Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
23 December 2024, 08:09:27

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618 Posts in 12,929 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  สถานที่สวยงาม (Moderator: ppsan)  |  1. ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: 1. ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)  (Read 386 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« on: 17 June 2023, 10:38:36 »

ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)



...
หมายเหตุ
ภาพชุดนี้ เป็นการรวบรวมภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์) ใน 3 รูปแบบ มานำเสนอให้ชม
คือ ภาพสลักศิลา, ภาพลอกลาย และภาพวาดสี

1. ด้านทิศตะวันออก ช่องที่ 1 - 6


.


[0] วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)



วัดโพธิ์

.



พระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถ

.



พระพุทธไสยาส

.


วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ (วัดโพธิ์) เป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศด้วย เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง และทางยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เมื่อ มีนาคม พ.ศ. 2551 และวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ทางยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนจารึกวัดโพธิ์จำนวน 1,440 ชิ้น เป็นมรดกความทรงจำโลกในทะเบียนนานาชาติ

.



แผนผังวัดโพธิ์

.


แผนผังแสดงบริเวณที่ตั้งจารึกที่พนักรอบพระอุโบสถ เรื่องรามเกียรติ์ จำนวน 34 ชุด รวม 152 แผ่น

.



.

ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์)

ภาพจำหลักนี้ จำหลักและติดตั้งอยู่ระหว่างเสาเฉลียง(เสานางเรียง)ของพระอุโบสถด้านนอก จำหลักเป็นภาพสลักนูนต่ำ บนแผ่นหินอ่อน เรื่องรามเกียรติ์ มีทั้งหมด 152 ภาพ และมีโคลงจารึกบอกเนื้อเรื่องติดไว้ใต้ภาพ แต่ปัจจุบันได้เลือนลางมองเห็นไม่ชัดเจน

ภาพสลักศิลาเหล่านี้ มาจากภาพหนังใหญ่ตอนต่างๆ รัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชปรารภว่า “หนังใหญ่เป็นการเล่นมหรสพของไทยมาแต่อยุธยาตอนต้นถึงสมัยรัตนโกสินทร์ การเล่นหนังใหญ่ต้องใช้ศิลปะชั้นสูงหลายด้าน เพราะเหตุนี้การเล่นหนังใหญ่จึงเป็นของเล่นให้ดีได้ยาก นับวันแต่จะโทรมลงไป เพื่อให้อนุชนได้ชมภาพตัวหนังดังกล่าวจึงให้เอาตัวหนังใหญ่มาแกะลงบนแผ่นศิลาให้เหมือนหนังฉลุทุกส่วน ติดไว้ให้ชม”

ซึ่งช่างได้คัดเลือกเอาแต่เฉพาะตอนที่เห็นว่าจะจำหลักเป็นภาพได้งดงาม จึงมีเนื้อเรื่องไม่ต่อเนื่องกันนัก แต่เนื้อเรื่องนั้นได้เริ่มตั้งแต่ พระรามตามกวาง จากแผนของทศกัณฐ์ที่ออกอุบายให้มารีศแปลงเป็นกวางทองมาล่อพระราม จนทศกัณฐ์ลักนางสีดาจนถึงพระลักษมณ์ทำศึกกับมูลพลัม ซึ่งเป็นอสูรตนสำคัญแห่งเมืองปางตาล ที่มาช่วยทศกัณฐ์รบกับฝ่ายพระราม และจบลงที่แผ่นสุดท้าย สหัสเดชะตาย

.....

ในสมัยก่อนไม่มีใครสนใจ ด้วยเป็นแผ่นหินจำหลักลวดลาย ไร้สีสัน จนกระทั่งจิตรกรชาวเยอรมัน Hampe, Rudolf W. E. ได้ทำการลอกลายบนผนังด้วยกระดาษสาในช่วงปี 2498-2499 หนึ่งภาพไม่รวมกรอบในเวลานั้น มีราคาสูงถึง 500 บาท

ต่อมาก็เป็นไปตามคาด เมื่อคนไทยสามารถลอกเลียนแบบได้ กลายเป็นแหล่งหารายได้สำคัญ การทำซ้ำๆ ไปมา แผ่นหินก็ชำรุด จนในที่สุดทางวัดก็ประกาศห้ามไปในที่สุด กระนั้นในปัจจุบัน แผ่นหินเหล่านั้นก็เจือจางแทบมองไม่เห็น การถ่ายรูปทำได้ยาก

โชคดีที่มีช่างภาพคนหนึ่งชื่อ ร. บุญนาคได้อุทิศตัวถ่ายภาพชุดนี้ไว้ ในช่วงเวลาเดียวกับความเฟื่องฟูของการลอกลายช่วงก่อนปี 2500 เมื่อรวมเข้ากับโคลงภาพรามเกียรติ์ ทำให้เราสามารถย้อนจินตนาการถึงความตั้งใจที่อยู่ในแผ่นศิลาที่ได้บอกเล่าเรื่องราวกล่าวขานเอาไว้

ภาพทั้งหมดมี 152 ภาพ มีโคลงประดับใต้ภาพละหนึ่งบท มีโคลงบทปิดท้ายอีกสอง รวมเป็น 154 บท น่าเสียดายที่ลบเลือนไปหมด แต่โชคดีที่หลงเหลือต้นฉบับตัวคัดในหนังสือชื่อโคลงภาพรามเกียรติ์ จากหอสมุดแห่งชาติ ที่น่าจะถูกคัดลอกไว้ก่อนหน้าในรัชกาลที่ 5

ภาพเหล่านี้เคยถูกคัดลอกและกลายเป็นสินค้าที่ระลึกมีชื่อเสียงของวัดนี้ในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 25

ปัจจุบันก็ยังมีพ่อค้าหน้าวัดโพธิ์บางส่วนยังขายภาพที่ได้จากแผ่นหินสลักชุดนี้อยู่ แต่ไม่ได้คัดลอกกับแผ่นหินของจริงแล้ว

.




.



คัดลอกลายภาพสลักศิลาชุดภาพรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ พระนคร พ.ศ.๒๕๐๓
ถ่ายเมื่อราวปี ค.ศ.1960 (พ.ศ.๒๕๐๓)
Image Source : Irving Snider, Canada

.




.



คัดลอกลายภาพสลักศิลาชุดภาพรามเกียรติ์ วัดโพธิ์
ถ่ายเมื่อราวปี ค.ศ.1962 (พ.ศ.๒๕๐๕)
Image Source : Charles F. Keyes, United States
ปัจจุบัน ทางวัดโพธิ์ ห้ามทำการลอกลายภาพศิลาจำหลัก ชุด “ภาพรามเกียรติ์” แล้ว

.




.



.



ลายภาพสลักศิลาชุดภาพรามเกียรติ์ วัดโพธิ์

.




ลายภาพสลักศิลาชุดภาพรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ - อินทรชิตดื่มน้ำนมมารดา

.



.


แผนผังแสดงบริเวณที่ตั้งจารึกที่พนักรอบพระอุโบสถ เรื่องรามเกียรติ์ จำนวน 34 ชุด รวม 152 แผ่น

.


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
จารึกที่พนักรอบพระอุโบสถ ทั้ง 4 ทิศ จำนวน 34 ชุด รวม 152 แผ่น

ด้านทิศตะวันออก มี 6 ช่อง(ชุด) แผ่นที่ 1-32
ด้านทิศใต้ มี 11 ช่อง(ชุด) แผ่นที่ 33-76
ด้านทิศตะวันตก มี 6 ช่อง(ชุด) แผ่นที่ 77-108
ด้านทิศเหนือ มี 11 ช่อง(ชุด) แผ่นที่ 109-152

.....

.

.....
ขอขอบคุณ ภาพและเรื่อง จาก...

http://www.kitmaiwatpho.com/index.html
Cr. บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ
ผู้จัดทำ : พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต (ตัวอักษรที่จารึกไว้เลือนหมด จึงคัดลอกตามหนังสือประชุมจารึกมาใส่ไว้แทนการถ่ายทอดตามจารึกที่ปรากฏ)

.....
ภาพลอกลายศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ จาก Harvard Art Museums   ลิงค์ภาพ > https://bit.ly/2wCrdj7




.


« Last Edit: 07 June 2024, 09:24:56 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #1 on: 17 June 2023, 10:41:19 »

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์  ด้านทิศตะวันออก ช่องที่ 1 - 6

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์  ด้านทิศตะวันออก ช่องที่ 1 - 6


.

[1] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 1


ด้านทิศตะวันออกมี 6 ช่อง(ชุด)

ช่องที่ 1  แผ่นที่  1-3
.
ช่องที่ 2  แผ่นที่  4-9
ช่องที่ 3  แผ่นที่  10-16
ช่องที่ 4  แผ่นที่  17-23
ช่องที่ 5  แผ่นที่  24-29
ช่องที่ 6  แผ่นที่  30-32

.....

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 1 (แผ่นที่ 1-3 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 1 แผ่นที่ 1-3



.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 1 ตอน พระรามตามกวาง

      รงงเรขราเมศร์ตั้ง       เดอมแสดง เรื่องฤๅ
รอนมฤคมารีศแปลง       ฬ่อไท้
คอนคานผ่านพนัศแขวง       ประสบพระ นุชนา
เสนอเหตุอรรคเรศใช้       ติดเต้าตามองค์ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 1 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 1 ตอน พระรามตามกวาง : ในภาพ พระรามเอาเถาวัลย์มัดขามารีศ ใช้คันธนูคอนมาพบกับพระลักษมณ์ (ตำแหน่งติดตั้ง เริ่มจากมุมขวามือด้านตะวันออกของพระอุโบสถ แล้วติดตั้งเวียนซ้ายไปจนครบ 152 ภาพ แต่จะมีช่วงผนังเข้ามุมที่เป็นบันไดขึ้นลานพระอุโบสถ จะมีภาพจำหลักสอดแทรกเป็นเทวดาเหมือนทวารบาลและสัตว์หิมพานต์ประกอบอยู่ทุกบันได ทั้งด้านขวาและซ้าย)

.




