User Info
Welcome,
Guest
. Please
login
or
register
.
23 December 2024, 02:17:05
1 Hour
1 Day
1 Week
1 Month
Forever
Login with username, password and session length
Search:
Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ
http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618
Posts in
12,929
Topics by
70
Members
Latest Member:
KAN
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
|
ภาพประทับใจ
|
ผนังเก่าเล่าเรื่อง
(Moderator:
ผนังเก่าเล่าเรื่อง
) |
[37.1] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน (ตอนที่
0 Members and 1 Guest are viewing this topic.
« previous
next »
Pages:
[
1
]
Author
Topic: [37.1] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน (ตอนที่ (Read 581 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
[37.1] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน (ตอนที่
«
on:
09 May 2023, 09:52:05 »
[37.1] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน (ตอนที่ 1-10)
9 พฤษภาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ (1)
-ทศกัณฐ์เรียกหาไมยราพ
จากที่หนุมานข้ามทะเลมาเผาเมืองลงกา กองทัพพระรามจองถนนจนถึงถิ่น องคตหนามยอกอกยังบุกถึงท้องพระโรงแห่งลงกา กล่าววาจาสามหาวต่อหน้าพระที่นั่ง จนถึงสุครีพบุกมาหักฉัตรประจำตะกูลพรหมวงศ์ ทศกัณฐ์รู้สึกเสียหน้าและแน่ใจว่าตนได้ประมาณการศึกครั้งนี้น้อยเกินไปซะแล้ว
ทศกัณฐ์ตอนนี้อ๊าย อาย..อายจนแทบจะเอาหน้าซุกกรุงลงกา เพราะแค่ผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ เจอลิงสามสี...สีเผือก สีเขียว สีแดง มาลองดีถึงถิ่นกรุงลงกา โดยที่ฝั่งลงกาไม่ได้เอาคืนอะไรจากทัพพระรามเลย...
ทศกัณฐ์เลยเรียกบรรดาเสนาธิการมาปรึกษาหารือกันว่า...เราจะถอนแค้นนี้คืนจากพระรามได้ยังไงกันบ้าง...
เสนาธิการยักษ์ตนนึงเสนอว่า...งานนี้ท่านไม่ต้องออกรบเองให้เปลืองตัวหรอกครับนาย นายเรียกใช้บริการจากท้าวไมยราพ ผู้ครองเมืองบาดาลดูสิครับนาย...ท้าวไมยราพนั้นเชี่ยวชาญสารพัดกลเม็ดเวทมนต์ ล่องหนได้ เสกสะกดกองทัพให้หลับทั้งกองทัพยังได้เลย เรียกได้ว่า ครบเครื่องเรื่องมนต์ดำ...
...อีกอย่าง...นครเมืองบาดาลกับกรุงลงกา ก็มีความสัมพันธ์แนบแน่นมาตั้งแต่สมัยรุ่นเสด็จปู่ของนาย นั่นคือ...ท้าวสหมลิวันเสด็จปู่ของท้าวไมยราพ เคยมอบบุษบกแก้ว (เรือเหาะที่ทศกัณฐ์ใช้เหาะไปลักพาตัวนางสีดา) ให้กับท้าวจตุรพักตร์ เสด็จปู่ของนาย...
...และนอกจากนั้น รุ่นป๊ะป๋า ท้าวมหายมยักษ์เสด็จป๋าของท้าวไมยราพ ก็เป็นเพื่อนซี้กับเสด็จพ่อของนาย นั่นคือ ท้าวลัสเตียน ด้วยนะครับนาย เรียกได้ว่าแนบแน่นจนหารอยต่อแทบไม่เห็นเลยครับนาย...
ทศกัณฐ์ได้ฟังดังนั้นก็กระหยิ่มยิ้มย่อง ได้แม่ทัพฝีมือดีมาช่วยฟรีๆ...ทศกัณฐ์จึงเรียก นนยวิก และ วายุเวก เข้าเฝ้า (ลูกของมารีศ ผู้แปลงกายเป็นกวางทองไปล่อให้พระรามตาม) เพื่อไปเชิญตัวไมยราพ มาพบที่กรุงลงกาโดยด่วน...
.
พญายักษ์ไมยราพ เจ้าเมืองบาดาล
.
ไมยราพ ถือกล่องยาและกล้องเป่าสะกดทัพพระราม
.
«
Last Edit: 11 May 2024, 16:40:39 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [37] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน
«
Reply #1 on:
09 May 2023, 09:53:39 »
9 พฤษภาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ (2)
-ไมยราพปรึกษานางจันทรประภา
ไมยราพพอได้รับเทียบเชิญจาก ทศกัณฐ์ มาเฟียใหญ่แห่งลงกา ก็รู้สึกยินดีปรีดา รีบจัดทัพเตรียมไปพบกับทศกัณฐ์โดยพลัน
ก่อนจะจากเมืองบาดาลไป ไมยราพไม่ลืมที่จะไปกราบลามารดา นางจันทรประภา...
ครั้นเมื่อนางจันทรประภาทราบว่าไมยราพกำลังจะรีบไปพบทศกัณฐ์เพื่อช่วยรบกับพระราม นางถึงกับรีบเตือนสติไมยราพ นางเตือนไมยราพให้นึกถึงคำสั่งเสียของป๊ะป๋าของไมยราพ หรือ ท้าวมหายมยักษ์ ที่เคยกำชับไว้ว่า...
...แม้รุ่นปู่ รุ่นพ่อ เมืองบาดาลกับเมืองลงกา จะมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น แต่พอถึงรุ่นทศกัณฐ์ที่วันๆเอาแต่ระรานชาวบ้านไปทั่วโลกา อะไรที่เป็นเรื่องชั่วๆ ทศกัณฐ์ชำนาญทุกอย่าง ดังนั้น เมืองบาดาล และ เมืองลงกา ไม่ควรจะสุงสิงกันต่อไป ตามภาษิตโบราณ..คบคนพาลพาลพาไปหาผิด...
นางจันทรประภาเลยจำต้องขอร้องลูกว่า...อย่าไปพบทศกัณฐ์เลย เพราะนอกจากจะเป็นคำสั่งเสียของป๋าแล้ว คราวนี้ทศกัณฐ์ยังฮึกเหิมออกรบกับพระรามที่เป็นพระนารายณ์อวตารอีก ช่างไม่ดูเงาหัวตัวเองเลย แล้วลูกของแม่จะเอาตัวเข้าไปเสี่ยงทำไม...
ไมยราพที่ต้องการจะประกาศศักดาของเมืองบาดาลให้ก้องเกียรติเกริกไกรไปทั่ว นมนานกาเลเอาแต่อยู่ใต้พิภพ จนยุทธภพแทบจะลืมเลือนไปแล้วว่าเมืองบาดาลอยู่ตรงไหน...และนี่เป็นโอกาสอันดีที่ ไมยราพ จะได้โชว์ฝีมือให้โลกได้เห็นแล้ว
นอกจากนั้นการไปรบครั้งนี้ ทศกัณฐ์ขอให้ไมยราพไปช่วยร่ายมนต์สะกดทัพพระราม แล้วจับตัวพระรามและพระลักษมณ์เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดครั้งใหญ่ระหว่างสองกองทัพ ฉะนั้น การไปพบทศกัณฐ์คราวนี้ มีแต่ได้กับได้...ฉะนั้นแม่ปล่อยให้ข้าไปเต๊อะ...
