Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
23 December 2024, 07:28:41

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618 Posts in 12,929 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  [39.5] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกอินทรชิต โดย กลม บางบาน
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: [39.5] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกอินทรชิต โดย กลม บางบาน  (Read 588 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« on: 20 June 2023, 08:12:53 »

[39.5] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกอินทรชิต โดย กลม บางบาน


20 มิถุนายน 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต (41)

-ทศกัณฐ์ใช้งานสุขาจาร

ทศกัณฐ์สั่งให้เสนาให้นำยักษ์สุขาจาร ออกมาจากคุก เปาวนาสูรรับบัญชา แล้วตรงไปเบิกตัวนักโทษจากตรุหลวง 

สุขาจารถูกนำตัวมายังท้องพระโรง หมอบกราบแทบบาทราชาแห่งลงกาผู้เป็นเจ้าชีวิต ทศกัณฐ์เบือนหน้าหนี ตรัสด้วยอำนาจ

...สุขาจาร ผู้ที่กูเคยชุบเลี้ยงดูอย่างดี หวังจะให้เป็นเสาหลักแก่กองทัพอสูร แต่มึงบังอาจหนีทัพ ทิ้งมหาอุปราชกุมกรรณน้องกูให้ตายคาสนามรบ โทษของมึงใหญ่หลวงนัก ขนาดต้องประหารทั้งเจ็ดชั่วโคตรให้ตายตกตามกัน ทั้งชายหญิงชนิดล้างครัว มึงจะว่าอย่างไร...
.

             บัดนั้น                 จึ่งสุขาจารทหารใหญ่
ได้ฟังบัญชาภูวไนย                บังคมไหว้สนองพระวาที
อันตัวของข้านี้ทรลักษณ์         อัประลักษณ์กว่าหมู่ยักษี
โทษนั้นถึงสิ้นชีวี                    ทั้งนี้สุดแต่จะเมตตา   
.

ด้วยความสำนึกในความผิดตน หรือกลัวพระเดชของพญาทศกัณฐ์ สุขาจารยอมรับโทษทุกความผิดอย่างไม่มีข้อแก้ตัว 

พญาทศกัณฐ์ขยับองค์นั่งท่าสบายขึ้น แล้วแสดงสายตาเห็นใจ

...เอาหละสุขาจาร เจ้าก็เป็นข้าเก่าค้ำฉัตรแห่งลงกามาช้านาน ข้าจะให้เจ้าทำชอบเพื่อไถ่โทษ เจ้าจงแปลงกายเป็นสีดา แล้วนั่งท้ายรถของอินทรชิตไป พอข้าศึกเห็นเจ้า ลูกข้าก็จะ... แล้วข้าจะบำรุงเลี้ยงดูลูกเมียของเจ้าเอง...

สุขาจารยินดียิ่งที่จะได้ถวายงานไถ่โทษ แล้วลูกเมียก็จะได้พ้นโทษจากอาญาของตนอีกด้วย
สุขาจารกราบลา มุ่งตรงไปยังสวนขวัญเพื่อจะได้เห็นหน้านางสีดา เพื่อตนจะได้แปลงตามแบบให้เหมือนจริง
เมื่อถึงปากทางเข้าสวนขวัญ สุขาจารแปลงกายเป็นนางยักษ์แรกรุ่น เอวบางร่างเล็ก แต่งสไบงาม ถือพวงมาลัยเพื่อข้าเฝ้านางสีดา   
นางยักษ์แปลง ก้มลงกราบแทบบาทสีดา ผู้ประหลาดใจว่ายักษ์สาวมาหาเพื่ออะไร นางยักษ์แปลงทูลว่า

...ตัวข้าอยู่ในนครลงกา รู้ว่าบัดนี้กองทัพพระรามเสด็จมาทวงพระแม่สีดาคืนแล้ว อีกไม่นานจะเกิดศึกจนฝ่ายอสูรจะต้องนองเลือดเป็นแน่ ข้าจึงขอมาฝากตัวให้บารมีพระแม่คุ้มภัยในภายภาคหน้า... 

นางสีดาหลงกล เกิดเอ็นดูสาวน้อย รับมาลัยไว้พลางขอบใจ พอเห็นหน้าตาลักษณะอย่างครบถ้วน ยักษ์สาวก็ขอลากลับ จากนั้นสุขาจารจำแลงกายเป็นสีดา แล้วเข้าเฝ้าอินทรชิต เพื่อจะร่วมทัพตามแผนการ

...


หัวโขน ยักษ์สุขาจาร


.

สุขาจาร เสนายักษ์
หนีทัพตอนกุมภกรรณเสียชีวิตในสนามรบ


.





« Last Edit: 26 May 2024, 10:31:50 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #1 on: 20 June 2023, 08:14:32 »


20 มิถุนายน 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต (42)

-ยักษ์สุขาจาร แปลงกายเป็นสีดา

อินทรชิตรู้ว่า นี่คือสุขาจารแปลง แต่ก็ถึงกับตาค้างในความงามของสีดาแปลง
.

จึ่งพินิจพิศเพ่งเล็งโฉม                 งามประโลมยั่วยวนเสน่หา
งามพักตร์งามเนตรจำเจริญตา       งามขนงนาสาวิลาวัณย์
งามโอษฐ์ดั่งหนึ่งยิ้มแย้ม              งามเกศงามแก้มงามถัน
งามกรดั่งงวงฉัททันต์                   งามพรรณผิวเนื้อลออองค์
งามจริตกิริยามารยาท                  งามวิลาสเป็นที่พิศวง
งามเอวงามอ่อนงามทรง              งามล้ำอนงค์ในธาตรี
.

