Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
23 December 2024, 02:56:52

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618 Posts in 12,929 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  [1] พระระเบียงและจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (1-59)
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: [1] พระระเบียงและจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (1-59)  (Read 435 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« on: 01 March 2023, 08:53:35 »


หน่วยราชการในพระองค์


พระระเบียงและจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ห้องที่ ๑-๕๙


วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2565


พระระเบียงและจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ พระระเบียงจะล้อมรอบปูชนียสถานทั้งหมดของวัดไว้ภายในยกเว้นพระปรางค์ ๖ องค์ ซึ่งในอดีตพระปรางค์ทั้ง ๘ องค์ ตั้งอยู่ภายนอกพระระเบียง ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการขยายฐานไพทีมาทางด้านทิศตะวันออก ทำให้ต้องขยายพระระเบียงหักมุมโอบล้อมพระปรางค์องค์ที่ ๓ และ ๔ ไว้ภายในวัด ภายในพระระเบียงตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ เป็นจิตรกรรมไทยแบบประเพณี เขียนด้วยสีฝุ่น ครั้งแรกเขียนขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ต่อมามีการเขียนซ่อมอีกหลายครั้ง แต่ที่ปรากฏในปัจจุบันเป็นการเขียนซ่อมในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบด้วยภาพทั้งหมด ๑๗๘ ห้องภาพ โดยห้องแรกเริ่มต้นที่ด้านหน้าพระวิหารยอด และลำดับภาพมาทางขวามือหรือเวียนทักษิณาวรรต


.....
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก...
หน่วยราชการในพระองค์ >>> https://www.royaloffice.th/
พระระเบียงและจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง
https://www.royaloffice.th/2022/11/23/จิตรกรรมฝาผนังห้อง1-59/





ห้องที่ ๑  พระชนกฤๅษีทำพิธีบวงสรวงไถได้นางสีดาแล้วลาพรตกลับเข้าเมืองมิถิลา




พระชนกฤๅษีเกิดความเบื่อหน่ายในเพศนักบวช ตั้งพระทัยเสด็จกลับครองเมืองมิถิลาตามเดิมจึงใช้ให้นายโสมขุดหาองค์พระธิดาที่ทรงใส่ผอบฝังไว้ใต้ต้นไทรใหญ่ เพื่อพานางคืนสู่เมืองพร้อมกันแต่นายโสมขุดเท่าใดก็ไม่พบ แม้ว่าเหล่าเสนาอำมาตย์เมืองมิถิลาจะจัดเทียมโคกระบือที่คู่ควรมาไถหานางตามรับสั่ง แต่ก็ไถไม่พบเช่นกัน ในที่สุดพระชนกฤๅษีทรงทำพิธีบวงสรวงมวลหมู่เทพยดาตั้งสัตยาธิษฐานเสี่ยงด้วยบุญบารมี จึงไถค้นพบนาง ทำให้ทรงปีติโสมนัสพระราชทานชื่อนางว่า “สีดา” แล้วทรงลาเพศฤๅษี เสด็จกลับคืนเมืองมิถิลาพร้อมพระธิดา







ห้องที่ ๒  ท้าวชนกจักรวรรดิปรารภจะหาคู่ให้นางสีดา




ครั้นท้าวชนกจักรวรรดิพานางสีดาเสด็จสู่เมืองมิถิลา ยังความปลื้มปีติให้แก่นางรัตนมณีมเหสีของท้าวชนกเป็นอย่างมาก  ทั้งสองพระองค์ทรงรักใคร่เลี้ยงดูนางสีดาจนกระทั่งนางมีอายุได้ ๑๖ ปี ท้าวชนกจึงมีพระราชดำริหาคู่ให้นางสีดา  รับสั่งเหล่าเสนาเตรียมการพิธียกศรมหาธนูโมลี







ห้องที่ ๓ ท้าวชนกจักรวรรดิให้ป่าวประกาศเชิญหน่อกษัตริย์ต่างเมืองมายกศร




ท้าวชนกรับสั่งให้เสนาป่าวประกาศเชิญหน่อกษัตริย์เมืองต่างๆ มายกศรมหาธนูโมลีที่กรุงมิถิลา ซึ่งพระฤๅษีวสิษฐ์และสวามิตรก็ได้พาพระราม พระลักษมณ์เดินทางมาร่วมพิธีนี้ด้วย







ห้องที่ ๔ พระรามสบเนตรกับนางสีดาและพิธียกมหาธนูโมลี




พระราม พระลักษมณ์เสด็จตามพระฤๅษีวสิษฐ์และสวามิตรมาถึงเมืองมิถิลา ขณะพระรามทอดพระเนตรปราสาทราชวังอันงดงามระหว่างทางเสด็จไปยังโรงพิธียกศรมหาธนูโมลี นางสีดาก็กำลังแอบมองลงมาจากช่องหน้าต่างปราสาทพอดี ทั้งสองสบพระเนตรกันโดยบังเอิญ เกิดเป็นความรักแรกพบขึ้นทันที ครั้นพระรามเสด็จมาถึงโรงพิธี ท้าวชนกทรงเห็นว่าพระรามมีความสง่างามยิ่งกว่ากษัตริย์เมืองต่างๆ ที่มาร่วมพิธี จึงเกิดความเสียดายใคร่จะยกนางสีดาให้เป็นพระชายา ดังนั้นเมื่อเหล่ากษัตริย์ทั้งหลายไม่สามารถยกศรมหาธนูโมลีขึ้นได้ ท้าวชนกจึงขอให้พระรามทรงลองยกศรบ้าง ปรากฏว่าทรงสามารถยกศรขึ้นได้อย่างง่ายดาย







ห้องที่ ๕ ท้าวชนกจักวรรดิส่งราชสารไปยังกรุงศรีอยุธยา




เมื่อพระรามยกศรมหาธนูโมลีได้ ท้าวชนกจึงส่งพระราชสารไปกราบทูลเชิญท้าวทศรถเสด็จมาจัดพิธีอภิเษกสมรสให้แก่พระรามกับนางสีดา ฝ่ายท้าวทศรถทรงทราบความในสารด้วยความยินดีสั่งให้พระพรต  พระสัตรุด  พระโอรสที่ประทับ ณ เมืองไกยเกษเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา







ห้องที่ ๖ พระพรตพระสัตรุดทูลลาท้าวไกยเกษเพื่อไปอยุธยา




พระพรต พระสัตรุดทราบว่า ท้าวทศรถทรงมีพระราชบัญชาให้ทั้งสองพระองค์กลับกรุงศรีอยุธยาเพื่อจะได้ตามเสด็จไปงานวิวาห์ของพระรามกับนางสีดาที่กรุงมิถิลา ก็ดีพระทัยยิ่งนัก รีบขึ้นเฝ้าท้าวไกยเกษ กราบถวายบังคมลาเสด็จกลับบ้านเมือง







ห้องที่ ๗ ท้าวทศรถยกกระบวนเสด็จไปงานอุปภิเษกพระรามกับนางสีดาที่เมืองมิถิลา




พระพรต พระสัตรุดเสด็จถึงกรุงศรีอยุธยา ท้าวทศรถโปรดให้พระมเหสีทั้งสามกับพระโอรสตามเสด็จไปงานวิวาห์ของพระรามที่กรุงมิถิลา







ห้องที่ ๘ พิธีอุปภิเษกพระรามกับนางสีดาที่เมืองมิถิลา




ท้าวทศรถและห้ากษัตริย์เสด็จมาร่วมพิธีอภิเษกสมรสของพระรามกับสีดาที่เมืองมิถิลา ซึ่งท้าวชนกจัดงานอย่างสมพระเกียรติ มีพระมหาฤๅษีและมวลหมู่เทพยดามาร่วมพิธีด้วยความชื่นชมครั้นเสร็จพิธี ท้าวทศรถทูลลาท้าวชนกและขอนำพระรามกับนางสีดาตามเสด็จกลับไปด้วย ทำให้ท้าวชนกทรงเศร้าโศก ตรัสฝากฝังนางสีดากับท้าวทศรถและประทานโอวาทนางสีดากับพระรามให้รักใคร่ซื่อสัตย์สุจริตต่อกัน