-ภาพลอกลาย-
ทศกัณฐ์บังคับให้มารีศ แปลงเป็นกวางทองเดินผ่านบรรณศาลามาล่อ นางสีดาเห็นแล้วอยากได้ จึงขอร้องให้พระรามช่วยตามจับมาให้ ก่อนจะออกไปพระรามสั่งพระลักษณ์ว่าไม่ว่าเกิดสิ่งใด ให้อยู่เฝ้านางสีดา พระรามพยายามตามจับตั้งแต่เช้าจนบ่าย ก็ยังไม่สามารถจับกวางทองได้ จวบจนจะเย็น พระรามเกิดเป็นห่วงนางสีดาและพระลักษมณ์ ซึ่งคอยอยู่ที่บรรณศาลา จึงตัดสินใจยิงกวางด้วยธนู กวางทองได้กลายเป็นพญามารีศ และแกล้งร้องเป็นเสียงพระรามว่า "น้องลักษมณ์ช่วยพี่ด้วย" ก่อนจะขาดใจตาย

ฝ่ายนางสีดาเห็นว่าพระรามหายไปนาน ด้วยความเป็นห่วงจึงให้พระลักษมณ์ตามไปดู พระลักษณ์ไม่ยอมไป แต่นางสีดาก็สำทับอีกครั้ง ขณะนั้นได้ยินเสียงพระรามเรียกให้ช่วย ก็เร่งรีบไป เมื่อพบกันจึงรู้ว่ายักษ์ได้ทำกลลวง ทั้งสองรีบกลับบรรณศาลา แต่ก็ไม่พบนางสีดาเสียแล้ว พระอินทร์ได้ลงมาบอกให้ไปตามนางสีดาทางทิศหรดี พระราม-พระลักษมณ์จึงรีบพากันออกติดตามไป และได้พบนกสดายุปีกหัก นอนคาบแหวนหายใจรวยรินอยู่...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 2 ตอน ทศกัณฐ์ลักนางสีดา

      แสดงภาพทศพักตร์อุ้ม   อรษี ดาเอย
รีบออกนอกกุฎี              ด่วนเต้า
ขึ้นรถเลื่อนลอยลี              เลอลาศ มาแฮ
นงนุชสุดเทวษเศร้า      สวาทร้างห่างเกษม ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 1 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 2 ตอน ทศกัณฐ์ลักพานางสีดา : ในภาพ ทศกัณฐ์อุ้มนางสีดาแล้วพาไป ส่วนนางสีดาก็ใช้มือซ้ายจับเสาบรรณศาลาเหนี่ยวรั้งไว้

.




-ภาพลอกลาย-
ทศกัณฐ์ เมื่อใช้พญามารีศแปลงเป็นกวางทองลวงพระรามให้ตามไปแล้ว ตนเองแอบอยู่ที่ชายป่าข้างบรรณศาลา เมื่อเห็นพระลักษมณ์ออกไปอีกคนหนึ่ง ก็ดีใจนัก รีบร่ายพระเวทย์แปลง เป็นฤๅษีเข้าไปหานางสีดา นางเห็นเข้าก็ตกใจกลัว ลืมต้อนรับปฏิสันถาร ฤๅษีแปลงแกล้งกล่าวต่อว่า "เห็นเป็นฤๅษีชีไพรอยู่ในป่าจึงรังเกียจ" นางสีดาเมื่อหายตกใจแล้ว จึงเชิญฤๅษีให้เข้าไปนั่งใน บรรณศาลา

เมื่อได้โอกาส ฤๅษีปลอมจึงร่ายเวทย์กลับเป็นทศกัณฐ์ แล้วเข้าอุ้มนางสีดาออกไปจากบรรณศาลา เหาะขึ้นนภากาศ มุ่งตรงไปยังกรุงลงกาทันที...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 3 ตอน ทศกัณฐ์พบนกสดายุกลางอากาศ

      เถลองลักษณสิบพักตรพ้อง      ไภยพาล
สดายุยุทธะนาการ                         กีดกั้น
โฉบชิงมิ่งสมรมาลย์                 ประหวัดหวาด แหวนฤๅ
บัตราพทราบเหตุซั้น                 ถอดทิ้งทันทวี ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 1 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 3 ตอน ทศกัณฐ์พบนกสดายุกลางอากาศ : ในภาพ ระหว่างทางทั้งสองเจอกับนกสดายุ ที่เข้าขัดขวาง นกสดายุกำลังใช้ปากจิกและปีกตีทศกัณฐ์อย่างดุเดือด ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ สดายุโอ้อวดว่ามีสิ่งเดียวที่เอาชนะตนได้นั่นก็คือแหวนของนางสีดา ทศกัณฑ์จึงเอื้อมมือไปถอดแล้วขว้างไปที่นกสดายุ จนร่วงตกจากท้องฟ้า

.




-ภาพลอกลาย-
สดายุเป็นพญานก น้องของพญานกสัมพาที เป็นสหายของท้าวทศรถ (บิดาของพระราม) ขณะที่กำลังโผบินสุดสายเมฆ ตั้งใจจะไปเยี่ยมพระราม

ทันใดนั้น ได้เห็นทศกัณฐ์อุ้มนางสีดามาในอากาศ รู้ได้ทันทีว่าทศกัณฐ์ทำบัดสี จึงตรงเข้าจิกตีเพื่อแย่งเอานางสีดาคืน การต่อสู้เป็นไปนานจวนจะชนะทศกัณฐ์อยู่แล้ว ทศกัณฐ์แกล้งชมว่า พญาสดายุท่านมีพลังมหาศาล จนตัวเรา 19 มือ ต่อต้านท่านจะไม่ไหวอยู่แล้ว พญาสดายุเผลอตัวเลยพูดอวดตนเองว่าไม่เคยเกรงใครหน้าไหน นอกจากพระอิศวร พระนารายณ์ และธำรงค์ที่นางสีดาสวมนิ้วอยู่เท่านั้น ทศกัณฐ์ทราบเหตุเช่นนี้ก็ดีใจนัก รอจนได้จังหวะจึงถอดธำรงค์จากนิ้วของนางสีดา ขว้างไปถูกปีกและหางจนหักหมด พญาสดายุปีกหักจึงร่วงลงสู่พื้นดินขณะปากคาบแหวนไว้

ครั้นพระราม พระลักษมณ์มาพบจึงได้ทราบข่าวว่า ทศกัณฐ์ลักพานางสีดาไปกรุงลงกา หลังจากบอกข่าวแล้วได้ถวายแหวนคืนให้พระรามแล้วก็สิ้นใจตาย พระรามพระลักษมณ์เผาศพให้สดายุ แล้วจึงเดินทางต่อไปพบ กุมพล ซึ่งพระอิศวรสาปให้ลงมาคอยบอกทางและแนะนำให้ไปเอากองทัพที่เมืองขีดขิน (เมืองของพาลี) พระรามจึงแผลงศรส่งกุมพลไปเกิดในสวรรค์ชั้นไกรลาสตามเดิม

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.
« Last Edit: 07 June 2024, 09:31:58 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #2 on: 17 June 2023, 10:45:59 »

[2] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 2

[2] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 2


ด้านทิศตะวันออกมี 6 ช่อง(ชุด)

ช่องที่ 1  แผ่นที่  1-3
.
ช่องที่ 2  แผ่นที่  4-9
.
ช่องที่ 3  แผ่นที่  10-16
ช่องที่ 4  แผ่นที่  17-23
ช่องที่ 5  แผ่นที่  24-29
ช่องที่ 6  แผ่นที่  30-32

.....

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 2 (แผ่นที่ 4-9 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 2 แผ่นที่ 4-9



.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 4 ตอน สุครีพถวายตัว

      ริรูปรามราศไท้       เทพี
สถิตย์อยู่ยังกัทลี            ป่ากว้าง
สุครีพราชกระบี่            ทูลบาท พระฤๅ
เชิญปราบพาลีมล้าง         ชีพด้วยแสงศร ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 2 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 4 ตอน สุครีพถวายตัว : ในภาพ หนุมานพาสุครีพเข้าเฝ้าถวายตัวกับพระราม พระลักษมณ์

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมานพาสุครีพไปถวายตัว สุครีพจึงเล่าเรื่องที่พญาพาลีพี่ชาย ขับไล่ออกจากเมือง แล้วผิดคำสาบานกับพระนารายณ์ในครั้งก่อน ที่แย่งนางดาราที่พระอิศวรประทานมาให้สุครีพ จึงทูลขอให้พระรามฆ่าพระยาพาลี พระรามจำได้ จึงให้สุครีพไปล่อพาลีออกมา

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 5 ตอน สุครีพท้าพาลี

      ปางพญาพานเรศเจ้า      ขีดขิน
ออกหมู่มาตยาผิน         พักตร์พ้อง
สุครีพเหาะเยาะยิน         คำหยาบ หยามแฮ
ออกจากคฤหาศน์ห้อง      เหาะเข้ารณรงค์ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 2 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 5 ตอน สุครีพท้าพาลี : ในภาพ ขณะที่พญาพาลีและนางดาราออกว่าราชการ สุครีพได้เหาะไปท้าทายพาลี เจ้าเมืองขีดขินให้ออกมารบ สองเสนาเงยหน้าเห็นสุครีพแล้วตกใจ พาลีจึงเหาะไปต่อสู้กับสุครีพ

.