นางจันทรประภาห้ามแล้วห้ามอีก แต่ก็จนใจ เพราะลูกชายรั้นที่จะไปให้ได้...ไมยราพโกรธพระมารดาถึงกับฟาดรถทรงลงพื้น...สุดท้ายนางก็จำยอมอนุญาตให้ลูกชายเดินทางไปพบทศกัณฐ์ พร้อมกับอวยพรให้โชคดี...
.
ไมยราพปรึกษานางจันทรประภา ผู้เป็นแม่
.
ซ้าย-ไมยราพโกรธพระมารดาจึงฟาดรถทรงลงพื้น
ขวา-ไมยราพฝันร้าย
.
«
Last Edit: 11 May 2024, 16:42:11 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [37] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน
«
Reply #2 on:
09 May 2023, 09:54:12 »
วิชาภาษาไทย ป.6
.
.
.
«
Last Edit: 11 May 2024, 16:43:29 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [37] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน
«
Reply #3 on:
10 May 2023, 10:28:36 »
10 พฤษภาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ (3)
-ไมยราพทำพิธีหุงยา (ยาสะกดนิทรา)
ไมยราพหลังจากร่ำลามารดา ก็รีบจัดทัพมุ่งหน้าลงกา เพื่อหารือการศึกร่วมกับทศกัณฐ์
ไมยราพเห็นหน้าทศกัณฐ์ที่เต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น ก็เอ่ยถามว่า...แค่การศึกกับมนุษย์และลิงนี่ ทำให้ท่านเครียดระทมขมขื่นได้เพียงนี้เชียวรึ?...
ทศกัณฐ์ตอบไปว่า...ก็ใช่น่ะสิ เพราะจำนวนทัพวานรในครั้งนี้แม้จะมากันไม่เยอะเท่ากับทัพยักษ์กรุงลงกา แต่มวลมหาประชาลิงนำทัพมาโดยอภิมหาแม่ทัพวานร ซึ่งถ้าจะมาสู้กันตัวต่อตัวกับแม่ทัพยักษ์แล้วนี่ กรุงลงกาเสียเปรียบแน่...
ไมยราพได้ยินพลันตะหงิดๆ อยากจะออกไปฟัดกับแม่ทัพลิงเสียให้รู้แล้วรู้รอดว่า มันจะแน่สักแค่ไหน เพราะตัวเองก็เป็นถึงเจ้าเมืองบาดาล แต่ทศกัณฐ์ก็ต้องห้ามปรามไว้ก่อน เพราะไอ้แม่ทัพยักษ์ที่ผ่านมาก็ฟึดฟัดแบบนี้แหละ พอออกไปรบกับแม่ทัพลิงเสร็จ คอขาดมั่ง ตัวขาดมั่ง ตายอย่างอนาถมั่ง...ฉะนั้น น้องไมยราพที่รัก อย่าเพิ่งเกรียน...แม่ทัพพี่เหลือน้อยเต็มที...
...แล้วจะเอาไงกันดีหล่ะพี่ท่าน?...
...เอางี้ พี่จะให้น้องใช้วิชาที่น้องรักเป็นหนึ่งในยุทธภพ นั่นคือ วิชาหุงยา ที่สามารถกำบังตัวเองให้ล่องหน ไม่ว่าใครในสามโลกแม้จะมีวิชาแก่กล้าขนาดไหนก็จะมองไม่เห็น นอกจากนั้นยังมีอีกตัวยาที่สามารถใช้สะกดกองทัพได้ทั้งกองทัพให้หลับผล็อยอร่อยไปเลย...
...แต่การจะหุงยาดังกล่าว มีกรรมวิธีที่ยุ่งยากมากความ ไมยราพจึงทูลลา ท่านพี่ เพื่อไปเตรียมพิธีในสถานที่ปลอดภัย...
หลังจากขอตัวอำลาทศกัณฐ์เพื่อไปทำพิธีหุงยา...
พอถึงเมืองบาดาล ไมยราพก็สั่งทหารให้ปลูกโรงพิธีไว้ที่เชิงเขาแก้วสุรกานต์...
เอาหัวกระโหลกผีมาวางเป็นก้อนเส้าเพื่อก่อไฟ เอากระทะใบใหญ่ขึ้นตั้ง ให้เสนาหาเห็ดเมา รวบรวมสมุนไพรที่มีพิษไว้เพื่อทำยาสลบ เมื่อส่วนผสมครบแล้วไมยราพก็อาบน้ำขัดตัวชำระร่างกาย แต่งองค์ด้วยเครื่องทรงฤๅษี สีดำสนิท จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการปรุงยา...
ก่อนอื่นนำส่วนผสมทั้งเห็ดเมา สมุนไพรมีพิษ มาผสมกันให้เข้าตามอัตราส่วน เร่งไฟให้กระทะร้อน ใส่ส่วนผสมแล้วร่ายคาถาร้อยแปดจบ จากนั้นเป่าคาถาลงในกระทะปรุงยา
ทันใดนั้น เกิดเป็นนางฟ้าปรากฎขึ้นที่กลางกระทะ ไมยราพก็อยากจะเก็บเอาไว้เชยชมแต่ก็ต้องตัดใจเชือดคอนางงามตนนั้น ฆ่าทิ้งเสีย เพราะไม่เป็นไปตามตำรา
จากนั้นก็อ่านพระเวทภาษายักษ์ต่อ เป่าคาถาลงในกระทะอีกรอบ ตอนนี้เกิดเป็นเสือสองตัวสู้กันอยู่กลางกระทะ ก็ยังไม่ตรงตามตาราอีก ก็ต้องฆ่าเสือให้ตายทั้งคู่
จากนั้นอ่านมนต์ต่อ ตามที่ครูเคยสอนไว้อย่างระมัดระวัง ถึงสามจบ แล้วเสกเป่าลงกลางกระทะอีกรอบ ตอนนี้เกิดเป็นสิงโตสองตัวกัดกันตามตำรา...
ไมยราพดีใจยิ่งนัก คว้าพระขรรค์เข้าฟันคอราชสีห์ แล้วผ่าอก ควักหัวใจออกมา จากนั้นนำหัวใจสิงโตมาบดผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ที่เตรียมไว้ ทั้งสารพัดสมุนไพรและตัวยาลับเฉพาะ บดอีกเป็นพันๆๆๆครั้ง จนกว่าจะได้ยาสะกดนิทรา ที่ไม่ว่าใครโดนยานี้เข้าไป จะต้องหลับผล็อยไปเลย...