ห้องที่ ๙ ท้าวทศรถ พระรามยกทัพกลับอยุธยา ระหว่างทางพระรามรบกับรามสูร




ท้าวทศรถโปรดให้เคลื่อนทัพกลับกรุงศรีอยุธยา ระหว่างทางมีนกกระเต็นบินโฉบมาจิกธงชัยโหรทำนายว่าจะเกิดมีข้าศึกมาสู้รบแต่ไม่สามารถต้านทานฤทธิ์พระองค์ได้ ครั้นเดินทางต่อมาจึงถูกยักษ์รามสูรเข้าโจมตีกองทัพ พระรามแผลงศรทำลายล้างขวานรามสูรได้สำเร็จแล้วใช้ศรตีรามสูรจนบาดเจ็บ ทำให้รามสูรเสียใจที่พ่ายแพ้มนุษย์ ครั้นทราบว่าพระรามคือพระนารายณ์อวตาร จึงกราบทูลขออภัยโทษ และถวายศรซึ่งพระอิศวรประทานแก่ยักษ์ตรีเมฆผู้เป็นตาของตน พระรามฝากศรนั้นไว้กับพระพิรุณ







ห้องที่ ๑๐ กำเนิดทรพี เทวดาช่วยเลี้ยงจนเติบโตแล้วมาท้าขวิดทรพาผู้เป็นพ่อตาย




ทรพีกระบือป่า ลูกของทรพา ซึ่งนางนิลาผู้เป็นแม่แอบหนีมาคลอดในถ้ำ แล้วฝากให้เทวดาเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ตามสะกดรอยทรพาเพราะคิดแค้นที่พ่อใจบาปฆ่าลูกตัวตายเป็นอันมาก ครั้นวัดรอยเท้าพ่อเห็นมีขนาดใกล้เคียงกับตนเอง จึงไปท้าต่อสู้และฆ่าพ่อสำเร็จ หลังจากนั้นเกิดความกำเริบไปท้าเทวดาอื่นๆ สู้ แต่ทุกองค์หลบเลี่ยงไม่ยอมสู้ด้วยจนไปท้าพระอิศวร





« Last Edit: 22 March 2023, 20:42:36 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #1 on: 01 March 2023, 09:13:46 »

..

ห้องที่ ๑๑ ทรพีกำเริบท้ารบพระอิศวร พระอิศวรให้ไปท้าพาลีที่กรุงขีดขิน




ทรพีท้าทายขอประลองฤทธิ์กับพระอิศวรที่เขาไกรลาส ทำให้พระอิศวรพิโรธที่ทรพีเชื้อชาติเดียรัจฉานมาทำอหังการ ตรัสให้ไปต่อสู้กับพาลี โอรสพระอินทร์ที่เมืองขีดขิน พร้อมกับสาปให้ทรพีตายด้วยฝีมือพาลีแล้วไปเกิดใหม่เป็นบุตรพญาขร มีชื่อว่ามังกรกัณฐ์และต้องตายด้วยศรของพระราม







ห้องที่ ๑๒  ทรพีบุกถึงหน้าพระลาน ท้าพาลีรบ




ทรพีเดินทางไปท้ารบกับพาลีที่เมืองขีดขิน ทั้งสองต่อสู้กันตั้งแต่เช้าจดค่ำก็ไม่ปรากฏผลแพ้ชนะ







ห้องที่ ๑๓  พาลีฆ่าทรพีตาย แล้วขับไล่สุครีพออกจากเมือง










ห้องที่ ๑๔ นางกุจจีค่อมทูลยุยงนางไกยเกษี




ท้าวทศรถเตรียมการมอบราชสมบัติให้พระราม ความทราบไปถึงนางค่อมกุจจีซึ่งผูกพยาบาทเคียดแค้นพระราม  เพราะขณะทรงพระเยาว์เคยแกล้งยิงกระสุนใส่หลังค่อมของนาง  ทำให้ได้รับความอับอาย จึงทูลยุยงนางไกยเกษีมารดาของพระพรตไปกราบทูลท้าวทศรถ ขอให้พระพรตได้ครองเมืองก่อนและให้เนรเทศพระรามออกเดินป่าเป็นเวลา ๑๔ ปี เพื่อเป็นการรักษาสัตย์ที่ท้าวทศรถเคยประทานพรไว้แก่นาง ซึ่งเคยช่วยชีวิตพระองค์ตอนรบกับปทูตทันต์ยักษ์ว่าจะขออะไรก็ได้ตามแต่ใจปรารถนา







ห้องที่ ๑๕ ท้าวทศรถให้ตั้งกระบวนแห่พระรามเลียบเมือง




พระรามเสด็จเข้ากระบวนแห่เลียบเมืองเพื่อจะขึ้นครองราชย์ ครั้นเข้าประทับที่พลับพลาพิธีท้าวทศรถก็ยังไม่เสด็จมา พระวสิษฐ์และสวามิตรฤๅษีจึงให้เสนาไปทูลเชิญแต่นางไกยเกษีกลับสั่งเสนามาทูลพระรามว่าท้าวทศรถเรียกเข้าเฝ้า พระรามเสด็จมาถึงพบนางไกยเกษีนั่งขวางประตูทูลว่าท้าวทศรถมีพระราชบัญชาให้พระรามรีบออกบวชเป็นดาบสในวันนี้แล้วไปบำเพ็ญพรตในป่าเป็นเวลา ๑๔ ปี







ห้องที่ ๑๖ พระรามบวชเป็นฤๅษี พระลักษมณ์และนางสีดาออกบวชตาม




พระรามทูลลานางเกาสุริยามารดาเพื่อออกบวช โดยมีพระลักษมณ์กับนางสีดาขอบวชตามด้วยท้าวทศรถตรัสสั่งเสียพระวสิษฐ์และสวามิตรฤๅษีว่า วันใดที่พระรามจากเมืองไป พระองค์ก็จะดับสังขาร ขออย่าให้นางไกยเกษีกับพระพรตเข้าจุดไฟเผาพระศพเด็ดขาด ฝ่ายพระพรต พระสัตรุดเดินทางกลับมาร่วมพิธีราชาภิเษกทราบข่าวร้ายว่าพระรามบวชเป็นฤๅษีออกเดินป่าพร้อมกับพระลักษมณ์และนางสีดา ส่วนท้าวทศรถสิ้นพระชนม์แล้ว ทำให้พระพรตโกรธแค้นนางไกยเกษีมารดาจะฟาดฟันนางด้วยพระขรรค์ พระสัตรุดต้องเข้าห้ามปราม







ห้องที่ ๑๗ ท้าวทศรถสิ้นพระชนม์ ตั้งพระเมรุมาศท้าวทศรถ




เมื่อท้าวทศรถสิ้นพระชนม์ พระวสิษฐ์และสวามิตรฤๅษีได้จัดการพิธีพระบรมศพ สั่งให้เสนาเกณฑ์ไพร่พลสร้างพระเมรุตามโบราณราชประเพณี แล้วจัดให้มีโรงมหรสพ โขน หนัง ระบำ จนพร้อมสิ้น ครั้นจวนเวลาจุดเพลิงพระบรมศพ พระวสิษฐ์และสวามิตรฤๅษีห้ามนางไกยเกษีกับพระพรตมิให้ขึ้นไปถวายเพลิงพระบรมศพตามคำสั่งของท้าวทศรถ







ห้องที่ ๑๘ พระพรต พระสัตรุดกับสามชนนีตามพระราม




พระพรตและพระสัตรุดเปลี่ยนเครื่องทรงเป็นฤๅษี แล้วทูลเชิญนางเกาสุริยากับนางสมุทรชาขึ้นรถทรง ร่วมเดินทางออกติดตามพระรามกลับมาครองเมือง ฝ่ายนางไกยเกษีสำนึกในความผิดของตนจึงขอตามไปขอโทษพระราม เมื่อทั้งห้ากษัตริย์เดินทางไปถึงอาศรมพระวสิษฐ์และสวามิตรฤๅษี พระฤๅษีทั้งสองจึงพาไปที่แม่น้ำสะโตงให้นายพรานกุขันพาข้ามแม่น้ำไปหาพระราม







