Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
30 September 2024, 06:24:54

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,263 Posts in 12,744 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์)
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์)  (Read 311 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,111


View Profile
« on: 28 March 2022, 20:50:14 »

ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์)


http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4687.0
   
ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์)

jean1966
เมื่อ 02 ส.ค. 11, 23:22

ห่างหายจากการตั้งกระทู้ไปนานเพราะปัญหาชีวิตส่วนตัว จนกระทั่งทุกวันนี้ จึงได้แต่ทำใจว่าคงเป็นกรรมแต่ชาติปางก่อน กลับไปแก้อะไรไม่ได้ ก็ก้มหน้ารับกรรมมันไป วันนี้รู้สึกเซ็งในชีวิต เลยสะพายกล้องขึ้นรถประจำทางแบบไม่มีจุดหมาย สุดท้ายไปสรุปที่วัดโพธิ์ ระหว่างทางลุ้นฝนไปด้วยเพราะเดี๋ยวเมฆครึ้มเดี๋ยวแดดจ้า วันนึงมีหลายฤดู ในใจนึกถึงว่า ถ้ามีบุญคงได้ถ่าย จนถึงวัด แดดร่มลมเย็นสบาย ถึงวัดยังมิได้ตรงไปที่พระอุโบสถ ไปเจอวิหารทิศที่นานๆเปิดครั้ง จำไม่ได้ว่าวิหารด้านทิศไหน เห็นจิตรกรรมที่ทวารบาล ก็เลยมุ่งตรงไปถ่ายเก็บไว้ก่อน เพราะไม่มีคนเฝ้า มีแต่ฝรั่งเดินเข้าออกเต็มไปหมด ถ่ายจนพอใจ เจอฝรั่งถามทางไปวิหารพระนอน เลยจูงมือมันเดินไปซะเลย555555(ตอนนี้วิหารพระนอนอยู่ระหวางบูรณะภายนอกทั้งหมด)

เสร็จแล้วจึงมุ่งตรงไป จุดหมายคือพระอุโบสถ เพื่อถ่ายภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ ตามที่ตั้งใจ ตอนถ่ายมิได้ถ่ายตามเรื่อง แต่ไล่ถ่ายทีละด้านจนครบ แล้วค่อยนำภาพมาจัดเรียงลำดับใหม่เพื่อการโพสต์ สภาพปัจจุบันของศิลาจำหลักนี้ค่อนข้างลบเลือน โดยเฉพาะบริเวณโคลงจำหลักประกอบภาพ ลบเลือนเกือบหมด การถ่ายภาพของกระผมมิได้มีพิธีรีตรองมากนัก ตั้งออโต้แล้วแชะๆๆ เพราะเวลาร่วมสี่โมงเย็นแล้ว จึงต้องเร่งรีบ คงพอจะนำเสนอได้น่าพอใจในระดับนึง หวังว่าคงไม่ว่ากัน(ภาพแรกนำเสนอภาพพระประธานในพระอุโบสถ พระพุทธเทวปฏิมากร)
         
ภาพจำหลักนี้ จำหลักและติดตั้งอยู่ระหว่างเสาเฉลียง(เสานางเรียง)ของพระอุโบสถด้านนอก จำหลักเป็นภาพสลักนูนต่ำ บนแผ่นหินอ่อน เรื่องรามเกียรติ์ มีทั้งหมด 152 ภาพ และมีโคลงจารึก บอกเนื้อเรื่องติดไว้ใต้ภาพ แต่ปัจจุบันได้เลือนลาง มองเห็นไม่ชัดเจน ภาพสลักศิลาเหล่านี้ มาจากภาพหนังใหญ่ตอนต่างๆ รัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชปรารภว่า

“หนังใหญ่เป็นการเล่นมหรสพของไทยมาแต่อยุธยาตอนต้นถึงสมัยรัตนโกสินทร์ การเล่นหนังใหญ่ต้องใช้ศิลปะชั้นสูงหลายด้าน เพราะเหตุนี้การเล่นหนังใหญ่จึงเป็นของเล่นให้ดีได้ยาก นับวันแต่จะโทรมลงไป เพื่อให้อนุชนได้ชมภาพตัวหนังดังกล่าว จึงให้เอาตัวหนังใหญ่มาแกะลงบนแผ่นศิลาให้เหมือนหนังฉลุทุกส่วน ติดไว้ให้ชม”

ซึ่งช่างได้คัดเลือกเอาแต่เฉพาะตอนที่เห็นว่าจะจำหลักเป็นภาพได้งดงาม จึงมีเนื้อเรื่องไม่ต่อเนื่องกันนัก แต่เนื้อเรื่องนั้นได้เริ่มตั้งแต่พระรามตามกวางจากแผนของทศกัณฐ์ที่ออกอุบายให้มารีศแปลงเป็นกวางทองมาล่อพระราม จนทศกัณฐ์ลักนางสีดา จนถึงพระลักษมณ์ทำศึกกับมูลพลัม ซึ่งเป็นอสูรตนสำคัญแห่งเมืองปาวตาลที่มาช่วยทศกัณฐ์รบกับฝ่ายพระราม และจบลงที่แผ่นสุดท้าย สหัสเดชะตาย





.....

แผ่นที่1 พระรามตามกวาง  : ในภาพพระรามเอาเถาวัลย์มัดขามารีศ ใช้คันธนูคอนมาพบกับพระลักษณ์ ตำแหน่งติดตั้งเริ่มจากมุมขวามือด้านตะวันออกของพระอุโบสถ แล้วติดตั้งเวียนซ้ายไปจนครบ 152 ภาพ(แต่จะมีช่วงผนังเข้ามุมที่เป็นบันไดขึ้นลานพระอุโบสถ จะมีภาพจำหลักสอดแทรกเป็นเทวดาเหมือนทวารบาลและสัตว์หิมพานต์ประกอบอยู่ทุกบันได ทั้งด้านขวาและซ้าย)



.....