จากนั้นลองเอายามาทาตัวก็พบว่า ยาตำรับนี้ ทำให้ตนกำบังกายไม่ให้ใครเห็นได้...
พอได้ยาสะกดนิทราสูตรพิสดารแล้ว ไมยราพที่เหนื่อยอ่อนจากการทำพิธีกรรม ก็ขอตัวไปพักผ่อนนอนหลับเอาแรง เพื่อออกศึกในวันรุ่งขึ้น...
(พวกยักษ์นี่ จะทำอะไรสักอย่าง ก็ยุ่งยากวุ่นวาย งุ่มง่ามอยู่นั่นแล้ว ไม่ทันพวกลิงร๊อก หนุมานเสกแปร๊บเดียว ก็ได้ทุกสิ่งสรรพ์สารพัด ใช่ไม๊ครับคนเขียนบท555)
.
ล่าง-ทศกัณฐ์ เลี้ยงดูปูเสื่อไมยราพเป็นขนานใหญ่
บน-ไมยราพลากลับไปเมืองบาดาล เพื่อทำพิธีบดยาล่องหนสะกดนิทรา ยังเขาสุรกานต์ ไมยราพหุงยาบนเขาสุรกานต์
.
ไมยราพ บดยา
.
ไมยราพ บดยา
.
«
Last Edit: 11 May 2024, 16:45:55 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [37] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน
«
Reply #4 on:
10 May 2023, 10:30:58 »
10 พฤษภาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ (4)
-ไมยราพฝันร้าย
ไมยราพรู้สึกอ่อนล้าจากการประกอบพิธีหุงยา จึงอาบน้ำอาบท่า เข้านอนทันที...
ในคืนนั้นเอง ไมยราพฝันว่า...เห็นพระจันทร์สีนวลสดใส ส่องสว่างท่ามกลางหมู่ดาวที่อยู่ล้อมรอบ แต่มีดาวดวงเล็กๆ ดวงหนึ่ง ค่อยๆมีแสงสว่างเพิ่มขึ้นๆๆ จนสว่างเท่าเทียมกับดวงจันทร์...แล้วมันก็สว่างขึ้นเรื่อยๆๆๆๆๆ สว่างกว่าดวงจันทร์ซะอีก จนจะสว่างเท่าดวงอาทิตย์ มองไปก็แสบตา จนหาดวงจันทร์ไม่เจอ...
ไมยราพสะดุ้งตื่น!...ไม่รู้สะดุ้งตื่นเพราะแสบตาหรือไม่...แต่ที่แน่ๆ ก่อนจะออกปฏิบัติภารกิจใหญ่ 1 วัน ดันมาฝันแปลกๆ แบบนี้มันต้องมี something Wrong แน่ๆ ว่าแล้วไมยราพก็ให้ลูกน้องไปตามท่านโหรประจำเมืองบาดาล มาทำนายทายฝัน...
โหรหลวงหลังจากจับยามสามตาแล้ว ก็ทูลไมยราพว่า...อันฝันที่ท่านฝันนั้น เป็นฝันบอกลางไม่ดี ถ้าอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ต่อสายด่วนไปยังแม่หมอ กฤษติกา ศิษย์เอกของหมอวั้ง ให้เปิดไพ่ ออราเคิล ทำนายดวงและฝัน อันแม่นยำ...ไมยราพ จึง hotline ไปที่ 099-999-0000 แจ้งเรื่องฝันร้าย ซึ่งแม่หมอก็ทำนายว่า...
...อันฝันของท่านนั้นเป็นฝันร้าย ดวงจันทร์นั้นหมายถึงตัวท่านเองที่ส่องแสงลงมายังเมืองบาดาล ส่วนดวงดาวบริวารก็หมายถึงญาติพี่น้องคนสนิทของท่านที่รายล้อมตัวท่านอยู่ และการที่ดาวดวงหนึ่งส่องแสงจนมากลบแสงจันทราหรือตัวท่านเองนั้น ก็หมายถึง ตัวท่านจะสิ้นบุญ และจะมียักษ์หนุ่มมาครอบครองนครบาดาลแทน...
ไมยราพได้ยินเช่นนั้น ก็เหงื่อกาฬไหล พร้อมถามแม่หมอไปว่า...แล้วไอ้คนคิดไม่ซื่อ ที่จะมาแข่งบารมีกับข้า คนนั้นเป็นใครกัน.??...
แม่หมอจึงตอบว่า...
...ก็ ไวยวิก ลูกชายนางพิรากวน พี่สาวของท่านไง...คอนเฟิร์ม!!!!
ไมยราพรีบวางสายแม่หมอ พร้อมกับโทสะที่เดือดปุดๆๆๆๆ ..
...หนอยแน่ะ ไอ้ไวยวิกหลานเรา เรารึอุตส่าห์เลี้ยงดูมันมาเป็นอย่างดี กลับคิดไม่ซื่อ คิดคดกบฏจะครองเมืองบาดาล แบบนี้เลี้ยงไว้ไม่ได้แล้ว...ว่าแล้วก็สั่งให้ทหารไปลากตัวสองแม่ลูกมาที่ท้องพระโรง
เมื่่อสองแม่ลูกถูกลากตัวมาท้องพระโรงด้วยความงงงวย เพราะยังไม่รู้เลยว่า อยู่ดีๆโดนข้อหากบฏได้ไงฟร่ะ?
ไมยราพเมื่อเห็นหน้าสองแม่ลูก ก็ของขึ้น ชี้หน้าด่าสารพัดสารเพ โดยที่ทั้งสองแม่ลูกก็ยังงงๆอยู่ว่า...มรึงฝันเองอะไรเอง โทรไปหาแม่หมอเอง แล้วอยู่ดีๆ มรึงมาลงตรงพวกกรูได้ไงเนี่ย???...
แต่ก็ไม่รู้จะตอบโต้ไมยราพยังไง ได้แต่ก้มหน้าฟังคำด่าฉอดๆๆๆๆๆ
ว่าแล้ว ไมยราพก็รับสั่งให้เอาทั้งคู่ไปประหารเสียให้รู้แล้วรู้รอด...แต่ท่านโหรประจำเมืองบาดาลได้ทูลขอชีวิตสองแม่ลูกไว้ก่อน ด้วยเหตุผลว่า...ท่านกำลังทำการใหญ่ในวันรุ่งขึ้น ไม่ควรจะทำการอะไรที่ไม่เป็นมงคลก่อนปฏิบัติภารกิจ ฤกษ์มันจะเสียเปล่าๆ...
ไมยราพได้ฟังดังนั้น เลยให้ทหารเอาทั้งคู่ไปจับขังคุกไว้ก่อน รอให้จับพระรามได้แล้ว จะฆ่าทิ้งทั้งพระรามและแม่ลูกด้วย...
สองแม่ลูกได้ฟังดังนั้น ก็น้ำตานองอาบสองแก้ม แบบไม่ได้รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลย...
.
โหรหลวงทำนายทายทักว่าเป็นฝันร้าย
.