ห้องที่ ๑๙ พระพรต พระสัตรุดทูลเชิญพระรามกลับไปครองกรุงศรีอยุธยา




พระพรตทูลเชิญพระรามกลับไปครองกรุงศรีอยุธยา แต่พระรามยืนยันรักษาสัตย์ที่ให้ไว้กับพระบิดา พระพรตจึงทูลขอฉลองพระบาทไปแทนพระองค์แล้วเสด็จกลับ ครั้นถึงปลายเขตแดนอยุธยา พระพรตสั่งให้ไพร่พลสร้างเมืองประจันตคามเพื่อประทับคอยท่าพระราม แล้วให้พระสัตรุดพาพระมารดาทั้งสามกลับคืนอยุธยา พร้อมทั้งนำฉลองพระบาทของพระรามไปประดิษฐานไว้ในปราสาทแก้วเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง ฝ่ายพระรามเกรงว่าพระชนนีจะเสด็จมาเยี่ยมเยียนอีกจึงชวนพระลักษมณ์กับนางสีดาออกเดินทางต่อไป







ห้องที่ ๒๐ พระราม พระลักษมณ์ นางสีดาเข้าสวนพิราพ และฆ่าพิราพตาย




พระราม พระลักษมณ์และนางสีดาพบฤๅษีสุทัศน์และนางศุกไขดาบสินี ทั้งสองชวนให้อยู่บำเพ็ญพรตด้วยกัน แต่พระรามปฏิเสธเพราะเห็นว่ายังใกล้เมืองเกินไป แล้วออกเดินทางข้ามแม่น้ำอัมฤกล่วงล้ำเข้าไปในสวนของยักษ์พิราพ จึงถูกพวกยักษ์เฝ้าสวนรุมกันจับตัว พระลักษมณ์ใช้คันศรฟาดยักษ์ตายเป็นอันมาก เมื่อพิราพไปเที่ยวสวนทราบเรื่องจึงตามสะกดรอยไปจนพบแล้วลักพานางสีดาไป พระรามแผลงศรต้องขุนยักษ์สิ้นชีวิต จากนั้นจึงเดินทางต่อ พระรามแผลงศรดับไฟป่าสาลวันช่วยนางเสาวรีพ้นคำสาปพระอิศวร แล้วพบพระอรรคตฤๅษี พระฤๅษีถวายเกราะทรงซึ่งพระอิศวรฝากไว้ให้แก่พระราม ท้ายสุดทั้งสามพระองค์ได้เข้าพัก ณ ศาลาซึ่งพระอินทร์เนรมิตถวายที่ริมแม่น้ำโคทาวารี





« Last Edit: 01 March 2023, 10:41:56 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #2 on: 01 March 2023, 11:13:47 »

..

ห้องที่ ๒๑  ทศกัณฐ์ประพาสป่า ให้ชิวหาน้องเขยรักษาเมืองจนถึงนางสำมนักขาถูกพระลักษมณ์ลงโทษ




กล่าวฝ่ายทศกัณฐ์เจ้ากรุงลงกาชวนนางมณโฑมเหสีพร้อมทั้งเหล่าสนมออกเที่ยวเล่นในป่า มอบให้ชิวหาน้องเขยรักษาเมือง ชิวหาตระเวนตรวจตรารักษาเมืองมิได้หลับได้นอนถึง ๗ วัน ๗ คืนรู้สึกง่วงทนไม่ไหว จึงนิมิตกายสูงใหญ่แลบลิ้นปิดกรุงลงกาไว้แล้วผล็อยหลับไป ทศกัณฐ์กลับมาไม่เห็นเมืองคิดว่าศัตรูมารุกราน จึงขว้างจักรออกไปหมายสังหารศัตรูก็ถูกลิ้นชิวหาขาดกระเด็น สิ้นชีวิตทันทีฝ่ายนางสำมนักขารู้สึกว้าเหว่ใจที่ชิวหาสิ้นชีวิต ออกเดินทางเที่ยวเล่นในป่า ครั้นผ่านมากลางทางเห็นพระรามก็หลงรัก เกิดความริษยานางสีดา เข้าไล่ข่วนหยิกตี จึงถูกพระลักษมณ์ตัดมือ ตัดเท้า จมูก หู ขาด







ห้องที่ ๒๒ พญาขรยกทัพออกรบถูกพระรามฆ่าตาย




นางสำมนักขาไปฟ้องพญาขรเจ้าเมืองโรมคัลผู้เป็นพี่ชาย ว่าถูกพระราม พระลักษมณ์ทำร้าย พญาขรโกรธยกทัพมาต่อสู้ แต่กลับต้องศรพระรามสิ้นชีวิต







ห้องที่ ๒๓ พญาทูษณ์กับพญาตรีเศียรยกพลออกไปรบกับพระราม ถูกพระรามสังหาร




พญาทูษณ์เจ้าเมืองชนบททราบว่า พญาขรพี่ชายถูกพระรามฆ่าก็กริ้วโกรธ ขึ้นขี่ม้าต้นนำทัพออกไปต่อสู้ ถูกพระรามแผลงศรสังหาร ทำให้พญาตรีเศียร เจ้าเมืองมัชวารี น้องชายของพญาทูษณ์แค้นใจ ขี่ช้างพลายพัทกัลป์นำทัพออกไปต่อสู้กับพระรามแล้วถูกศรพระรามสิ้นชีวิต







ห้องที่ ๒๔ ทศกัณฐ์ลักนางสีดา


นางสำมนักขากลับมาแกล้งพรรณนาความงดงามของนางสีดาให้ทศกัณฐ์หลงใหล สั่งมารีศน้าชายแปลงเป็นกวางทองมาล่อลวง นางสีดาอยากได้รบเร้าพระรามออกตามจับ พระรามรู้ว่าเป็นยักษ์แปลงกายจึงแผลงศรสังหาร มารีศส่งเสียงร้องเป็นเสียงพระรามเรียกให้พระลักษมณ์ช่วย นางสีดาเข้าใจว่าพระรามตกอยู่ในอันตราย เร่งให้พระลักษมณ์รีบไปช่วย ทศกัณฐ์ได้โอกาสแปลงเป็นฤๅษีมาชักชวนนางไปเป็นมเหสีทศกัณฐ์แต่นางไม่ยินยอมทศกัณฐ์จึงคืนร่างเป็นพญายักษ์เข้าอุ้มนางขึ้นรถทรงเหาะหนี ระหว่างทางถูกนกสดายุเข้าขัดขวางเกิดการต่อสู้กัน นกสดายุประมาทกล่าวเยาะเย้ยว่ากลัวแต่แหวนของพระอิศวรที่นางสีดาสวมอยู่ ทศกัณฐ์ได้ทีจึงถอดแหวนนางขว้างมาถูกนกสดายุบาดเจ็บสาหัส







ห้องที่ ๒๕ พระราม พระลักษมณ์ ตามหานางสีดา ระหว่างทางพบนกสดายุ ยักษ์กุมพลถึงหนุมานถวายตัว




พระราม พระลักษมณ์กลับมาที่ศาลา ไม่พบนางสีดาก็ตกพระทัย ร่ำไห้จนสลบ พระอินทร์เหาะลงมาบันดาลน้ำทิพย์รดให้ฟื้นแล้วตรัสชี้ทางให้พระรามออกติดตามนางสีดา ระหว่างทางทั้งสองพระองค์พบนกสดายุทูลเล่าว่า ทศกัณฐ์ลักพานางสีดาผ่านมา ตนเข้าต่อสู้ขัดขวางจนบาดเจ็บจากนั้นถวายแหวนของนางสีดาให้พระรามแล้วสิ้นใจ พระรามจัดพิธีศพนกสดายุแล้วออกเดินทางต่อหลงเข้าไปในวงแขนยักษ์กุมพล พระรามโปรดยักษ์กุมพลพ้นคำสาปของพระอิศวร พระลักษมณ์ปราบนางยักษ์อัศมูขีที่มาระราน ครั้นเดินทางถึงป่ากล้วย พระรามบรรทมหลับหนุนตักพระลักษมณ์ด้วยความเหนื่อยอ่อน หนุมานมาพบเข้าก็อยากผูกไมตรี และเมื่อทราบว่า พระรามคือองค์นารายณ์อวตารมาปราบยักษ์ก็ยินดี ขออยู่เป็นข้ารับใช้







ห้อง ๒๖ หนุมานพาสุครีพมาถวายตัว สุครีพกับพาลีรบกันจนพาลีรู้ว่าเป็นศรนารายณ์จึงยอมตาย