แผ่นที่2 ทศกัณฐ์ลกพานางสีดา : ในภาพทศกัณฐ์กำลังอุ้มนางสีดา ส่วนนางสีดาก็ใช้มือจับเสาบรรณศาลาเหนี่ยวรั้งไว้



.....

แผ่นที่3 ทศกัณฐ์พบสดายุกลางอากาศ : ในภาพนกสดายุกำลังใช้ปากจิกและปีกตีทศกัณฐ์อย่างดุเดือด



.....

แผ่นที่4 หนุมานพาสุครีพไปถวายตัว : ในภาพ หนุมานพาพญาสุครีพไปเฝ้าถวายตัวแด่พระรามที่โคนต้นหว้า



.....

แผ่นที่5 สุครีพท้าพาลี : ในภาพ พญาพาลีกำลังกกกอดนางดารา สองเสนาเงยหน้าเห็นสุครีพแล้วตกใจ (ให้สังเกตแผ่นนี้โคลงจำหลักยังพอมองเห็น ส่วนที่ผ่านมาแต่ภาพแรกไม่เห็นแล้ว)  วันนี้ขอแค่นี้ก่อน เพราะง่วงแล้วครับ เพื่อนสมาชิกชมรมก็หายกันไปหมดตั้งแต่หัวหน้าหายสาบสูญ กลับมาแล้วครับ มาช่วยกันสร้างสรรค์ศิลปะไทยกันต่อครับ



..........

siamese
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 03 ส.ค. 11, 08:48

"นกผละกิ่งโผบินทิ้งมูลไว้    ผละอาศัยไม้ใหญ่ใบแน่นหนา
ถือเป็นเรื่องคู่เวรคู่กรรมนา   จงนำมาน้อมนำจิตมั่นคง

ยิ่งเหนี่ยวรั้งคว้าไว้ยิ่งไกลหมาย   ตั้งหลักกายความคิดจิตประสงค์
ยิ่งดิ้นรนยิ่งเร่งเร้ายิ่งจมลง     ต้องทะนงตั้งมั้นหยั่งรากเทอญ"

+++++++++

สนใจภาพรามเกียรติ์สลักหินอ่อนที่วัดพระเชตุพนมานานแล้ว และด้านล่างภาพมีแผ่นหินอ่อนสลักอักษรกลอนประดับไว้ด้วย เดิมน่าจะมีการถมดำไว้ให้อ่านง่าย ๆ แต่ปัจจุบันบางแผ่นถูกเปลี่ยนซ่อมแทนของเดิม แต่เป็นแผ่นเรียบไม่จารึกกลับคืน บางแผ่นแตกเสียหาย บางแผ่นตัวอักษรถูกน้ำฝน ถูกลมซัดจางหายไป น่าเสียดายมากเลย

เดิมภาพชุดนี้เคยใช้เป็นที่ขูดภาพด้วยเขม่าถ่าน แล้วนำไปขายให้นักท่องเที่ยว ขูดกันจนหินสึก จนวันออกประกาศห้ามทำการขูดลอกลายอีกต่อไป   



..........

jean1966
แผ่นที่6 พระรามแผลงศรยิงพาลี : พระรามเป็นนารายณ์อวตาร กำลังแผลงศรยิงพญาพาลี



.....

แผ่นที่7 พาลีถูกศรพระนารายณ์ : ในภาพ พาลีใช้มือจับลูกศรพระนารายณ์ ใช้เท้าโถมถีบสุครีพกลางอากาศ เหตเกิดเมื่อสุครีพรู้ตนดีว่าไม่สามารถสู้พญาพาลีได้ เพราะพญาพาลีได้รับพรจากพระอิศวร เมื่อสู้กับใครให้กำลังศัตรูลดลงกึ่งหนึ่ง สุครีพจึงร้องตะโกนเรียกพระราม(Help Me Help Me)เอ๊ยไม่ใช่ "ช่วยด้วยเถิดพระเจ้าข้า" พระรามจึงแผลงศรไปที่พญาพาลีทันที พญาพาลีใช้มือจับลูกศรซึ่งกำลังพุ่งตรงอกของตนเองไว้ได้ แต่เมื่อแลเห็นพระรามเป็นนารายณ์อวตาร นึกถึงเสียสัตย์สาบาน จึงปล่อยลูกศรปักอกตัวเอง ก่อนตายได้สั่งสอนน้อง สั่งลูก สั่งหลาน และบรรดาทหารหาญจนสิ้นแล้วจึงตาย



.....

แผ่นที่8 หนุมานรับอาสาไปกรุงลงกา : ในภาพ พระรามเสด๊จออกว่าราชการ และมอบธำมรงค์กับผ้าสะไบแก่หนุมาน เพื่อนำไปถวายนางสีดาที่กรุงลงกา



.....

แผ่นที่9 สิบแปดมงกุฎยกพล : ในภาพปรากฎเพียง สุครีพ องคต หนุมานและนิลนนท์ไปเข้าเฝ้าพระราม ตามท้องเรื่องนั้นสุครีพเข้าเฝ้าพระรามพร้อมสิบแปดมงกุฎทุกหมู่เหล่า รวมทั้งลิงไพร่ ลิงหลวงทั้งปวงที่มีในบัญชีชื่อนับร้อย เข้าเฝ้าพระรามรอรับราชโองการ



.....

แผ่นที่10 เดินทางไปราชการ : ในภาพ หนุมาน ชมพูพาน องคตและเหล่าวานรออกเดินทาง หลังจากรับสังใส่เกล่าใส่กระหม่อมทั้งสาม จึงนำพระธำมรงค์กับผ้าสไบออกจากเขาคันธมาทน์ เพื่อไปถวายนางสีดาที่กรุงลงกา



.....

แหม๋ไม่รู้จะโพสต์จบวันไหน คั่นสายตาด้วฤๅษีดัดตนวัดโพธิ์ ซึ่งในการเดียวกันนี้ ได้ไป่ถ่ายภาพมาด้วย แต่เดิมมีอยู่ 80 ตน ไม่รู้วัดทำหายไปไหน เหลือเพียง 24 ตนในปัจจุบัน วันหลังจะนำเสนอเรื่องฤๅษีดัดตนบ้าง ถ้ามีเวลา



.....