!?!...
.
«
Last Edit: 11 May 2024, 16:47:40 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [37] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน
«
Reply #5 on:
11 May 2023, 10:51:21 »
11 พฤษภาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ (5)
-หนุมานอมพลับพลา
ไม่ใช่แค่เพียงไมยราพเท่านั้นที่นอนหลับแล้วฝันแปลกๆ...
พระรามก็ทรงฝันแปลกๆเช่นกัน พระรามฝันว่า...พระองค์ทอดพระเนตรไปบนท้องฟ้า เห็นพระอาทิตย์ทรงกลด แสงแดดเจิดจ้า แต่พลันทันใดนั้น ก็มียักษ์ราหูกระโจนเข้ามาอมดวงอาทิตย์ให้มืดมิด ซะอย่างนั้น...
และเหมือนทุกครั้ง พระรามได้ใช้บริการหมอดูทำนายฝันจาก พิเภก...
พิเภกจับยามสามตา แล้วทูลว่า...นี่เป็นลางไม่ดี สงกะสัยว่าจะต้องมีกลอุบายอะไรสักอย่างมาจากทางฝั่งทศกัณฐ์แน่ๆ พระอาทิตย์ทรงกลดเปรียบได้ดั่งองค์พระรามที่ตอนนี้เดชานุภาพเกรียงไกร ทำเอากรุงลงกาสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น...ยักษ์ราหูที่เข้ามาอมดวงอาทิตย์นี่ คงต้องเป็นใครสักคนที่ทศกัณฐ์ไหว้วานมาให้จัดการกับพระองค์โดยการลักพาตัวให้หายแว่บไปเป็นแน่...และจากดวงชะตาของพระองค์ อีกหนึ่งราตรีข้างหน้า จะเป็นช่วงเวลาที่อันตรายมาก ถ้าทศกัณฐ์จะลงมือลักพาตัว ก็น่าจะเป็นราตรีถัดไปเป็นแม่นมั่น ฉะนั้น เราควรจะรีบเตรียมการป้องกันไว้เสียแต่เนิ่นๆ...
เช้าวันรุ่งขึ้น พระราม และ พระลักษมณ์ จึงเรียกประชุมเสนาธิการทหาร ว่าเราจะรับมือ การบุกจู่โจมลักพาตัว อย่างไรดี?
เสนาธิการลิงหลายท่านกล่าวว่า...เวรยามเราออกจากเข้มแข็งขนาดนี้ ใครมันจะลักลอบเข้ามาค่ายทหาร มาลักพาตัวพระรามไปได้กัน?
แต่พิเภกก็แย้งขึ้นมาว่า...ไมยราพแห่งเมืองบาดาลมีฤทธิ์วิเศษ ปรุงยาให้ตัวเองล่องหน หายตัว หรือแปลงร่างได้เป็นทุกสรรพสิ่ง พร้อมกับยาวิเศษสะกดนิทรา ที่ไม่ว่าใครจะมีฤทธิ์กล้าแข็งขนาดไหน เจอยานี้ไปเป็นหลับผล็อยไปเสียทุกราย และข้าก็ได้ข่าวว่า ทศกัณฐ์มีการนัดแนะพูดคุยกับไมยราพเมื่อวันก่อน...สงกะสัยงานนี้ไมยราพจะต้องออกโรงแน่นอน...
เมื่อได้ยินดังนั้น เสนาธิการลิง จึงต้องประชุมกันเครียด เพราะถ้าไมยราพ ลอบเข้ามาพร้อมกับยาวิเศษได้ แล้วเราจะรับมือมันได้ยังไง?
การจัดวางเวรยามจึงต้องมีการรื้อระบบกันใหม่ โดยการขยายพื้นที่ค่ายให้กว้างออกไป เกินกว่ารัศมีทำการของยาสะกดนิทราจะเป่าเข้ามาถึงพลับพลาที่ประทับของพระราม พร้อมกับตั้งด่านวานรให้ถี่และหนาแน่นขึ้น ป้องกันคน ยักษ์ และลิงปลอมตัวเข้ามา วานรที่ทำหน้าที่ยามต้องมีการสลับผลัดเปลี่ยนกันตลอด 1 ราตรี เพราะ พิเภกได้จับยามสามตาดูแล้วพบว่า ช่วงเวลาที่ทศกัณฐ์จะก่อการสำเร็จ มีแค่เพียง 1 ราตรีเท่านั้น ฉะนั้น ถ้าป้องกันเหตุร้ายได้ภายใน 1 ราตรี พระรามก็จะพ้นเคราะห์...
จากนั้นกองทัพพระรามก็มัวสาละวนอยู่กับการจัดเวรยามวานรใหม่ โดยให้พลับพลาของพระรามอยู่ในจุดลึกที่สุด ห่างจากทางเข้าทัพพอสมควร และเพื่อป้องกันให้หนาแน่นอีกชั้น หนุมานจึงเสนอตัวเนรมิตตัวเองให้ใหญ่โต แล้วอมพลับพลาพระรามเอาไว้เสียเลย...
(บางคนเล่าว่า หนุมานเป็นลิง จึงไม่เคยแปรงฟัน...แต่บางคนว่า คงต้องแปรงฟันบ้าง เพราะลิงกินผลไม้ตามป่าเขา ย่อมมีกิ่งข่อยให้รักษากลิ่นปากและโรคฟันผุบ้างซิน่า หนุมานอมพลับพลา ไม่งั้นพระรามคงเด๊ดสะมอเร่ เพราะกลิ่นปากหนุมานก่อนจะเจอไมยราพ เป็นแน่ อย่างน้อยก็ต้องใช้ เทพไท ของน้องเบลล่า เพราะบีบนิดเดียวเท่าเมล็ดถั่ว ปากก็หอมสดชื่น อิอิ...)
.
สูงจดภวัคพรหมาน ใหญ่เท่าจักรวาลสิงขร
เบื้องตํ่าใต้พื้นดินดอน หยั่งถึงสาครรองดิน
หางวงเป็นปราการล้อม โอบอ้อมโยธาไว้สิ้น
อันพลับพลาแก้วโกมิน ขุนกบินทร์เอาไว้ในอุรา
อ้าโอษฐ์ออกเป็นทวาร ใบบานปิดเปิดนั้นชิวหา
พิเภกกับพระลักษมณ์อนุชา นั่งรักษาองค์พระจักรี
.
มาแบบทั่นชิวหาอีกรายแระ...แต่ฝ่ายพระเอกนิ...ยังไงก็ต้องจบสวยอยู่แล้ว...
พร้อมกันนั้น สุครีพก็สั่งบรรดาแม่ทัพฝีมือฉกาจทั้งหลาย รวมทั้งพระลักษมณ์และสุครีพ มาเฝ้ายามอยู่ใกล้ๆพระรามเสียด้วยในคราวเดียวกันเลย...ดูสิว่า จะมีใครกล้ามาแหยม ลักพาตัวพระรามมั๊ย?...