หนุมานพาสุครีพน้าชายมาเฝ้าพระราม สุครีพขอให้พระรามช่วยสังหารพาลีเพื่อที่ตนจะได้คุมกำลังวานรเมืองขีดขินมาถวายพระรามไปสู้กับทศกัณฐ์ พระรามได้ฟังทีแรกก็ปฏิเสธ แต่เมื่อรู้ว่าพาลีเคยแย่งนางดาราที่พระอิศวรประทานให้สุครีพมาเป็นเมียของตน กระทำผิดสัตย์สาบานที่ว่าแม้นไม่ซื่อกับน้องชายก็ขอให้ตายด้วยศรพระนารายณ์ พระรามจึงยอมช่วยเหลือ โดยให้สุครีพลวงพาลีออกรบ แล้วพระองค์คอยทีแผลงศรสังหารพาลี ฝ่ายพาลีเห็นพระรามที่ครองเพศฤๅษีถือศรคอยสังหารตนก็เข้ามาต่อว่า ครั้นทราบว่าพระรามคือพระนารายณ์อวตาร พาลีจึงยอมตายตามคำสาบาน







ห้องที่ ๒๗ พระรามเผาศพพญาพาลี และเทวดานำเครื่องทรงมาถวายให้พระรามสึก




สุครีพนำองคตกับชมพูพานเข้าเฝ้าถวายตัวกับพระราม พระรามจัดการพิธีศพให้พาลีแล้วจึงอภิเษกสุครีพครองเมืองขีดขิน กำชับสุครีพเร่งเกณฑ์ไพร่พลให้เรียบร้อยภายใน ๗ วัน ส่วนพระองค์จะไปรออยู่ที่เขาคันธมาทน์ ระหว่างทางพระรามพบพญายูงทองทูลข่าวนางสีดาเร่งให้พระองค์ติดตามไปช่วยนาง ต่อมาพบฝูงลิงป่าถวายผ้าสไบที่นางสีดาฝากไว้ พร้อมกับข้อความขอให้พระรามตามไปช่วยนางโดยเร็วเช่นกัน กล่าวฝ่ายพระอินทร์ให้พระวิษณุกรรมเนรมิตพลับพลาที่ประทับ ณ เขาคันธมาทน์ พร้อมทั้งจัดเครื่องทรงสำหรับกษัตริย์ไว้สำหรับพระรามสึกจากเพศฤๅษียกทัพไปรบกับทศกัณฐ์







ห้องที่ ๒๘ พระลักษมณ์มาเตือนสุครีพเกณฑ์ไพร่พลและหนุมานลักท้าวมหาชมพูไปถวายพระราม




สุครีพให้องคต ชมพูพานเร่งเกณฑ์พลวานร ส่วนตนเองออกติดตามหนุมานมาถวายตัวขณะเดินทางกลับพบฤทธิกันยักษ์หน่วยลาดตระเวนของทศกัณฐ์ หนุมานต้องการทดสอบกำลังทหารยักษ์ จึงเข้าต่อสู้และสามารถฆ่ายักษ์ตายเป็นอันมากสุครีพเฝ้าพระรามทูลชี้แจงสาเหตุรวมกำลังล่าช้าเพราะไพร่พลแตกหนีเข้าป่า ทั้งยังเกรงท้าวชมพู สหายรักพาลียกทัพมาแก้แค้น พระรามให้สุครีพหนุมานถือสารว่าพระองค์ผู้ทรงเป็นนารายณ์อวตารขอเป็นไมตรีกับเมืองชมพูแต่ท้าวชมพูไม่เชื่อถือ ตกกลางคืน หนุมานอ่านมนต์สะกดให้ทุกคนหลับใหล แล้วถอดยอดมหาปราสาททะลุเพดานแบกท้าวชมพูทั้งแท่นบรรทมเหาะมายังพลับพลาที่ประทับของพระราม







ห้องที่ ๒๙ พระรามให้หนุมาน ชมพูพาน องคตไปสืบข่าวนางสีดาและสืบหาทางไปลงกา




พระรามตรัสชมเชยหนุมานที่สามารถนำตัวท้าวชมพูมาถวาย และทรงลูบศีรษะตลอดถึงหางทำให้หนุมานพ้นจากคำสาปของพระอุมา ส่วนท้าวชมพูคลายมนตร์สะกดลืมตาเห็นพระรามมีสี่กร ก็รู้ว่าเป็นองค์นารายณ์ จึงขอถวายตัวพร้อมไพร่พลเมืองชมพู พระรามให้ท้าวชมพูและสุครีพเกณฑ์กำลังทหารของ ๒ เมืองเตรียมยกไปต่อสู้กับทศกัณฐ์ ฝ่ายนิลพัทหลานชายท้าวชมพูลอบมาช่วยเหลือท้าวชมพูจึงให้ถวายตัวกับพระราม จากนั้นพระรามให้หนุมาน องคตชมพูพาน ไปสืบข่าวนางสีดาพร้อมสำรวจเส้นทางไปกรุงลงกา โดยพระรามสัญญาว่าเมื่อหนุมานกลับมาสิ่งใดที่พระองค์ทรงอยู่จะเปลื้องจากองค์ประทานให้เป็นรางวัล







ห้องที่ ๓๐ องคตลูบหลังยักษ์ปักหลั่นให้พ้นคำสาป หนุมานส่งนางบุษมาลีขึ้นสวรรค์




สามทหารพร้อมพลวานรเดินทางถึงสระโบกขรณีแล้วหยุดพักพลหลับใหล ยักษ์ปักหลั่นซึ่งต้องคำสาปพระอิศวรให้เฝ้าสระจะจับวานรกินจึงถูกองคตปราบ ครั้นทราบว่าองคตเป็นทหารพระนารายณ์ก็ขอให้ลูบกายล้างคำสาปกลายเป็นเทวดาคืนสู่วิมาน จากนั้นเหล่าวานรเดินทางต่อถึงเมืองมายัน หนุมานเข้าไปสำรวจ พบนางบุษมาลีต้องคำสาปพระอิศวรอยู่เฝ้าเมืองแต่ผู้เดียว หนุมานได้นางเป็นเมียแล้วช่วยโยนนางคืนสู่สวรรค์





Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #3 on: 01 March 2023, 11:15:42 »

..

ห้องที่ ๓๑ หนุมาน ชมพูพาน องคตพบพระชฎิลฤๅษีและนกสัมพาที




หนุมาน องคต ชมพูพานพร้อมพลวานรเดินทางถึงแม่น้ำ หนุมานนิมิตกายใหญ่ใช้หางพาดแม่น้ำให้ทหารวานรเดินข้ามแล้วบุกป่ามาจนถึงอาศรมพระชฎิลฤๅษี พระฤๅษีชี้ทางไปเขาเหมติรันซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำเป็นท่าข้ามไปกรุงลงกา หนุมานนำไพร่พลเดินขึ้นภูเขาพบนกสัมพาทีพี่ชายนกสดายุซึ่งถูกแสงอาทิตย์เผาไหม้เพราะป้องกันน้องชายจะจิกพระอาทิตย์เพราะนึกว่าเป็นผลไม้สุก ซ้ำถูกพระอาทิตย์สาปให้อยู่แต่ในถ้ำเหมติรัน อย่าให้ขนงอกขึ้นใหม่จนกว่าทหารพระนารายณ์โห่ร้องขึ้น ๓ ที หนุมานให้ทหารวานรโห่ร้องแก้คำสาปแล้ว นกสัมพาทีให้หนุมานองคตชมพูพานขึ้นหลังบินไปชี้เมืองลงกาซึ่งเป็นเกาะอยู่กลางน้ำ มีเขานิลกาลาตั้งอยู่กลางทวีปเป็นเครื่องหมาย







ห้องที่ ๓๒ หนุมานฆ่าอสุรีผีเสื้อสมุทรนายด่านทางน้ำเมืองลงกา




หนุมานเดินทางไปกรุงลงกาแต่ผู้เดียว ทิ้งให้องคตชมพูพานอยู่ควบคุมกองทหารที่เขาเหมติรันระหว่างข้ามมหาสมุทร พบนางผีเสื้อยักษ์ซึ่งมีหน้าที่เฝ้ารักษาด่านทางน้ำกรุงลงกา  จึงเกิดการต่อสู้กัน นางผีเสื้อถูกหนุมานฆ่าตาย







