูจะมีบำเหน็จมา
.
โปรดติดตามตอนต่อไป...พิธีชุบหอกกบิลพัท...
.
«
Last Edit: 29 May 2024, 22:49:38 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [47] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวมาลีวราชว่าความ โดย กลม บางบาน
«
Reply #13 on:
29 May 2024, 22:50:44 »
ปรับปรุงภาพใหม่
Logged
Pages:
[
1
]
« previous
next »
SMF 2.0.4
|
SMF © 2013
,
Simple Machines
| Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.083 seconds with 20 queries.
Loading...