User Info
Welcome,
Guest
. Please
login
or
register
.
23 December 2024, 12:49:30
1 Hour
1 Day
1 Week
1 Month
Forever
Login with username, password and session length
Search:
Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ
http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,625
Posts in
12,930
Topics by
70
Members
Latest Member:
KAN
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
|
ภาพประทับใจ
|
ผนังเก่าเล่าเรื่อง
(Moderator:
ผนังเก่าเล่าเรื่อง
) |
[22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน
0 Members and 1 Guest are viewing this topic.
« previous
next »
Pages:
[
1
]
Author
Topic: [22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน (Read 572 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,461
[22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน
«
on:
06 April 2023, 09:20:12 »
[22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน
6 เมษายน 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน หนุมานเผากรุงลงกา (1)
-หนุมานถล่มทัพสหัสกุมาร
เมื่อหนุมานลานางสีดาออกมาข้างนอกแล้ว ถ้าจะกลับไปเฉยๆ ก็ไม่ใช่หนุมานสิฮะ...ก็อยากจะรู้ว่า ยักษาเมืองนี้ มีกำลังรี้พลเพียงไหน เก่งกล้าสามารถเพียงใด จะได้รู้ กำลังของข้าศึก เข้าทำนองที่ว่า...รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง...ต้องลุยลงกา ฝากรอยแค้นไว้สักรอบ...
ซึ่งอารมณ์หนุมานก็ยังค้างคาอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว มันค้างมาตั้งแต่เห็นทศกัณฐ์ทำท่าเจ๊าะแจ๊ะนางสีดาแล้ว อยากจะเข้าไปอัดสักดอก แต่ก็ทำไม่ได้...ว่าแล้วหนุมานก็หันไประบายเอากับต้นหมากรากไม้ในสวนอุทยานของทศกัณฐ์ ทำลายเสียจนเละตุ้มเป๊ะ...(หนุมานกับทศกัณฐ์เนี่ยนะ-ผู้ชาย...ส.ด.-นิสัยถาวร-ช่างเหมือนกันจริ๊งงง...พอไม่ได้อะไรดังใจ ก็โมโหหงุดหงิด ขว้างปา ทำลายข้าวของ หรือไม่ก็โยนความผิดไปให้คนอื่นรับบาปแทน...อย่าทำอย่างนี้นะไอ้ชูวีท ชาวบ้านเขาจะเดือดร้อน...)
วันนี้จะลองฤทธิ์ดู ให้รู้กำลังยักษา
สังหารผลาญเสียให้เปลืองตา สงครามภายหน้าจะเบาใจ
คิดแล้วสำแดงแผลงฤทธิ์ ทศทิศกัมปนาทหวาดไหว
โลดโผนโจนจ้วงทะลวงไป เที่ยวหักต้นไม้เป็นโกลี
บรรดายักษ์ รปภ. ก็แตกตื่น...เฮ้ย ลิงบ้ามาเว้ย...พวกเราลุย...แต่จะไปสู้อะไรกับทหารเอกระดับหนุมานล่ะฮะ...ก็ตายกันเกลื่อน...ต้องแจ้นไปฟ้องนายที่เฝ้าสวน...
นายที่เฝ้าสวนนั้น...คือ สหัสกุมาร 1000 ตน...ซึ่งเป็นบุตรทศกัณฐ์กับนางสนม...ลูกยักษ์ทั้งพันตนนี้สามารถรวมร่างกันได้ จึงเรียกว่าสหัสกุมาร มีความสามารถแผลงศร ดอกเดียว ให้แตกออกเป็น 1,000 ดอกได้...
เมื่ออาบน้ำอาบท่าเสร็จ ก็เยื้องย่างขึ้น...ลัมโบกีนี่ มาเซอราติ เฟอรารี่...มาหรูๆกันทั้งนั้น...ยกทัพมาสู้กับลิงตัวเดียว...(ไปยึดรถหรู มาจาก ผกก.โจ้ อะป่าวว...)
สหัสกุมารยกทัพไปถึงสวนขวัญ เห็นลิงเผือกกำลังละเลงเล่นสวนอุทยานเสียเละไม่มีชิ้นดี ก็แผลงศรออกไปทีเดียว แล้วกลายเป็นศรออกมานับพันเล่ม หนุมานรวบศรไว้ได้ทั้งหมดแล้วหักทิ้ง แล้วต่างก็พากันกรูเข้าไปล้อมเพื่อจะจับลิงมาสั่งสอนซะหน่อย...แต่สหัสกุมารทั้ง 1000 เกิดมาทั้งที ชื่อแต่ละตัวก็ไม่มี บอกยี่ห้อชัดๆว่าเป็นตัวประกอบ ดังนั้นไม่ว่าจะมีกี่ร้อยกี่พันตัวโผล่มา ก็ไม่ครณามือหนุมาน...
ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง สหัสกุมารครบทั้ง 1000 ก็ถูกหนุมานทุบเละ สภาพไม่ต่างจากสวนอุทยานสักเท่าไหร่...น่าสงสารจริงๆ ตายไปแล้ว คนดูก็ยังไม่รู้ว่า...แต่ละตัวมีชื่อเสียงเรียงนามว่ากะไร...
จนต้องถึงคิวลูกคนโต ลูกรักของทศกัณฐ์ต้องออกโรงเอง...อินทรชิต...นั่นไง!
.
สหัสกุมาร ยักษ์หนึ่งพันตน
.
หนุมานรบสหัสกุมาร ยักษ์หนึ่งพันตน
.
.
.
«
Last Edit: 10 April 2024, 16:05:13 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,461
Re: [22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน
«
Reply #1 on:
07 April 2023, 09:31:44 »
7 เมษายน 2022 ·
วันนี้ นำร่องด้วยภาพ การแต่งกายของตัวเอก จากโขนเรื่องรามเกียรติ์
การแต่งกายยืนเครื่อง...ตัวพระ ตัวนาง ตัวยักษ์ ตัวลิง
.
.
.
.
.