ห้องที่ ๓๓ หนุมานลองฤทธิ์แพ้พระนารทฤๅษี แล้วลอบเข้าเมืองลงกาค้นหานางสีดา




หนุมานเหาะเลยกรุงลงกาไปถึงเขาโสฬส พบพระนารทฤๅษีก็นิมิตกายเป็นลิงป่าเข้ามาลองฤทธิ์โดยเนรมิตกายใหญ่กว่าศาลาที่พระฤๅษีให้พัก พระฤๅษีก็เนรมิตศาลาให้กว้างยาวขึ้น แต่ยิ่งขยายใหญ่โตขึ้นเท่าใด หนุมานก็แปลงกายให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกที จนพระฤๅษีโกรธร่ายเวทบันดาลให้ฝนตกหนุมานหนาวเหน็บทนไม่ไหวต้องยอมแพ้กลับคืนร่างเดิม รุ่งเช้าหนุมานไปล้างหน้าที่สระน้ำ ถูกปลิงไม้เท้าของพระฤๅษีเกาะคางดึงไม่ออก ต้องอ้อนวอนพระฤๅษีแกะให้ หนุมานขอขมาพระฤๅษีแล้วถามทางไปลงกา พบอสูรเสื้อเมืองรักษากรุงลงกา เกิดต่อสู้กัน หนุมานฆ่าได้แล้วจึงเหาะเข้ากรุงลงกาเที่ยวค้นหานางสีดาตามปราสาทต่างๆ







ห้องที่ ๓๔ ทศกัณฐ์เกี้ยวนางสีดา และนางสีดาผูกคอ หนุมานพบช่วยแก้แล้วถวายแหวน




หนุมานแปลงเป็นลิงป่าแอบซ่อนบนต้นไม้ในสวนขวัญ รอเวลากลางคืนค่อยลอบลงมาเฝ้านางสีดา ครั้นตกค่ำทศกัณฐ์มาหานางสีดาด้วยความคิดถึง อ้อนวอนนางให้ตามเสด็จเข้าพระราชวังแต่ถูกนางสีดาเปรียบเปรยด่าว่า ทศกัณฐ์พาลโกรธนางกำนัลที่ไม่พยายามพูดเกลี้ยกล่อมนางสีดาให้ใจอ่อน จึงคาดโทษไว้แล้วกลับวัง พวกนางกำนัลรู้สึกโกรธเคืองพากันมาต่อว่า ทำให้นางสีดาคับแค้นใจ หนีออกไปผูกคอตายกับกิ่งโศกหนุมานรีบโจนเข้าไปช่วยไว้ทัน แล้วทูลข้อความที่พระรามฝากมาถึงนาง พร้อมกับถวายแหวนและภูษาสไบทรงทำให้นางค่อยระงับความโศกเศร้าเสด็จกลับที่ประทับ







ห้องที่ ๓๕ หนุมานเข้าหักสวนขวัญ ฆ่าสหัสกุมารตาย อินทรชิตจับตัวได้




หนุมานต้องการทดสอบกำลังของพวกยักษ์ จึงแกล้งหักโค่นต้นไม้ในสวนขวัญล้มเกลื่อนกลาดยักษ์เฝ้าสวนเข้ารุมจับตัวแต่สู้ฤทธิ์หนุมานไม่ได้ ครั้นสหัสกุมารโอรสทศกัณฐ์จำนวน ๑,๐๐๐ ตน จัดทหารเข้าต่อสู้ก็ถูกหนุมานฆ่าเสียทั้งหมด ทศกัณฐ์จึงบัญชาให้อินทรชิตโอรสรัก ซึ่งเคยรบชนะพระอินทร์ออกไปต่อสู้ อินทรชิตแผลงศรนาคบาศรัดร่างหนุมาน หนุมานแกล้งทำเป็นพ่ายแพ้ล้มลงหมดสติให้อินทรชิตจับตัวไปถวายทศกัณฐ์







ห้องที่ ๓๖ หนุมานถูกลงโทษต่างๆ แล้วเผาเมืองลงกา




ทศกัณฐ์สั่งให้เพชฌฆาตนำหนุมานไปประหารชีวิต เหล่าเพชฌฆาตใช้อาวุธต่างๆ แทงฟันเท่าใดหนุมานก็ไม่ตาย จับใส่ครกเหล็กตำก็ไม่สามารถทำอันตรายได้ ทศกัณฐ์จึงสั่งให้นำช้างบรรลัยจักรวาลออกไปสังหาร แต่กลับถูกหนุมานหักคอเสีย ทำให้ทศกัณฐ์รู้สึกทึ่งในฝีมือเกลี้ยกล่อมหนุมานยอมเป็นพวกด้วย หนุมานแกล้งตอบว่าตนคงไม่รอดตายเพราะถูกยักษ์รุมตีจนบอบช้ำไปทั้งร่างกายขอให้ทศกัณฐ์ช่วยเอานุ่นสำสีกับผ้าชุบน้ำมันยางมาพันตัว แล้วจุดไฟเผาตนให้สิ้นชีวิตทศกัณฐ์หลงเชื่อให้ทหารนำเอาน้ำมันกับสำลีมาพันตัวตามที่หนุมานบอก แล้วใช้หอกสุรกานต์จุดไฟที่ตัวหนุมาน ครั้นเพลิงติดขึ้น หนุมานเที่ยววิ่งจุดไฟเผากรุงลงกาวอดวาย







ห้องที่ ๓๗ ทศกัณฐ์พาพระญาติวงศ์หนีเพลิงไปอยู่เขาสัตนา




ทศกัณฐ์พามเหสีและพระญาติวงศ์หนีไฟไปพักอยู่ที่เขาสัตนา ฝ่ายหนุมานเห็นเพลิงไหม้ไปทั่วเมืองแล้วก็สลัดปัดเชื้อไฟทั่วร่าง แต่ไม่สามารถดับไฟที่ติดอยู่ปลายหางได้ แม้จะลงแช่น้ำในมหาสมุทร ไฟนั้นก็ยังติดอยู่ จึงขอให้พระนารทฤๅษีช่วย พระฤๅษีแนะให้ใช้น้ำบ่อน้อย หนุมานจึงเอาหางใส่ปากอม ไฟก็ดับลง แล้วลาพระฤๅษีกลับมาหาพรรคพวกที่เขาเหมติรัน







ห้องที่ ๓๘ ทศกัณฐ์ให้เทวดาลงมาสร้างเมืองให้ใหม่




ทศกัณฐ์เห็นว่าลงกาเป็นเมืองที่ท้าวสหบดีพรหมทรงสร้างให้พระอัยกา จึงสั่งเสนาไปเชิญหมู่เทพยดามาเฝ้าที่เขาสัตนา แล้วขอให้พระอินทร์กับเหล่าเทวดาช่วยกันสร้างเมืองให้งดงามเหมือนเดิม







ห้องที่ ๓๙ สามทหารกลับจากลงกามาเฝ้าพระราม พระรามยกพลไปประชิดลงกา




หนุมาน องคต ชมพูพานพาทหารวานรเดินทางกลับถึงเขาคันธมาทน์ ทราบว่าพระรามพระลักษมณ์กำลังสรงน้ำจึงตามไปเฝ้า หนุมานกราบทูลเรื่องราวให้ทรงทราบตั้งแต่ต้นจนถึงเผากรุงลงกา พระรามกริ้วที่หนุมานทำเกินคำสั่ง เกรงว่าอาจทำให้พวกยักษ์โกรธแค้นแล้วฆ่านางสีดา เหล่าเสนาช่วยกราบทูลให้ทรงยกโทษหนุมานพระรามจึงประทานผ้าชุบสรงเป็นรางวัลแก่หนุมานตามสัญญา และสั่งให้เคลื่อนทัพไปตั้งที่เขาคันธกาลา ซึ่งอยู่ตรงข้ามเกาะลงกา







ห้องที่ ๔๐ ทศกัณฐ์ฝันให้พิเภกทำนายแล้วโกรธขับออกจากเมือง




ทศกัณฐ์ฝันว่าพญาแร้งสีขาวผ่องบินมาทางทิศตะวันออก ตีกับแร้งดำจากทิศตะวันตก แร้งดำแพ้ตกลงมาตายที่พื้นกลายร่างเป็นยักษ์ และฝันต่อไปว่าตนถือกะลาน้ำมันยาง มีหญิงหนึ่งวิ่งมาจุดไฟลุกไหม้ติดมือร้อนไปทั่วร่าง พิเภกน้องชายทำนายว่า จะเกิดเหตุเดือดร้อนทั่วเมืองลงกา พวกเผ่าพันธุ์ยักษ์จะสูญสิ้น แล้วแนะนำให้คืนนางสีดาเพื่อดับเหตุร้าย ทศกัณฐ์โกรธขับไล่พิเภกออกจากเมืองริบทรัพย์สมบัติข้าทาสบริวารทั้งหมด แล้วส่งนางตรีชาดาเมียพิเภกไปเป็นข้าช่วงใช้ของนางสีดาที่สวนขวัญ พิเภกตรวจดูดวงชะตาของตนแล้วรู้ว่าตนจะได้ผู้อุปถัมภ์สำคัญ คือพระรามซึ่งมาตั้งทัพอยู่ทางทิศเหนือ จึงเดินทางไปยังเขาคันธกาลา





Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #4 on: 01 March 2023, 11:16:58 »

..