มาชมกันต่อ แผ่นที่11 ที่สระโบกขรณี : ในภาพ หนุมาน องคต ชมพูพาน สามทหารได้มาพักผ่อนนอนหลับอยู่ที่โคนต้นไม้ริมสระโบกขรณีชื่อสระพันตา ขณะนั้นมียักษ์ปักหลั่น ซึ่งถูกพระอิศวรสาปอยู่ในสระ พอเห็นวานรป่าจึงตรงเข้าหมายจะจับกินเป็นอาหาร



.....

แผ่นที่12 องคตจับยักษ์ปักหลั่น : ในภาพ องคตจับมือยักษ์ปักหลั่นแล้วจะใช้พระขรรค์แทง ในขณะที่ยักษ์ปักหลั่นตรงเข้าจับ หนุมานและชมพูพานซึ่งยังนอนหลับอยู่(ขี้เซาจริงๆ)เหลือแต่องคตที่รู้ตัวก่อน จึงเข้าต่อสู้และจับยักษ์ปักหลั่นได้



.....

แผ่นที่13 ยักษ์ปักหลั่นพ้นคำสาป : ในภาพ องคตลูบกายยักษ์ปักหลั่น จึงพ้นคำสาบเป็นเทวดาดังเดิม เรื่องมีอยู่ว่าเดิมยักษ์ปักหลั่นเป็นเทวดารับใช้ของพระอิศวร ทำชู้กับนางฟ้า พระเป็นเจ้าจึงสาปให้เป็นยักษ์ปักหลั่นอยู่เฝ้าสระโบกขรณีชื่อพันตา เมื่อใดพวกทหารพระรามได้ลูบกายจึงจะพ้นคำสาป เมื่อยักษ์ปักหลั่นได้พบและรบแพ้แก่องคต จึงไต่ถาม เมื่อทราบว่าเป็นขุนทหารของพระราม ก็ขอให้องคตลูบตั้งแต่เกศาตลอดหลัง จึงพ้นคำสาบ กลายเป็นเทวดาดังเดิมทันที



.....

แผ่นที่14 หนุมานเกี้ยวนางบุษมาลี : ในภาพหนุมานกำลังตระคองกอดนางบุษมาลีที่พระตำหนักร้าง เรื่องมีอยู่ว่า นางบุษมาลีเป็นนางอัปสร ผู้ชักสื่อท้าวตาวันเจ้าเมืองมายันให้ได้กับนางอัปสรชื่อรัมภา พระอิศวรกริ้วจึงฆ่าท้าวตาวันเสีย ทำให้เมืองมายันร้าง และสาปนางบุษมาลีไปอยู่ที่เมืองมายันสามหมื่นปี หนุมานได้พบนางก่อนแล้วเกี้ยวพาราสีจนได้นางเป็นเมีย...โปรดติดตามตอนต่อไป



..........

siamese
ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 03 ส.ค. 11, 15:07

ฝนภาพแผ่นที่14 หนุมานเกี้ยวนางบุษมาลี
เข้ามาติดตามชมครับ



..........

jean1966
ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 03 ส.ค. 11, 15:08

แผ่นที่15 ส่งนางบุษมาลีขึ้นสวรรค์ : ในภาพหนุมานช้อนนางบุษมาลีเตรียมเหาะขึ่นไปส่งยังสวรรค์ ความเดิมต่อจากตอนที่แล้ว นางบุษมาลีจะพ้นคำสาปก็ต่อเมื่อได้พบกับทหารเอกของพระรามแล้วบอกทางไปกรุงลงกา เพื่อที่หนุมานจะไปถวายแหวน เมื่อรู้ว่าหนุมานคือทหารเอกของพระราม นางจึงบอกทางให้ จนพ้นคำสาป หนุมานจำใจหักอาลัยอาวรณ์ ตัดสินใจอุ้มนางนุชสุดสวาทขว้างขึ้นสู่สรวงสวรรค์ กลับเป็นนางอัปสรตามเดิม



..........

Kurukula
ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 03 ส.ค. 11, 19:35

ตอนยักษ์ปักหลั่น เคยเห็นโขนเล่น ให้องคตฆ่าปักหลั่นตาย กลายเป็นเทพบุตรเหมือนเดิม แสดงว่าในวัดโพธิ์นี้ ก็มีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่แตกต่างออกไป อาจจะเป็นธรรมเนียมการเล่นหนังใหญ่ก็ได้ เพราะบางอย่างโขนทำไม่ได้ หรือทำได้ไม่เนียน อย่างตอนพระรามแผลงศรฆ่าพาลี ก็ทำเป็นสี่กรตามแบบหนังใหญ่จริงๆ

ขอบคุณพี่ยีนส์ที่เอามาให้ชมครับ หมู่นี้ไม่ได้ไปไหน สถิตย์อยู่แต่ในไศลหลวง (ออฟฟิซ) นั่งเฝ้าสมบัติบ้าอยู่ วันหลังถ้าว่างๆมาเยี่ยมกันบ้างได้ครับ ที่ซอยรางน้ำ

..........

jean1966
ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 03 ส.ค. 11, 20:48

ทำอะไรอยู่รางน้ำละน้องกุ ลอกท่อรึเปล่า555555(ล้อเล่น)ยังไม่รู้เลยน้องอยู่ที่ไหน หน้าก็ยังไม่เคยเจอ อิอิ เมื่อบ่ายโพสต์มาถึงตอนที่แล้ว เว็ปมันก็ล่ม ก็งงเหมือนกัน มาดูต่อกันเลยครับ
       
