User Info
Welcome,
Guest
. Please
login
or
register
.
22 December 2024, 22:54:40
1 Hour
1 Day
1 Week
1 Month
Forever
Login with username, password and session length
Search:
Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ
http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618
Posts in
12,929
Topics by
70
Members
Latest Member:
KAN
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
|
วิถีสู่ชีวิตแห่งความพอเพียง
|
ศิลปะและวัฒนธรรมทางเลือก
|
กว่าจะมาเป็นอังกาศตไลใน สืบมรรคา
0 Members and 1 Guest are viewing this topic.
« previous
next »
Pages:
[
1
]
Author
Topic: กว่าจะมาเป็นอังกาศตไลใน สืบมรรคา (Read 762 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
กว่าจะมาเป็นอังกาศตไลใน สืบมรรคา
«
on:
27 July 2022, 21:40:08 »
กว่าจะมาเป็นอังกาศตไลใน สืบมรรคา
อัลบั้มของ BIGGYPHOTO
กว่าจะมาเป็นอังกาศตไลใน สืบมรรคา
วันนี้จะพามาชมความน่ารักน่าชัง อ้อนแอ้นของตัวละครสำคัญที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้เลยในโขนมูลนิธิศิลปาชีพฯ "สืบมรรคา" นางอังกาศตไล รวมถึงเครื่องแต่งกาย ผ้าห่มนาง หัวโขนในการแสดง ผู้แสดงพร้อมข้อมูลของนางยักษ์เสื้อเมืองกรุงลงกาตนนี้ครับ
กว่าจะมาเป็นอังกาศตะไล
นางอังกาศตะไล คือนาง รากษส ชื่อ “ลังกินี” ในรามายณะ เดิมเป็นเทพธิดาเฝ้าประตูวิมานพระพรหม แต่ตอนหลังถูกพระพรหมสาป ให้มาเฝ้าประตูเมืองลงกา เพราะเกิดหยิ่งยะโส อวดดีจนไปดูหมิ่นแขกของพระพรหม แต่พอถูกสาปแล้วสำนึกผิด ขอโทษ พระพรหม เลยให้พรว่า ถูกกำราบโดยทหารของพระรามแล้วจึงจะพ้นสาป
เมื่อหนุมานไปสืบมรรคา พบนางลังกานี ขวางไว้ รู้ว่าเป็นผู้หญิง จึงแค่ชกหน้าหงายเบาๆ ทำให้นางลังกานี จำความได้ ขอโทษขอโพยกัน แล้วก็พ้นสาป ไม่ได้ถูกฆ่าตาย อย่างอากาศตะไลในรามเกียรติ์
ตำนาน นางสุรสา ในรามายณะ ที่กลายเป็นผีเสื้อสมุทร
ในรามเกียรติ์ มีหลายตำนาน แต่โดยรวมๆ แล้ว ร่างที่แท้จริงของนางสุรสา เป็นเทพธิดา ลูกสาวของพระประชาบดีทักษะ และ 1 ใน 13 ชายา ของพระกัศยปะ และที่สำคัญ ถือเป็นมาดาแห่งนาคตระกูลสำคัญ ที่มีหลายเศียร รวมทั้ง บัลลังก์นาคเสสะ ของพระวิษณุ
ในรามายณะ ถือว่าเป็นเรื่องที่ นางสุรสา มีบทบาทที่สำคัญเป็นที่จดจำ เมื่อหนุมานเผชิญหน้ากับนาง โดยปรากฏใน สุนทรกัณฑ์
เมื่อครั้งที่หนุมาน ไปสืบมรรคา ถึงกรุงลงกา ในรามายณะเล่าว่า หนุมานต้องเหาะข้ามมหาสมุทร จนพบว่า มีเขา “ไมนะกะ” ผุดขึ้นกลางทะเล เพื่อให้หนุมานแวะพัก ก่อนเหาะต่อไปยังลงกา แต่หนุมานไม่ยอมพัก เพราะเกรงจะไปพบนางสีดาล่าช้า ดังนั้น บรรดาคนธรรพ์และฤาษี แห่งไมนะกะ จึงขอให้นางสุรสา แปลงร่างเป็นรากษสี ขนาดมหึมา เพื่อขวางหนุมานเอาไว้ ตำนานหลายตำนาน อธิบายว่า เพื่อทดสอบ พละ (กำลัง) และ พุทธิ (ปัญญา) ของหนุมาน ว่ามีความสามารถเหมาะกับภารกิจหรือไม่ และอีกนัย คือ เพื่อเตือนหนุมานถึงอันตรายข้างหน้า
นางสุรสา แกล้งบอกหนุมานว่า นางได้รับพรมาว่า ให้กินหนุมานซึ่งถูกกำหนดชะตามา เป็นอาหารของนาง หนุมานจึงขอนางว่า ช่วยนางสีดาเสร็จแล้ว จะกลับมาให้กิน แต่นางบอกว่า ทางเดียวที่จะไปต่อคือ ต้องผ่านปากของนางเท่านั้น
หนุมานจึงท้าว่า หากปากนางกว้างพอจะกินหนุมาน ก็จะให้กิน หลังจากนั้น หนุมานจึงขยายตัวให้ใหญ่ขึ้น (ลองเปรียบเรื่องหนุมานลองฆทธิ์พระนารถมุนี ในรามเกียรติ์) นางสุรสาก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นๆ จนสูงถึง 100 โยชน์
พอถึงตอนนั้น หนุมานก็หดตัวลงอย่างรวดเร็ว จนสามารถเหาะเข้าปากผ่านออกทางหูของนางสุรสา ซึ่งหุบปากลงไม่ทัน ได้ทันที
นางสุรสา ชื่นชมหนุมานเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของกำลังและปัญญา จึงคืนร่างเป็นเทพธิดาตามเดิม แล้วสารภาพถึงสาเหตุที่ต้องขวางหนุมานเอาไว้ ในขณะที่หนุมานก็ให้ความเคารพนางสุรสาเป็นอย่างมาก โดยเรียกเธอว่า นาง “ทักษาบดี” อันหมายความว่า ธิดาแห่งพระทักษะ