ห้องที่ ๔๑ พิเภกถวายตัวกับพระรามและดูกำลังฤทธิ์ทหารวานรเพื่อเปรียบเทียบกับฝ่ายลงกา




นิลเอกเห็นยักษ์พิเภกเดินร้องไห้มาตามทางจึงจับตัวไปถวายพระราม พิเภกเล่าความเป็นมาที่ถูกทศกัณฐ์ขับไล่ออกจากเมืองและขออยู่เป็นข้ารับใช้ พระรามให้กระทำสัตย์สาบานดื่มน้ำชุบพระแสงศรทรงก่อนแล้วจึงรับเป็นพวก ฝ่ายสุครีพเห็นพิเภกมียศศักดิ์เสมอกันจึงชวนสาบานตนเป็นสหายรัก ครั้นต่อมาพระรามตรัสถามกำลังทหารในกรุงลงกามีมากน้อยเท่าใด กองทัพของพระองค์พอจะสู้ได้หรือไม่ แต่พิเภกไม่เคยเห็นฤทธิ์ของทหารวานรจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกำลังกันได้ พระรามสั่งให้สุครีพยกกำลังวานรออกไปที่ริมสมุทร แสดงฤทธิ์เดชต่างๆ กันให้พิเภกชม ทั้งแปลงกาย เหาะเหินเดินอากาศไปยกดวงอาทิตย์ แบกวิมาน ดำดินไปจับพญานาค และง้างเอาภูเขาทุ่มทิ้งกันจนก้อนหินแตกกระจายไปทั่ว







ห้องที่ ๔๒ ทศกัณฐ์ใช้ให้สุกรสารไปสืบหาสาเหตุก้อนหินปลิวมาตกที่เมืองลงกา




ขณะทศกัณฐ์กำลังว่าราชการอยู่ได้ยินเสียงดังกึกก้อง แล้วมีก้อนหินลอยตกลงมาเกลื่อนกลาดรู้สึกประหลาดใจ สั่งให้สุกรสารไปสืบหาสาเหตุ สุกรสารแปลงกายเป็นเหยี่ยวบินข้ามมหาสมุทรไปยังเขาคันธกาลา







ห้องที่ ๔๓ หนุมานจับสุกรสารถวายพระราม ทศกัณฐ์แปลงเป็นฤๅษีมาบอกให้พระรามยกทัพกลับ




เหยี่ยวสุกรสารถูกก้อนหินกระเด็นใส่จนบาดเจ็บตกลงมา จึงแปลงกายเป็นลิงป่าเข้าปะปนอยู่ในกองทหาร พระรามทราบเหตุจากพิเภกว่ามียักษ์ปลอมตัวมา จึงสั่งหนุมานไปจับตัวหนุมานนิมิตกายสูงใหญ่เท่าภูเขาแล้วค่อยๆ จับทหารวานรออกมาตรวจตราทีละตัว ก็สามารถจับสุกรสารได้พระรามให้ลงอาญาสุกรสารจับใส่ขื่อคา เฆี่ยนตี สักหน้าผาก พาตระเวนประจานรอบกองทัพแล้วปล่อยกลับลงกา สุกรสารเข้าเฝ้าทูลรายงานทศกัณฐ์ว่า พระรามยกกองทหารวานรมาตั้งที่เขาคันธกาลามีพิเภกเข้าเป็นพวกด้วย ทศกัณฐ์ร้อนใจแปลงกายเป็นฤๅษีมาเจรจาให้พระรามยกทัพกลับและใส่ความพิเภกกับสุครีพ แต่พระรามไม่ทรงเชื่อถือ ทศกัณฐ์จึงผิดหวังกลับไป







ห้องที่ ๔๔ ทศกัณฐ์ให้นางเบญกายแปลงเป็นนางสีดาทำตายลอยน้ำไปเป็นอุบายตัดศึก




ทศกัณฐ์หาทางจะระงับศึกกับพระราม โดยออกอุบายให้นางเบญกายบุตรีพิเภกแปลงเป็นนางสีดาทำตายลอยน้ำไป เมื่อพระรามเห็นว่านางเสียชีวิตคงจะเลิกทัพกลับ นางเบญกายกลัวทศกัณฐ์ลงอาญาเฆี่ยนตี จึงยอมทำตามคำสั่งโดยขออนุญาตไปดูตัวนางสีดาที่สวนขวัญแล้วกลับมานิมิตกายเป็นนางสีดาขึ้นเฝ้าทศกัณฐ์ทศกัณฐ์เห็นนางเบญกายแปลงก็ตรงเข้าเกี้ยวพานด้วยความเข้าใจผิดทำให้นางเบญกายต้องคืนร่างเดิม







ห้องที่ ๔๕ พระรามลงสรงน้ำ พบเบญกายแปลง




นางเบญกายเหาะข้ามมหาสมุทรมายังริมฝั่งที่ตั้งทัพพระราม แล้วแปลงเป็นนางสีดาลอยน้ำมา พระรามลงสรงน้ำพบรูปนิมิตของนางเบญกายเกยอยู่ที่หาดทราย ก็ตกพระทัยเรียกพระลักษมณ์ให้มาดูนางแล้วต่างร่ำไห้เศร้าโศก พระรามกริ้วหนุมานที่ไปฆ่าฟันพวกยักษ์ล้มตาย ทำให้ทศกัณฐ์คิดแค้นฆ่านางสีดา หนุมานสงสัยว่าจะเป็นกลลวงของยักษ์ ขอลองนำศพขึ้นเผาไฟ นางเบญกายทนความร้อนไม่ไหวเหาะหนีแฝงกายขึ้นไปตามเปลวไฟ หนุมานตามจับตัวมาได้ พระรามให้สุครีพเฆี่ยนตีซักถามความเป็นมา แล้วมอบให้พิเภกบิดาของนางเบญกายเป็นผู้พิจารณาโทษ พิเภกเสนอให้ประหารชีวิต แต่พระรามโปรดยกโทษให้แล้วตรัสสั่งหนุมานไปส่งนางเบญกายที่เมืองลงกา ครั้นข้ามถึงแดนลงกาหนุมานเกี้ยวพานและได้นางเป็นเมีย







ห้องที่ ๔๖ พระรามให้จองถนนข้ามไปลงกา หนุมานรบกับนิลพัทเรื่องรับก้อนหิน




พระรามตรัสปรึกษาเสนาวานรถึงการยกพลข้ามสมุทรไปเกาะลงกา ชามพูวราชทูลเสนอให้รี้พลขนก้อนหินมาถมมหาสมุทรกลายเป็นถนนข้ามไปกรุงลงกา เพื่อพระเกียรติยศจะได้อยู่ชั่วกัลป์พระรามโปรดให้สุครีพคุมกองทหารไปดำเนินการ สุครีพแบ่งหน้าที่ให้นิลพัทคุมทหารเมืองชมพูส่วนหนุมานคุมทหารเมืองขีดขิน ผลัดกันรับส่งก้อนหินทิ้งลงมหาสมุทร นิลพัทผูกใจเจ็บหนุมานที่ลักท้าวมหาชมพูมาถวายพระราม จึงแกล้งหาเรื่องโดยช้อนภูเขาแบกมาข้างละลูก แล้วยังใช้เท้าคีบภูเขาอีก ๒ ลูกโยนให้หนุมานรับพร้อมกัน หนุมานแก้มือโดยนำก้อนหินผูกกับเส้นขนทั่วตัว แล้วสลัดลงมาพร้อมกัน นิลพัทต้องใช้ทั้งมือและเท้ารับก้อนหิน หนุมานโกรธหาว่านิลพัทดูหมิ่น เกิดการต่อสู้กัน พระรามลงโทษให้นิลพัทกลับไปรักษาเมืองขีดขินแล้วคอยส่งเสบียงให้กองทัพเดือนละครั้งส่วนหนุมานต้องรีบถมถนนให้เสร็จภายใน ๗ วัน มิฉะนั้นจะถูกประหารชีวิต