มาชมต่อครับแผ่นที่16 สามทหารพบนกสัมพาที : ในภาพปรากฎมีนกสัมพาที หนุมาน ชมพูพานและองคต เรื่องมีอยู่ว่า นกสัมพาทีพี่นกสดายุ เมื่ออยู่เขาอัศกรรณกับน้อง สดายุยังไม่รู้ความ วันหนึ่งเห็นดวงอาทิตย์สดายุสำคัญว่าเป็นผลไม้สุกลอยอยู่ ก็บินถลาขึ้นไปจับจิกรถทรงของพระอาทิตย์ พระอาทิตย์ทรงกริ้วเปล่งแสงแรงร้อนจัดยิ่งขึ้นอีก นกสัมพาทีจึงบินขึ้นไปปกป้องน้อง ถูกความร้อนจัดจนขนหลุดร่วงหมด พระอาทิตย์จึงสาปซ้ำ มิให้ขนขึ้นอีกเลยและให้อยู่ที่ถ้ำเหมติรัน จนกว่าจะได้ยินเสียงโห่สามลาของทหารพระราม จึงจะพ้นคำสาป เมื่อพบพวกหนุมานพักอยู่ที่ปากถ้ำ และพูดปรึกษากันว่าจะยอมตายในหน้าที่เหมือนนกสดายุ นกสัมพาทีจึงออกมาถามเรื่องราว แล้วจึงขอให้หนุมานและพวกช่วยโห่สามลาพร้อมกัน ขนของนกสัมพาทีจึงงอกงามได้อย่างเก่าและรับอาสาพาสามทหารไปดูเมืองลงกา โดยโผบินไปหยุดที่เขาคันธสิงขร ชี้ให้ดูกรุงลงกา



.....

แผ่นที่17 หนุมานฆ่านางผีเสื้อสมุทร : ในภาพหนุมานใช้พระขรรค์คว้านท้องนางผีเสื้อสมุทร นางผีเสื้อสมุทรผู้นี้ท้าวสหบดีพรหมผู้สร้างกรุงลงกาตั้งให้เป็นผู้รักษาด่านกรุงลงกาทางน้ำ เมื่อเห็นหนุมานเหาะข้ามมหาสมุทรมา ก็ออกสกัด อ้าปากหมายจะกลืนกิน หนุมานจึงเหาะเข้าไปในปาก ผีเสื้อสมุทรรีบกลืนลงท้อง หนุมานจึงใช้พระขรรค์คว้านท้อง เล่นเอาตับไตไส้พุงไหลทะลักขาดใจตายเลย



.....

แผ่นที่18 หนุมานพบพระฤๅษีบรมนารท : ในภาพ พระฤๅษีบรมนารทชี้บอกทางให้หนุมาน  เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า หนุมานเหาะไปกรุงลงกาแต่ผู้เดียว ไปลงที่ยอดเขาโอฬสซึ่งเป็นเวลาเย็นย่ำ เลยกรุงลงกาไป สำคัญว่าเป็นเขานิลกาลา แต่ได้พบพระฤๅษีนารทอยู่ที่นี่ เลยจำแลงเป็นลิงเล็กเข้าไปหา ถามถึงกรุงลงกาว่าไปทางไหน พระฤษีนารทบอกว่าเลยมาแล้ว จึงชี้ทางไปเขานิลกาลาให้



.....

แผ่นที่19 หนุมานลองฤทธิ์ : ในภาพ หนุมานแปลงกายใหญ่เต็มอาศรม  หนุมานขอพักอาศัยอยู่กับพระฤๅษีนารทสักคืนหนึ่ง แล้วได้ลองฤทธิ์กับพระฤๅษีนารท โดยแปลงกายใหญ่เต็มอาศรมศาลา พระฤๅษีเห็นเข้าจึงโมโห เมื่อมาตัวเล็กนิดเดียวแล้วทำไมมาลองดีกับข้า พระฤๅษีจึงบันดาลเรียกลมเรียกฝนให้ตกที่อาศรมศาลา หนุมานจึงเปียกปอน นอนไม่ได้ หนาวสะท้านกาย ขอยอมแพ้ พระฤๅษีก็ยังไม่หายโมโห จะต้องสั่งสอนให้รู้ฤทธิ์ จึงเอาไม้เท้าโยนลงไปในสระ(โปรดติดตามตอนต่อไป)



.....

แผ่นที่20 หนุมานถูกปลิงเกาะคาง : ในภาพ ปลิงเกาะคางหนุมาน ยิ่งเหาะสูงเท่าไหร่ ปลิงก็ยาวขึ้นเท่านั้น เหตุเกิดต่อจากตอนที่แล้ว เมื่อรุ่งเช้าหนุมานตื่นนอนไปล้างหน้าที่สระน้ำ ถูกปลิงเกาะคาง แกะอย่างไรก็ไม่ยอมออก เหาะสูงขึ้นไปปลิงก็ยิ่งยาวขึ้น พระฤๅษีเห็นก็ยืนหัวเราะชอบใจ แล้วบอกว่า เก่งจริงต้องแกะปลิงออกให้ได้ หนุมานจึงขอยอมแพ้พระฤๅษี พระฤๅษีจึงเอามือไปจับปลิงแล้วกลายเป็นไม้เท้าอันเดียวกับที่พระฤๅษีโยนลงสระไว้ จากตอนที่แล้ว



.....   

Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,111


View Profile
« Reply #1 on: 28 March 2022, 20:52:07 »


แผ่นที่ 21 หนุมานมุ่งตรงไปกรุงลงกา : ในภาพ หนุมานเหาะทะยานไปในนภากาศ หลังจากหนุมานเข้าไปกราบขอขมาพระฤๅษี พระฤๅษีมีเมตตาจิตให้อภัยแล้วลาพระฤๅษีจากยอดเขาโอฬส ย้อนทางไปยังเขานิลกาลาตามที่พระฤๅษีชี้ทางให้



.....

แผ่นที่22 หนุมานหักด่านอากาศ : ในภาพหนุมานฆ่ายักษ์ตายหมด เมื่อหนุมานเหาะไปกุงลงกาพบกองตระเวนคุ้มกันกรุงลงกาทางอากาศ เหล่าพลยักษ์คุ้มกันจึงออกมาสกัดกั้น หนุมานจึงเข้าต่อสู้แล้วฆ่าเหล่าพลยักษ์ตายเรียบ



.....