.
.
.
.
«
Last Edit: 11 May 2024, 16:49:08 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [37] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน
«
Reply #6 on:
11 May 2023, 10:52:21 »
11 พฤษภาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ (6)
-ไมยราพ ลักพาตัว
พอตกหัวค่ำ ตะวันลับฟ้า...ได้เวลาดี ปฏิบัติการของไมยราพจึงเริ่ม...
ไมยราพคว้ากล้องแก้ว แอบเลียบๆเคียงๆไปรอบบริเวณค่ายกองทัพพระราม แล้วก็พาลตกใจ เฮ้ย!! นี่มันรู้ได้ไงเนี่ยว่าเราจะจู่โจมคืนนี้ เล่นจัดเวรยามหนาแน่นขนาดนี้ แล้วย้ายพลับพลาไปอยู่ด้านในสุด...แล้วเราจะลอบเข้าไปได้ยังไงเนี่ย? แม้ว่าจะมียาสะกดนิทรา แต่รัศมีทำการมันก็จำกัด แม้จะทำให้ลิงกลุ่มนึงหลับได้ แต่ลิงกลุ่มอื่นที่ไม่โดนยาก็ไม่หลับอยู่ดี แล้วถ้าไปตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมลิงหล่ะ ชีวิตน้อยๆของไมยราพมีหวังแดดิ้น...
ไมยราพเลยต้องคิดแล้วคิดอีกว่า จะเอายังไงกันดี...
ว่าแล้วไมยราพก็แปลงกายเป็นลิงน้อย จัดการเชือดลิงยามไปตัวนึง แล้วก็แอบแฝงเข้าไปเป็นยามลิงกะเค้า เพื่อลอบเข้าไปดูลาดเลา ไมยราพยังคงวนเวียนเป็นลิงน้อยอยู่ได้เฉพาะรอบๆนอกเท่านั้น เพราะยิ่งเข้าไปลึกๆในกองทัพ เหล่าแม่ทัพฝีมือฉกาจก็กำลังเฝ้ายาม ไม่หลับไม่นอนด้วยเหมือนกัน ตอนนี้ไมยราพอาจจะแปลงเป็นลิงตบตาลิงระดับล่างๆได้ แต่เชื่อได้ว่า ลิงฝีมือฉกาจ มันต้องดูออกแน่ๆ
ไมยราพได้ยินเหล่าลิงยามคุยกันว่า...เฮ้ยๆๆ พวกเรา อดทนกันหน่อย แค่เฝ้าเวรยามให้พ้นราตรีนี้ไป ทุกอย่างก็จบแล้ว เพราะพิเภกบอกมาแล้วว่า พระรามจะมีเคราะห์แค่เพียงราตรีนี้เท่านั้น...เดี๋ยวพ้นยามสาม องค์รามก็จะพ้นเคราะห์แล้ว...
ไมยราพได้ยินเช่นนั้น ก็เหมือนกับได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์...อ๋อ งั้นได้สิ มึงรอตอนสว่างใช่มั้ย งานนี้กูจะหลอกลิงซะหน่อย...เสร็จกรูแน่ๆพวกลิงเอ๋ย...
ว่าแล้วไมยราพก็นั่งรอๆๆๆๆ รอจนใกล้รุ่งสาง แล้วค่อยเป่ายาสะกดนิทราให้ลิงบริเวณนั้นผล็อยหลับไปก่อน พร้อมกับควักเอายาวิเศษบรรจุลงในกล่องแก้ว ก่อนจะเหาะขึ้นไปบนยอดเขา กวัดแก่วงกล้องแก้วจนเกิดเป็นแสงประกายเหมือนดวงดาว...ยาวิเศษจึงฟุ้งกระจายไปบนท้องฟ้า จนทำให้ดูประนึงว่า ท้องฟ้าเป็นสีทอง เหมือนกับว่าดวงอาทิตย์กำลังจะขึ้นจากขอบฟ้า...ไมยราพเลื่อนเวลารุ่งสางขึ้นมากว่าปรกติสัก 1-2 ชั่วโมง
.
ยืนอยู่เหนือยอดคิรินทร ดั่งพญาไกรสรราชสีห์
จับกล้องปัทมราชรูจี อสุรีกวัดแกว่งไปมา ฯ
โชติช่วงเพียงดวงดาวประกาย สีพรายจำรัสพระเวหา
แจ่มจับกับแสงดารา ในเวลาปัจฉิมราตรีกาล ฯ
.
เหล่าวานรที่ไม่ได้ถูกสะกดนิทรา เมื่อได้เห็นแสงอาทิตย์สีทองกำลังขึ้นจากขอบฟ้า เช้าแล้ว พระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว ก็ดีใจ ไชโยโห่ฮิ้ว! ภารกิจอดตาหลับขับตานอนจบสิ้นเสียที
วานรหลายตัวก็ผ่อนคลายความเข้มงวดในการตรวจตรา วานรบางตัวก็ขอตัวไปนอนเอาเสียดื้อๆ วานรหลายตัวก็รีบไปหาข้าวเช้ากิน สรวลเสเฮฮา...และเนื่องจากพลับพลาของพระรามอยู่ในส่วนลึกที่สุดของกองทัพ จึงไม่ได้รับทราบเลยว่า การตรวจตราของยามวานรได้ถูกยกเลิกไปแบบไม่ได้ตั้งใจแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ ไมยราพในคราบลิง ก็เดินผ่านกองทัพลิงเข้าไปใกล้ๆพลับพลาได้อย่างสบายใจเฉิบ ก่อนจะถึงพลับพลา ก็ไม่วายใช้ยาสะกดนิทรา เป่าใส่กองทัพวานรมาตลอดทาง...วานรที่กำลังเริงร่า ก็ผล็อยหลับกันเป็นแถบ...
พอเข้าใกล้พลับพลา อยู่ในระยะทำการของ M79 เอ๊ย! ยาสะกดนิทรา ไมยราพก็จัดการพ่นยาออกไป เหล่าแม่ทัพนายกองที่เฝ้าพระรามอยู่ รวมทั้งพระราม พระลักษมณ์ และสุครีพ...ก็หลับใหลไปตามๆกัน...
ไม่เพียงเท่านั้น หนุมาน ที่อมพลับพลาอยู่ ก็หลับผล็อยไปเช่นกัน...
ไมยราพจึงเดินอาดๆๆๆ เข้าไปถึงตัวพระรามได้โดยง่าย สะดวกโยธิน จัดการอุ้มพระรามที่บรรทมหลับอยู่บนแท่นขึ้นบ่า แล้วรีบแทรกแผ่นดินมุดกลับลงไปยังเมืองบาดาล เอาพระรามไปขังไว้ในในดงตาล...
เมื่อไมยราพ ลักพาตัวพระรามลงไปสู่เมืองบาดาลแล้ว ก็รีบจัดแจงนำพระรามไปขังกรงเหล็ก กลางดงตาล พร้อมกับสั่งลงโทษนางพิรากวน ที่ตอนนี้นั่งจุมปุ๊กอยู่ในคุก ให้ไปตักน้ำจากสระ ใส่กะทะใบใหญ่ให้เต็ม แล้วต้มน้ำให้เดือด...