ห้องที่ ๔๗ ทศกัณฐ์สั่งนางสุพรรณมัจฉาให้นำบริวารทำลายถนน




กองคอยเหตุเมืองลงกาเห็นวานรขนก้อนหินมาถมมหาสมุทรเป็นถนนขึ้นมารำไร จึงรีบไปทูลรายงานทศกัณฐ์ทศกัณฐ์สั่งนางสุพรรณมัจฉาบุตรีคุมบริวารฝูงปลาคาบก้อนหินไปทิ้ง สุครีพสงสัยที่ก้อนหินถมลงน้ำแล้วสูญหาย ให้หนุมานดำน้ำลงไปดูก็พบฝูงปลากำลังขนก้อนหิน จึงเข้าไล่ฟาดฟันแล้วจับนางสุพรรณมัจฉาได้หนุมานโอ้โลมนางตกเป็นเมียแล้วขอร้องให้ช่วยสั่งฝูงปลาคาบก้อนหินมาคืนที่เดิม







ห้องที่ ๔๘ นางสุพรรณมัจฉาคลอดมัจฉานุ ไมยราพนำมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม




นางสุพรรณมัจฉาตั้งครรภ์ แล้วกลัวว่าทศกัณฐ์จะทราบเรื่อง จึงไปสำรอกบุตรออกจากครรภ์ที่เนินสมุทร และฝากเทวดาช่วยดูแลฝ่ายเทวดานางฟ้าเห็นบุตรของนางมีลักษณะเหมือนหนุมานจึงนำชื่อบิดากับมารดามารวมกัน ตั้งชื่อให้ว่า “มัจฉานุ” นางสุพรรณมัจฉาสั่งเสียมัจฉานุให้จดจำลักษณะสำคัญของบิดาแล้วลากลับ กล่าวถึงพญาไมยราพ เจ้าเมืองบาดาลฝันว่าเทวดาให้ดวงแก้วรัศมีดังสีพระอาทิตย์สว่างไสวไปทั่วโลกโหรทำนายว่าจะได้โอรสบุญธรรมที่มีฤทธิ์เก่งกล้าก็ยินดีออกเที่ยวป่าพบมัจฉานุที่ชายสมุทร จึงนำกลับไปเลี้ยงโดยให้อาศัยอยู่ในสระบัวคอยรักษาด่านเมืองบาดาล







ห้องที่ ๔๙ พระรามยกพลข้ามสมุทรไปให้ประคนธรรพและหนุมานสำรวจชัยภูมิที่ตั้งทัพ




เมื่อหนุมานจองถนนเสร็จแล้ว พระรามรับสั่งพิเภกหาฤกษ์ยกทัพและให้สุครีพจัดผู้ถือธงนำหน้าทัพ ฝ่ายพระอินทร์ให้มาตุลีนำรถแก้วมาถวายและอยู่เป็นสารถีขับรถจนกว่าจะเสร็จศึก ครั้นได้เวลาศุภฤกษ์ พระรามให้เคลื่อนพลข้ามมหาสมุทร มีไชยามพวานถือธงนำหน้าทัพ ฝ่ายทศกัณฐ์ใช้ภานุราชนิมิตป่าร่มรื่นแล้วดำดินซ่อนอยู่คอยทีกองทหารพระรามตั้งพักพลจะได้คว่ำแผ่นดินกลบให้ตายทั้งกองทัพ เมื่อพระรามเสด็จถึงฝั่งลงกา สั่งให้ประคนธรรพออกสำรวจหาที่ตั้งทัพ ประคนธรรพเห็นบริเวณที่ภานุราชนิมิตไว้ก็ชอบใจกลับมาทูลรายงานพระราม แต่พิเภกทูลทัดทาน พระรามจึงให้หนุมานไปสำรวจอีกครั้งหนึ่ง หนุมานแทรกพื้นดินลงไปพบภานุราชกำลังหนุนแผ่นดินอยู่จึงฆ่าตาย จากนั้นพิเภกทูลแนะนำให้ไปตั้งทัพที่เขามรกตซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเมืองลงกา







ห้องที่ ๕๐ พระรามให้องคตสื่อสาร




พระรามมีบัญชาให้องคตเป็นราชทูตไปทูลสารแก่ทศกัณฐ์ ครั้นองคตถือสารมาถึงเมืองลงกาทหารยักษ์เฝ้าประตูไม่ยอมให้เข้าเมือง ฝ่ายทศกัณฐ์ทราบว่าองคตมาก็ให้นางมณโฑจัดนางพนักงานแต่งเครื่องเสวยอย่างดีไปเลี้ยงต้อนรับองคตเป็นการเอาใจ แต่องคตไม่สนใจ ทั้งรู้สึกโมโหที่ให้รออยู่นาน จึงแผลงฤทธิ์ถีบประตูเมืองพังทลายแล้วตรงเข้าไปยังท้องพระโรง ม้วนหางต่างที่นั่งให้สูงเทียมอาสน์ทศกัณฐ์ แถลงสารว่าพระรามคือองค์นารายณ์อวตารมาปราบยักษ์ร้าย บัดนี้ทรงยกทัพมาประชิดเมืองแล้วแต่ยังมีพระทัยกรุณาไว้ชีวิต ถ้าหากเชิญนางสีดาทูนเหนือเศียรกลับไปถวายพระองค์ ทำให้ทศกัณฐ์โมโหเดือดดาล ต่างฝ่ายต่างว่ากล่าวโต้กันไปมาจนในที่สุดทศกัณฐ์สั่งให้พวกเสนาจับองคตประหารแต่กลับถูกองคตฆ่าทั้งหมด





Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #5 on: 01 March 2023, 11:18:21 »

..

ห้องที่ ๕๑ สุครีพรับอาสาไปหักฉัตรทศกัณฐ์




ทศกัณฐ์แค้นใจที่องคตมาฆ่าทหารของตนถึงในเมือง จึงสั่งเสนาผู้ใหญ่ยกฉัตรแก้วอาวุธวิเศษของท้าวธาดาพรหมผู้เป็นอัยกาไว้กลางเมืองเพื่อบังแสงอาทิตย์ ข้าศึกจะได้มองไม่เห็น แต่ฝ่ายตนเองสามารถแลเห็นศัตรูและฆ่าฟันได้โดยสะดวก พระรามเห็นท้องฟ้ามืดผิดปรกติจึงตรัสถามพิเภก พิเภกกราบทูลเรื่องฉัตรแก้วแล้วสุครีพอาสาไปทำลายฉัตร ซึ่งขณะนั้นทศกัณฐ์พามเหสีกับเหล่าสนมกำนัลขึ้นมาบนฉัตรชี้ชวนกันดูกองทัพพระราม เมื่อสุครีพเข้าโจมตี ทศกัณฐ์จึงต่อสู้ไม่ถนัด เพราะต้องคอยระวังป้องกันมเหสีและนางกำนัลจนเสียที สุครีพจึงสามารถหักยอดฉัตรได้สำเร็จ ทศกัณฐ์กับมเหสีและสนมกำนัลตกลงพื้นดิน สุครีพใช้เท้าคีบมงกุฎของทศกัณฐ์นำกลับมาถวายพระราม







ห้องที่ ๕๒ ไมยราพมาเฝ้าทศกัณฐ์กับตั้งพิธีหุงยาสะกด




ทศกัณฐ์สั่งนนยวิก วายุเวกหลานชายไปเชิญไมยราพเจ้าเมืองบาดาลขึ้นมาเฝ้าเพื่อปรึกษาการศึกไมยราพขอให้นางจันทประภาผู้เป็นมารดาเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเมืองลงกากับเมืองบาดาล และเมื่อนางจันทประภาทราบว่าไมยราพจะยกทัพไปช่วยทศกัณฐ์รบกับพระรามก็ตกใจกล่าวห้ามปรามแต่ไมยราพไม่เชื่อฟัง ทศกัณฐ์ขอร้องไมยราพช่วยสะกดทัพวานรแล้วจับพระรามฆ่าเสีย ไมยราพจึงกลับมาทำพิธีหุงยาสะกดทัพ ตกกลางคืนไมยราพฝันว่า พระจันทร์มีรัศมีส่องสว่างแล้วมีดาวดวงน้อยมาเปล่งแสงบดบังรัศมีพระจันทร์ โหรทำนายว่า พระญาติวงศ์จะขึ้นครองเมืองบาดาลแทนทำให้ไมยราพหวาดระแวงจับไวยวิกบุตรนางพิรากวนผู้เป็นพี่สาวมาจองจำ