-ภาพลอกลาย-
สุครีพได้ไปท้าทายพญาพาลี ทั้งสองได้ต่อสู้กัน แต่พระรามไม่สามารถแผลงศรฆ่าพาลีได้ เพราะทั้งสองเหมือนกันมาก พาลีสู้ชนะสุครีพ จับสุครีพขว้างไปเนินเขาจักรวาล แล้วกลับเข้าเมือง สุครีพต่อว่าพระรามที่ไม่ฆ่าพระยาพาลี พระรามจึงบอกว่ารูปร่างเหมือนกัน มองไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แล้วจึงฉีกชายผ้าให้สุครีพผูกแขนไว้

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 6 ตอน พระรามแผลงศรยิงพาลี

      จักรกฤษณ์พิศณุขึ้น      ศรสาย
คอยฆ่าพาลีหมาย         มุ่งน้าว
เหนฤทธิ์คิดเสียดาย         เพราะสัตย์ เสียนา
จนจิตรจำใจท้าว         ลั่นล้างวางศร ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 2 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 6 ตอน พระรามแผลงศรยิงพาลี : ในภาพ พระรามแผลงศรพรหมาสตร์ยิงพาลี แต่เพราะพาลีคล้ายสุครีพมาก ทำให้พระรามลังเลไม่กล้าแผลงศร

.




-ภาพลอกลาย-
สุครีพได้ไปท้าพาลีใหม่ พระรามจึงขึ้นสายศรพรหมาสตร์ น้าวธนูหมายยิงพาลี ทั้งที่รู้สึกเสียดายฤทธิ์เดชของพาลี แต่ต้องจำใจยิงตามสัญญา

พาลีจับศรได้ แล้วถามพระรามว่า เรื่องรบนี้เป็นเรื่องระหว่างพี่น้อง ฤๅษีไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยว พระรามจึงบอกว่าพญาพาลีได้ผิดคำสาบานกับพระอิศวรไว้ และต้องตายด้วยศรพระนารายณ์ แล้วพระรามจึงกลายร่างเป็นพระนารายณ์ พาลีจึงสำนึกตัวว่าได้ทำผิด จึงขอรับโทษ พระรามสงสารจึงว่าให้เอาศรสะกิดเลือดเพียงหยดเดียวก็จะสังเวยอำนาจศรได้ พญาพาลีไม่ยอมขอลาตาย แล้วสอนสุครีพก่อนตาย จากนั้นได้ปล่อยให้ศรปักตัวเองตาย

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 7 ตอน พาลีถูกศรพระนารายณ์

      พาลีตีต่อน้อง       เฉวียรฉวัด
ศรจักรปักอกหัตถ์         จับไว้
เหลือบเหนพระจักรรัตน์      เปนสี่ กรแฮ
คลายโกรธน้องร้องไห้      สั่งแล้วลาตาย ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 2 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 7 ตอน พาลีถูกศรพระนารายณ์ : ในภาพ พาลีต่อสู้กับสุครีพ มือซ้ายจับลูกศรที่พระรามยิงมาไว้ได้ และใช้เท้าโถมถีบสุครีพกลางอากาศ

.




-ภาพลอกลาย-
สุครีพได้ไปท้าพาลีใหม่ สุครีพนั้นรู้ตนดีว่าไม่สามารถสู้พญาพาลีได้ เพราะพาลีได้รับพรจากพระอิศวร เมื่อสู้กับใครให้กำลังศัตรูลดลงกึ่งหนึ่ง สุครีพจึงร้องตะโกนเรียกพระราม(Help Me! Help Me!) เอ๊ย.ไม่ใช่..

"ช่วยด้วยเถิดพระเจ้าข้า" พระรามจึงแผลงศรไปที่พญาพาลีทันที พญาพาลีใช้มือจับลูกศรซึ่งกำลังพุ่งตรงอกของตนเองไว้ได้ พาลีต้องศรพระรามจึงตัดพ้อว่า...เรื่องรบนี้เป็นเรื่องระหว่างพี่น้อง ฤๅษีไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยว

พระรามจึงบอกว่า...พญาพาลีได้ผิดคำสาบานกับพระอิศวรไว้ และต้องตายด้วยศรพระนารายณ์ แล้วพระรามจึงกลายร่างเป็นพระนารายณ์ พาลีจึงสำนึกตัวว่าได้ทำผิดที่เสียสัตย์สาบาน จึงขอรับโทษ พระรามสงสารจึงว่า...ให้เอาศรสะกิดเลือดเพียงหยดเดียวก็จะสังเวยอำนาจศรได้ พญาพาลีไม่ยอมขอลาตาย จึงปล่อยลูกศรปักอกตัวเอง ก่อนตายได้สั่งสอนน้อง สั่งลูก สั่งหลาน และบรรดาทหารหาญจนสิ้นแล้วจึงตาย

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 8 ตอน หนุมานรับอาสาไปกรุงลงกา

      จำหลักจักรกฤษณ์ให้      หณุมาน
องคตชมพูพาล            รีบเร้า
คุมพลสี่สมุทรชาญ         ชัยเยศ
ไปสืบหนทางเต้า         หนึ่งทั้งถวายแหวน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 2 แผ่นที่ 5 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 8 ตอน หนุมานรับอาสาไปกรุงลงกา : ในภาพ พระรามเสด็จออกว่าราชการ หนุมาน ได้อาสาไปสืบเส้นทางไปกรุงลงกา เพื่อนำข่าวไปแจ้งแก่นางสีดา พระรามจึงมอบแหวนกับสไบ ให้หนุมานไปเป็นเครื่องยืนยันแก่นางสีดา

.




-ภาพลอกลาย-
พระรามมีบัญชาให้หนุมาน องคต และชมพูพาน คุมพลลิงออกไปตามหานางสีดา แต่เพื่อให้นางเชื่อ จึงมอบสไบของนาง และแหวนของพระองค์ให้หนุมานถือไปด้วย

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 9 ตอน สิบแปดมงกุฎยกพล

      แสดงรูปสุครีพเฝ้า      บาทบงสุ์
สิบแปดมงกุฎวงศ์         ใหญ่น้อย
ลิงเล็กไพร่หลวงคง         มีชื่อ
ตามที่มีนับร้อย            นอบน้อมทูลถวาย ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 2 แผ่นที่ 6 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 9 ตอน สิบแปดมงกุฎยกพล : ในภาพ สุครีพ องคต หนุมาน และนิลนนท์ เข้าเฝ้าถวายตัวต่อพระราม แต่ตามท้องเรื่องนั้นสุครีพเข้าเฝ้าพระรามพร้อมเหล่าวานรสิบแปดมงกุฎ รวมทั้งลิงไพร่ ลิงหลวงทั้งปวงที่มีในบัญชีชื่อนับร้อย เข้าเฝ้าพระรามรอรับราชโองการ

.




-ภาพลอกลาย-
วานรสิบแปดมงกุฏ เป็นวานร (ลิง) ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ วานรเหล่านี้เป็นเทวดาที่จุติลงมาเป็นวานร และมาเป็นทหารเอกในกองทัพของพระราม ผู้ซึ่งเป็นองค์พระนารายณ์อวตารลงมา และต้องไปอยู่ในป่าเป็นเวลา 14 ปี เพื่อรักษาสัจจวาจาของพระราชบิดา คือท้าวทศรถ

เมื่อนางสีดา ถูกทศกัณฐ์ กษัตริย์เมืองลงกา ลักพาตัวไป พระรามต้องนำกองทัพติดตามไปรับนางสีดาคืนมา โดยมีหนุมานผู้นำเอา สุครีพ ซึ่งเป็นน้าชายมาถวายตัวพร้อมไพร่พลเมืองขีดขิน และท้าวมหาชมพูที่ยกกำลังพลเมืองชมพูให้เป็นทหารแห่งองค์พระราม วานรสิบแปดมงกุฏจึงเป็นกำลังพลในทัพขององค์พระราม ที่มาจากสองเมืองคือ เมืองขีดขินของสุครีพ และเมืองชมพูของท้าวมหาชมพู

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #3 on: 17 June 2023, 10:49:54 »

[3] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 3

[3] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 3


ด้านทิศตะวันออกมี 6 ช่อง(ชุด)

ช่องที่ 1  แผ่นที่  1-3
ช่องที่ 2  แผ่นที่  4-9
.
ช่องที่ 3  แผ่นที่  10-16
.
ช่องที่ 4  แผ่นที่  17-23
ช่องที่ 5  แผ่นที่  24-29
ช่องที่ 6  แผ่นที่  30-32

.....

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 3 (แผ่นที่ 10-16 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 3 แผ่นที่ 10-16




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 10 ตอน เดินทางไปราชการ

      ลำดับจับที่นี้         สามทหาร
รับสั่งองค์อวตาร         ใส่เกล้า
พาพลออกจากสถาน         คันธมาทน์
หมายมุ่งเมืองมารเข้า      เขตรแคว้นแดนพนม ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 10 ตอน เดินทางไปราชการ : ในภาพ หนุมาน ชมพูพาน และองคต พาไพร่พลออกเดินทางไปเพื่อสืบหาทางไปกรุงลงกา

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมาน องคตและชมพูพาน หลังจากเดินทางมาไกล ก็มาถึงสระโบกขรณี หรือ “สระบัว” สระนี้มีชื่อว่า “พันตา” เรียกรวมๆกัน ก็จะเป็น “สระโบกขรณีพันตา” เลยแวะพักผ่อนกันที่นี่

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 11 ตอน ที่สระโบกขรณี

      ปักหลั่นผันเผ่นขึ้น      จากสินธุ์ สระแฮ
ตามุ่งจับสัตว์กิน            ด่องด้อม
เหนลิงหลับดาษดิน         นึกอิ่ม ใจนา
ลัดหลีกลิงเลวล้อม         เลือกปล้ำลิงนาย ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 11 ตอน ที่สระโบกขรณี : ในภาพ ยักษ์ปักหลั่นโผล่จากสระโบกขรณี เพื่อจะจับสัตว์กินเป็นอาหาร แต่เหลือบไปเห็นฝูงลิงมากมายนอนหลับพักผ่อนด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการเดินทางไกล จึงเดินลัดเลาะไปยังลิงตัวหัวหน้าคือ หนุมาน องคต และชมพูพาน

.