แผ่นที่23 หนุมานฆ่าอากาศตไล : ในภาพ หนุมานใช้พระขรรค์ตัดคออากาศตไล  นางอสูรกองระเวนเฝ้ากรุงลงกามีชื่อว่า "อากาศตไล" มีสี่หน้าแปดมือ เมื่อเห็นเหล่าพลยักษ์หน่วยลาดตระเวนตายหมด ตนเองจึงเข้าต่อสู้กับหนุมาน แต่ก็สู้ไม่ได้ ถูกหนุมานตัดแขนตัดคอ ตายตกกลิ้งกลางดิน



.....

แผ่นที่24 ห้องบรรทมทศกัณฐ์ : ในภาพทศกัณฐ์กำลังนอนหลับกับนางมณโฑ หนุมานไปถึงกรุงลงกาเป็นเวลาพบค่ำ สะกดพวกเวรยามให้หลับหมด เที่ยวค้นหาตามปราสาทราชมณเฑียร พบทศกัณฐ์นอนหลับอยู่กับนางมณโฑ แต่ไม่พบนางสีดา หนุมานจับพระขรรค์จะฟันทศกัณฐ์ พลันได้ยินจิ้งจกทัก จึงหยุดยั้งไว้ แหม๋ไม่รู้จิ้งจกเก้าหางรึเปล่านะ อิอิ อยากได้สักตัว



.....

แผ่นที่25 อยู่ยามตามไฟ : ในภาพตำรวจยักษ์ถือโคมไฟ ทศกัณฐ์นั้นเวลาจะเสด็จไปทางใด จะมีกององครักษ์ตำรวจยักษ์แปดกรมเจ้าหน้าที่นำคบโคมไฟนำหน้า เพรียบพร้อมด้วยกองอาสาติดอาวุธโล่ โตมร ศร คอยระแวดระวังล้อมติดตาม



.....

ปิดท้ายวันนี้ด้วยตอนที่25 เพราะไม่ค่อยมีคนชมแล้ว จึงคั่นจบด้วยรูปทวารบาลคู่หน้าพระวิหารทิศ(จำไม่ได้)เป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ฝีมือเดิมสมัยรัชกาลที่3 เขียนเป็นรูปด้านอัด(ด้านหน้าตรง)ดูแปลกตาและสวยดีครับ ทำให้นึกถึงว่าเมื่อครั้งวัดโพธิ์ยังสมบูรณ์สมัยรัชกาลที่3 นั้น ถ้ายังอยู่ครบแบบสมัยพระองค์ท่านจะงดงามยิ่งใหญ่ซะเพียงไหน



..........

siamese
ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 04 ส.ค. 11, 07:25

ยังติดตามชมอยู่ครับ
ดูจากลักษณะการแกะภาพ น่าจะมีช่างช่วยกันทำหลายท่าน และบางภาพมีลีลาออกไปทางอย่างกระบวนจีน งดงามเหลือเกินครับ

..........

jean1966
ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 04 ส.ค. 11, 09:17

มาดูกันต่อครับ แผนที่26 ทศกัณฐ์ประทับราชรถ ภาพนี้ในหนังสือ" ประถมรามเกียรติ์ " ที่ผู้โพสต์ใช้ประกอบระบุเป็นแผ่นที่27 แต่ถ้าเรียงตามการติดตั้งต้อง26 แต่เนื้อเรื่องมันดูขัดแย้งกัน ในหนังสือระบุว่า ทศกัณฐ์เมื่อผิดหวังจาการเกี้ยวนางสีดาซึ่งไม่ยอมปลงใจด้วย ทำให้ร้อนรุ่มกระวนกระวาย รีบเสด็จกลับเข้าวังสู่ห้องบรรทม ยิ่งคิดยิ่งตรอมใจยิ่งนัก ถ้ากลับกันเรียงตามแผ่นจำหลัก อาจเป็นทศกัณฐ์ประทับราชรถไปเกี้ยวนางสีดาก็ได้ เพราะจากท่าทางดูขึงขัง มิได้ดูเศร้าโศกจากการถูกตัดรักแต่อย่างใด



.....

แผ่นที่27 ทศกัณฐ์เกี้ยวนางสีดา : ในภาพเป็นในอุทยานกรุงลงกาเวลาค่ำ ทศกัณฐ์เฝ้าอ้อนวอนงอนง้อเล้าโลมต่างๆ เพื่อให้นางสีดาปลงใจด้วย (แหม๋ลูกตัวเองแท้ๆยังไม่รู้ หัวงูจริงๆ) นอกจากนางสีดาไมยินยอมแล้วกลับด่าว่า ทศกัณฐ์พาลกริ้วพวกนางกำนัลที่อยู่งานดูแล ไม่ช่วยกันเกลี้ยกล่อมบ้าง ภาพตอนนี้ องค์ประกอบของภาพสวยงามมาก ดูภาพจำหลักสีหน้าทศกัณฐ์ที่ดูกรุ้มกริ่ม เชยคางและแขนกวัดกับเสาพลับพลาเชิงออดอ้อน แล้วก็ท่วงท่าของนางสีดาที่ดูไว้ตัว(เชิงรังเกียจเจ้าชู้ยักษ์)น่าชมจริงๆ



.....

แผ่นที่28 นางสีดาผูกพระศอ : ในภาพนางสีดาใช้ภูษาผูกพระศอที่กิ่งต้นโศก เรื่องมีอยูว่า เวลาสามยาม คนหลับนอนหมดแล้ว นางสีดาเคืองแค้นทศกัณฐ์กับเหล่านางสนมกำนัลที่ใช้ผรุสวาจาสามหาว จึงตัดสินใจผูกพระศอกับกิ่งต้นโศกหวังฆ่าตัวตาย (ในภาพมีหนุมาน มาช่วย)





..........

siamese
ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 04 ส.ค. 11, 09:46

ขออนุญาตแทรกนิดครับ แทรกภาพขูด ใบหน้าทศกัณฐ์เชิงเจ้าชู้ ตามที่คุณ jean1966 เอ่ยถึงไว้ครับ



..........

jean1966
ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 04 ส.ค. 11, 09:51

แผ่นที่29 หนุมานถวายแหวน : ในภาพ นางสีดารับพระธำมรงค์และสไบทรงจากหนุมาน เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า หนุมานกลับไปหาพระฤๅษีนารทถามที่อยู่นางสีดา พระฤๅษีบอกว่าอยู่ในอุทยาน ก็ตรงไปที่นั่น พบนางสีดากำลังผูกศอกับกิ่งโศก จึงรีบเข้าไปรองรับ ตัดผ้าที่ผูกคอออก เมื่อเห็นนางยังไม่ตาย หนุมานดีใจเล่าเรื่องว่าพระรามกำลังเดินป่าตามหานาง แล้วจึงถวายธำมรงค์กับผ้าสไบทรง นางสีดาร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ



.....