«
Last Edit: 10 April 2024, 16:06:43 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,461
Re: [22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน
«
Reply #2 on:
07 April 2023, 09:32:42 »
7 เมษายน 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน หนุมานเผากรุงลงกา (2)
-อินทรชิตยกทัพปราบหนุมาน
เรื่องที่หนุมานทุบสหัสกุมาร ลูกๆทศกัณฐ์ทั้ง 1000 ตนตายเรียบนั้น ใช้เวลาไม่นานก็ไปถึงหูทศกัณฐ์...ทศกัณฐ์ได้ยินแล้วก็ทรงพระเวรี่กริ้ว ลุกขึ้นจากพระแท่นแก้ว กระทืบบาทตวาดก้องว่า...ใครมันกล้ามาแหยมก๊ะกรู ถึงลงกาเลยวะเนี่ย?...
...ว่าแล้วก็สั่งให้ อินทรชิต บุตรชายคนโต ออกไปจัดการ...หากว่าจับเป็นได้ก็ให้จับมา อยากดูน้ำหน้าไอ้ลิงโอหัง ตัวนี้นัก!
อินทรชิต...นี่ก็ยักษ์ไม่ธรรมดานะครับ จัดได้ว่าเป็นยอดฝีมืออันดับต้นๆของลงกาเลยทีเดียว และชื่อ อินทรชิต ที่แปลว่า ผู้พิชิตพระอินทร์ ก็ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย...แต่ฝีมือ ล้วนๆ...
.....
...แทรก...
อินทรชิตนั้น เดิมชื่อว่า รณพักตร์ เป็นลูกชายคนโตสุดสวาทขาดดิ้นของทศกัณฐ์และนางมณโฑ ถ้าจะนับกันแล้ว ก็เป็นพี่ชายแท้ๆของนางสีดา (ถ้ายังจำกันได้นะครับ นางสีดาเกิดมาในครรภ์นางมณโฑ หลังจากนางยักษ์กากนาสูรแปลงร่างเป็นอีกาไปขโมยข้าวเสกของฤๅษีกไลโกฏ เอามาให้นางมณโฑกิน)
รณพักตร์นั้นเป็นศิษย์สำนักฤๅษีโคบุตร ก็อาจารย์คนเดียวกับของทศกัณฐ์นั่นแหละครับ แต่รณพักตร์ฉลาดปราดเปรื่องกว่าทศกัณฐ์ที่มีสิบหัวซะอีก สรรพวิชา การต่อสู้ต่างๆ รณพักตร์ สามารถเรียนรู้จนช่ำชองได้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวกระเปี๊ยก
แค่วัยเด็ก รณพักตร์ ก็มีฝีมือฉกาจฉกรรจ์ เหนือยักษ์ทั่วๆไปแล้ว
และด้วยความที่เกิดเป็นลูกคนเดียว พ่อรักดังดวงใจ อยากจะได้อะไรพ่อคอยตามใจ ตามใจ ตามมมใจ...รณพักตร์ก็ดำเนินชีวิตแบบ พ่อกูใหญ่ เบ่งคับพิภพ นอกจากนิสัยขี้โอ่ ขี้เบ่งแล้ว รณพักตร์ยังมีนิสัยโหด วิปริต ผิดมนุษย์มนา (ก็เค้าเป็นยักษ์นี่ครับ) คู่ต่อสู้ของรณพักตร์ ถ้าถูกจับตัวได้ ก็มักจะขอให้รีบๆฆ่าให้ตายดีกว่า จะได้ไม่ต้องทรมาน
พอโตเข้าสู่วัยหนุ่ม รณพักตร์ ก็สำเร็จสุดยอดวิชาบูชาไฟ...(ตามหลักศาสนาฮินดูโบราณ เค้าจะใช้การบูชาไฟในการบวงสรวงพระผู้เป็นเจ้าครับ)
และรณพักตร์ก็ใช้เวลาหลายปีในการบำเพ็ญเพียรบูชาไฟ จนกระทั่งเทพตรีมูรติทั้งสามยังรู้สึกร้อนรุ่มจนต้องลงมาปรากฏกายต่อหน้ารณพักตร์
เทพตรีมูรติทั้งสามได้แก่ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม เทพทั้งสามได้ประทานอาวุธเทพให้กับรณพักตร์ด้วย เพื่อเป็นของกำนัลในการที่อุตส่าห์บำเพ็ญเพียรบูชาไฟอยู่หลายปี
อาวุธเทพที่ว่าก็คือ....(คราวนี้ นักก่อปัญหาทั้งหลาย ยกขบวนกันมาทั้ง 3 พระองค์เลยทีเดียว)
พระอิศวรประทาน ศรพรหมมาสตร์ (แบบเดียวกับที่พระรามมีเด๊ะ...)
พระนารายณ์ประทาน ศรวิษณุปานัม ศรนี้ทำลายจักรเพชรของพระอินทร์ได้สบายๆ
พระพรหมประทาน ศรนาคบาศ ศรที่อินทรชิตใช้บ่อยที่สุด เป็นศรที่แผลงออกไปปุ๊บ จะกลายเป็นพญานาคมัดตัวคู่ต่อสู้แบบดึงยังไงก็ไม่ออก
นอกจากนั้น พระพรหม ยังประทานพร ให้อินทรชิตถ้าถูกตัดคอและหัวตกถึงพื้น พิภพจะกลายเป็นไฟบรรลัยกัลป์ (ไม่รู้จะอวยพรแบบนี้ทำไม??)
เมื่ออินทรชิตได้อาวุธเทพทั้งสามมา ผนวกกับบรรลุสุดยอดสรรพวิชากับอาจารย์ฤๅษีโคบุตรแล้ว ก็ออกรบร่วมกับทศกัณฐ์ ในสงครามกับพระอินทร์ ซึ่งผลสุดท้าย พระอินทร์ แพ้เละเทะ จนเป็นที่มาของชื่อ อินทรชิต
ฉะนั้น ถ้าจะวัดกันจริงๆ เฉพาะในกรุงลงกา อินทรชิต น่าจะมีฝีมือสูสีกับทศกัณฐ์และกุมภกรรณเลยทีเดียว
...แทรก...
อินทรชิตยกทัพออกไปที่สวนอุทยาน เพื่อตามจับหนุมานมาลงโทษ...