อินทรชิตเข้าใจทันทีว่า เหตุใดพระบิดาจึงยอมสูญเสียทุกอย่างเพราะนางผู้นี้ ยักษ์หนุ่มปลุกสติตนเองให้กลับมา แล้วร้องสั่งให้เปาวนาสูรเตรียมทัพทันที
(จะสังเกตว่าทศกัณฐ์มิเคยให้ผู้ใดเห็นสีดาเลย ขนาดอินทรชิตยังไม่เคยเห็น หากใครอยากจะแปลงเป็นสีดาก็ต้องเข้าไปดูนางที่สวนขวัญ และข้อสังเกตอีกข้อคือ ในการศึกครั้งนี้อินทรชิตใช้เปาวนาสูรเป็นผู้จัดทัพ คราวที่ผ่านมาอินทรชิตใช้กองทัพของตนเอง แต่ตอนนี้การศึกเริ่มจะเข้มข้นขึ้น จึงต้องใช้กองทัพหลวงเข้าจัดการกับเหล่าศัตรู)

.....
เมื่อได้เวลารุ่ง อินทรชิตสรงน้ำแต่งองค์ชุดออกศึก พอจะก้าวขึ้นรถ พญาอุปราชกวักมือเรียกสุขาจารให้แปลงกายเป็นสีดาแล้วนั่งอยู่ที่ท้ายรถ สุขาจารนักโทษประหารแปลงตนเป็นสีดานั่งพับเพียบอยู่ท้ายรถ มิไหวติง 

เมื่อมาถึงลานสรรพยุทธ อินทรชิตให้ทหารส่งเสียงท้าทายว่า กองกำลังแห่งอุปราชจะเข้าขับไล่เหล่าวานรให้ตกทะเล แถมจะตามตีล้างอโยธยาเมืองมนุษย์

.....
ฝ่ายพระรามถามพิเภกว่า จะคิดอ่านการใด พิเภกผู้รู้บอกว่า นี่คือทัพหลวงนำโดยอินทรชิต คงจะมาตามตีปิดศึกให้เด็ดขาด ขอให้องค์รามสั่งให้พระอนุชาออกไปรับศึกด้วยเถิด เพราะศักดิ์ศรีของทั้งองค์ลักษมณ์และอินทรชิตเท่าเทียมกัน

พระลักษมณ์ถวายบังคม จัดทัพออกเผชิญหน้ากับจอมมาร อย่างเคยชิน เคลื่อนพลออกสู่สนามรบทันที (ยังไม่เข็ดอีกนะ พระลักษมณ์เอ๋ย...)

...


สีดาแปลง


.

สีดาแปลง


.

..........

พระราชนิพนธ์ของ ร.1 เรื่องรามเกียรติ์ ในบทกลอนตอนนี้ กล่าวถึงความงามของสีดาแปลง ได้ไพเราะเพราะพริ้งมาก ขึ้นต้นและลงท้าย มีแต่คำว่า...งาม. จนอินทรชิตถึงกับตลึง ตาค้างในความงามของสีดาแปลง
.

ตอนต่อไป...มีโชว์การตัดคอนางสีดา(ปลอม) ว้าายยยย.......หวาดเจี๋ยววว...




« Last Edit: 26 May 2024, 10:32:51 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #2 on: 21 June 2023, 08:22:14 »


21 มิถุนายน 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต (43)

-อินทรชิตตัดคอสีดาแปลง

อีกไม่นาน ทั้งสองทัพลิงยักษ์ ต่างประจันหน้ากัน อินทรชิตยิ้มน้อยๆ แล้วกล่าวอย่างสุภาพว่า...

...พระลักษมณ์ ท่านอุตส่าห์ยกทัพข้ามมหาสมุทรมาเพื่อจะชิงนางสีดาที่พ่อเราหลงใหลอยู่ในตอนนี้ เราเสียดายชีวิตไพร่พลของทั้งสองฝ่ายยิ่งนักที่ต้องมาสูญเสียเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว เราจึงอยากจะคืนนางให้ท่านนำกลับไปถวายพระสวามี...

พระลักษมณ์เห็นสีดาอยู่ที่ท้ายรถ แถมอินทรชิตพูดว่าจะส่งพี่สะใภ้คืน ก็ยินดียิ่งนัก

...นี่ท่านอินทรชิต สมแล้วที่เป็นลูกสุดที่รักของพญาทศกัณฐ์ ท่านผู้พร้อมด้วยรูปและปัญญา ท่านคิดถูก ทำถูกแล้วที่จะส่งพระแม่สีดาคืนแก่องค์ราม วงศ์อสูรของท่านก็จะได้ร่มเย็น มิเดือดร้อนอีกต่อไป เร่งส่งนางมาให้แก่เราเถิด... 

เมื่อพระลักษมณ์ตอบโต้อย่างอ่อนโยน ชมเชยตน อินทรชิตถึงกับตบมือ หัวเราะเย้ย...

...อะ อ่ะ อ้า ไอ้พระอนุชา ท่านพูดอย่างกับว่าเรานี้เพลี่ยงพล้ำแพ้ศึกแก่ท่าน จำไม่ได้เหรอที่ใครน่ะโดนแรงศรของเราปักอกจนเกือบตายทั้งสองครั้งสองครา เจ้ายังกล้ามาตีปากกล้า เอาหละเมื่อเจ้าไม่มารับนางเอง ข้าจะส่งให้ละกัน...

จากนั้นอินทรชิตกระชากหัวสีดาแปลง แล้วชักพระขรรค์ออกมาเงื้อไว้ สุขาจารหรือสีดาแปลงร้องหวีดเป็นเสียงหญิงสาว

...น้องลักษมณ์ของพี่ ทำไมเจ้าถึงกล่าววาจาสามหาวให้จอมอสูรโกรธถึงเพียงนี้ นี่เค้าจะฆ่าพี่อยู่แล้ว เห็นทีพี่คงไม่มีโอกาสได้ถวายงานเสด็จพี่รามอีกต่อไป ข้าฝากทูลลาพระสวามีข้าด้วย บอกว่าสีดาคงไม่มีบุญพอและต้องมาตายด้วยน้ำมือยักษ์ ขอให้องค์รามจงนำกองทัพกลับไปอโยธยาเสียเถิด...

เหล่าทหารวานร อยากจะช่วยพระแม่สีดาให้พ้นจากมือมารใจแทบขาด แต่มิรู้จะทำอย่างไรดี หนุมานทำได้เพียงขบเคี้ยว ตาแดงด้วยความโกรธ ทำได้แต่เพียงแกว่งตรีเพชรไปมา จะบุกเข้าโจมตี ก็กลัวพระแม่สีดาจะได้รับอันตราย

ขาของอินทรชิตข้างหนึ่งเหยียบที่เข่าของสีดาแปลงไว้ มือซ้ายจิกหัวนางเชลยอย่างมั่นคง เพียงอึดใจต่อมา อุปราชเมืองมาร ฟันพระขรรค์ลงที่คอสีดาอย่างไม่ปรานี
.