-ภาพลอกลาย-
ทั้งสามวานรได้พาไพร่พลเดินทางมาไกล และได้แวะพักผ่อนนอนหลับอยู่ที่โคนต้นไม้ริมสระโบกขรณีชื่อสระพันตา ขณะนั้นมียักษ์ตนหนึ่งชื่อปักหลั่น ซึ่งถูกพระอิศวรสาปให้อยู่ในสระนี้ พอเห็นวานรป่าจึงตรงเข้าหมายจะจับกินเป็นอาหาร

ปักหลั่น เดิมเป็นเทวดาที่ถูกพระอินทร์สาปให้มาเฝ้าสระ เห็นวานรทั้งสามหลับอยู่จึงคิดจะจับกินเป็นอาหาร จึงเล็งไปที่องคต ตัวหัวหน้า

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 12 ตอน องคตจับยักษ์ปักหลั่น

      อสุรีตีต่อด้วย         องคต
องคตจับรากษส            จักมล้าง
ปักหลั่นเสื่อมเสียพยศ      ขอโทษ
ต่างไต่ถามนามอ้าง         เรื่องต้นตนแถลง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 12 ตอน องคตจับยักษ์ปักหลั่น : ในภาพ องคตกำลังต่อสู้กับยักษ์ปักหลั่น องคตจับมือยักษ์ปักหลั่นไว้ แล้วจะใช้พระขรรค์แทง แต่ถามไถ่กันไปมาจึงรู้ว่าองคตเป็นทหารเอกของพระราม องค์นารายณ์อวตาร จึงเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง

.




-ภาพลอกลาย-
ปักหลั่น เป็นยักษ์มีหน้าที่เฝ้าสระโบกขรณีชื่อ "พันตา" ตั้งอยู่ระหว่างทางที่ทัพพระรามจะเคลื่อนทัพไปกรุงลงกา ปักหลั่นคอยดักสัตว์กินเป็นอาหาร เมื่อพบกับ หนุมาน องคต และชมพูพาน ที่มานอนหลับริมสระ จึงคิดจะกินลิงทั้งสาม ในขณะที่ยักษ์ปักหลั่นตรงเข้ามาจับนั้น หนุมานและชมพูพานซึ่งยังนอนหลับอยู่(ขี้เซาจริงๆ)เหลือแต่องคตที่รู้ตัวก่อน จึงเกิดต่อสู้กับองคต แต่ปักหลั่นสู้ไม่ได้ จนรู้ว่า องคตคือ ทหารเอกของพระราม องค์นารายณ์อวตาร จึงเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง และบอกว่า...คำสาปของพระอิศวรจะหายไป เมื่อโดนทหารเอกของพระรามลูบหลังให้...องคตได้ฟังก็ใจอ่อน ว่าแล้วก็ลูบตลอดหลังของปักหลั่น คำสาปพระอิศวรก็หายไป...ปักหลั่นก็กลับขึ้นสวรรค์ไป...จากนั้นก็กลับไปนอนต่อ โดยที่หนุมานกับชมพูพาน ยังหลับสนิทไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม พอตื่นมา องคตจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 13 ตอน ยักษ์ปักหลั่นพ้นคำสาป

      หลานอินทร์ยินยักษ์ย้อน   ถามหา ทางนา
ยักษ์บอกทางลงกา         เกาะให้
องคตลูบเกศา            ตลอดสุด หลังแฮ
ปักหลั่นพ้นสาปได้         สู่ฟ้าเสวยรมย์ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 13 ตอน ยักษ์ปักหลั่นพ้นคำสาป : ในภาพ องคตถามถึงทางที่จะไปลงกา ปักหลั่นก็บอกทางให้ องคตจึงลูบหลังให้ยักษ์ปักหลั่น พ้นคำสาป กลายร่างเป็นเทวดา กลับสู่สวรรค์

.




-ภาพลอกลาย-
ยักษ์ปักหลั่นได้บอกที่มาของตนว่า เดิมเป็นเทวดารับใช้พระอิศวร ต่อมาเป็นชู้กับนางฟ้าชื่อเกสรมาลา พระอิศวรจึงสาปให้เป็นยักษ์ชื่อปักหลั่นมาเฝ้าสระโบกขรณี แต่ถ้าได้พบกับทหารขององค์พระนารายณ์แล้วลูบกายก็จะพ้นคำสาป องคตสงสารจึงเข้าลูบหลังทำให้ พ้นคำสาปกลับไปเป็นเทวดา

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 14 ตอน หนุมานเกี้ยวนางบุษมาลี

      วายุบุตรยุดหยอกน้อง      นางสวรรค์
เทพบุษมาลีผัน            พักตร์พ้อ
ลิงหาวเด่นดาวตะวัน         จันทร์จาก โอษฐเอย
นางนิยมชมอ้อ            แอบชู้ชวนเกษม ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 5 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 14 ตอน หนุมานเกี้ยวนางบุษมาลี : ในภาพ หนุมานกำลังตระคองกอดนางบุษมาลีที่พระตำหนักร้าง

.




-ภาพลอกลาย-
พญาวานรทั้งสามพร้อมไพร่พลลิง เดินทางมาพบเมืองร้างอยู่กลางป่า มีมหาปราสาท แต่ไม่มีคน จึงรู้สึกแปลกใจกันยิ่งนัก หนุมานอาสาจะเข้าไปตรวจสอบ แล้วให้องคตกับชมพูพานดูแลรี้พล เมื่อหนุมานเข้าไปในปราสาทได้พบกับหญิงสาวสวยผู้หนึ่งชื่อ บุษมาลี

เมืองนี้ชื่อเมืองมายัน แต่เดิมนางบุษมาลีเป็นนางอัปสร อยู่กับพระอินทร์ ต่อมาเกิดเหตุร้าย คือ ท้าวดาวันเจ้าเมืองมายัน ไปเฝ้าพระอินทร์เห็นนางอัปสรชื่อรัมภาที่เป็นนางสนมของพระอินทร์ก็นึกรัก และทุกครั้งที่ไปเข้าเฝ้าฯ ก็จะรบเร้าให้นางบุษมาลีเป็นแม่สื่อให้ ต่อมาพระอินทร์ทรงทราบเรื่องทรงกริ้วมาก จึงฆ่าท้าวดาวันเสีย ทำให้เมืองมายันร้าง และพระอินทร์ได้สาปนางบุษมาลีให้ไปอยู่แต่เพียงผู้เดียวในปราสาทร้างที่เมืองมายันเป็นเวลา 30,000 ปี จะพ้นคำสาปได้ก็ต่อเมื่อ พบกับทหารเอกของพระนารายณ์อวตาร ที่หาวเป็นดาวเป็นเดือนได้ โยนนางกลับขึ้นไปไปสู่สวรรค์

หนุมานจึงแผลงฤทธิ์กลายเป็นลิง 4 หน้า 8 มือ แล้วหาวเป็นดาวเป็นเดือน จากนั้นหนุมานก็เกี้ยวพาราสีจนได้นางเป็นเมีย...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 15 ตอน ส่งนางบุษมาลีขึ้นสวรรค์

      ลูกลมสมสุขด้วย         ดวงสมร
นางว่าวานวานร         ส่งฟ้า
วายุบุตรหักอาวรณ์         สังวาส
อุ้มนุชสุดสวาทคว้า         คว่างขึ้นเสวยสวรรค์ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 6 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 15 ตอน ส่งนางบุษมาลีขึ้นสวรรค์ : ในภาพ หนุมานอุ้มนางบุษมาลี แล้วโยนนางขึ้นไปบนฟ้า ส่งกลับสู่สวรรค์ กลับไปเป็นนางอัปสรตามเดิม

.




-ภาพลอกลาย-
ในที่สุดหนุมานก็ได้นางบุษมาลีเป็นเมีย และขอให้นางชี้ทางไปลงกาให้ด้วย นางบอกให้ไปทางทิศหรดี มีนางฟ้าเฝ้าแม่น้ำอยู่ให้ไปถามนางเถิด ส่วนตนเองบัดนี้พ้นคำสาปแล้วขอให้ช่วยส่งนางกลับคืนไปบนสวรรค์ด้วย หนุมานจึงเข้าอุ้มนางบุษมาลี มองหน้านางด้วยความอาลัย พลางถอนใจใหญ่ แล้วตัดสินใจโยนนางขึ้นไปบนฟ้าในอากาศ ทั้งสองจากลากันตรงนี้แล้วไม่ได้พบกันอีกเลย

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 16 ตอน สามทหารพบนกสัมพาที

      พบนกโลมหลุ้นชื่อ      สำพา ทีเอย
รู้แห่งทางลงกา            เกาะแก้ว
วานลิงโห่สามลา         โลมงอก งามแฮ
วายุบุตรขึ้นขี่แล้ว         นกนั้นผันผยอง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 7 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 16 ตอน สามทหารพบนกสัมพาที : ในภาพ หนุมาน ชมพูพาน และองคต พบกับนกสัมพาที พี่ของนกสดายุ

.




-ภาพลอกลาย-
ทั้งสามทหารได้เดินทางรอนแรมไป จนไปพบกับฤๅษีชฎิล ฤๅษีจึงบอกว่าให้เดินทางไปยังภูเขาเหมติวัน ซึ่งอยู่ริมฝั่งมหาสมุทรที่จะข้ามไปลงกา เมื่อสามทหารและไพร่พลเดินทางไปถึงภูเขาเหมติวัน พบกับพระยานกสัมพาที ซึ่งเป็นพี่นกสดายุ จึงถามเรื่องราวของสดายุ หนุมานเล่าให้ฟังแล้วถามว่า ทำไมจึงไม่มีขน พระยานกสัมพาทีจึงเล่าให้ฟังว่า ตนเป็นพี่ชายของสดายุ
               
วันหนึ่งสดายุเห็นพระอาทิตย์ นึกว่าผลไม้ จึงจะจับกิน ตนห้ามไม่ฟัง พระอาทิตย์จึงเปล่งแสงร้อนแรง ตนจึงไปช่วยจนขนหลุดหมด และพระอาทิตย์ก็ยังได้สาปตนให้อยู่ในถ้ำเหมติวัน และขนไม่งอกขึ้น จนกว่าจะพบกับทหารพระนารายณ์ คุมพลมาเพื่อจะข้ามไปลงกา แล้วเหล่าวานรได้โห่ขึ้นสามครั้ง ขนจึงจะงอกดังเดิม หนุมานและพวกจึงช่วยโห่สามลาพร้อมกัน ขนของนกสัมพาทีจึงงอกงามได้อย่างเก่า

เมื่อพ้นคำสาปแล้ว จึงรับอาสาพาสามทหารขี่หลังบินไปจนถึงเขาคันธสิงขร แล้วชี้ว่าเกาะกลางสมุทรที่มีเขาสูงชื่อนิลกาฬนั้นคือกรุงลงกา หนุมานจึงให้ชมพูพานกับองคต ไปคุมทัพคอย ส่วนหนุมานจะไปเฝ้านางสีดา

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #4 on: 17 June 2023, 10:52:36 »

[4] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 4


ด้านทิศตะวันออกมี 6 ช่อง(ชุด)

ช่องที่ 1  แผ่นที่  1-3
ช่องที่ 2  แผ่นที่  4-9
ช่องที่ 3  แผ่นที่  10-16
.
ช่องที่ 4  แผ่นที่  17-23
.
ช่องที่ 5  แผ่นที่  24-29
ช่องที่ 6  แผ่นที่  30-32

.....