ตรงนี้ จะขอแทรกกลอนบรรยายถึงกองทัพของอินทรชิตไว้ให้อ่านนิดนึง...แล้วลองจินตนาการว่า...ขนาดแค่กองทัพไปจับลิงตัวเดียว ยังต้องยิ่งใหญ่ถึงขนาดนี้...
เกณฑ์กระบวนทัพเบญจเสนี ขี่แรดเสือสีห์เป็นกองหน้า
ถือหลาวง้าวหอกปืนยา เริงร่าสามหาวห้าวฮึก
ปีกป้องกองขันล้วนตัวหาญ ทะยานขึ้นขี่สิงห์กระทิงถึก
แกว่งคทาขบฟันครั่นครึก เคยโถมโจมศึกชั้นอินทร์
ยุกกระบัตรเกียกกายกองหลัง ถือทวนดาบดั่งธนูศิลป์
ขี่อูฐขี่ม้านาคินทร์ ขี่นกหัสดินกุญชร
กองหลวงถือสรรพสาตรา ขี่ละมั่งโคลากาสร
พร้อมทั้งรถทรงอลงกรณ์ ซับซ้อนคอยเสด็จอสุรี
แต่ถึงจะยกทัพหน้าตาประหลาดๆขนาดนี้มา...หนุมานนี่ ก็ไม่กลัวอินทรชิต เล้ยย...
.
อินทรชิต
.
๏ อินทรชิตบิดเบือนกายิน_________เหมือนองค์อมรินทร์
ทรงคชเอราวัณ
.
อินทรชิตยกทัพ...ตัดหัวสีดา(แปลง)
.
................เพิ่มเติม..............
อินทรชิต ยักษ์ผู้พิชิตพระอินทร์
.
.
.
.
ศึกอินทรชิต ตอน พรหมาศ
อินทรชิตแปลงกายเป็นพระอินทร์พร้อมไพร่พลบริวาร แปลงเป็นขบวนเสด็จของเหล่าเทพบุตรนางฟ้า ประทับบนช้างเอราวัณ เสด็จมาถึงสนามรบ
.
.
.
...
อินทรชิตขอดื่มนมจากนางมณโฑพระมารดา ก่อนออกรบครั้งสุดท้าย
...
รูปปั้น "#อินทรชิตดูดนมนางมณโฑ"
( อินทรชิต เดิมมีชื่อว่า รณพักตร์ )
ประติมากรรม บน ถนนสายปูนปั้น แห่งเดียวและแห่งแรกของประเทศ โดยโครงการ ถนนคนเดิน ราชดำเนินยามเย็น จ.เพชรบุรี
หญิงในภาพด้านบน คือ นางมณโฑ และ ยักษ์ในภาพ คือ อินทรชิต ( เดิมมีชื่อว่า รณฤทธิ์) เป็นลูกของทศกัณฐ์ กับนางมณโฑ
นางมณโฑ เธอได้รับพรจากพระอุมา ให้มีน้ำนม ที่สามารถรักษาพิษได้ทุกชนิด แม้แต่เทพศาสตรา ...
ในศึกหนึ่ง อินทรชิต ต้องศรพรหมมาศของพระราม จนบาดเจ็บ ดึงลูกศรออกก็ไม่ได้ และถ้าข้ามวันก็จะตาย อินทรชิตจึงไปขอดื่มนมนางมณโฑ เพื่อถอนพิษศรพรหมมาศ และดึงลูกศรออก
.
อินทรชิตดูดนมนางมณโฑ
เมื่ออินทรชิต ต้องศรพรหมมาศของพระลักษณ์ ในการทำศึกครั้งหนึ่ง
อินทรชิตไม่สามารถดึงลูกศรออกได้ได้รับบาดเจ็บอย่างมาก และหากข้ามคืนไปก็จะตาย
อินทรชิตจึงไปขอดูดนมนางมณโฑ ผู้เป็นแม่ เนื่องจากนางมณโฑเคยได้รับพรจากพระแม่อุมา ให้น้ำนมข้างขวามีอานุภาพเยียวยารักษาแผลได้
.
ศิลปะงานปูนปั้นอิโรติกที่คลองบัวเมืองเพ็ชร์บุรี
#อินทรชิตดูดนมนางมณโฑ
ตอนนี้ดูให้ดีๆจะรู้ว่านมของแม่นั้นมีคุณค่าต่อลูกนั้นมากมาย
เรื่องราวของ รามเกียรติ์หญิงผู้นั้นคือ นางมณโฑผู้ได้รับพรจากพระแม่อุมามเหสีของพระอิศวร ให้มีน้ำนมรักษาพิษได้ทุกชนิด แม้แต่เทพศาสตรา
ยักษในภาพ เดิมมีชื่อว่า รณพักตร์เป็นลูกของทศกัณฐ์ กับนางมณโฑ รณพักตร์เก่งกล้าสามารถ จนรบชนะพระอินทร์ ทศกัณฑ์จึงสถาปนานามเป็น "อินทรชิต" เป็นวงศ์ยักษ์ตนสุดท้ายที่อาสาออกรบ เพราะเป็นลูกชายของทศกัณฑ์
ในศึกครั้งหนึ่ง ... อินทรชิตต้องศรพรหมมาศของพระราม จะดึงลูกศรออกก็ไม่ได้ และถ้าข้ามวันก็จะตาย
อินทรชิตจึงไปขอดื่มนมนางมณโฑ เพื่อถอนพิษศรพรหมมาศ และดึงลูกศรออก
«
Last Edit: 10 April 2024, 20:09:39 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,461
Re: [22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน
«
Reply #3 on:
07 April 2023, 09:34:20 »
7 เมษายน 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน หนุมานเผากรุงลงกา (3)
-อินทรชิตจับกุมหนุมาน
เมื่ออินทรชิตเจอะหนุมานกำลังยืนอยู่บนซากศพสหัสกุมารทั้ง 1000 เห็นดังนั้นแล้ว อินทรชิต ก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ที่เห็นไอ้ลิงบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ มาฆ่าน้องๆตัวเองตายเกลี้ยง
อินทรชิตเห็นดังนั้นก็สั่งให้บรรดาไพร่พล รีบยกขบวนกันเข้าไปจัดการลิงเผือกโดยพลัน...บรรดาตัวประกอบทั้งหลาย แห่กรูกันเข้าไปเท่าไหร่ ก็โดนซัดกลับออกมาเท่านั้น
อินทรชิตเห็นดังนั้นจึงคว้าศรออกมายิงใส่ แต่ศรที่ใช้นั้น ไม่ใช่ศรเทพประทานนะครับ ด้วยความที่อินทรชิตยังดูถูกดูแคลนว่า...หนุมานเป็นแค่ลิง ยังไม่คู่ควรกับอาวุธเทพ...แต่อินทรชิตก็คิดผิดเพราะ ศรที่แผลงออกไปเป็นพันๆเล่ม กลับทำอะไรหนุมานไม่ได้เลย...