                เมื่อนั้น                      อินทรชิตฤทธิไกรใจหาญ
เท้าหนึ่งเหยียบเข่าสุขาจาร            ด้วยใจขุนมารชาญฉกรรจ์
กรซ้ายจิกเศียรอสุรา                   กรขวากวัดแกว่งพระแสงขรรค์
ฟาดลงด้วยกำลังกุมภัณฑ์              เศียรนั้นก็ขาดจากกายา
.

ทั้งสนามรบถึงกับเงียบกริบด้วยความตะลึง ไม่คิดว่ายักษ์หนุ่มอย่างอินทรชิต จะมีความเหี้ยมโหด กล้าฆ่าผู้หญิงกับมือตน เลือดจากร่างกายสีดาแปลงหรือสุขาจาร พุ่งสาดหน้าอินทรชิต แต่พญามารหาสะทกสะท้านไม่ กลับหัวเราะอย่างสะใจ ชูหัวสีดาหลาเพื่อเย้ยหยัน

...เอาหละ จงมารับหัวของพระแม่สีดาของเจ้าไปซะ... พลางโยนเศียรสีดาแปลงไปตกที่หน้ารถของพระลักษมณ์ผู้ขณะนี้ไม่สามารถครองสติตนได้ อินทรชิตยังแถมท้ายว่า

...พวกมึงบังอาจยกพลมาบุกเมืองกู ที่นี้แหละถึงตากูจะยกพลยักษ์ไปกวาดล้างโคตรมนุษย์ให้เรียบ มึงจงกลับไปเตรียมตัวตายที่อโยธยาเสียเถอะ...

...


อินทรชิตตัดคอสีดาแปลง


.

อินทรชิตตัดคอสีดาแปลง


.

สีดาแปลง


.





« Last Edit: 26 May 2024, 10:34:25 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #3 on: 21 June 2023, 08:23:01 »


21 มิถุนายน 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต (44)

-พิเภกแจ้งว่าเป็นแม่สีดาปลอม

พระลักษมณ์ไม่ทันกลศึกของอินทรชิตอีกเช่นเคย คิดว่าพี่สะใภ้ถูกฟันคอขาดตายจริงๆ ถึงกับเป็นลม ล้มพับคารถทรง จนเหล่าลิงบริวารต้องเข้าประคองกลับยังพลับพลา 

เมื่อถึงค่าย พระลักษมณ์รีบเข้ากราบทูลพระเชษฐา แต่ก็พูดอะไรไม่ออก เป็นลมพับไปต่อหน้าพี่ชายอีกครั้ง องค์รามรู้สึกว่าต้องมีเหตุการณ์ไม่เป็นมงคลแน่ๆ แต่ก็อยากฟังคำจากปากน้อง จึงใช้น้ำล้างพระแสงศร เช็ดหน้าชโลมกายน้องสุดที่รักจนฟื้นคืนสติ เล่าเหตุการณ์ต่างๆ จนเห็นพระพี่สีดาถูกตัดหัวต่อหน้าต่อตา

...ฮือๆๆ..พี่สี..พี่สี..พี่สีดาตายแล้ว...

พระรามรู้สึกเย็นผ่าวไปทั่วร่าง หัวใจแตกสลายไม่เป็นชิ้นดี จอมกษัตริย์ร้องไห้อย่างไม่อายใคร เพราะนี่คือสุดท้ายแล้วของชีวิต การศึกต่อจากนี้จะมีความหมายอะไรเล่าเพราะไม่มีสีดากลับสู่อโยธยา ไม่มีชัยชนะใดๆ ที่จะมีความหมายอีกต่อไป (ร้องไห้ เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วจ๊ะ แล้วพี่รามก็เตรียมจะสลบตาม...อย่าเพิ่งๆ คนอ่านเค้าจะรำคาญตายห่าน นะพะย่ะค่ะ...เอะอะๆ ก็จะสลบๆๆ...เฮ้อออ...)

ก่อนที่องค์รามจะคิดสั่งให้เลิกทัพกลับแผ่นดินใหญ่ หันหน้ามาทางพิเภกผู้รู้ แล้วถามอย่างมีความหวัง

...ท่านพิเภก บัดนี้สีดาได้ตายจากเราไปแล้วจริงหรือ... 

พิเภกผู้รู้กลศึกของวงศ์อสูรเป็นอย่างดี ดูเมฆ ตรวจฟ้า คำนวณเวลา แล้วทูลว่า...

...พระอาทิตย์ยังโคจรมาหาพระจันทร์ มิมีความคลาดเคลื่อนผิดวิสัยใดๆ พระแม่สีดายังปลอดภัยดี ศพที่ตายเป็นนักโทษชายแปลงกายเป็นพระแม่สีดา เพื่อหลอกให้ท่านหลงเชื่อ แล้วจะเลิกทัพกลับอโยธยาไปเอง... (เฮ้ย! พิเภกแอบเปิดบท อ่านก่อนรึงัย)

พระรามยินดียิ่งนัก สั่งให้ทหารหาญอย่างสุครีพ หนุมาน และองคต ออกไปสนามรบไปดูว่าศพเป็นหญิงหรือชาย 

ทั้งสามขุนกระบี่ออกไปตรวจสอบดู เห็นว่าศพนางสีดา บัดนี้กลับสู่สภาพเป็นชาย จึงพากันกลับมากราบเรียนนายด้วยความยินดีว่า ศพนั้นมิใช่องค์มเหสีสีดาอย่างแน่นอน 

พระรามลักษมณ์ยินดียิ่ง เข้าพระที่ เพื่อพักผ่อน คิดอ่านการศึกต่อไป...

...



พญาพิเภก


.

พญาพิเภก


.