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 4 (แผ่นที่ 17-23 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 4 แผ่นที่ 17-23




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 17 ตอน หนุมานฆ่านางผีเสื้อสมุทร

      เสื้อสมุทรอ้าโอษฐยั้ง      ยืนปิด ทางแฮ
กวัดแกว่งตระบองบิด      แบกจ้อง
หณุมานผาดแผลงฤทธิ      เร็วรีบ
เข้าปากแขวะแหวะท้อง      ยักษ์ร้ายวายชนม์ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 17 ตอน หนุมานฆ่านางผีเสื้อสมุทร : ในภาพ นางผีเสื้อสมุทรซึ่งเป็นนายด่านทางทะเลของกรุงลงกา ต่อสู้กับหนุมาน กำลังอ้าปากจะกิน หนุมานจึงเหาะเข้าไปในปาก ผีเสื้อสมุทรรีบกลืนลงท้อง หนุมานจึงใช้ตรีศูลคว้านท้อง ฟันตับไตไส้พุงไหลทะลัก ขาดใจตายทันที

.




-ภาพลอกลาย-
สัมพาทีตอบแทนบุญคุณด้วยการพาหนุมาน องคต ชมพูพานไปดูเขานิลกาลาอันเป็นที่ตั้งของกรุงลงกา ก่อนที่หนุมานจะเหาะไปตามลำพังเพื่อสำรวจเส้นทางอีกครั้ง ระหว่างทางได้พบนางผีเสื้อสมุทร (คนละตนกับผีเสื้อสมุทรในพระอภัยมณี) ซึ่งเป็นนายด่านทางทะเลของกรุงลงกา(ผบ.ทร.) หนุมานได้เหาะเข้าไปในปากนางผีเสื้อสมทุร แล้วเอาตรีศูลฟันไส้ของนางผีเสื้อสมุทรจนขาดแล้วผ่าท้องออกมา

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 18 ตอน หนุมานพบฤๅษีบรมนารท

      สายัณห์บรรลุด้าว      ดาบส
นามบรมนารท            หง่อมหง้อม
หณุมานมาดหมายทด      ลองฤทธิ ท่านนา
วอนว่ามายาย้อม         อยู่ยั้งยังสถาน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 18 ตอน หนุมานพบฤๅษีบรมนารท : ในภาพ หนุมานแปลงกายเป็นลิงป่าเข้าไปถามทางไปกรุงลงกา พระนารทฤๅษีบอกว่าเลยมาแล้ว จึงชี้บอกทางให้หนุมาน

.




-ภาพลอกลาย-
เมื่อสังหารนางผีเสื้อสมุทรได้แล้ว หนุมานก็เหาะต่อไป ซึ่งเลยกรุงลงกาไป จนไปถึงเขาโสฬสในเวลาเย็นย่ำแล้ว ด้วยเข้าใจผิดว่าเป็นเขานิลกาลา ที่เขาโสฬสนั้นมีฤๅษีนามว่า ฤๅษีนารท บำเพ็ญเพียรอยู่ หนุมานแปลงกายเป็นลิงป่าเข้าไปขออาศัย และถามทางว่ากรุงลงกาไปทางไหน พระฤๅษีนารทบอกว่าเลยมาแล้ว จึงชี้ทางไปเขานิลกาลาให้

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 19 ตอน หนุมานลองฤทธิ์

      แปลงตนโตมั่นตั้น      เต็มศา ลาเอย
ลองฤทธิ์พระสิทธา         ท่านแก้
บันดาลเรียกลมพา         ฝนสาด ซ้ำฤๅ
ลิงเปียกยับรับแพ้         สั่นท้าวหนาวฝน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 19 ตอน หนุมานลองฤทธิ์ : ในภาพ หนุมานลองฤทธิ์เดชของฤๅษีนารท ด้วยการแปลงกายใหญ่โตจนคับศาลา แต่ก็ถูกฤๅษีนารทเล่นงานด้วยคาถาที่แก่กล้า ทั้งเสกให้ลมพัดและฝนตกสาดซัดซ้ำเข้าไปอีก จนหนุมานเปียกปอนและหนาวสั่น ต้องยอมแพ้

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมานแปลงกายเป็นลิงป่าตัวเล็กเข้าไปขอพักอาศัยอยู่กับพระฤๅษีนารทสักคืนหนึ่ง แล้วได้ลองฤทธิ์กับพระฤๅษีนารท โดยแปลงกายใหญ่เต็มอาศรมศาลา พระฤๅษีเห็นเข้าจึงโมโห เมื่อมาตัวเล็กนิดเดียวแล้วทำไมมาลองดีกับข้า พระฤๅษีจึงบันดาลเรียกลมเรียกฝนให้ตกที่อาศรมศาลา เสกให้ลมพัดกระหน่ำและฝนตกสาดซัดซ้ำเข้าไปอีก หนุมานจึงเปียกปอน นอนไม่ได้ หนาวสะท้านกาย ขอยอมแพ้ พระฤๅษีก็ยังไม่หายโมโห จะต้องสั่งสอนให้รู้ฤทธิ์ จึงเอาไม้เท้าโยนลงไปในสระ(โปรดติดตามตอนต่อไป)

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 20 ตอน หนุมานถูกปลิงเกาะคาง

      ธารกรนักสิทธิ์แสร้ง      เปนปลิง
สาปสั่งคอยกัดลิง         ที่น้ำ
หณุมานตื่นตนติง         ลงสู่ สระแฮ
ปลิงเกาะกัดคางปล้ำ         ปลดทิ้งฤๅถอน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 20 ตอน หนุมานถูกปลิงเกาะคาง : ในภาพ ฤๅษีนารทเสกไม้เท้าให้เป็นปลิงยักษ์อยู่ในสระ และเกาะติดที่คางของหนุมานจนแกะไม่ออก หนุมานจึงยอมแพ้แก่ฤๅษีนารท

.




-ภาพลอกลาย-
เมื่อรุ่งเช้าหนุมานตื่นนอนไปล้างหน้าที่สระน้ำ ถูกปลิงเกาะคาง แกะอย่างไรก็ไม่ยอมออก เหาะสูงขึ้นไปปลิงก็ยิ่งยาวขึ้น พระฤๅษีเห็นก็ยืนหัวเราะชอบใจ แล้วบอกว่า เก่งจริงต้องแกะปลิงออกให้ได้ หนุมานจึงขอยอมแพ้พระฤๅษี พระฤๅษีจึงเอามือไปจับปลิงแล้วกลายเป็นไม้เท้าอันเดียวกับที่พระฤๅษีโยนลงสระไว้ จากตอนที่แล้ว

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 21 ตอน หนุมานมุ่งตรงไปกรุงลงกา

      วายุบุตรสารภาพแพ้      รับผิด
นารทเมตตาจิตร         ปลดให้
พลางถามที่ทางทิศ         อสุเรศ
ดาบสบอกจำได้            เสร็จแล้วลาจร ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 5 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 21 ตอน หนุมานมุ่งตรงไปกรุงลงกา : ในภาพ หนุมานเหาะทะยานไปในนภากาศ หลังจากหนุมานเข้าไปกราบขอขมาพระฤๅษี พระฤๅษีมีเมตตาจิตให้อภัยแล้วลาพระฤๅษีจากยอดเขาโอฬส ย้อนทางไปยังเขานิลกาลาตามที่พระฤๅษีชี้ทางให้

.




-ภาพลอกลาย-
เมื่อหนุมานยอมแพ้แล้ว ฤๅษีนารทจึงปลดปลิงเสกออกให้ด้วยเมตตาจิต หนุมานจึงถามทางที่จะไปกรุงลงกา...ออกจากเขาโสฬสแล้ว หนุมานก็มุ่งตรงต่อไปยังเขานิลกาลา อันเป็นที่ตั้งของกรุงลงกา

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 22 ตอน หนุมานหักด่านอากาศ

      กองตระเวนอากาศห้อม     แหนลง กาเฮย
เหนบุตรพระพายตรง      สู่แคว้น
เร่งพลรุกรณรงค์         รุมจับ กระบี่แฮ
กระบี่ตระบัดขัดแค้น         ไล่ล้างกลางโพยม ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 6 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 22 ตอน หนุมานหักด่านอากาศ : ในภาพ หนุมาน ต่อสู้กับทหารยักษ์กองตระเวนอากาศที่รักษาความสงบเรียบร้อยทางอากาศของกรุงลงกา(ทหารอากาศ) ที่เข้ารุมล้อมจับ แต่ถูกหนุมานฆ่าตายหมด

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมานฆ่ายักษ์ตายหมด เมื่อหนุมานเหาะไปถึงกรุงลงกา พบกองตระเวนคุ้มกันกรุงลงกาทางอากาศ เหล่าพลยักษ์คุ้มกันจึงออกมาสกัดกั้น หนุมานจึงเข้าต่อสู้แล้วฆ่าเหล่าพลยักษ์ตายเรียบ

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 23 ตอน หนุมานฆ่าอากาศตะไล

      หณุมานหาญหักเข้า      โจมจับ
อากาศตะไลรับ            รบด้วย
หณุมานตัดเศียรกับ         แขนขาด ลงแฮ
อากาศตะไลม้วย         มอดกลิ้งกลางดิน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 7 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 23 ตอน หนุมานฆ่าอากาศตะไล : ในภาพ หนุมานใช้พระขรรค์ตัดคออากาศตไล นางอสูรกองตระเวนเฝ้ากรุงลงกามีชื่อว่า "อากาศตไล" มีสี่หน้าแปดมือ เมื่อเห็นเหล่าพลยักษ์หน่วยลาดตระเวนตายหมด ตนเองจึงเข้าต่อสู้กับหนุมาน แต่ก็สู้ไม่ได้ ถูกหนุมานตัดแขนตัดคอ ตายตกกลิ้งกลางดิน

.