หลังจากไมยราพอาบน้ำอาบท่าชำระร่างกายเสร็จ ก็จะเริ่มพิธีต้มพระราม และ ไวยวิก ไอ้เด็กทรยศ เสียคราวเดียวกันเลย
สรุป...พระรามมีเคราะห์ในชั่วราตรีนั้นจริงๆ...
.
หนุมาน อมพลับพลา
สังเกตด้านบนขวาให้ดี จะเห็นไมยราพยืนอยู่บนยอดเขา-ตัวเล็กๆ
.
ไมยราพ ลักพาตัวพระราม
.
ไมยราพ เป่ายาสะกดนิทรา
.
ไมยราพ เป่ายาสะกดนิทรา
.
หลับกันหมดทั้งพระราม พระลักษมณ์ พิเภก และสุครีพ
.
«
Last Edit: 11 May 2024, 17:00:27 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [37] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน
«
Reply #7 on:
11 May 2023, 10:53:02 »
11 พฤษภาคม 2022 ·
ชมโขนรามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ
ตอน ไมยราพ ลักพาตัวพระราม
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
«
Last Edit: 11 May 2024, 17:02:59 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [37] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน
«
Reply #8 on:
12 May 2023, 09:19:01 »
12 พฤษภาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ (7)
-ปรึกษาหารือแผนชิงตัวพระราม
ฝ่ายหนุมานที่อ้าปากอมพลับพลาอยู่นานสองนาน ก็ยังหลับใหลด้วยมนต์สะกดของไมยราพ...พระพายบิดาแห่งลิงน้อย เห็นบุตรตัวเองทำหน้าที่ได้ทู่เรสมาก อุตส่าห์เสนอตัวอมพลับพลาให้พระราม แต่ดันมาหลับผล็อยจนไมยราพเดินเข้ามาล้วงคอลิง ลักตัวพระรามไปต่อหน้าต่อตา มันก็ยังหลับปุ๋ยอยู่ พระพายเลยพัดลมใส่หนุมานเสียหนึ่งดอก
หนุมานนั้นถ้าได้ต้องลมพระพายขึ้นมาครั้งใด ไม่ว่าจะต้องมนต์สะกดใดๆ หรือแม้กระทั่งร่างกายจะแหลกเหลวเพียงใด ก็จะฟื้นคืนชีพในบัดดล และคราวนี้ก็เช่นกัน...หนุมานตื่นขึ้นมาทันที หลังจากต้องลมพระพาย...
...เฮ้ย! หลับไปตั้งกะเมื่อไหร่วะ...แล้วนี่กรูเผลอกลืนนายลงท้องไปป่าววะเนี่ย...
หลังจากตื่นงัวเงียขึ้นมา หนุมานก็เห็นเหล่าวานรรอบๆปากตัวเองยังหลับปุ๋ยกันโดยถ้วนทั่ว เลยรีบร้องตะโกนๆๆ ทั้งๆที่ปากตัวเองยังอมพลับพลาอยู่...
พวกที่อยู่ในปากหนุมานรีบตื่นและวิ่งออกมาจากปากหนุมาน ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปล้างหน้าล้างตาแล้วก็กลับมารวมตัวกันใหม่...เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นมากลางวง...
...เฮ้ยๆๆ พระรามอยู่ไหนเนี่ย??...
เท่านั้นแหละ...วงแตกทันที เพราะหลังจากสำรวจตรวจตราแล้ว พระรามไม่อยู่ หายไปไหนก็ไม่รู้
พระลักษมณ์รู้เข้า...ทำไงล่ะ...ก็ร้องไห้สิฮะ...ทำอย่างอื่นเป็นที่ไหน...
พระลักษมณ์จึงรับสั่งให้ลิงแถวนั้นค้นหาตัวพระรามโดยด่วน แต่ก็ไม่พบ...
พิเภกจับยามสามตาดู แล้วร้อง...ไอ๋หย่า พวกเราโดนมนต์สะกดของไมยราพเข้าจริงๆ และมันก็ฉวยโอกาสตอนที่พวกเราหลับใหล เข้ามาลักพาตัวพระรามไป!!! ณ ตอนนี้พระรามยังมีชีวิต แต่ชะตาชีวิตเริ่มมืดลงเรื่อยๆ...คาดเดาได้ว่าไมยราพคงจะเตรียมตัวกำจัดพระรามในเวลาไม่ช้าแน่...
แล้วทูลพระลักษมณ์ว่า...อย่าทรงเสียพระทัยไปเลย จงสั่งให้ทหารยอดฝีมือตามลงไปยังมืองบาดาลเพื่อช่วยองค์รามโดยเร็วเถิด...(แม๊...ยอดพ่อตาจริงๆ อวยแต่ลูกเขย)
พระลักษมณ์ปาดน้ำตา ตั้งสติดั่งจอมทัพ รับสั่งให้หนุมานทำคุณไถ่โทษ รีบลงไปยังเมืองบาดาล แล้วชิงตัวพระรามกลับมา...
...นี่ หนุมานวายุบุตร ท่านจงลงไปเมืองบาดาลและช่วยพระรามพี่เราโดยเร็ว...
หนุมานคลานเข้ารับบัญชา แต่ไม่เคยไปเมืองบาดาล เลยมึนตึบ ไม่รู้จะไปยังไง? จึงหันไปถามพิเภกว่า...จะลงไปเมืองบาดาลได้อย่างไร...
พิเภกเอาแผนที่ Google map เมืองบาดาล มากางให้หนุมานดู พร้อมกับชี้แนะอะไรบางอย่างว่า...
...นี่แน่ะหนุมาน...เมืองบาดาลเนี่ย ถ้าเดินไปตามแผนที่ Google แล้ว เจ้าจะเจอสระบัวที่ใหญ่ทั้งสระและใหญ่ทั้งบัว บัวในสระนั้นจะใหญ่โตกว่าบัวทั่วไปมากมายเหลือคณานับ เพราะบัวพวกนั้นแหละ จะเป็นถนนเข้าไปประตูเมืองบาดาล...
...วิธีจะเข้าไป เจ้าต้องหักก้านบัวออก แล้วก็มุดตัวลงไปตามก้านบัว ลงไปเรื่อยๆๆๆๆๆ แล้วเจ้าจะเห็นประตูเมืองบาดาล จากนั้นเจ้าจะเจอสารพัดค่ายกล...เจ้าต้องผ่านค่ายกลต่างๆให้ได้ก่อน ถึงจะเข้าถึงปราสาทด้านในของไมยราพได้...
หนุมานได้ยินดังนั้น กำแผนที่ Google ไว้ข้างกาย แล้วแทรกกายดำดิ่งลึกลงดินไปโดยพลัน...ดำลึกลงไปเรื่อยๆ เวลาเหลือน้อยลงทุกที...