ขณะที่หนุมานพอตั้งหลักได้แล้ว ก็กระโจนเข้าใส่รถศึก ถีบอินทรชิตจนตกจากรถ เมื่ออินทรชิตเห็นการณ์เป็นเช่นนี้...สู้ไปก็เปลืองไพร่พล เปล่าเปล่าปรี้ปรี้...จึงตัดสินใจคว้าเอา ศรนาคบาศ ออกมาแผลง ด้วยตระหนักแล้วว่า ไอ้ลิงตัวนี้ มันต้องไม่ใช่ลิงธรรมดาแน่ๆ ครั้นจะใช้ศรพรหมมาสตร์หรือวิษณุปาณัม ก็เดี๋ยวจะฆ่ามันตายไปซะก่อน ใช้ศรนาคบาศแปลงเป็นพญานาคไปรัดตัวมันเนี่ยแหละ จะได้จับเอามาเค้นสอบได้ว่า มันเป็นใครมาจากไหน?
คิดแล้วแผลงศรนาคบาศ อันมีอำนาจแผ่นดินไหว
พาดสายน้าวหน่วงด้วยว่องไว ผาดแผลงไปด้วยกำลังฤทธิ์
กลับเป็นภุชงค์ตัวหาญ เลื้อยเลิกพังพานอักนิษฐ์
ตาแดงดั่งแสงพระอาทิตย์ พ่นพิษเข้าไล่ราวี
เกี่ยวกระหวัดรัดรอบกัณฐา กรก่ายบาทากระบี่ศรี
พันพัวทั่วทั้งอินทรีย์ ด้วยกำลังนาคีชาญฉกรรจ์
ฝ่ายหนุมานเมื่อศรนาคบาศกลายเป็นพญานาคมาพันกาย จึงลองสะบัดดู นาคบาศนั้นก็คลายออก จึงรู้ว่าหากตนสะบัดแรงๆ นาคก็จะขาดได้โดยง่าย แต่..อยากรู้นักเออ...ว่ายักษ์พวกกะนี้จะทำเช่นไร หากจับตัวเองได้...
คิดแล้วแกล้งล้มนอนนิ่ง จะไหวติงกายาก็หาไม่
นิ่วหน้าหลับตาหายใจ ดั่งชีวาลัยจะมรณา
อินทรชิตเห็นหนุมานแน่นิ่งไปดังนั้น ก็ดีใจ สั่งให้ทหารไปกุมตัวหนุมาน เอาไปเข้าเฝ้าทศกัณฐ์เพื่อตัดสินคดีความ...
ทศกัณฐ์เห็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนจับลิงเผือกจอมโอหังมาได้ ก็ดีใจเข้าสวมกอด ชื่นชมความเก่งกล้าของอินทรชิตว่า...มิเสียทีที่เป็นลูกพ่อ ผู้ควรสืบสุริยวงศ์พงศ์ยักษ์ของเมืองลงกาต่อไป...
แต่ทศกัณฐ์ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า ไอ้ลิงเผือกตัวนี้ มันมีดีอะไรถึงได้ฆ่าสหัสกุมารทั้ง 1000 ตายเกลี้ยง ถามที่มาที่ไป มันก็ไม่ยอมบอกว่ามาจากไหน ทศกัณฐ์เห็นแล้วว่า ไอ้ลิงนี่ มันแสบเกินจะไว้ชีวิตได้ ก็เลยสั่งให้เพชฌฆาตเอาไปประหารเสียให้พ้นๆลูกตา...
เพชฌฆาตจึงนำตัวหนุมานไปสำเร็จโทษ...แต่ทว่า..ทำอย่างไรหนุมานก็ไม่ตาย...กลับกระชากนาคบาศขาดกระเด็น
ครั้นถึงจึงช่วยกันผูกมัด รึงรัดกรกายกระบี่ศรี
แทงด้วยแหลนหลาวทวนตรี บ้างตีด้วยกระบองเท่าลำตาล
บ้างเอาค้อนเหล็กรุมรัน บ้างหมู่ก็ฟันด้วยขวาน
บ้างเอาพะเนินค้อนรอนราญ บ้างประหารด้วยง้าววุ่นไป
นอกจากหนุมานจะไม่ตายแล้ว ยังอาละวาดโจมตีพวกยักษ์อุตลุต เมื่อกลุ้มรุมจับหนุมานมัดไว้ได้
ครั้นแล้วจึ่งนายราชมัล ว่าแก่กุมภัณฑ์น้อยใหญ่
อันไอ้ลิงป่าจังไร แทงฟันมันไม่วายปราณ
เอ็งจงชวนกันไปยก ครกเหล็กสากเหล็กมาสังหาร
ตำให้เป็นภัสม์ธุลีกาล ไอ้สาธารณ์ก็จะม้วยชีวี
ครั้นแล้ว..เสนายักษ์ก็ไปยกครกเหล็กสากเหล็กใบมหึมา หมายจะมาตำหนุมานให้ป่นเป็นผง จับหนุมานยัดลงครกเหล็กแล้ว เสนายักษ์ก็ผลัดกันตำร่างหนุมานอย่างสุดแรง แต่ก็หาทำอันตรายแก่วานรเผือกได้แม้ปลายขน เหล่าเสนายักษ์สุดปัญญาจะสังหารหนุมานได้ จึงไปกราบทูลทศกัณฐ์...