-ภาพลอกลาย-
อากาศตะไล ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่เป็นเสื้อเมือง นายด่านทางอากาศของกรุงลงกา(ผบ.ทอ.) คือนายทหารหญิงคอยสอดส่องปกป้องน่านฟ้ากรุงลงกา

เมื่อครั้งหนุมานเดินทางมากรุงลงกาหนแรก ได้สังหารนางผีเสื้อสมุทรผู้รักษาด่านทางทะเล นางอากาศตะไลเห็นศพนางผีเสื้อสมุทรถูกแหวะท้องไส้ไหล ปลาฉลามมากัดกิน ก็ตระหนักทันใดว่าผู้บุกรุกมีฝีมือร้ายกาจ จึงเรียกบรรดาภูติผีปีศาจที่เป็นบริวารมาช่วยกันรับมือหนุมาน

หนุมานได้เข้าไปรบกับอากาศตะไล และสังหารอากาศตะไลได้ในที่สุด

.

 


-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #5 on: 17 June 2023, 10:54:37 »

[5] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 5


ด้านทิศตะวันออกมี 6 ช่อง(ชุด)

ช่องที่ 1  แผ่นที่  1-3
ช่องที่ 2  แผ่นที่  4-9
ช่องที่ 3  แผ่นที่  10-16
ช่องที่ 4  แผ่นที่  17-23
.
ช่องที่ 5  แผ่นที่  24-29
.
ช่องที่ 6  แผ่นที่  30-32

.....

ศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 5 (แผ่นที่ 24-29 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 5 แผ่นที่ 24-29




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 24 ตอน ห้องบรรทมทศกัณฐ์

      เหนนางนอนแนบท้าว     ทศกัณฐ์
หมายแม่นสีดาพรรณ      เพริศพริ้ง
หณุมานจับตรีหัน         กวัดแกว่ง
พอแว่วสำเนียงจิ้ง         จกยั้งหยุดถวิล ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 24 ตอน ห้องบรรทมทศกัณฐ์ : ในภาพ หนุมานไปถึงกรุงลงกาเป็นเวลาพลบค่ำ หลังจากสะกดพวกยักษ์เวรยามหลับหมดแล้ว จึงออกเที่ยวค้นหานางสีดาตามปราสาทราชมณเฑียร พบทศกัณฐ์นอนหลับอยู่กับนางมณโฑ แต่ก็ไม่พบนางสีดา หนุมานจับพระขรรค์จะฟันทศกัณฐ์ พลันได้ยินเสียงจิ้งจกทัก จึงหยุดยั้งไว้

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมานไปถึงกรุงลงกาเป็นเวลาพบค่ำ สะกดพวกเวรยามให้หลับหมด เที่ยวค้นหาตามปราสาทราชมณเฑียร พบทศกัณฐ์นอนหลับอยู่กับนางมณโฑ แต่ไม่พบนางสีดา หนุมานจับพระขรรค์จะฟันทศกัณฐ์ พลันได้ยินจิ้งจกทัก จึงหยุดยั้งไว้ แหม ไม่รู้จิ้งจกเก้าหางรึเปล่านะ อิอิ อยากได้สักตัว

หนุมานเที่ยววนเวียนอยู่ในวัง จนทั่วก็ไม่พบนางสีดา จึงกลับไปหาฤๅษีนารทมุนีอีกครั้ง เพื่อถามข่าวคราวเรื่องนางสีดา ฤๅษีก็สงสัยว่า...เจ้าเองเป็นเพียงลิงป่า เหตุไฉนจึงสนใจใคร่รู้เรื่องของนางสีดานัก...

หนุมานจึงตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้พระนารทฤๅษีฟัง พระฤๅษีทราบเรื่องแล้วก็ดีใจเป็นล้นพ้น ที่เหล่ายักษ์อสูรร้ายจักต้องตายลงด้วยศรแห่งพระนารายณ์ จึงอวยชัยให้พรแก่หนุมานกระทำการให้สำเร็จ... แล้วบอกว่า...

...นาร๊ายยย นารายณ์...นางสีดาถูกจับไปกักขังอยู่ที่สวนขวัญ...น่ะ..นาร๊ายยย นารายณ์...

หนุมานจึงกราบลาพระนารทมุนีฤๅษี แล้วก็เหาะไปยังสวนขวัญทันที...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 25 ตอน อยู่ยามตามไฟ

      โจษจลคนแห่หน้า      นำคบ โคมแฮ
ตำรวจแปดกรมครบ         เพียบพื้น
โดยเสด็จจักรพาฬภพ      อสุเรศ ท่านนา
เสโล่ห์โตมรศรดื้น         ดาษล้อมแลสลอน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 25 ตอน อยู่ยามตามไฟ : ในภาพ ตำรวจยักษ์ถือโคมไฟ ทศกัณฐ์นั้นเวลาจะเสด็จไปทางใด จะมีกององครักษ์ตำรวจยักษ์แปดกรมเจ้าหน้าที่นำคบโคมไฟนำหน้า เพรียบพร้อมด้วยกองอาสาติดอาวุธโล่ โตมร ศร คอยระแวดระวังล้อมติดตาม

.




-ภาพลอกลาย-
ทศกัณฐ์ได้กักขังนางสีดาไว้ที่ สวนขวัญ และตั้งแต่ได้นางสีดามา ก็ไม่เป็นอันทำอะไร เอะอะก็ให้แจ้งเสนาว่าจะไปอุทยาน เทียวไล้เทียวขื่อ จะรับนางสีดามาเป็นอัครมเหสีให้ได้ บรรดาเสนามาร ก็ต้องจัดทัพใหญ่ออกไปสวนขวัญทันที...

ทศกัณฐ์ไม่ว่าจะเสด็จไปทางใด จะมีกององครักษ์เจ้าหน้าที่ตำรวจยักษ์แปดกรมคอยทำหน้าที่ถือคบไฟนำหน้า เพรียบพร้อมด้วยกองอารักขาติดอาวุธ โล่ โตมร ศร คอยระวังแวดล้อมติดตามอยู่เสมอ

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 26 ตอน ทศกัณฐ์ผิดหวัง

      พงศ์พรหมบรมนาถเจ้า     จอมยักษ์
เสด็จจากอุทยานรัก         รุ่มเร้า
รีบรถบทจรอัก            อ่วนเทวษ มานา
ถึงนิวาศวังเข้า            สู่ห้องหวนถวิล ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 26 ตอน ทศกัณฐ์ผิดหวัง : ในภาพ ทศกัณฐ์ประทับราชรถไปเกี้ยวนางสีดา ท่าทางดูขึงขัง แต่เมื่อผิดหวังจากการเกี้ยวนางสีดาซึ่งไม่ยอมปลงใจด้วย ทำให้ร้อนรุ่มกระวนกระวาย รีบเสด็จกลับเข้าวังสู่ห้องบรรทม ยิ่งคิดยิ่งตรอมใจยิ่งนัก

.




-ภาพลอกลาย-
ทศกัณฐ์มาหานางสีดาแทบทุกวัน แต่นางก็ไม่เคยสนใจในตัวทศกัณฐ์เลย...

ทศกัณฐ์เองก็เข้าใกล้นางสีดาไม่ได้ มีอาการร้อนเหมือนไฟ...เพราะเคยโดนคำสาปจากนางอัปสร ถ้าทศกัณฐ์ไปแตะต้องตัวหญิงสาวที่เขาไม่เต็มใจ จะร้อนเหมือนโดนไฟเผาไหม้ตัวเอง

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 27 ตอน ทศกัณฐ์เกี้ยวนางสีดา

      ทศเศียรเพียรพูดเล้า      โลมสี ดาเอย
นงลักษณ์ภัควดี            ปักไม้
นั่งด่าเปรียบอสุรี         เหนชอบ อีกนา
รักนักจักนั่งใกล้            เร่าร้อนฤๅหาย ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 27 ตอน ทศกัณฐ์เกี้ยวนางสีดา : ในภาพ เป็นในอุทยานกรุงลงกาเวลาค่ำ ทศกัณฐ์เฝ้าอ้อนวอนงอนง้อเล้าโลมต่างๆ เพื่อให้นางสีดาปลงใจด้วย (แหม ลูกตัวเองแท้ๆยังไม่รู้ หัวงูจริงๆ) นอกจากนางสีดาไมยินยอมแล้วกลับด่าว่า ทศกัณฐ์พาลกริ้วพวกนางกำนัลที่อยู่งานดูแล ไม่ช่วยกันเกลี้ยกล่อมบ้าง ภาพตอนนี้ องค์ประกอบของภาพสวยงามมาก ดูภาพจำหลักสีหน้าทศกัณฐ์ที่ดูกรุ้มกริ่ม เชยคางและแขนกวัดกับเสาพลับพลาเชิงออดอ้อน แล้วก็ท่วงท่าของนางสีดาที่ดูไว้ตัว(เชิงรังเกียจเจ้าชู้ยักษ์)น่าชมจริงๆ

.