.
ไมยราพ
.
พระลักษมณ์ บัญชาให้หนุมาน ลงไปยังเมืองบาดาล เพื่อชิงตัวพระรามกลับคืนมา
.
«
Last Edit: 11 May 2024, 17:05:07 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [37] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน
«
Reply #9 on:
12 May 2023, 09:19:52 »
12 พฤษภาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ (8-แปด)
-หนุมานลอบเข้าเมืองบาดาล
เผลอแพล็บเดียว หนุมานก็มายืนอยู่ตรงหน้าสระบัวขนาดยักษ์ ตามคำบอกกล่าวของพิเภกและแผนที่ใน Google
หนุมานยืนตรวจตราดูอยู่สักครู่ พบดอกบัวยักษ์ ขนาดใหญ่กว่าใครเพื่อน ไหวติงไปมาน่าสงกะสัย...ว่าแล้วหนุมานก็เหาะเข้าไปสังเกตสังกาใกล้ๆ ยิ่งพิศดูก็ยิ่งมั่นใจว่าดอกบัวนี่ประหลาดกว่าใครเพื่อน...มันจะต้องเป็นประตูไปสู่เมืองบาดาล ตามที่พิเภกได้บอกกล่าวเป็นแม่นมั่น...
ว่าแล้ว หนุมานก็จัดการหักก้านดอกบัวเสีย จากนั้นก็หดตัวเองให้เล็ก พอที่จะลอดลงไปในก้านดอกบัวได้
พลุ่บ!!! ......
.....
-หนุมานลอดก้านบัว
หนุมานกระดุกกระดิกผ่านก้านดอกบัว ไปได้สักพัก ก็โผล่มาที่ประตูทางเข้าเมืองบาดาล
ไมยราพสังหรณ์ใจอยู่แล้วว่า ทางทัพพระรามจะต้องส่งใครมาช่วยพระรามกลับไปแน่ๆ จึงวางกองกำลังยักษ์ดักรอหน้าปากประตูไว้...หนุมานยังไม่ทันลอดตัวเองออกมาจากก้านบัวได้สุด พวกกองกำลังยักษ์ก็เห็นหนุมานดุ๊กดิ๊กอยู่แต่ไกล ทั้งหมดเลยแห่กันมา กะว่าจะรุมหนุมานให้ตายคาเท้า...
.....
-หนุมานฟาดฟันกองกำลังไมยราพ
กองกำลังยักษ์ที่ไมยราพแห่กันเข้ามามะรุมมะตุ้มหนุมาน แต่ยักษ์ระดับปลายแถวหรือจะมาอาจสู้ลิงที่มีฝีมืออันดับหนึ่งในแผ่นดินได้ กองกำลังยักษ์ที่แห่กันเข้ามาเท่าไหร่ ก็โดนหนุมานฟาดฟันตายแดดิ้นไปเท่านั้น
ในที่สุด กองกำลังยักษ์นับพัน ก็โดยหนุมานจัดการเรียบภายในเวลาไม่กี่นาที...เลเวลมันต่างกันเกินไปจริงๆ...
...
หนุมานลอบเข้าเมืองบาดาล
.
หนุมาน มายืนอยู่ตรงหน้าสระบัวขนาดยักษ์ ตามคำบอกกล่าวของพิเภกและแผนที่ใน Google
หนุมานยืนตรวจตราดูอยู่สักครู่ พบดอกบัวยักษ์ ขนาดใหญ่กว่าใครเพื่อน ไหวติงไปมาน่าสงกะสัย...ว่าแล้วหนุมานก็เหาะเข้าไปสังเกตสังกาใกล้ๆ ยิ่งพิศดูก็
ยิ่งมั่นใจว่าดอกบัวนี่ประหลาดกว่าใครเพื่อน...มันจะต้องเป็นประตูไปสู่เมืองบาดาล ตามที่พิเภกได้บอกกล่าวเป็นแม่นมั่น...
.
หนุมานลอดก้านบัว
ว่าแล้ว หนุมานก็จัดการหักก้านดอกบัวเสีย จากนั้นก็หดตัวเองให้เล็ก พอที่จะลอดลงไปในก้านดอกบัวได้
พลุ่บ!!! ......
.
หนุมานกระดุกกระดิกผ่านก้านดอกบัว ไปได้สักพัก ก็โผล่มาที่ประตูทางเข้าเมืองบาดาล
.
หนุมานฟาดฟันกองกำลังไมยราพ
ไมยราพสังหรณ์ใจอยู่แล้วว่า ทางทัพพระรามจะต้องส่งใครมาช่วยพระรามกลับไปแน่ๆ จึงวางกองกำลังยักษ์ดักรอหน้าปากประตูไว้...หนุมานยังไม่ทันลอดตัวเองออกมาจากก้านบัวได้สุด พวกกองกำลังยักษ์ก็เห็นหนุมานดุ๊กดิ๊กอยู่แต่ไกล ทั้งหมดเลยแห่กันมา กะว่าจะรุมหนุมานให้ตายคาเท้า...
แต่ในที่สุด กองกำลังยักษ์นับพัน ก็โดยหนุมานจัดการเรียบภายในเวลาไม่กี่นาที...
.
«
Last Edit: 11 May 2024, 17:10:05 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [37] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน
«
Reply #10 on:
13 May 2023, 20:19:17 »
13 พฤษภาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ (9)
-หนุมานหักคอคชสาร
หลังจากฝ่าด่านกองกำลังยักษ์ลิ่วล้อได้ ด่านต่อไปที่หนุมานต้องเจอคือ พญาคชสารตกมัน ที่หากินอยู่แถวๆนั้น พญาคชสารตัวนี้ตัวดำทะมึน งายาวโง้งพร้อมจะแทงศัตรูให้ไส้ทะลักได้ทุกเมื่อ เป็นพญาช้างเหนือช้างที่ปกครองโขลงช้างในเมืองบาดาลอยู่
ไมยราพเลี้ยงช้างโขลงนี้ไว้ เพื่อเป็นยามอารักขาประตูเข้าเมืองบาดาล
พญาคชสารเห็นหนุมานหักด่านยักษ์มาได้ ก็เกิดอาการตกมันสุดขีด รีบวิ่งปรี่เข้าใส่หนุมาน...หนุมานยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็โดนช้างชนเข้าอย่างจัง จนกระเด็นไปหลายเมตร พญาคชสารยังไม่หยุด ยังวิ่งเข้ามาหา หวังจะกระทืบหนุมานให้เละคาเท้า
หนุมานต้องกลิ้งไปกลิ้งมา หลบกันเป็นพัลวัน เล่นเอาสะบักสะบอมกันเลยทีเดียวกว่าจะหลบให้พ้นดงเท้าของพญาช้างได้...พอตั้งหลักได้ หนุมานปาดเหงื่อแล้วกวักนิ้วเรียกพญาคชสาร มาลองกำลังกันหน่อย มาดูสิว่า พญาช้างกับพญาวานร ใครจะแน่กว่ากัน...