ทศกัณฐ์ได้ฟัง ดังเอาไฟมาจี้ ก็โมโหโกรธา ออกลูกหงุดหงิด ฟึดฟัดๆ สิบปากจึงตวาดกึกก้องทั่วเมือง...อะไรกัน แค่ลิงตัวเดียว ทำไมฆ่ามันไม่ตายหรือไงกันวะ??? แหม๊..ไอ้ลิงจังไร...ฆ่ายากฆ่าเย็นแท้ๆ...ว่าแล้วก็สั่งให้ควาญช้างไปลากเอาช้างบรรลัยจักรวาล ช้างยักษ์ที่กำลังตกมันอยู่ ไสเข้าไปขวิดหนุมานให้มันตายคาที่ไปเลย...
ช้างยักษ์กำลังตกมันได้ที่ วิ่งกระโจนเข้าใส่หนุมานอย่างสุดกำลัง ยังดีที่หนุมานหลบทัน ไม่งั้นงาช้างได้ทะลุร่างเป็นรูโบ๋แน่...
การจะกำราบช้างยักษ์ให้ได้ ต้องกำราบไอ้คนบังคับช้างก่อน ว่าแล้วหนุมานก็กระโดดไปบนคอช้าง ทุบหัวควาญช้างซะเละ ก่อนจะควบคุมช้างซะเอง...จากนั้นก็บังคับช้างให้มันวิ่งไปจนเหนื่อย เมื่อหนุมานได้ที ก็ใส่ท่า Neck Breaker หักคอช้าง ขว้างลงกับพื้น สิ้นชีวิตตายทันที...เด๊ด สะมอเร่...ไปซะงั้น!
หนุมานมองไปโดยรอบ ดูผลงานที่ตัวเองก่อวีรเวรไว้ แล้วก็หัวเราะฮึๆๆ..
...ก่อนจะกลับไปหาพระราม หาอะไรทำเล่นสนุกๆดีกว่า ทศกัณฐ์มันอยากให้เราตาย เราต้องแกล้งให้มันอกแตกตายมั่งดีกว่า...หนุมานคิดแผนในใจได้แล้วแผนนึง....พร้อมกับบอกตัวเองว่า...
...เผาไปเลยครับพี่น้อง!!! ผมรับผิดชอบเอง...(ซาวน์ทองแดงแปร่งๆอย่างนี้ คุ้นๆหูเนอะ) !!!
.....
แฮร่...ไม่ใช่ตุ๊ดตู่ แอบซ่อนในรูเร้น...ไม่ใช่เต้นตาขาว นั่งจิบโกปี้...ไม่ใช่กี้ร์ อมฮอลล์ แล้วเปิดตูดหนี...รวมทั้งไม่ใช่โหวงเหวง มะโรงมะเส็ง...นะเจ้าค๊ะะะ...
(ตอนต่อไป...หนุมานเผากรุงลงกา ซะที...)
.
อินทรชิตจับหนุมาน
.
หนุมานถูกจับตัว เอาไปตำในครกยักษ์
.
หนุมานหักคอช้างบรรลัยจักรวาล
.
หนุมานรบกับอินทรชิต
.
หนุมานถูกรุมจับตัว
.
หนุมานสู้ถวายชีวิต
.
«
Last Edit: 10 April 2024, 20:20:14 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,461
Re: [22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน
«
Reply #4 on:
08 April 2023, 09:20:45 »
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ตรีมูรติ โดย กลม บางบาน (เพิ่มเติม)
8 เมษายน 2022 ·
ตรีมูรติ (Trimurati)
วันนี้ นำเสนอเรื่อง ตรีมูรติ อภิมหาเทพของฮินดู เป็นต้นเค้าของวรรณคดีประเภทกลอนเรื่องรามเกียรติ์(ไทย) ซึ่งมาจากมหากาพย์เรื่องรามายณะ(อินเดีย)
ตรีมูรติ (อังกฤษ: Trimurati, Trinity; สันสกฤต: त्रिमूर्ति ) คือเทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู มีสามองค์ได้แก่ พระพรหม (พระผู้สร้าง) พระวิษณุหรือพระนารายณ์ (พระผู้รักษา) และ พระศิวะหรือพระอิศวร (พระผู้ทำลาย)
คำว่า ตรีมูรติ มาจากภาษาสันสกฤต ตรี หมายถึง สาม มูรติ หมายถึง รูปแบบ ตรีมูรติ หมายถึง รูปแบบทั้งสามหรือรูปแบบของพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามพระองค์ อันประกอบไปด้วย พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ เป็นหลักสำคัญในศาสนาฮินดู หากมองตามหลักปรัชญา สามารถหมายถึง พระผู้สร้าง พระผู้รักษา และพระผู้ทำลาย หรือสามารถเปรียบได้กับหลักธรรมที่ว่า เกิดขึ้น คงอยู่ และ ดับไป
ตามหลักความเชื่อขั้นสูงสุดของชาวฮินดูถือว่า เทพเจ้าสุงสุดมีเพียงหนึ่งเดียว แต่เมื่อมีหน้าที่ จึงแบ่งภาคปรากฏออกเป็นสามภาคคือ การสร้างโลก (พระพรหม) การรักษาโลก (พระวิษณุ) และการทำลายโลก (พระศิวะ)
.
ตามหลักความเชื่อขั้นสูงสุดของชาวฮินดูถือว่า เทพเจ้าสุงสุดมีเพียงหนึ่งเดียว แต่เมื่อมีหน้าที่ จึงแบ่งภาคปรากฏออกเป็นสามภาคคือ พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ
.
.
.
.
«
Last Edit: 10 April 2024, 20:24:07 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,461
Re: [22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน
«
Reply #5 on:
08 April 2023, 09:21:43 »
8 เมษายน 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน หนุมานเผากรุงลงกา (4)
-หนุมานเผากรุงลงกา
หลังจากหนุมานก่อวีรเวร อาละวาดไปทั่วลงกา ทีแรกก็นึกจะเหาะกลับไปในทันที แต่คิดไปคิดมา เล่นอะไรแผลงๆที่ลงกา แกล้งทศกัณฐ์มันหน่อยคงจะดี...