-ภาพลอกลาย-
ทศกัณฐ์มาหานางแทบทุกวัน แต่นางก็ไม่เคยสนใจในตัวทศกัณฐ์เลย...ทศกัณฐ์อุตส่าห์แปลงร่างจากยี่สิบมือ ให้เหลือแค่สองมือแล้ว (แต่ดันลืมแปลงหน้าให้เหมือน ณเดชน์ 555) สีดาก็ยังไม่สนใจ...ทศกัณฐ์อุตส่าห์ไปเด็ดดอกไม้มาให้นะครับ (เอาดอกไม้มาจีบสาวทั้งที ดันเด็ดมาดอกเดียว มันจะจีบติดมั๊ยเนี่ย อ้ายยักษ์!!)

ทศกัณฐ์พยายามสรรหาคำมาโอ้โลมนางให้รักตน นางสีดาได้ยินคำทศกัณฐ์แล้ว ยิ่งเจ็บแค้น กลั้นความแค้นไว้ไม่ได้ กิ่งไม้ที่ถืออยู่ ก็เอาปักลงดิน แล้วด่าไม้ประชดยักษ์ไปว่า...

...อ้ายไม้จัญไรอัปรีย์ ไฉนมึงจึงมาดูหมิ่น พระทรงศิลป์คือองค์อวตารมาเพื่อผลาญโคตรยักษ์ ซึ่งเบียดเบียนโลกให้เดือดร้อน ตัวมึงถึงมีสิบหน้าก็จะตายไม่เหลือ เมื่อวันไปลักกูมา หากไม่รีบหนี ป่านนี้คงจะตายเสียด้วยศรชัยของพระจักรา...

ส่วนทศกัณฐ์ได้ยินดังนั้น ก็ไม่โกรธ ถึงกับลงทุน ก้มลงกราบนางสีดา แล้วกล่าวว่า...เจ้างามงอน ดวงใจของพี่ ทั่วทั้งสามโลกไม่มีใครเปรียบนางได้ ถ้าแม้ว่าเจ้าจะด่าว่าพี่ สักเพียงไหน พี่ก็ไม่ถือ ขออย่างเดียว ให้รับรักพี่เท่านั้น ขอให้เมตตาเถิด...

นางสีดาเจ็บช้ำกับคำกล่าวของทศกัณฐ์ ไม่มองหน้าทศกัณฐ์ แต่กลับถ่มน้ำลายลงไปที่ไม้ ด่าซ้ำว่า...เหวย! อ้ายไม้ริยำ ตัวมึงอย่ามาเจรจามากไปเลย กูคือมารดาเทวาสุรารักษ์ ทั้งไตรจักรย่อมเคารพนบนอบ กูไม่ใช่หญิงชั่วช้าสามานย์ จึงจะยินดีด้วยคนอย่างมึง มาตรแม้นว่ากูจะตาย ก็เอาไว้ยศ ไม่ให้อับอายขายหน้าโลกได้...

ทศกัณฐ์เห็นนางสีดาผินหน้าด่าไม่ใยดี หมดปัญญา ไม่รู้จะคิดจะพูดอย่างไร จำใจลานางกลับออกมา...

พอดีเหลือบมาเห็นนางสนม กรมนางทั้งพัน ที่ให้อยู่รักษานางสีดา ก็ให้โมโหโกรธา กระทืบบาท แผดเสียงดังฟ้าผ่าว่า...อีพวกเหล่านี้ ให้คอยดูแลนางสีดา ทำไมไม่ว่าวอนให้นางโอนอ่อน...(ก็เลยคาดโทษเอากับพวกนางกำนัลว่า)...ถ้าเกลี้ยกล่อมนางสีดาให้ใจอ่อนไม่ได้...พวกมึงตาย......ว่าแล้วทศกัณฐ์ก็ขึ้นบุษบกราชรถ กลับเข้าเมืองไป...

บ่าวไพร่ได้ยินดังนั้นก็ตกใจจนฉี่ราด...อยู่ดีๆ ความซวยก็มาเยือน ซะแล้ว...   

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 28 ตอน นางสีดาผูกพระศอ

      พอสามยามย่ำฆ้อง      คนหลับ
ขึ้นผูกพระสอกับ         กิ่งไม้
หณุมานมุ่งมองขยับ         คอยอยู่
พอโลดรองรับได้         ตัดผ้าวางลง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 28 ตอน นางสีดาผูกพระศอ : ในภาพ นางสีดาใช้ภูษาผูกพระศอที่กิ่งต้นโศก...เมื่อเวลาสามยาม คนหลับนอนหมดแล้ว นางสีดาเคืองแค้นทศกัณฐ์กับเหล่านางสนมกำนัลที่ใช้ผรุสวาจาสามหาว จึงตัดสินใจผูกพระศอกับกิ่งต้นโศกหวังฆ่าตัวตาย (ในภาพมีหนุมาน มาช่วย)

.




-ภาพลอกลาย-
หลังจากทศกัณฐ์เดินจากไป บรรดาบ่าวไพร่ก็ร่ำร้องไห้กันต่อหน้านางสีดา นางก็ตกอกตกใจจนร้องไห้ เพราะตัวเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ถ้าต้องให้ทรยศนอกใจพระรามหล่ะก็ สู้ยอมฆ่าตัวตายดีกว่า...นางสีดานั้นลำบากใจเสียยิ่งกว่าใคร หากตนไม่ยอมเพียงคนเดียว อีกพันชีวิตก็ต้องสูญสิ้น แต่หากนางจะยอม ก็สิ้นเกียรติ ผิดต่อพระราม คิดดังนั้น นางจึงตัดสินใจ รอให้นางสนมกำนัลหลับกันเสียทั้งหมด แล้วจะผูกคอตาย...

เหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่ทศกัณฐ์โผล่มาจนกลับไป อยู่ในสายตาของหนุมานที่แอบซุ่มดูอยู่ทั้งหมด หลังจากทศกัณฐ์กลับไปแล้ว หนุมานก็เอาแต่คิดว่า...เราจะเข้าไปหานางสีดายังไงดี จะไปอธิบายยังไงดี เพราะนางสีดาตอนนั้นอยู่ในอารมณ์หดหู่สุดๆ...

หลังจากบ่าวไพร่ร้องไห้กันจนสลบไสลไปแล้ว นางสีดาตัดสินใจจะผูกคอตายใต้ต้นโศก เพื่อไม่ให้บรรดาบ่าวไพร่ต้องเดือดร้อนเพราะตัวเอง...

หนุมานซึ่งแอบดูอยู่บนต้นไม้ ก็รีบโจนทะยานลงไปช่วยนางสีดาไว้ได้ทัน...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 29 ตอน หนุมานถวายแหวน

      วายุบุตรอภิวาทไหว้      ถวายแหวน
นางรับมาทรงแสน         โศกเศร้า
แจ้งเหตุพระดลแดน         เดิรป่า   มานา
นางโศกลิงซบเกล้า         เกลือกกลั้นกรรแสง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 5 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 29 ตอน หนุมานถวายแหวน : ในภาพ นางสีดารับพระธำมรงค์และสไบทรงจากหนุมาน...เมื่อหนุมานกลับไปหาพระฤๅษีนารทถามที่อยู่นางสีดา พระฤๅษีบอกว่าอยู่ในอุทยาน ก็ตรงไปที่นั่น พบนางสีดากำลังผูกศอกับกิ่งโศก จึงรีบเข้าไปรองรับ ตัดผ้าที่ผูกคอออก เมื่อเห็นนางยังไม่ตาย หนุมานดีใจเล่าเรื่องว่าพระรามกำลังเดินป่าตามหานาง แล้วจึงถวายธำมรงค์กับผ้าสไบทรง นางสีดาร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ

.




-ภาพลอกลาย-
นางสีดาก็ตกอกตกใจ แปลกใจ...ที่อยู่ดีๆ ลิงเผือกโผล่ออกมาจากไหนก็ไม่รู้ จึงไต่ถามว่าเหตุใดจึงมาขัดขวางเรา...

หนุมานได้โอกาสก็เลย...อินโทรดิวซ์ ฮิมเซลฟ์...แนะนำตัวว่า...ตนนั้นชื่อว่าหนุมาน ได้รับคำสั่งจากองค์พระรามให้มาสืบข่าวนางสีดา พร้อมทั้งให้แจ้งแก่นางสีดาว่า พระรามนั้นทั้งรักและเป็นห่วง จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ขณะนี้กำลังระดมไพร่พล เพื่อยกทัพมาช่วยเหลือ...

นางสีดาได้ฟัง ใจหนึ่งก็ตื้นตันในความรักที่พระรามมีให้กับตน แต่อีกใจหนึ่งก็ระแวงว่า จะเป็นแผนการของทศกัณฐ์ จึงบอกกล่าวให้หนุมานยืนยันว่า...สิ่งที่พูดมานั้นเป็นความจริง...

หนุมานจึงถวายผ้าสไบที่นางสีดาฝากไว้กับลิงป่า และธำมรงค์วิเศษที่ทศกัณฐ์ขว้างใส่สดายุ พร้อมทั้งคีย์เวิร์ดลับ ที่พระรามบอกไว้ว่า “รักนะ..จุ๊บุจุ๊บุ” เอ้ย.ไม่ใช่!!! โค้ดลับที่ว่าคือ...พระรามหลงรักนางสีดาตั้งแต่แรกเห็นที่ช่องพระแกล ก่อนจะเข้าพิธียกพระมหาธนูโมลี...

นางสีดาได้ยินดังนั้น ก็พลันน้ำตาไหล ความหวาดกลัวทั้งหลายหมดสิ้นไป เพราะมั่นใจว่าพระรามจะต้องมาช่วยตนได้อย่างแน่นอน จากนั้นจึงเลิกคิดจะผูกคอตาย แล้วมาพูดคุยกับหนุมานถึงเรื่องราวต่างๆ ในช่วงที่ตนเอง ถูกลักพาตัวมา...