« Last Edit: 26 May 2024, 10:35:45 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #4 on: 22 June 2023, 21:16:04 »


22 มิถุนายน 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต (45)

-อินทรชิตทำพิธีกุมภนิยามหาเวท

ในช่วงที่พระลักษมณ์และกองทัพตะลึงงงงัน ฝ่ายอินทรชิตได้นำไพร่พลอสูรข้ามสมุทรอ้อมไปยังเนินเขาจักรวาล

เมื่อถึงที่ อุปราชหนุ่มร้องสั่งให้กาลจักร เสนาคนสนิท สร้างโรงพิธีกลางป่าไผ่เพื่อทำการชุบตัว โดยบัญชาให้กั้นห้องสามสิบเก้าห้อง เตรียมเครื่องสังเวยจำนวนร้อยแปดอย่าง ให้พร้อม ให้พนักงานจุดไฟให้ลุกตลอดเวลา ไว้ในหม้อใหม่รอบบริเวณพิธี แบ่งทหารจำนวนสามสิบสมุทร โดยให้เดินยามชั้นนอกเป็นกงจักรอย่าได้หยุด ชั้นกลางให้ยืนยามเฝ้าพิทักษ์อย่างมั่นคง เหล่ามหาดเล็กชั้นในให้นับประคำ ภาวนาพระเวทตามตำรา ตลอดทั้งเจ็ดวันเจ็ดคืน   
ท่านได้บรรยายลักษณะโรงพิธีดังนี้
.

จึ่งตั้งเป็นโรงพิธีการ                     สูงตระหง่านเงื้อมง้ำเวหา
สามสิบเก้าห้องโอฬาร์                  หน้าบันช่อฟ้าปราลี
หลังคานั้นดาดด้วยผ้าแดง             เชิงเขียวเครือแย่งสลับสี
เพดานขาวสะอาดรูจี                     ห้อยพวงมาลีขจายจร
ท่ามกลางนั้นตั้งบัลลังก์อาสน์        โอภาสจำรัสประภัสสร
ราชวัติฉัตรธงอลงกรณ์                  กล้วยอ้อยอรชรจำเริญตาฯ   
.

จะสังเกตได้ว่า ขนาดเป็นโรงพิธีตั้งอยู่กลางป่า เจ้าพนักงานแห่งลงกายังต้องจัดเตรียมอย่างสวยงาม ถี่ถ้วน แสดงออกว่าสำนักราชวังลงกา มีความละเอียดทั้งอารยะและพิธีการสูง มิใช่ชาวเกาะที่ไร้อารยธรรมอย่างที่หนังสือฉบับดั้งเดิมอยากให้เข้าใจกัน

เมื่อโรงพิธีสร้างเสร็จแล้ว อินทรชิตเข้าอาบองค์สรงน้ำ ประพรมน้ำหอมแต่งตัวด้วยสไบแดง สวมชฎาเช่นฤๅษี มือคว้าถือพวงประคำ ทันทีที่ประทับบนบัลลังก์ จึงสั่งให้ทหารโหมกองไฟ 108 กองให้ครบเจ็ดวันเจ็ดคืน

อินทรชิตจุดธูปเทียน บูชาพระเวทด้วยดอกไม้ แล้วนำศรสามเล่ม คือ วิษณุปาณัม นาคบาศ และพรหมมาสตร์ ขึ้นพาดตัก หลังจากนั้นก็หลับตาสำรวมใจร่ายพระเวทอย่างตั้งใจ

...


อินทรชิตทำพิธีกุมภนิยา


.

อินทรชิตทำพิธีกุมภนิยา


.





« Last Edit: 26 May 2024, 10:36:49 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #5 on: 22 June 2023, 21:16:55 »


22 มิถุนายน 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต (46)

-พิเภกเสนอให้พระลักษมณ์ไปทำลายพิธี

อรุณรุ่งขึ้นวันใหม่ พระรามตื่นจากบรรทมแล้วออกสู่มหาสมาคม ตรัสถามพญาพิเภกเพื่อให้หายคาใจ

...ท่านพิเภก บัดนี้อินทรชิตยกทัพไปรุกรานอโยธยาตามที่ขู่ไว้หรือไม่... 

พิเภกผู้รู้จับยามดูเวลา แล้วกล่าวว่า...

...อันอินทรชิตสร้างกลศึก หมายลวงให้พระองค์ถอดใจแล้วยกทัพกลับอโยธยา บัดนี้พญามารได้ข้ามน้ำสู่ภารตทวีป ทำพิธีกุมภนิยาของท้าวธาดาพรหมในดงไม้ไผ่ที่เนินเขาจักรวาล เพื่อชุบตนให้คงกระพัน ไม่มีอาวุธใดสามารถทำร้ายได้...และหากครบเจ็ดวันตามตำรา ฆ่าอย่างไรก็จะไม่ตาย เห็นควรให้พระลักษมณ์ยกทัพไปทำลายพิธีกุมภนิยาของอินทรชิต...

พระรามจึงถามว่า...แล้วจะให้ใช้ผู้ใดไปแก้ไข ล้างพิธีหละคราวนี้...

พิเภกก็ยังแนะนำให้พระลักษมณ์ออกรบอย่างเคย แถมทูลว่า...

...ขณะนี้หลานของตนนั้นอยู่ในช่วงชะตาขาด ขอให้พระลักษมณ์เข้าไปทำลายพิธีและสังหารอินทรชิตภายในวันนี้...
(ดูเหมือนขณะนี้ พิเภกจะตัดญาติจนหมดสิ้นแล้ว อาจเป็นเพราะเห็นความสามารถของกองทัพพระรามว่าสามารถชนะฝ่ายลงกาได้ จึงมั่นใจปล่อยภูมิอย่างหมดสิ้น)

พระรามทรงผินหน้าไปทางพระอนุชา...ลักษมณ์น้องพี่ เจ้าจงไปแก้ตัว หาอินทรชิตให้เจอแล้วฆ่าซะ แต่คราวนี้เอาพิเภกไปด้วย...(กูขี้เกียจไปหามมึงกลับอีกรอบแล้วว่ะ...555) และมอบศรสามเล่มให้ไปด้วยคือ ศรอัคนิวาต ศรพลายวาต และศรพรหมมาสตร์ เพื่อกำจัดอินทรชิต   

พระลักษมณ์ผู้อยากจะพิชิตอินทรชิตด้วยมือตนเอง รีบรับอาสา จัดทัพมุ่งตรงสู่เขาจักรวาล
.