นางสุรสา เป็น 1 ใน สามนาง ที่หนุมานพบ ระหว่างสืบมรรคา คือ
1.นางสุรสา (แทนด่านอากาศ)
2. นางสิงหิกา (แทนด่านสมุทร)
3. นางลังกินี (แทนด่านปฐพี)
บางตำรา อธิบายว่า เป็นตัวแทน กิเลส สามประการ ต่อ หนุมาน โดยเฉพาะที่ปรากฏในร่างสตรี เพื่อทดสอบความมั่นคงในพรหมจรรย์ ของหนุมาน
ฉาก“หนุมานรบนางอังกาศตไล”ในสืบมรรคา
เป็นตอนที่หนุมานเหาะเหินเดินอากาศเข้ากรุงลงกา ต้องสู้รบกับนางอังกาศตไลเสื้อเมืองลงกา ผู้คุมด่านทางอากาศนางยักษ์สวมใส่มงกุฎยอดน้ำเต้าห้ายอด สีหงเสน (สีส้มแดง) ลักษณะและการแต่งกายของอังกาศตไลกายสีแดงเสน สวมเทริดน้ำเต้า 5 ยอด ปากแสยะ ตาโพลง 4 หน้า 8 มือ แต่งกายด้วยผ้าสไบนางยักษ์ นุ่งผ้าจีบหน้านางไม่เหมาะในการเข้ารบ จึงเปลี่ยนมานุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อแขนยาว ห่มสไบนาง 2 ชาย ห้อยสะอิ้ง มีสีหน้า แปดมือและมีความสามารถในการใช้อาวุธมากมาย ได้แก่ ง้าว กระบองจักรศร รวมทั้งได้เห็นความซุกซนของหนุมานที่เข้าหยอกล้อ นางอังกาศตไลหลากหลายกระบวนท่ารำ รวมทั้งท่าเปิดสไบ
เผยโฉมผ้าห่มนางอังกาศตไล #สืบมรรคา
ผ้าผืนนี้ได้จัดทำขึ้นมาใหม่ร่วมระดมฝีมือจากสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทองจ.อ่างทอง และสมาชิกศิลปาชีพ สวนจิตรลดาปักเป็นลวดลายสำหรับนางยักษ์ คือลายพุ่มหน้ากาลก้านแย่งออกแบบโดยอาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการแสดงครั้งนี้ จำนวน 2 ผืน
สำหรับการแสดงโขนส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน “สืบมรรคา” มี ๒องก์ รวม ๑๐ ตอน โดยมีฉากรบเด่น เช่น ฉากหนุมานรบนางอังกาศตไล, ฉากกลางทะเลที่หนุมานเหาะมาถึงกลางทะเล นางผีเสื้อสมุทร รักษาด่านเมืองลงกา เห็นหนุมานเหาะมาจึงนิมิตขวางหน้าไว้และจะกินหนุมาน
หนุมานจึงเหาะเข้าปากผ่าท้องนางผีเสื้อสมุทร และฉากรักเด่น เช่นฉากตำหนักในกรุงลงกาซึ่งเล่าถึงทศกัณฐ์ตั้งแต่ได้นางสีดามาและนำไปไว้ในสวนขวัญทศกัณฐ์เฝ้าคิดถึงแต่นางสีดาทุกคืนวัน ทศกัณฐ์จึงสั่งให้จัดขบวนและแต่งกายให้งดงามเพื่อไปเกี้ยวนางสีดาที่สวนขวัญ เป็นต้น
การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน “สืบมรรคา”
จะเปิดการแสดงระหว่างวันที่
๖ พฤศจิกายน ถึง ๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ หอประชุมใหญ่
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ไทยทิคเก็ต เมเจอร์
ทุกสาขา หรือ
https://www.thaiticketmajor.com/p
…/khon-surbmuckka-2019.html
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ทางเว็บไซต์
www.khonperformance.com
และเฟซบุ๊ก Khon Performance โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ
#สืบมรรคา
#โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ
#โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ 2562
#สืบมรรคา
#royalkhonperformance2019
#TheAdventuresofHanuman
#SuebMarga
นางอังกาศตไล แสดงโดย ครูบัญชา สุริเจย์
ขอบคุณข้อมูลภาพจาก ครูไก่ สุรัตน์ จงดา
ขอบคุณข้อมูลจากพี่อั๋น Akarin Pongpandecha
หัวโขนนางอังกาศตไล โดย ครูจอม
8 กันยายน 2019 ·
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: กว่าจะมาเป็นอังกาศตไลใน สืบมรรคา
«
Reply #1 on:
27 July 2022, 21:41:26 »
1
10
20
30
Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
Offline
Posts: 9,454
Re: กว่าจะมาเป็นอังกาศตไลใน สืบมรรคา
«
Reply #2 on:
27 July 2022, 21:42:49 »
31
40
50
60
68
..........
ขอขอบคุณภาพจาก
https://www.facebook.com/Biggyphoto/
Logged
Pages:
[
1
]
« previous
next »
SMF 2.0.4
|
SMF © 2013
,
Simple Machines
| Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.066 seconds with 22 queries.
Loading...