สวัสดีครับคุณsiamese ขอบคุณครับทีติดตามและช่วยเพิ่มสีสรรค์แก่กระทู้
แผ่นที่30 หนุมานทำลายสวนขวัญ : ในภาพ หนุมานหักไม้ประดับ ไม้ดอกในอุทยานเสียสิ้น เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อลานางสีดาแล้ว แต่ยังไม่กลับ เดินชมไม้ดอกไม้ประดับบรรจงสร้างไว้อย่างสวยงาม ว่าแล้วก็แผลงฤทธิ์เพื่อลองหยั่งกำลังยักษ์ เข้าทำลายหักต้นหมาก ต้นมะพร้าว ต้นมะตูม ต้นตาลในอุทยาน เหล่ายักษ์ผู้เฝ้าดูแลอุทยานก็โก่งธนูยิง ช่วยกันล้อมจับหนุมาน



..........

siamese
ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 04 ส.ค. 11, 10:04
.....
อ้างจาก: jean1966 ที่  04 ส.ค. 11, 09:51
แผ่นที่29 หนุมานถวายแหวน : ในภาพ นางสีดารับพระธำมรงค์และสไบทรงจากหนุมาน เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า หนุมานกลับไปหาพระฤๅษีนารทถามที่อยู่นางสีดา พระฤๅษีบอกว่าอยู่ในอุทยาน ก็ตรงไปที่นั่น พบนางสีดากำลังผูกศอกับกิ่งโศก จึงรีบเข้าไปรองรับ ตัดผ้าที่ผูกคอออก เมื่อเห็นนางยังไม่ตาย หนุมานดีใจเล่าเรื่องว่าพระรามกำลังเดินป่าตามหานาง แล้วจึงถวายธำมรงค์กับผ้าสไบทรง นางสีดาร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ
.....

...จึงรีบเข้าไปรองรับตัดผ้าที่ผูกคอออก...
ตรงนี้หมายถึงอย่างไรหรือครับ โดยทั่วไปเราไม่ตัดผ้าที่ผูกคอ เราจะคลายปม แก้ผ้าออกขอรับ

..........

Wandee
ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 04 ส.ค. 11, 10:12

ตามอ่านอยู่ค่ะ
ผ้าที่ผูกนั้นตึงด้วยน้ำหนักคน  แก้ยาก  เสียเวลานะคะคุณหนุ่มสยาม
อยากบอกคุณยีน1966 ว่า  ตอนเด็กๆ  ไปลอกรูปที่วัดเหมือนกัน  อิอิ

..........

jean1966
ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 04 ส.ค. 11, 10:15

รองรับนี่หมายถึงรองรับองค์สีดาไงครับ เหมือนกับเวลาเราพบคนผูกคอตาย เมื่อเชือกมันรัดคอจากการทิ้งน้ำหนกตัวลงมา เราก็ต้องรีบเข้าไปประคองผู้ผูกคอให้ลอยขึ้นเพื่อที่น้ำหนักตัวจะได้ไม่ดึงเชือกให้รัดแน่นมากขึ้น จากนั้นจึงคล่อยคลายปมเชือกหรือรีบตัดเชือกทิ้ง(ตัดปมที่รัดคอออก)
แผ่นที่31 หนุมานฆ่ายักษ์ : ในภาพหนุมานจับเหล่ายักษ์ฟาดล้มตายก่ายกอง เหล่ายักษ์นั้นได้พากันเข้าต่อสู้กับหนุมาน แต่โดนหนุมานจับฟาดนอนตายเกลื่อนกลาด ที่ไม่อาจต่อสู้ได้ก็หนีไป ส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัว



..........

siamese
ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 04 ส.ค. 11, 10:18
.....
อ้างจาก: Wandee ที่  04 ส.ค. 11, 10:12
ตามอ่านอยู่ค่ะ
ผ้าที่ผูกนั้นตึงด้วยน้ำหนักคน  แก้ยาก  เสียเวลานะคะคุณหนุ่มสยาม
อยากบอกคุณยีน1966 ว่า  ตอนเด็กๆ  ไปลอกรูปที่วัดเหมือนกัน  อิอิ
.....

เป็นอย่างนี้นี่เอง.... คุณวันดี ไปลอกได้กี่ภาพครับ น่าสนุกทีเดียวนะครับผม

..........

jean1966
ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 04 ส.ค. 11, 10:26

แผ่นที่32 หนุมานฆ่าสหัสกุมาร : ในภาพเหล่ายักษ์พันตน รวมกำลังประจัญบานกับหนุมาน(อย่างนี้เรียกว่าหมาหมู่)  สหัสกุมารคือกุมารยักษ์จำนวนหนึ่งพันตน โอรสของทศกัณฐ์ เมื่อได้ยินเสียงร้องแตกตื่นก็เข้าไปช่วย ยักษ์พันตนได้รุมต่อสู้กับหนุมานผู้เดียว หนุมานพยายามจับยักษ์ฆ่าทีละตนจนหมดสิ้นไม่มีเหลือ
 เป็นอันจบศิลาจำหลักฝั่งด้านทิศตะวันออกของพระอุโบสถ จำนวน 32 แผ่น



.....