จัดเอาคำแหงหนุมาน                 คุมทหารขี่เสือเป็นทัพหน้า
กองขันองคตผู้ศักดา                  โยธาขี่แรดราวี
เกียกกายวานรนิลนนท์               หมู่พลพื้นขี่คชสีห์
ทัพหลวงโยธาล้วนตัวดี              ขี่มหิงส์สิงโตสุกร
ยุกกระบัตรกระบี่ชมพูพาน           พลทหารนั้นขี่ไกรสร
กองหนุนนอลเอกฤทธิรอน          พวกวานรนั้นขี่ชุมพา
ชามพูวราชเป็นกองหลัง             โยธีขี่ละมั่งเลียงผา
กรกุมเครื่องสรรพสาตรา              เรือร่าลำพองคะนึงฤทธิ์
เตรียมทั้งพิชัยรถทรง                 ขององค์ท่านท้าวโกสิต
ประทับกับเกยแก้วชวลิต            คอยน้องพระจักรกฤษณ์จรลี
.

ที่น่าสังเกตคือ คราวนี้กองทัพพระรามดูเหมือนจะฮึกเหิมมากกว่าปกติ ทั้งขี่เสือ ขี่สิงโต สัตว์ป่าต่างๆ ออกรบ ดูน่าเกรงขามยิ่งนัก (หรือพลลิงอาจจะคุ้นเคยกับป่าเขาลงกาจนสามารถจับสัตว์ป่าดุร้ายมาใช้เป็นพาหนะได้)

...


พิเภกเสนอพระราม ให้พระลักษมณ์ออกไปทำลายพิธี


.

พระลักษมณ์


.





« Last Edit: 26 May 2024, 10:37:56 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #6 on: 22 June 2023, 21:17:41 »


22 มิถุนายน 2022  ·

"ฟ้าระเบิด" แสงยามเย็น

...

"ฟ้าระเบิด" แสงยามเย็น
ภูเก็ต
facebook-shutter360
Shutter 360


.

ฟ้าระเบิด ที่ชุมพร
cr. Piyoros Uthumdhewa


.

ขอนแก่น-Khonkaen Station
6 สิงหาคม 2020 ·

แสงยามเย็น (ฟ้าระเบิด) ณ ขอนแก่น
ภาพนี้เจ้าของภาพได้ถ่ายเมื่อวันที่ 5 สค. 2563
เวลาโดยประมาณ 18.39 น.
ขอบคุณภาพแสงอลังการจาก Patchara Sanguanngoen


.




« Last Edit: 26 May 2024, 14:47:01 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #7 on: 23 June 2023, 09:01:40 »


23 มิถุนายน 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต (47)

-พระลักษมณ์ทำลายพิธีกุมภนิยาของอินทรชิต

พระลักษมณ์สรงน้ำรัดองค์เสร็จ คว้าพระขรรค์แก้วเหน็บเอว ถือศรขึ้นราชรถท่ามกลางเสียงโห่ร้องของเหล่าวานร

เมื่อถึงเขาจักรวาล เห็นทหารยักษ์พิทักษ์นายเป็นค่ายกลสามชั้น อินทรชิตอยู่ชั้นในสุด นั่งหลับตาเจริญภาวนาเวทย์ มิไหวติง

พระลักษมณ์เห็นศัตรูอยู่ในภาวะมิทันตั้งตัว จึงขึ้นศรพรหมาสตร์ แล้วแผลงไปทำลายพิธี ทำเอาหุบเขาจักรวาลสั่นสะเทือน เหล่าพลยักษ์โกลาหลด้วยความตกใจ

หนุมานเห็นโอกาส เข้าทะลวงฟันกองมหาดเล็กอสูรตายเกลื่อน อินทรชิตได้ยินเสียงอึกทึก จึงต้องออกจากฌาณทันที หนุมานร้องเย้ยอย่างไม่ไว้หน้า

...โถ ไอ้อินทรชิต...ไหนบอกว่าจะยกทัพไปอโยธยา ที่แท้กลัวตาย มาหลบอยู่ที่นี่ หากยังอยากมีชีวิตไปพบลูกเมีย เจ้าจงมากราบเบื้องบาทพระอนุชาเดี๋ยวนี้... 
อินทรชิตผู้ไม่เคยถูกเหยียดหยาม รีบลุกขึ้น ชี้หน้าด่าหนุมาน

...ไอ้ลิงป่า มึงลืมแล้วหรือว่าใครที่หวดร่างมึงจนตกลงดิน นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น จวนปางตายกันทั้งนายทั้งบ่าว หากไม่มีไส้ศึกพิเภก ป่านนี้พวกมึงกอดกันตายนานแล้ว...

แล้วกระชับศร สั่งการให้เหล่าทหารหาญแห่งลงกาเข้าตอบโต้ศัตรู ยักษ์เข้าฟัน ลิงโดดเกาะหลัง กัดหัว ดึงหูอย่างนัวเนียกันไปทั่วบริเวณโรงพิธี แต่ด้วยความว่องไว ลิงฉวยเอาอาวุธยักษ์หักทิ้ง แล้วรุมกัดตี จนเหล่าอสูรแตกพ่ายไม่เป็นขบวน

อินทรชิตเห็นท่าไม่ดี แผลงศรวิษณุปาฌัม กระจายเกลื่อนเป็นลูกไฟ เข้าครอกเหล่าพลลิงที่ต่างวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต

พระลักษมณ์เห็นกองทัพของตนเสียที จึงประทับศรอัคนิวาต แล้วแผลงไปต้องร่างอินทรชิต แล้วยังกลายเป็นห่าฝนดับไฟที่อินทรชิตส่งมาก่อนหน้านี้ เหล่าศพวานร ถูกน้ำฝนจากอัคนิวาต จึงฟื้นขึ้นมา ตบมือเยาะเย้ย

อินทรชิตทั้งเจ็บทั่วกายที่ปักด้วยลูกศร และเจ็บใจที่พระลักษมณ์สามารถล้างฤทธิ์อาวุธของตนได้

อินทรชิตกัดฟันร่ายพระเวทได้เจ็ดคาบ ลูบลงที่กาย ทันใดนั้นเหล่าลูกธนูที่ปักอยู่ทั่วร่างก็หลุดออกอย่างง่ายดาย เมื่อพญามารได้เรี่ยวแรงกลับคืนมา ก็กระหน่ำฟันแทงเหล่าลิงค่างอย่างเมามัน ทะลวงฟันจนมาถึงหน้ารถทรงน้องพระสี่กร 

พระลักษมณ์กระโดดลงจากรถ ขึ้นเหยียดบ่าอินทรชิตและหวดด้วยด้ามศรต้องร่างมารอย่างเต็มแรง ทั้งสองกษัตริย์ผลัดกันรุกรับ  ทุกสายตาในสมรภูมิจับที่การสรรพยุทธ์ของทั้งสองยอดฝีมือต่างพงศ์พันธุ์