หนุมานทูลเสนอว่า...จะพานางสีดากลับไปเอง โดยจะขยายร่างกายให้ใหญ่โต และให้นางนั่งไปบนฝ่ามือตน...

แต่นางสีดาปฏิเสธ!?! และด้วยขัตติยนารี นางจึงบอกกับหนุมานว่า...ไม่เอาแล้ว ไม่เอา ไม่ไปกับใครทั้งสิ้น...นอกจากพระรามสวามี มารับเชยขวัญด้วยตนเองที่นี่...เพื่อพิสูจน์รักแท้ ให้พระรามยกทัพมาปราบยักษ์ เพราะลักพานางมา มันหยามกันชัดๆ...

การที่นางสีดาไม่ยอมหนีไปกับหนุมาน ก็เพราะกลัวจะเป็นที่ครหาติฉินนินทากันไปทั้งสามโลกไม่มีที่สิ้นสุดว่า...ยักษ์ลักพามา ลิงลักพาไป...ลากกันไปลากกันมา ดังกับนางเป็นตัวอะไร ใครจะทำอะไร อย่างไรก็ได้ เหมือนกับ...เจ๊กลากไป ไทยลากมา...กระนั้นเลยเชียว...และพระรามก็จะเสื่อมเกียรติว่าไม่สามารถชิงตัวหญิงคนรักด้วยตัวเองได้ อีกทั้งอาจเกิดความระแวงสงสัยในตัวนางด้วย...
 
หนุมานแม้จะไม่เข้าใจจุดประสงค์ของนางสีดา แต่ก็ไม่กล้าขัดใจนาง...หนุมานรับปากและบอกให้นางสีดารอทัพพระรามอยู่ที่นี่... แล้วจึงเอ่ยลานางสีดา เพื่อที่จะได้รีบกลับไปส่งข่าว และรายงานให้พระรามทราบ...ขอให้นางสีดารักษาตัวด้วย...

นางสีดาจึงได้สัญญากับหนุมานว่าจะไม่คิดฆ่าตัวตายอีกแล้ว และจะพยายามใช้มารยาหลอกล่อทศกัณฐ์ให้ยืดเวลาในการตัดสินใจออกไปอีก 1 เดือน ฉะนั้นภายใน 1 เดือนนี้ หนุมานต้องรีบไปช่วยพระรามให้ยกทัพมากรุงลงกาเพื่อชิงตัวนางคืนไปให้ได้...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ , 
พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #6 on: 17 June 2023, 10:56:30 »

[6] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 6


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์
ด้านทิศตะวันออกมี 6 ช่อง(ชุด)

ช่องที่ 1  แผ่นที่  1-3
ช่องที่ 2  แผ่นที่  4-9
ช่องที่ 3  แผ่นที่  10-16
ช่องที่ 4  แผ่นที่  17-23
ช่องที่ 5  แผ่นที่  24-29
.
ช่องที่ 6  แผ่นที่  30-32
.

.....

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 6 (แผ่นที่ 30-32 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 6 แผ่นที่ 30-32




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 30 ตอน หนุมานทำลายสวนขวัญ

      หณุมานวางวิ่งเข้า   หักสวน
พร้าวหมากตูมตาลซวน   โค่นค้อม
รากษสยักษาชวน      กันวิ่ง มาแฮ
ก่งกระสุนสายล้อม      ไล่เลี้ยวจับลิง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 6 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 30 ตอน หนุมานทำลายสวนขวัญ : ในภาพ หนุมานหักไม้ประดับ ไม้ดอกในอุทยานเสียสิ้น...เมื่อหนุมานลานางสีดาแล้ว แต่ยังไม่กลับ เดินชมไม้ดอกไม้ประดับบรรจงสร้างไว้อย่างสวยงาม ว่าแล้วก็แผลงฤทธิ์เพื่อลองหยั่งกำลังยักษ์ เข้าทำลายหักต้นหมาก ต้นมะพร้าว ต้นมะตูม ต้นตาลในอุทยาน เหล่ายักษ์ผู้เฝ้าดูแลอุทยานก็โก่งธนูยิง ช่วยกันล้อมจับหนุมาน

.




-ภาพลอกลาย-
เมื่อหนุมานลานางสีดาออกมาข้างนอกแล้ว ถ้าจะกลับไปเฉยๆ ก็ไม่ใช่หนุมานสิฮะ...ก็อยากจะรู้ว่า ยักษาเมืองนี้ มีกำลังรี้พลเพียงไหน เก่งกล้าสามารถเพียงใด จะได้รู้ กำลังของข้าศึก เข้าทำนองที่ว่า...รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง...ต้องลุยลงกา ฝากรอยแค้นไว้สักรอบ...

ซึ่งอารมณ์หนุมานก็ยังค้างคามาตั้งแต่เห็นทศกัณฐ์ทำท่าเจ๊าะแจ๊ะนางสีดาแล้ว อยากจะเข้าไปอัดสักดอก แต่ก็ทำไม่ได้...ว่าแล้วหนุมานก็หันไประบายเอากับต้นหมากรากไม้ในสวนอุทยานของทศกัณฐ์ ทำลายเสียจนเละตุ้มเป๊ะ...

วันนี้จะลองฤทธิ์ดู      ให้รู้กำลังยักษา
สังหารผลาญเสียให้เปลืองตา   สงครามภายหน้าจะเบาใจ
คิดแล้วสำแดงแผลงฤทธิ์   ทศทิศกัมปนาทหวาดไหว
โลดโผนโจนจ้วงทะลวงไป   เที่ยวหักต้นไม้เป็นโกลี

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 31 ตอน หนุมานฆ่ายักษ์

      วายุบุตรฤทธิร้าย   แรงรณ
ไล่ฆ่ากุมภัณฑ์พล      แหลกหย้อย
ยักษ์มารบ่ทานทน      ทรุดท่าว หนีแฮ
ตายแตกยัยนับร้อย      ตื่นครื้นเครงเสียง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 6 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 31 ตอน หนุมานฆ่ายักษ์ : ในภาพ หนุมานจับเหล่ายักษ์ฟาดล้มตายก่ายกอง เหล่ายักษ์นั้นได้พากันเข้าต่อสู้กับหนุมาน แต่โดนหนุมานจับฟาดนอนตายเกลื่อนกลาด ที่ไม่อาจต่อสู้ได้ก็หนีไป ส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัว

.




-ภาพลอกลาย-
บรรดายักษ์ รปภ. ก็แตกตื่น...เฮ้ย ลิงบ้ามาเว้ย...พวกเราลุย...แต่จะไปสู้อะไรกับทหารเอกระดับหนุมานล่ะฮะ...ก็ตายกันเกลื่อน...ต้องแจ้นไปฟ้องนายที่เฝ้าสวน...นายที่เฝ้าสวนนั้น...ก็คือ สหัสกุมาร 1000 ตน...ซึ่งเป็นบุตรทศกัณฐ์กับนางสนม

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 32 ตอน หนุมานฆ่าสหัสกุมาร

      พันองค์โอรสเจ้า   ลงกา
รู้รีบพากันมา      ต่อด้วย
วายุบุตรอาจองสา      มารถแต่ เดียวแฮ
ฆ่าสหัสกุมารม้วย      มอดสิ้นฤๅหลอ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันออก ช่องที่ 6 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 32 ตอน หนุมานฆ่าสหัสกุมาร : ในภาพ เหล่ายักษ์พันตน รวมกำลังประจัญบานกับหนุมาน(อย่างนี้เรียกว่ายักษ์หมู่) สหัสกุมารคือกุมารยักษ์จำนวนหนึ่งพันตน โอรสของทศกัณฐ์ เมื่อได้ยินเสียงร้องแตกตื่นของยักษ์ที่รักษาความปลอดภัยในสวนขวัญ ก็เข้าไปช่วย ยักษ์พันตนได้รุมต่อสู้กับหนุมานผู้เดียว หนุมานพยายามจับยักษ์ฆ่าทีละตนจนหมดสิ้นไม่มีเหลือ

.
 



-ภาพลอกลาย-
สหัสกุมาร 1000 ตน...เป็นบุตรทศกัณฐ์กับนางสนม...ลูกยักษ์ทั้งพันตนนี้สามารถรวมร่างกันได้ จึงเรียกว่าสหัสกุมาร มีความสามารถแผลงศร ดอกเดียว ให้แตกออกเป็น 1,000 ดอกได้...

สหัสกุมารยกทัพไปถึงสวนขวัญ เห็นลิงเผือกกำลังละเลงเล่นสวนอุทยานเสียเละไม่มีชิ้นดี ก็แผลงศรออกไปทีเดียว แล้วกลายเป็นศรออกมานับพันเล่ม หนุมานรวบศรไว้ได้ทั้งหมดแล้วหักทิ้ง แล้วต่างก็พากันกรูเข้าไปล้อมเพื่อจะจับลิงมาสั่งสอนซะหน่อย...แต่สหัสกุมารทั้ง 1000 ตน ก็ถูกหนุมานทุบเละ สภาพไม่ต่างจากสวนอุทยานสักเท่าไหร่...

จนต้องถึงคิวลูกคนโต ลูกรักของทศกัณฐ์ต้องออกโรงเอง จึงร้อนถึง...อินทรชิต...นั่นไง!

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.

...เป็นอันจบภาพศิลาจำหลักฝั่งด้านทิศตะวันออกของพระอุโบสถ จำนวน 32 แผ่น...

.


.....
ขอขอบคุณ...
1. ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ และภาพวาด จาก...
http://www.kitmaiwatpho.com/index.html
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

2. ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ (ภาพลอกลาย) จาก...
Harvard Art Museums 
https://harvardartmuseums.org/search-results?q=bangkok#gsc.tab=0&gsc.q=bangkok&gsc.page=1

.



.....
ขอขอบคุณ ภาพและเรื่อง จาก...
http://www.kitmaiwatpho.com/index.html
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.
ภาพลอกลายศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ จาก Harvard Art Museums   ลิงค์ภาพ > https://bit.ly/2wCrdj7

.



.


Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.176 seconds with 21 queries.