ว่าแล้วก็เดินอาดๆ เข้าไปในวังของทศกัณฐ์ เหล่าเสนายักษ์เห็นดังนั้นจึงรีบแจ้งทศกัณฐ์ให้เตรียมรับมือ ทศกัณฐ์เลยเรียกทั้งอินทรชิต กุมภกรรณ และพิเภก เข้ามาในวัง...
ทศกัณฐ์กำลังอยู่ในโหมดกริ้วสุดๆ เพราะไอ้ลิงบ้านี่อาละวาดเสียจนกรุงลงกาวุ่นวายไปหมด แถมฆ่าด้วยอาวุธยังไงมันก็ไม่ตาย เลยกะจะตบสั่งสอนไอ้ลิงเผือกนี้ให้รู้แล้วรู้รอด แต่พิเภกก็เตือนสติไว้ก่อนว่า...ลิงตัวนี้สงสัยมันจะไม่ธรรมดา ยังไงก็อย่าไปตอแยกับมันมาก...
ครั้นทศกัณฐ์พญายักษ์ได้เห็นหน้าหนุมาน ก็คิดว่า...ลิงตัวนี้เก่งกล้าสามารถนัก เห็นทีจำต้องเลี้ยงไว้เป็นทหาร จึงแกล้งกล่าววาจาถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า...
...ดูก่อนเจ้าลิงไพร ความผิดของเอ็งนี้มีมากมายนัก โทษถึงสิ้นชีวิต แต่ข้าเห็นหน้าเอ็งเข้า ก็สงสาร นึกเอ็นดู คิดจะเลี้ยงเอาไว้และจะช่วยอุปถัมภ์ เอ็งจะเอาหรือไม่?...
หนุมานได้ฟังก็หัวเราะร่า พูดจาหลอกด่าทศกัณฐ์ไปอีกหลายคำ...
...No! โนเวย์สเตชั่น...ดิ อิมพอสสิเบิ้ล...OK?...หนุมานพูดยั่วเย้า พร้อมยักคิ้วหลิ่วตาหลอกทศกัณฐ์
ตอนนั้นทศกัณฐ์เองก็ฟิวส์ขาด ฉุนปรู๊ดขึ้นหน้า ไม่อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะปรองดองอะไรอีกต่อไปแล้ว ทั้งโกรธทั้งอาย อยากจะกระโดดเข้าไปขย้ำเจ้าลิงเผือกเสียในบัดดล แต่ไม่รู้จะฆ่ามันอย่างไร
จึงขู่หนุมานว่า...ข้าจะทรมานเอ็งแบบโหดๆ แต่ไม่ให้ตายหร็อก ทรมานไปทุกวันๆ จนหนำใจ...แต่หนุมานก็พูดเบรกไว้ก่อนว่า...ตัวเองโดนทุบตี ฟันแทงร่างกายยัยย่อยสุดทรมาน เห็นจะอยู่ได้ไม่นาน จงเร่งฆ่าเสียให้พ้นทรมานเถิด...แล้วจึงออกอุบายว่าให้เผาตนเองถึงจะตาย...
...ช้าก่อน เจ้ายักษ์ ลำพังอาวุธทั่วไปมันทำอะไรข้าไม่ได้หร๊อก อย่างเอ็งจะมาทำอะไรข้าได้ ถ้าจะเล่นข้าให้ตายหน่ะ มีแต่ใช้ไฟเผาข้าเท่านั้นแหละเว้ยย...
บัดนั้น คำแหงหนุมานทหารใหญ่
ได้ฟังอสุรีก็ดีใจ แกล้งกล่าวใส่ไคล้ด้วยมารยา
ซึ่งจะฆ่าข้าด้วยอาวุธ ไหนจะสิ้นสุดสังขาร์
จงให้เอานุ่นสำลีมา กับผ้าชุบน้ำมันยาง
แล้วจึงเอาพันเข้าทั้งตัว ตลอดแต่หัวไปจนหาง
ชั้นนอกนั้นให้เอาฟาง ทำต่างเชือกรัดผูกพัน
แล้วจึ่งเอาไฟจุดข้า เผาให้สิ้นชีพอาสัญ
เลือดเนื้อก็จะสูญไปด้วยกัน ไม่ทันทนทุกข์เวทนา
ทศกัณฐ์ได้ยินดังนั้น ก็ไม่ได้เอะใจ ที่อยู่ดีๆ หนุมานจะบอกจุดอ่อนให้ฟังทำไม ก็ตอนนั้นอารมณ์โกรธมันพุ่งไปแล้ว พอได้ยินว่าสามารถฆ่าไอ้ลิงเผือกให้ตายได้ด้วยไฟ จึงให้อินทรชิต และบรรดาทหารให้ช่วยกันจับหนุมานเอามาพันด้วยผ้าชุบน้ำมัน...หนุมานก็รู้แกวอยู่แล้ว เลยทำเนียน ขัดขืนพอประมาณและก็ยอมให้จับแต่โดยดี...
ทศกัณฐ์เห็นหนุมานโดนจับโดยละม่อม มีผ้าชุบน้ำมันพันรอบกาย ก็คำรามสนั่น หัวเราะออกมาอย่างดัง แล้วพูดจาถากถางเจ้าลิงจ๋อว่า...
...ปัดติโธ่ ไอ้ลิงเผือก ไหนว่ามึงแน่นักแน่หนา แค่นี้ก็โดนจับได้ ถุย!.. ต่อไปก็ถึงคราวข้าบ้าง จะปิ้งลิงจ๋อกินแล้วว้อยย...ไอ้เจี๊ยก...