หนุมานพุ่งเข้าชนพญาคชสาร เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ผลการปะทะ แม้หนุมานจะมีพลังเหนือวานรทุกตัวบนพื้นพิภพ แต่เมื่อมาเจอเจ้าแห่งช้างในเมืองบาดาล กลับต้องยอมแพ้...ที่สำคัญ งาของพญาช้างนั้น คมกริบ...หนุมานต้องหลบกันเป็นพัลวัน...
หนุมานตัดสินใจ ถอยออกมาตั้งหลักก่อน...ช้างตัวนี้ไม่เหมือนช้างทุกตัวที่หนุมานเคยประมือมา (หนุมานเคยหักคอช้างตกมันมาแล้ว สมัยที่บุกลงกา) พลังคชสารของมันเหลือคณา แถมงาของมันก็คมกริบ จะเข้าปะทะตรงๆ นี่ มีแต่จะเสียเปรียบ
ว่าแล้วหนุมานก็กวักมือเรียกพญาช้าง วิ่งเข้ามาประลองกำลังกันอีกรอบ แต่คราวนี้หนุมานเลี่ยงที่จะชนกันตรงๆ โดยการเอี้ยวตัวหลบไปด้านข้าง ใช้ขา ใช้มือ หักงวงช้าง ในท่า หักงวงไอยรา...พญาช้างถึงกับร้องลั่น จากนั้นหนุมานจึงไต่งวงขึ้นไปยังกระหม่อมช้าง จุดอ่อน จุดตายของพญาช้าง...จุดนี้พญาช้างไร้การป้องกันใดๆ หนุมานจึงควักพระขรรค์ขึ้นมา ปักลงไปกลางกระหม่อมช้าง จนมิดด้าม
พญาช้างร้องลั่นเมืองบาดาล ก่อนจะล้มลง...โขลงช้างเมื่อเห็นพญาช้างจ่าฝูงถูกหนุมานปราบ ก็แตกตื่น วิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง...
หนุมานที่ตอนนี้สะบักสะบอมสุดขีด ก็มุ่งหน้าต่อไป ยังมีอีกหลายด่านที่ต้องฝ่าเข้าไปก่อนจะถึงตัวพระราม
.
หนุมาน หักงวงไอยรา
.
หนุมานหักคอคชสาร
.
«
Last Edit: 11 May 2024, 17:12:12 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [37] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน
«
Reply #11 on:
13 May 2023, 20:20:25 »
13 พฤษภาคม 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ (10)
-หนุมานฝ่าด่านเขาเพลิงกรด
หนุมานพาร่างที่สะบักสะบอมมาจากการโรมรันกับพญาคชสาร มาเจอด่านถัดมา...เขาเพลิงกรด ด่านนี้เป็นภูเขาสูงทะมึนอยู่เบื้องหน้า มียอดเขาอยู่นับสิบลูก
ถ้าเป็นแค่ภูเขาธรรมดา คงไม่ครณามือของหนุมาน แต่ภูเขาเพลิงกรดมันไม่ธรรมดา!!
ยอดเขานับสิบลูกเคลื่อนที่ไปมาได้ โดยจะเคลื่อนที่เข้าๆออกๆ กระทบกันเสียงดันสนั่นเลื่อนลั่น ถ้าเผลอเดินเข้าไปไม่ดูตาม้าตาเรือ มีหวังโดนยอดเขาบดป่นปี้ เป็นเนื้อลิงทุบ
นอกจากยอดเขาที่เคลื่อนที่กระทบกัน อันน่าครั่นคร้ามแล้ว ที่พื้นภูเขาแต่ละลูก ยังมีเพลิงกรด ที่ไม่มีควัน แต่ร้อนดั่งแสงอาทิตย์ก็มิปาน แค่เฉียดไปใกล้ๆ หนุมานก็ได้กลิ่นขนเพชรของตัวเองไหม้ขึ้นมาเป็นหย่อมๆ
งานนี้หนุมานเพ่งพินิจอยู่ที่ตีนเขาอยู่ครู่นึง...แล้วพบว่า หนทางเดียวที่จะผ่านเขาเพลิงกรดไปได้ก็คือ ต้องปีนขึ้นไปยังยอดเขา แล้วโดดข้ามจากเขาลูกนึงไปยังอีกลูกนึงเท่านั้น ขืนเดินทะเล่อทะล่าไปตามซอกเขา มีหวังไม่โดนป่น ก็โดนไหม้เกรียมแน่
ว่าแล้วหนุมานก็เปล่งพลังซุปเปอร์ไซย่าขั้นที่สาม รีบทะยานตัวเองผ่านเพลิงกรด ที่แม้ร่างกายจะถูกเผาไหม้แต่ก็ต้องยอมทน พร้อมหลบหลีกเขาที่มาชนกันอย่างคล่องแคล่วว่องไว
ชั่วอีดใจเดียว หนุมานก็ปีนขึ้นมาถึงยอดเขาลูกแรก หนุมานสังเกตตัวเองดู ผิวไหม้เกรียมเป็นหย่อมๆ แต่แค่นี้จิ๊บๆ สำหรับหนุมานชาญสมร...ก่อนจะกระโดดจากยอดเขาลูกนี้ไปยังลูกต่อไป หนุมานคิดขึ้นมาได้ ไหนๆขาออกเราก็ต้องออกทางนี้นี่หว่า แล้วตอนนั้นต้องแบกพระรามกลับออกมาด้วย เกรงว่าตัวเองจะหลบหลีกเพลิงกรดได้แต่พระรามนี่สิ? ว่าแล้วหนุมานก็เปล่งพลังซุปเปอร์ไซย่าขั้นที่สี่ อัดพลังลมปราณใส่กำปั้นเต็มร้อย แล้วชกกำปั้นใส่ยอดเขาเต็มแรง ด้วยท่ากำปั้นสะท้านโลกันตร์...
เปรี้ยง!!!!! ...
เขาเพลิงกรดลูกแรก แตกกระจายเป็นผุยผง เพลิงกรดก็พลอยมอดไหม้ตามไปด้วย
หนุมานกระโดดข้ามจากเขาลูกนี้ ไปยังลูกถัดไป แล้วก็ทำแบบเดียวกัน จนยอดเขาเพลิงกรดทั้งหมด ราบเป็นหน้ากลอง เพลิงกรด มลายหายสิ้น...
หนุมานพัก ปรับลมปราณสักครู่ ด่านนี้่กินพลังงานเหลือเกิน...
.
.
«
Last Edit: 11 May 2024, 17:13:17 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: [37.1] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกไมยราพ โดย กลม บางบาน (ตอนที่
«
Reply #12 on:
11 May 2024, 17:13:52 »
ปรับปรุงภาพใหม่
Logged
Pages:
[
1
]
« previous
next »
SMF 2.0.4
|
SMF © 2013
,
Simple Machines
| Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.131 seconds with 20 queries.
Loading...