ต้องจบการโพสต์วันนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ เพราะต้องจรลีไปหาเงินใช้หนี้ มิเช่นนั้นแล้วชีวิตก็จะได้ระเห็จไปใช้ชีวิตอยู่ในห้องกรง วันที่ 9 นี่แล้ว(กรรมตามมาถึงอีกแล้ว)จบด้วภาพฤๅษีดัดตน แล้วพบกันถ้ามีโอกาสนะครับ ทุกท่านที่ติดตาม



..........

Kurukula
ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 04 ส.ค. 11, 21:59

สุดยอดเลยครับพี่ยีนส์ วัดโพธิ์กว้างใหญ่นักหนา ยังไม่เคยดูภาพแกะสลักรามเกียรติ์ครบเลยสักครั้ง ไปทีไรก็ลืม มัวแต่ดูพระดููเจดีย์ ดูท่วงทีลายเขียนแล้วสนุกดีเหมือนกันครับ ออกจะต่างกับจิตรกรรมอย่างอื่นๆบ้าง อย่างตอนทศกัณฐ์เกี้ยวนางสีดานี่ ดูหมดสง่าพญายักษ์เลย

..........

jean1966
ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 06 ส.ค. 11, 10:28

แปลกใจเหมือนกัน ว่าเหล่าสมาชิกหายไปไหนกันหมด อย่างนี้คนโพสต์เลยหมดแรง เว็ปเลยไม่ค่อยอัพเดท กำลังชั่งใจอยู่ว่ากระทู้นี้จะต่อดีหรือไม่ เพราะดูจะไม่ค่อยโดนใจผู้ชมนัก



..........

เพ็ญชมพู
ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 06 ส.ค. 11, 10:34

คุณยีนส์สู้ ๆ
เคยไปวัดโพธิ์ แต่ไม่มีโอกาสชมภาพจำหลักรามเกียรติ์สักที
โอกาสมาถึงเมื่อคุณยีนส์นำภาพมาลง น่าสนใจมาก ติดตามอย่างเงียบ ๆ อยู่
ยามนี้จึงมาเอื้อนเอ่ย เพื่อให้เจ้าของกระทู้มีกำลังใจ
สู้ ๆ

..........

siamese
ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 06 ส.ค. 11, 10:51

เข้ามารอทุกวันเลยนะครับเนี่ย อย่าเพิ่งหมดแรงนะครับผม อย่างน้อยผมก็ติดตามไม่ขาดสายครับ

..........                           

jean1966
ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 06 ส.ค. 11, 12:40

ยังมีคนรอชม ไอ้กระผมก็ต้องสู้ต่อไป เชิญชมกันต่อเลยครับ
แผ่นที่33 อินทรชิตแผลงศร : ในภาพอินทรชิตกำลังแผลงศรนาคบาศ  หลังหนุมานได้ฆ่าเหล่ายักษ์ล้มตายไปมากมาย ที่เหลือก็แตกพ่ายหนีซมซานไม่ขอสู้ อินทรชิตเสด็จยืนอยู่บนรถทรง เห็นหนุมานกำแหงหาญฆ่ายักษ์ไปต่อหน้าต่อตา จึงจับพระแสงศรซึ่งพระพรหมประทานให้ยิงไปที่หนุมาน



.....

แผ่นที่34 หนุมานถูกนาคมัดกาย : ลูกศรของอินทรชิตกลยเป็นงูเข้ารัดกายหนุมานอย่างรวดเร็ว หนุมานพยายามจับงูฟัดฟาดทิ้งก็ไม่หมด เหล่าพลยักษ์จึงช่วยกันจับหนุมาน หนุมานจึงทำเป็นนอนกลิ้งให้เหล่ายักษ์ช่วยกันปล้ำจับ



.....

แผ่นที่35 หนุมานแผลงฤทธิ์  หนุมานผู้องอาจกล้าหาญ ได้กระโดดเข้าระหว่างกลางพลยักษ์หมู่มาร ซึ่งไม่อาจทนทานฤทธิเดชได้ ถูกหนุมานฉุดฉีกแขนขาขว้างทิ้ง(ซาดิสก์จริงๆ ผู้ปกครองควรพิจารณา)



.....

แผ่นที่36 หนุมานต่อสู้กับหมู่ยักษ์ หนุมานสลัดตัวหลุด แล้วเข้าต่อสู้ท่ามกลางหมู่ยักษ์ ห้ำหั่นฟันหัวหิ้วขว้างทิ้งเกลื่อนดิน (อันนี้มหาโหดเลย เด็กห้ามดูเด็ดขาด)



.....

พิมพ์เพลินไปหน่อย ข้อมูลรูปที่35 กับ 36 สลับกันซะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
แผ่นที่37 หนุมานถูกยักษ์ลงโทษ : ในภาพหนุมานถูกมัดแขน ทหารยักษ์ช่วยกันแทง ช่วยกันเอาขวานฟัน  เหล่าพลยักษ์ที่ตายก็ตายไป ที่ยังเหลือก็เพิ่มขึ้นมาใหม่จำนวนมาก และช่วยกันรุมจับหนุมานมัดไว้ ต่างก็เอาหอก ขวาน มีด ฟาดฟัน แต่พอหนุมานดิ้นหลุดก็กลับสังหารยักษ์ล้มตายไปอีก



.....

แผ่นที38 เอาหนุมานใส่ครกตำ : ในภาพหนุมานกำลังแย่งสาก  ยักษ์กุมภัณฑ์ ซึ่งเป็นมือเพชญฆาต ได้ช่วยกันจับหนุมานรุมยกใส่ครกแล้วโขลกตำ  หนุมานกลับลุกออกมาได้ ขึ้นชกชิงสากได้แล้วไล่ตีขยี้ยักษ์ตายไปอีกมาก



.....

แผ่นที่39 เอาช้างมาแทงหนุมาน : ในภาพ หนุมานฆ่าควาญช้าง และหักคอช้าง  เหล่าพลยักษ์ช่วยกันจับหนุมานมัดกับเสาหลักกลางแปลง แล้วเอาช้างตกมีนวิ่งแทง หนุมานกลับดิ้นหลุดอย่างรวดเร็ว เข้าฆ่าหมอควาญยักษ์และหักคอช้างล้มลง



.....