อินทรชิตชักศรนาคบาศ แผลงกลายเป็นนาคพุ่งเข้าใส่ร่างพระลักษมณ์ พิเภกสะกิดให้พระลักษมณ์เตรียมตอบโต้ โดยให้พระอนุชาชักศรพลายวาต แล้วน้าวยิงเข้าล้างศรนาคบาศ เป็นครุฑเข้าจับนาคจนสิ้นชื่อแห่งศรนี้

อินทรชิตยังไม่ละความพยายาม ชักศรพรหมมาสตร์ออกมาร่ายคาถา พิเภกผู้อ่านการศึกได้อย่างทะลุ รีบเตือนสตินายให้เตรียมตอบโต้ พระลักษมณ์ชักศรพรหมาสตร์ของตนออกมาคอยท่า 

อินทรชิตแผลงพรหมาสตร์ของตน โดยบัดนี้กลายเป็นอาวุธเกลื่อนฟ้า พุ่งเข้าเสียบแต่ละร่างวานร พระลักษมณ์แก้ไขโดยการสะกดคาถา แล้วแผลงศรพรหมาสตร์ของตนให้กลายเป็นพายุ ซัดสรรพอาวุธที่อินทรชิตส่งมาแหลกกระจุยในชั่วพริบตา ศรพระลักษมณ์ยังต้องเหล่าทหารอสูรตายจนหมด เข้าประหารม้าศึกคู่ใจองค์อุปราช

...


พระลักษมณ์ออกศึก


.

พระลักษมณ์ทำลายพิธีกุมภนิยาของอินทรชิต


หนุมานร้องเย้ยอย่างไม่ไว้หน้า

...โถ ไอ้อินทรชิต...ไหนบอกว่าจะยกทัพไปอโยธยา ที่แท้กลัวตาย มาหลบอยู่ที่นี่ หากยังอยากมีชีวิตไปพบลูกเมีย เจ้าจงมากราบเบื้องบาทพระอนุชาเดี๋ยวนี้... 

อินทรชิตผู้ไม่เคยถูกเหยียดหยาม รีบลุกขึ้น ชี้หน้าด่าหนุมาน

...ไอ้ลิงป่า มึงลืมแล้วหรือว่าใครที่หวดร่างมึงจนตกลงดิน นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น จวนปางตายกันทั้งนายทั้งบ่าว หากไม่มีไส้ศึกพิเภก ป่านนี้พวกมึงกอดกันตายนานแล้ว...

อินทรชิค ทรงเครื่องฤๅษี

.

พระลักษมณ์ แผลงศร...
(ใครเห็นลูกศรบ้าง มองให้ดี...ตามแนวคันศรที่ยิงออกไป)


.





« Last Edit: 26 May 2024, 10:45:28 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #8 on: 23 June 2023, 09:02:52 »


23 มิถุนายน 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต (48)

-อินทรชิตหนีกลับกรุงลงกา

อินทรชิตมีชีวิตเหลืออยู่เพียงคนเดียว พระโอรสทอดถอนใจเพราะไร้ทางสู้แล้ว

...ครั้งที่รบกับพระอินทร์ ข้ายังไม่เหนื่อยขนาดนี้ ใช่สิ เพราะองค์อินทร์ไม่มีพิเภก ไม่มีไส้ศึกที่ข้าเรียกว่าอา ญาติที่ข้าเคยรักมากที่สุด...
.

   เมื่อนั้น       อินทรชิตสุริย์วงศ์ยักษา
เห็นศรแพ้ศรพระอนุชา    ให้เร่าร้อนวิญญาณ์ดั่งเลิงกาล

ยิ่งสลดระทดฤทัยนัก    ขุนยักษ์สุดสิ้นกำลังหาญ
สิ้นทั้งอาวุธจะรอนราญ    สิ้นพวกพลมารจะต่อยุทธ์

ผู้เดียวสิ้นรู้สิ้นฤทธิ์       สิ้นคิดหิวโหยเป็นที่สุด
ครั้นจะอยู่ต่อด้วยมนุษย์    ก็ต้องอาวุธลำบากใจ

ชอกช้ำเจ็บปวดทั้งอินทรีย์    เห็นจะทานฤทธีนั้นไม่ได้
น่าที่จะม้วยบรรลัย       จำจะกลับเข้าไปยังลงกา

ลาองค์สมเด็จพระบิตุเรศ    พระชนนีเกิดเกศเกศา
สั่งนางสุวรรณกันยุมา    แล้วจะยกโยธามาราวี

คิดพลางจับจักรฤทธิรงค์    ทรงนามเมฆสูรเรืองศรี
จบเหนือเศียรเกล้ามาลี    เสด็จแล้วอสุรีก็ขว้างไปฯ
.

คราวนี้พระลักษมณ์ไม่แพ้เหมือนคราวก่อนๆ เพราะมีพิเภกคอยประกบแบบเรียลไทม์ คอยบอกไลน์...อินทรชิตยิงศรอะไรมา...ต้องตอบโต้ด้วยศรอะไร...

(ถ้าเทียบฟอร์มเป็นกอล์ฟ...ครั้งนี้พระลักษมณ์ก็ได้โปรช้าง ธงชัย ใจดี แชมป์ PGA TOUR Champions หมาดๆ เอ้ย! พิเภก มาเป็นแคดดี้คู่ใจ...

...แบบนี้ต้องออกด้วยหัวไม้สาม พะย่ะค่ะ...

...อันนี้ต้องเหล็กเจ็ด...

...ช็อตนี้ต้องพิทชิ่งเวจ...ตกแล้วหยุด พะย่ะค่ะ...)

555...จำมาจากผู้บรรยายการแข่งขันกอล์ฟอ้ะ...

...




.


ตอนต่อไป ห้ามพลาด...อินทรชิตดูดนมแม่มณโฑ555

.




« Last Edit: 26 May 2024, 10:46:47 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #9 on: 23 June 2023, 09:03:50 »


23 มิถุนายน 2022  ·

"โปรช้าง" ธงชัย ใจดี โปรกอล์ฟขวัญใจชาวไทย วัย 52 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นโปรกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ กอล์ฟ PGA Tour Champions (พีจีเอ ทัวร์ แชมเปียนส์) รายการ American Family Insurance Championship 2022 รับเงินรางวัลสูงถึง 360,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 12.54 ล้านบาท) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มิ.ย.65 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

...