ว่าแล้วก็เสกหอกแก้วสุรกานต์ ให้เกิดประกายไฟ แล้วจุดเข้าที่ตัวหนุมานตลอดจนถึงหาง ไฟก็ลุกคลอกหนุมานจนท่วมตัว (ไฟที่เกิดจากหอกนี้ ดับไม่ได้ หรือได้ยาก ยากมาก จนถึงยากที่สุด)
หนุมานนั้นเป็นลิงดราม่าครับ พอไฟเริ่มคลอกตัวเอง ก็ทำฟอร์มว่าทนทุกข์ทรมานอย่างหนัก สะดีดสะดิ้ง วิ่งหนีออกจากท้องพระโรง ทศกัณฐ์เห็นไฟลุกท่วมตัวขนาดนั้น มันคงวิ่งหนีไปได้ไม่ไกลหร๊อก...
ที่ไหนได้...หนุมาน นั้นทนไฟได้ มันทำฟอร์มร้องโหยหวนทรมานไปอย่างนั้นแหละ แต่ตัวเองวิ่งว่อนไปทั่ววังทศกัณฐ์ สนุกสนานราวกับเป็นนักกีฬาโอลิมปิก ฟรีรันนิ่ง...ไฟจากตัวหนุมานก็ลามไปติดห้องนู้นห้องนี้ จนไฟไหม้ไปทั่วทั้งพระราชวัง เท่านั้นไม่พอ หนุมานยังพาไฟทัวร์ไปทั่วทั้งลงกา...ปราสาทราชฐาน บ้านเรือน สนุกเขาหละ...หนุมานไปไหน ไฟก็ไหม้ถึงนั่น...จนโกลาหลไปทั้งเมือง กรุงลงกาก็แดงฉานไปด้วยเพลิง ไฟลุกโหมจนราบเป็นหน้ากลอง คือทั้งลงกาไม่มีอะไรเหลือหลอ...
ทศกัณฐ์รู้ตัวว่าเสียทีแก่หนุมานเสียแล้ว เดือดแค้นเป็นหนักหนา...หนุมานก็ฆ่าไม่ตาย ส่วนไฟจากหอกแก้วสุรกานต์นั้น ก็เป็นไฟที่ไม่มีวันมอด ทหารยักษ์ทำอย่างไรก็ไม่อาจดับได้...
ทศกัณฐ์มองเห็นกรุงลงกาตกอยู่ในเปลวเพลิง ก็เพิ่งจะคิดได้ในใจว่า...ไอ้ลิงบัดซบ เล่นกรูอีกแล้วสิเนี่ย!!???...
.
หนุมานเผากรุงลงกา
.
ทศกัณฐ์เสกหอกแก้วสุรกานต์ ให้เกิดประกายไฟ แล้วจุดเข้าที่ตัวหนุมานตลอดจนถึงหาง ไฟก็ลุกคลอกหนุมานจนท่วมตัว
.
หนุมานเผากรุงลงกา
หนุมานนักกรีฑาฟรีสไตล์ ทั้งวิ่ง ทั้งเหาะ เอาไฟที่ลุกท่วมตัว ไปฝากที่โน่น ที่นี่ จนทั่วเมืองลงกา ไฟไหม้วอดวาย...
.
«
Last Edit: 10 April 2024, 20:28:39 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,461
Re: [22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน
«
Reply #6 on:
08 April 2023, 09:35:46 »
8 เมษายน 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน หนุมานเผากรุงลงกา (5)
-ทศกัณฐ์อพยพหนีเพลิง
ด้วยวีรเวรของหนุมาน หลังจากพาตัวเองวิ่งว่อนไปทั่วลงกา ตอนนี้เมืองลงกาก็โดนเผาไปสมใจอยาก ทั้งเซนทรัลเวิรลด์ เอ๊ย! พระราชวัง ปราสาท ราชฐาน วอดวายบรรลัยสิ้น... (เผาเลยครับพี่น้อง..ผมรับผิดชอบเอง)
ทศกัณฐ์เห็นดังนั้น ก็รีบป่าวประกาศบอกบรรดาภรรเมียและนางสนม ญาติสนิทมิตรสหาย ให้รีบอพยพออกจากลงกาโดยด่วนครับพี่น้อง!!!
ทศกัณฐ์หันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่ง ก็เข้าไปกระเตงเมียหลวงนางมณโฑ และเมียรองนางกาลอัคคี เข้ามาไว้ในอ้อมแขน พาหนีไฟออกจากวัง...แหกปากคำรามลั่นว่า...เผ่นโว้ย!!!...
แล้วพาเมียขึ้นบุษบกวิเศษเหาะไป...ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คือขึ้น ฮ. หนีแหละฮะ...(เหมือนกับประเทศสารขัณฑ์เลยนิ ที่นายกฯต้องขึ้น ฮ.หนีฝูงชนที่ล้อมทำเนียบ)
ว่าแล้วก็ยกขบวนพาเหรดผู้อพยพทั้งหมดที่เป็นยักษ์เร่ร่อน มุ่งหน้าสู่เขาสัตนาคีรี รอนแรมไปเพื่อหาที่ซุกหัวนอนก่อนคืนนึง แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า ค่อยตามมาจัดการไอ้ลิงบ้านี่ใหม่...
.....
แต่ทำไปทำมา ต้องพักอาศัยอยู่ที่เขาสัตนาคีรี เป็นเวลานาน...ต้องใช้เวลาสร้างเมืองใหม่ เพราะเมืองเดิมถูกเผาวอดไม่มีชิ้นดี
ช่วงนี้ อยู่ว่างๆ...ก็พาลูกเมียและสนมนางใน ออกไปค้าขายหารายได้พิเศษ เพื่อเก็บหอมรอมริบ เอากะตังไปสร้างเมืองใหม่ เพราะหนุมานได้เผาเมืองเดิมวอดวายไปหมดแล้ว...จึ่งให้พวกนางสนมทั้งหลายแยกย้ายกันไปทำมาหากิน และกำชับว่า...ให้ระวังอย่าติดโควิดนะ ต้องสวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ ยึดถือระยะห่าง...ให้เคร่งครัดทุกคน...เด๋วลุงตู่, น้าหนู กัญชา ตีตาย 555..