ห้องที่ ๕๓ หนุมานอาสาอมพลับพลาพระรามและไมยราพสะกดทัพ




ขณะพระรามบรรทมเทวดาดลใจให้เกิดนิมิตร้าย พิเภกทำนายว่าพระรามจะมีเคราะห์ หนุมานอาสาป้องกันภัยมิให้ล่วงล้ำเข้ามาโดยการนิมิตกายใหญ่ โอบพลับพลาไว้กับอกแล้วอ้าปากออกเป็นทวาร ครั้นใกล้ค่ำ ไมยราพแทรกพื้นบาดาลขึ้นมาถึงที่ตั้งทัพ เห็นมีปราการสูงใหญ่กั้นพลับพลาไว้รอบ จึงแปลงกายเป็นวานรลอบเข้าไปสืบข่าว รู้เรื่องที่ทหารวานรกำลังเฝ้ายามระวังเหตุการณ์อย่างเข้มงวด เพราะพระรามมีเคราะห์ร้าย และจะพ้นเคราะห์ต่อเมื่อดาวประกายพรึกขึ้นไมยราพจึงเหาะขึ้นไปแกว่งกล้องปัจธำมราชบนยอดเขาโสลาศ เป็นดาวประกายพรึกลวงทหารวานรแล้วแอบเป่ายาสะกดทัพ ลักพระรามไปเมืองบาดาล นำไปขังกรงเหล็กที่ดงตาล แล้วสั่งนางพิรากวนตักน้ำใส่กระทะใหญ่ที่หน้าพระลานเพื่อเตรียมต้มพระรามกับไวยวิกตอนรุ่งเช้า







ห้องที่ ๕๔ หนุมานหักด่านต่างๆ ของไมยราพ และพบมัจฉานุบุตรชาย




พระลักษมณ์สั่งหนุมานให้รีบตามไปช่วยพระรามที่เมืองบาดาลตามคำแนะนำของพิเภก หนุมานเดินทางไปถึงสระบัวต้นทางเมืองบาดาล หักก้านบัวลอดเข้าไปแล้วตีฝ่าด่านยักษ์ ด่านช้างด่านเขากระทบกันเป็นเพลิงกรด ด่านฝูงยุงตัวเท่าแม่ไก่ จนถึงสระใหญ่ที่มัจฉานุอาศัยอยู่ หนุมานรบกับมัจฉานุไม่แพ้ชนะกัน เกิดความสงสัยจึงไต่ถามชื่อเสียงเผ่าพงศ์ ครั้นต่างฝ่ายต่างทราบว่าเป็นบิดากับบุตรกันก็ยินดี สุดท้ายมัจฉานุยอมให้หนุมานเดินทางต่อ







ห้องที่ ๕๕ นางพิรากวนช่วยหนุมานเข้าเมืองบาดาลและบอกที่ขังพระราม




หนุมานพบนางพิรากวนซึ่งถูกใช้ให้มาตักน้ำเพื่อต้มไวยวิกกับพระราม ครั้นสอบถามเรื่องราวแล้ว หนุมานวางอุบายแปลงกายเป็นใยบัวติดสไบนางพิรากวนแอบเข้าเมือง นางพิรากวนชี้ทางให้หนุมานไปช่วยพระรามที่ดงตาลจนสำเร็จแล้วจึงกลับมาท้าสู้กับไมยราพ ครั้นไมยราพต่อสู้จนอาวุธหมดสิ้น จึงออกอุบายให้เอาต้นตาลมาพันบิดฟั่นเป็นกระบองตาล ผลัดกันตีคนละ ๓ ที แต่ก็ไม่รู้แพ้รู้ชนะกัน







ห้องที่ ๕๖ หนุมานฆ่าไมยราพตาย ทศกัณฐ์ให้กุมภกรรณออกรบ




หนุมานนิมิตกายสูงใหญ่เอื้อมมือไปค้นหาแมลงภู่ที่ไมยราพถอดจิตไว้แล้วใส่กล่องนำไปซ่อนบนยอดเขาตรีกูฏ พอจับแมลงภู่ขยี้จนแหลกละเอียดแล้ว ไมยราพจึงสิ้นชีวิต ครั้นทศกัณฐ์ทราบว่าไมยราพถูกหนุมานฆ่า จึงสั่งกุมภกรรณน้องชายออกรบ กุมภกรรณไม่เห็นด้วยกับการทำสงครามทำให้ทศกัณฐ์แค้นเคืองที่กุมภกรรณไม่เจ็บร้อนแทน ไล่ให้ไปอยู่กับพวกศัตรู กุมภกรรณต้องจำยอมออกรบตามคำสั่ง







ห้องที่ ๕๗ กุมภกรรณออกรบ พิเภกห้ามทัพ องคตลวงถามปริศนาและสุครีพถอนต้นรังมารบด้วย




พระรามได้ยินเสียงทหารเคลื่อนทัพโห่ร้องดังกึกก้อง จึงตรัสถามพิเภกว่าเป็นทัพของผู้ใดพิเภกทำนายว่าเป็นทัพของกุมภกรรณอุปราชเมืองลงกา ผู้ยึดมั่นในคุณธรรม คงจำใจออกมารบเพราะถูกทศกัณฐ์บังคับ พระรามสั่งพิเภกออกไปห้ามทัพ กุมภกรรณโกรธพิเภกที่ไม่จงรักภักดีต่อทศกัณฐ์ แล้วฝากให้พระรามไขปริศนา ๔ ข้อให้ได้ก่อนจึงจะยอมยกทัพกลับเข้าเมือง พระรามทรงพิจารณาว่าปริศนาเป็นโวหารลดเลี้ยวของกุมภกรรณเอง จึงสั่งองคตไปลวงถามแต่กุมภกรรณรู้เท่าทัน เฉลยข้อปริศนาให้องคตแล้วท้าทายพระรามยกทัพมาต่อสู้ พระรามสั่งสุครีพยกทัพไปรบด้วยกุมภกรรณหลอกให้สุครีพถอนต้นรังหลักทวีปอุดรเพื่อทอนกำลัง







ห้องที่ ๕๘ กุมภกรรณจับสุครีพ หนุมานตามมาช่วยเหลือได้




สุครีพถอนต้นรังหลักทวีปอุดรมาจนเหนื่อยจึงรบแพ้ ถูกกุมภกรรณจับหนีบรักแร้ เลิกทัพเข้าลงกา พลวานรเห็นสุครีพเสียทีก็รีบกลับมาทูลพระราม พระรามสั่งหนุมานไปช่วยเหลือ หนุมานเหาะทะยานอย่างรวดเร็ว แลเห็นกุมภกรรณหนีบสุครีพจวนจะเข้าประตูเมืองก็ตรงเข้าโจมตีรุกไล่จนสุครีพเป็นอิสระแล้วทั้งหนุมานกับสุครีพต่อสู้กุมภกรรณจนได้รับบาดเจ็บกุมภกรรณแค้นใจกลับไปรายงานให้ทศกัณฐ์ทราบ ทศกัณฐ์ปลอบใจให้คิดหาทางแก้มือ กุมภกรรณเกิดความมานะไปขอหอกโมกขศักดิ์ที่ฝากพระพรหมไว้มาสู้กับพระราม







ห้องที่ ๕๙ กุมภกรรณตั้งพิธีลับหอกโมกขศักดิ์ หนุมานองคตไปทำลายพิธี




กุมภกรรณตั้งพิธีลับหอกโมกขศักดิ์ที่ริมฝั่งน้ำสีทันดร พิเภกทูลแนะนำพระรามให้ทำลายพิธีโดยสั่งหนุมานแปลงกายเป็นสุนัขเน่าลอยน้ำส่งกลิ่นเหม็น ให้องคตแปลงเป็นกาจับจิกซากสุนัข ครั้นกุมภกรรมซึ่งเป็นยักษ์รักความสะอาดแลเห็นก็เกิดคลื่นเหียนอาเจียนเวียนศีรษะ ไม่สามารถลับหอกต่อไปได้ ต้องลุกหนีขึ้นรถกลับเข้ากรุงลงกา







Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.094 seconds with 20 queries.