.



.



.



.





« Last Edit: 26 May 2024, 10:48:22 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #10 on: 24 June 2023, 10:19:50 »


24 มิถุนายน 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต (49)

-อินทรชิตกราบลาพระมารดา

อินทรชิตรู้ตัวว่าขืนสู้ต่อไป มีแต่ตายอย่างเดียว ขอกลับไปไหว้พ่อ ลาแม่ สั่งลูกเมียก่อนแล้วจะกลับมาสู้ใหม่ จึงขว้างจักรเมฆสูรขึ้นฟ้า ให้ลมกระโชกเมฆเคลื่อนมาบดบังพระอาทิตย์ แล้วชิงจังหวะนี้ เหาะหนีกลับกรุงลงกา...

พระลักษมณ์เห็นว่าอินทรชิตหายไป จึงถามพิเภกว่าเกิดอะไรขึ้น

...ทูลพระอนุชา บัดนี้อินทรชิตสิ้นแล้วทุกสรรพวุธที่มี มันจึงตัดสินใจกลับลงกาไปลาพ่อแม่ ก่อนจะออกมารบใหม่แบบถวายชีวิต... 

พระลักษมณ์ได้ฟังข่าวดี แต่ก็ยังไม่วางใจ สั่งให้ทหารคอยเตรียมพร้อมอยู่กับที่...

.....
ยักษ์หนุ่มรุดตรงเข้ากราบที่ตักผู้เป็นแม่ เอาหน้าซุกเท้าของแม่ไว้ แล้วร้องไห้จนตัวโยน นางมณโฑเข้าลูบหลัง โอบกอดถามลูกรัก

...ลูกแม่ เล่าให้แม่ฟังซิว่าเกิดอะไรขึ้น...

มหาอุปราชแห่งอาณาจักรมาร บัดนี้กลับสู่การเป็นลูกชายตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของแม่อีกครั้ง ครานี้อินทรชิตไม่ต้องปาดน้ำตา ไม่ต้องกลั้นสะอื้น เพราะเธอคนนี้คือผู้เดียวในโลกที่สามารถรับฟังทุกปัญหา ยอมรับได้กับทุกความพ่ายแพ้

...แม่จ๋า ลูกได้ออกไปทำพิธีชุบตัว แต่ถูกเจ้าลักษมณ์มันทำลายพิธี มิหนำซ้ำยังหักล้างอาวุธของลูกอย่างสิ้นซาก กองทหารติดตามก็ถูกมันฆ่าไม่เหลือรอด ลูกจึงหักด่านศัตรูเข้ามากราบลาแม่และเสด็จพ่อ ก่อนที่จะออกไปทำสงครามเป็นครั้งสุดท้าย...

เพียงได้ยินชื่อพระลักษมณ์ นางมณโฑหนาววูบไปทั่วร่าง เพราะทุกศาสตราของอินทรชิตนั้นได้รับมาจากเหล่าเทพเบื้องสูง นางพยายามที่จะลืมว่าพระรามและพระลักษมณ์คืออวตารของพระนารายณ์ บัดนี้คือจุดจบของลูกชายนางแล้วหรือ

...ไม่ แม่จะไปคุยกับพ่อเจ้าเอง...มา..รณพักตร์มากับแม่...

นางมณโฑคว้ามือลูกชายอย่างว่าง่ายเหมือนเด็กเล็กๆ มุ่งหน้าสู่พระมหาปราสาท...


.....แทรก.....
จากจิตรกรรมฝาผนังวัดพระแก้ว ห้องที่ 80 ได้เล่าคล้ายๆกัน แต่จะแตกต่างกันที่ เมื่ออินทรชิตหนีกลับมาลาแม่ นางมณโฑเห็นลูกได้รับบาดเจ็บ นางจึงนึกขึ้นได้ว่าพระแม่อุมาเคยให้พรไว้ น้ำนมทิพย์ของนาง สามารถสมานแผล รักษาพิษทุกชนิด มณโฑจึงให้อินทรชิตกินนมจากกายตน จนศรที่ปักติดกับตัวหลุดหมด แผลทั่วร่างก็หายเป็นปกติ แล้วจากนั้น ก็นำอินทรชิตเข้าเฝ้าทศกัณฐ์ต่อไป

...นี่ก็เป็นอีกรูปภาพหนึ่ง ที่ผู้คนวิจารณ์กันอึงมี่...ว่าที่นางมณโฑ นมโตข้างเดียว ก็เพราะถูกอินทรชิตยักษ์หนุ่มดูดนมจากเต้าอย่างแรง จนนมแฟบไปข้างหนึ่ง ฮาาาา...
.....แทรก.....

...


ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดพระแก้ว ห้องที่ 80
เมื่ออินทรชิตหนีกลับมาลาแม่ นางมณโฑเห็นลูกได้รับบาดเจ็บ นางจึงนึกขึ้นได้ว่าพระแม่อุมาเคยให้พรไว้ น้ำนมทิพย์ของนาง สามารถสมานแผล รักษาพิษทุกชนิด มณโฑจึงให้อินทรชิตกินนมจากกายตน จนศรที่ปักติดกับตัวหลุดหมด แผลทั่วร่างก็หายเป็นปกติ แล้วจากนั้น ก็นำอินทรชิตเข้าเฝ้าทศกัณฐ์ต่อไป

...นี่ก็เป็นอีกรูปภาพหนึ่ง ที่ผู้คนวิจารณ์กันอึงมี่...ว่าที่นางมณโฑ นมโตข้างเดียว ก็เพราะถูกอินทรชิตยักษ์หนุ่มดูดนมจากเต้าอย่างแรง จนนมแฟบไปข้างหนึ่ง ฮาาาา...


.

...ไป แม่จะไปคุยกับพ่อเจ้าเอง...มา..รณพักตร์มากับแม่...


.