นางมณโฑ เมียเอกนั้น ให้ไปทอด ปาทั่งโก๋...ขายแข่งกับ นางฟ้าการบินไทย... ส่วนเฮียทศ.จะไปตั้งร้านหรูแบบเกาหลี หยอดขนมครก ขายเองเลย...fc.มีเพรียบบบ...และได้ Line ไปบอกน้องลิซ่าแบล็คพิงค์แล้ว ให้มายืนกิน ขนมครกชาววัง(เว่อ)ของพี่ทศ.หน่อย...คงขายดีเป็น เทน้ำเทท่า แบบ ลูกชิ้นยืนกิน บุรีรัมย์ เป็นแน่แท้ 555..
.....
หมายเหตุ...สงสัยอะไรกันบ้างไหมครับ?
แล้วนางสีดาหล่ะ...ไปไหน? รามเกียรติ์ไม่ได้กล่าวถึงเลยว่า...นางสีดา หนีไฟออกจากกรุงลงกา มาได้อย่างไร?!?...
บ้างก็ว่า...ทศกัณฐ์ คว้าเอานางมณโฑและนางสีดา เข้ามาไว้ในอ้อมแขน(20 แขน) แล้วเหาะไป...
แต่ผู้เล่าคิดว่า...น่าจะเป็นพวกนางสนมกรมวังและบรรดาทหารยักษ์รักษาการณ์ที่เฝ้าดูแลนางสีดาอยู่นั้น เป็นผู้ที่พานางสีดาหนีไฟออกมา ซึ่งอาจจะเป็นคำสั่งจากทศกัณฐ์ ก็เป็นได้...
.
ทศกัณฐ์ กระเตงเมีย 2 อ้อมแขน พาหนีเพลิง
"เผ่นโว้ยยย!!!......"
.
ขนมครกชาววัง นะฮ้าาา...กระทงละ 25 จ้าาา.......
.
«
Last Edit: 10 April 2024, 20:33:07 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,461
Re: [22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน
«
Reply #7 on:
08 April 2023, 09:40:16 »
8 เมษายน 2022 ·
นางสีดาหนีเพลิง? ...สันนิษฐาน หรือคาดเดา 555..
...
ไปเจอมา อีกภาพหนึ่งครับ เป็นภาพใหญ่ เก็บรายละเอียดได้ทั้งหมด...(ภาพจิตรกรรมฯ วัดพระแก้ว)
ในภาพ
-ด้านบน จะเห็นทศกัณฐ์ อุ้มเมีย 2 คน หนีไฟออกจากวัง...
-ด้านล่าง จะมีกลุ่มคนอพยพ ที่เห็นเป็นตัวนาง น่าจะเป็นนางสีดา...
.
«
Last Edit: 10 April 2024, 20:35:05 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,461
Re: [22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน
«
Reply #8 on:
08 April 2023, 09:41:25 »
9 เมษายน 2022 ·
เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน หนุมานเผาลงกา (6)
-น้ำบ่อน้อย
หลังจากหนุมานเผาลงกาวอดวายจนราบเป็นหน้ากลองสมใจแล้ว ก็ได้เวลาหนีกลับสักที มิฉะนั้นถ้าพวกยักษ์มันตั้งตัวได้แล้ว อยู่ตัวคนเดียวในลงกา เดี๋ยวจะโดนพวกมันเอาคืนไม่ใช่น้อย...หนุมานก็กระโดดลงน้ำเพื่อดับไฟ ชำระล้างร่างกาย...แต่ไฟที่หางยังไม่ดับ ทำยังไง๊ ยังไง ก็ไม่ดับ...
หนุมานจนปัญญา...จึงนึกขึ้นมาได้ว่า พระฤๅษีนารทเคยบอกไว้ ถ้ามีปัญหาอะไรคิดไม่ออกบอกไม่ถูก ให้รีบกลับมา ท่านฤๅษีจะช่วยแก้ปัญหาให้...ว่าแล้วหนุมานก็รีบเหาะไปหาท่านฤๅษี...เล่าให้ฟังตามเหตุที่ตนไปก่อมา แล้วก็ถามพระฤๅษีว่า..จะทำยังไงดี..กับไฟที่ติดอยู่ปลายหาง..ท่านอาจารย์ช่วยดับให้ทีเถอะ...
พระฤาษีนารทเห็นหนุมานมีไฟไหม้หางอยู่ ก็อดหัวเราะมิได้...5555 ไอ้ลิงน้อย เสียทีเป็นทหารเอกพระนารายณ์ ไฟแค่นี้ก็ดันดับไม่ได้ น้ำบ่อน้อยหน่ะจะมีไว้ทำพรื้อ? เอามาดับไฟเสียสิ...
หนุมานได้ฟังดังนั้น ก็เก็ต เข้าใจ..เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันที จึงเอาปลายหางมาอมไว้ในปาก พร้อมกับพ่นน้ำลาย ถุยๆๆๆๆๆ ใส่จนไฟดับ (แต่หางคงเหม็นไหม้ไปอีกนานเลย)
ครั้นแล้วหนุมานก็กราบลาพระนารถฤๅษี เหาะกลับไปยังเขาเหมติรัน เล่าเรื่องทั้งหมดให้องคตและชมพูพานฟัง
รุ่งเช้า กองทัพลิงทั้งหมดจึงลาพญาสัมพาที เพื่อกลับไปเฝ้าพระราม ณ เขาคันมาทน์ ต่อไป...
.
หนุมาน ขอคำปรึกษา ฤๅษีนารท ไฟที่หางไม่ดับ
.
สำนวน สุภาษิตไทย
น้ำบ่อน้อย...ดับไฟ.
.
น้ำบ่อน้อย
ฤๅษี บอกให้ใช้น้ำบ่อน้อยดับไฟ
.
ยันต์หนุมาน - หนุมานแผลงฤทธิ์ เชิญธงรบ
.
ยันต์หนุมานคลุกฝุ่น ( ล้มอย่าซ้ำ )
.
«
Last Edit: 10 April 2024, 20:39:36 by ppsan
»
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,461
Re: [22] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน หนุมานเผากรุงลงกา โดย กลม บางบาน
«
Reply #9 on:
10 April 2024, 20:41:48 »
หนุมานเผากรุงลงกา
Logged
Pages:
[
1
]
« previous
next »
SMF 2.0.4
|
SMF © 2013
,
Simple Machines
| Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.063 seconds with 20 queries.
Loading...