รูปปั้นยักษ์ดูดนม คือ อินทรชิตดูดนมนางมณโฑ (ที่เพชรบุรี)
รูปปั้นอาจดูทะลึ่ง แต่นี้คือ ลูกดูดนมแม่ (อินทรชิต เป็นลูกของทศกัณฐ์ กับนางมณโฑ)
นางมณ์โฑ ได้รับพรจากพระอุมาให้มีน้ำนม ที่สามารถรักษาพิษได้ทุกชนิด แม้แต่เทพศาสตรา

ในศึกครั้งหนึ่งอินทรชิต ถูกศรพรหมมาศของพระรามจนบาดเจ็บ(โดนพระลักษมณ์ยิง) ดึงลูกศรออกก็ไม่ได้ และถ้าข้ามวันก็จะตาย อินทรชิตจึงไปขอดื่มนมแม่ ซึ่งก็คือนางมณโฑ เพื่อถอนพิษศรพรหมมาศและดึงลูกศรออกได้


.





« Last Edit: 26 May 2024, 10:49:50 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #11 on: 24 June 2023, 10:21:11 »


24 มิถุนายน 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต (50)

-อินทรชิตกราบลาพ่อแม่และฝากลูกเมีย

พญาทศกัณฐ์ประทับอยู่บนรัตนบัลลังก์สีดำสนิท รอนับวันที่อินทรชิตจะชุบตัวเสร็จ แล้วจะได้ออกไปฆ่าพี่น้องรามลักษมณ์ให้จบเรื่องซะที 

อินทรชิตกราบผู้เป็นพ่อ พอจะเริ่มยอพระเกียรติตามราชประเพณี นางมณโฑก็ชิงทูลก่อน

...ทูลท้าวเธอปิ่นลงกา อันอินทรชิตลูกเราได้ประกอบพิธีชุบตัวที่เขาจักรวาล แต่ศัตรูมิหลงกล ตามตีจนเสียพิธี เสียพล เสียม้า เสียรถ แถมมันยังทำลายเทพอาวุธต่างๆของลูกจนหมดสิ้น จนลูกของเราหมดปัญญา ขืนสู้ต่อ จะพาลเสียชีวิตกลางสนามรบ ขอให้เสด็จพี่ไตร่ตรอง คืนสีดากลับสู่สามีนาง เพื่อประโยชน์สุขของชาวลงกาต่อไป... 

เมื่อทศกัณฐ์ได้ยินคำขอจากมณโฑ ก็โกรธหนักหนา

...มณโฑเทวี เจ้าคิดหรือว่าข้าจะไม่รู้ทันเจ้า นี่คงหึงหวง กลัวข้าจะแต่งตั้งแม่สีดามียศฐาเกินหน้าเจ้า ทำเป็นพูดว่าชาวลงกาจะเดือดร้อน ตัวเองนั่นแหละกลัวจะตกอับ ถ้ารักลูกมาก ก็อุ้มชูเก็บไว้เองละกัน ตัวกูจะออกศึกเอง...

นางมณโฑได้แต่ร้องไห้เพราะเป็นห่วงลูก เพราะน้อยใจทศกัณฐ์ผู้หน้ามืดตามัว หลงผู้หญิงจนยอมแม้แต่ชีวิตลูกชาย นางได้แต่ร้องไห้ จนเป็นลมสลบไป 
อินทรชิตเห็นว่าครานี้คงต้องยอมพลีชีพเพื่อพ่อและเพื่อแผ่นดิน มือหนึ่งประคองแม่ อีกมือหนึ่งปาดน้ำตา

...เสด็จพ่อ บุญหนักนักที่ลูกได้เกิดในวงศ์วานแห่งพรหม ลูกได้เป็นโอรสของทศกัณฐ์ผู้เป็นใหญ่ ลูกไม่เคยเสียดายชีวิตแม้แต่น้อย ถึงตายก็ขอไว้เกียรติว่าลูกทศกัณฐ์ได้ทำกิจแด่พ่อ แด่ลงกา ลูกขอถวายบังคมลา...

...ท่านแม่อย่าได้โศกเศร้าเลย แม่จงภูมิใจที่ลูกแม่ได้ทำหน้าที่ทั้งอุปราชและหน้าที่ลูกชายที่เพรียกพร้อม ลูกขอฝากยามลิวันและกันยุเวก พวกมันยังเด็กนัก ต้องการความดูแลอย่างใกล้ชิดจากปู่และย่า อีกชีวิตที่ห่วงคือสุวรรณกันยุมา เมียแก้วของลูก หากนางต้องเป็นหม้ายก่อนวัยอันควร ก็ขอให้เสด็จแม่ชุบเลี้ยงนางดั่งลูกสาวคนหนึ่ง พลาดพลั้งสิ่งใดขอให้ทรงอภัยนางด้วยเถิด ส่วนข้าหลวงนางใน ก็ขอให้เลี้ยงดูกันตามสมควร ลูกขอกราบลาแม่ในที่นี้... 

...เสด็จพ่อ ลูกเกิดเป็นชายชาญ ครั้งนี้จะขอถวายงานอย่างสุดฝีมือ แม้นตายก็จะไม่เสียดายชีวิต แต่ขอฝากเสด็จแม่ผู้ภักดีต่อพระองค์ตลอดมา ทรงพระเจริญ...
อินทรชิตก้มกราบนิ่งอยู่นาน เพราะนี่คือครั้งสุดท้ายที่จะถวายอัญชลีแด่ผู้ให้กำเนิด...

เมื่อทศกัณฐ์ได้ยินว่าอินทรชิตยอมออกรบอีกครั้ง ดีใจยิ่งนัก ลงจากแท่นเข้าสวมกอดลูก

...โถ โถ โถ ลูกชายข้า ยอดรักของพ่อ จะมาพูดเรื่องอัปมงคลอยู่ใย ลูกพร้อมทั้งด้วยปัญญาและอานุภาพ เจ้าออกแรงอีกนิด พวกมนุษย์ลิงไพรจะโดนทำลายจนป่นปี้ นี่ศรสุรกานต์ของพ่อ อันเป็นสุดยอดแห่งอาวุธ จงนำศรนี้ไปล้างเหล่าศัตรูเถอะนะลูกพ่อ...

อินทรชิตรับศรจากบิดาแล้วถอนใจกับตนเอง แล้วลากลับสู่ปราสาทตน...

...


อินทรชิต


.

ทศกัณฐ์-นางมณโฑ


.

ทศกัณฐ์


.

นางมณโฑ


.





« Last Edit: 26 May 2024, 10:50:54 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #12 on: 26 May 2024, 10:51:44 »


ปรับปรุงภาพใหม่










Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.054 seconds with 20 queries.