แผ่นที่40 หนุมานให้เผาตนเอง :ในภาพทศกัณฐ์เอาคบเพลิงจุดที่ตัวหนุมาน  หนุมานนั้นฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย จึงออกอุบายให้ตนเองถูกจับได้ แล้วบอกแก่ทศกัณฐ์ว่า วิธีตายของตนคือเอานุ่นสำลีมาหุ้มกาย เอาน้ำมันราดแล้วจุดไฟเผาจึงจะตาย ทศกัณฐ์ก็หัวเราะชอบใจ จึงสั่งทหารจัดการทันที แล้วทศกัณฐ์ก็จับหอกออกกวัดแกว่งควันฉุยเป็นเปลวไฟ จิ้มจุดที่ตัวหนุมานจนไฟไหม้ลุกโพลง



..........

siamese
ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 06 ส.ค. 11, 13:44

สวยงามทุกภาพเลย แต่ที่สงสัยคือ ภาพที่ ๓๗ เหล่าบรรดาพื้นหลัง Background หายไปไหนหมด

ส่วนภาพที่ ๔๐ จะเห็นลายในเนื้อหินอ่อน เป็นคลื่นพริ้วไป ดังกับกองไฟที่สลักไว้ ลงตัวอย่างยิ่งยวด

..........

jean1966
ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 06 ส.ค. 11, 13:47

จบการโพสต์วันนี้ไว้ที่แผ่นที่40 ปิดท้ายด้วยทวารบาลรูปพระพรหม ผู้ประทานศรนาคบาศแด่อินทรชิต
(ตอบคุณ siamese มันไม่มีเลยครับ ช่างมิได้จำหลักฉากหลังใดๆไว้เลย)



..........

hobo
ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 07 ส.ค. 11, 10:59

ทำไมไม่รวบรวมพิมพ์เป็นหนังสือขายครับ เคยเห็นเป็นภาษาอังกฤษนานมาแล้ว
ทำเป็นภาษาไทย มีคำอธิบายภาพสักหนึ่งย่อหน้า เป็นงานที่ทรงคุณค่ามากนะครับ
เพราะไม่เกินสิบปี ภาพคงลบเลือนไปหมด
ขออนุญาตทางวัด ใช้ผงถ่านลอกลายอีกครั้ง
แล้วแบ่งเงินรายได้ส่วนหนึ่งบำรุงพระศาสนาดีนะครับ
อาจแบ่งเล่มให้วัดขายเอาเงินเอง หรือวางขายในวัดนั้นเลยก็ดีนะครับ
ผมคิดว่ามีคนซื้ออยู่แล้ว

..........

jean1966
ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 07 ส.ค. 11, 11:44

ขอบคุณความหวังดีของคุณhoboครับ การทำหนังสือสักหนึ่งเล่มมิใช่ง่ายเลยครับ อีกทั้งเคยมีผู้จัดทำเป็นหนังสือไว้แล้วแต่หายากในท้องตลาดแล้วละ จริงๆแล้วผมมีข้อมูลอีกมากที่เหมาะจะทำหนังสือ แต่ยังหาสปอร์นเซอร์มิได้ก็เท่านั้น



..........

mrpzone
ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 08 ส.ค. 11, 00:16

เข้ามาแจ้งว่าได้ติดตามชมภาพและการบรรยายของคุณ jean1966 ด้วยความชื่นชมตั้งแต่วันแรกแล้วครับ

แต่มิได้แสดงความเห็นอันใด เพราะเกรงว่าจะเป็นการปาดกระทู้
และเกรงว่า อาจรบกวนทำให้ผู้อ่านที่ติดตามกระทู้ขาดความต่อเนื่อง

ปกติก็จะเข้าชมแบบเงียบๆ น่ะครับ 

ยังคงติดตามเกาะติดกระทู้นี้อยู่ด้วยความใคร่รู้ ว่าจะมีภาพในตอนใดบ้าง?
ไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะเป็นคนต่างจังหวัด ที่แทบไม่มีโอกาสไปเยี่ยมชมเลยครับ

..........

jean1966
ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 08 ส.ค. 11, 08:39

ปลื้มใจเลยครับ จากคอมเม้นท์คุณmrpzone นี่แหละครับข้อดีของอินเตอร์เน็ทที่ทำให้โลกแคบลง เดี๋ยวสายๆมาลงต่อเนื่องครับ ถึงตอนเด็ดหนุมายเผาลงกา อย่าลืมติดตามชมนะครับ

..........

CVT
ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 08 ส.ค. 11, 09:25
.....
อ้างจาก: mrpzone ที่  08 ส.ค. 11, 00:16
เข้ามาแจ้งว่าได้ติดตามชมภาพและการบรรยายของคุณ jean1966 ด้วยความชื่นชมตั้งแต่วันแรกแล้วครับ
แต่มิได้แสดงความเห็นอันใด เพราะเกรงว่าจะเป็นการปาดกระทู้
และเกรงว่า อาจรบกวนทำให้ผู้อ่านที่ติดตามกระทู้ขาดความต่อเนื่อง
ปกติก็จะเข้าชมแบบเงียบๆ น่ะครับ  อายจัง
ยังคงติดตามเกาะติดกระทู้นี้อยู่ด้วยความใคร่รู้ ว่าจะมีภาพในตอนใดบ้าง?
ไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะเป็นคนต่างจังหวัด ที่แทบไม่มีโอกาสไปเยี่ยมชมเลยครับ
.....

คิดตรงกันจริงๆครับ

..........   

Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,111


View Profile
« Reply #2 on: 28 March 2022, 20:53:32 »


jean1966
ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 08 ส.ค. 11, 10:28

มาชมกันต่อครับ
แผ่นที่41หนุมานเผากรุงลงกา : ในภาพหนุมานวิ่งโผนโจนทยานเข้าไปในมหาปราสาทราชมณเฑียร หนุมานกระโดดฉวัดเฉวียน จุดไฟทุกมุขมณเฑียรใหญ่น้อยเรือนคลังตำหนักในนอก ติดไฟไหม้เพลิงหมดทุกแห่ง



.....

แผ่นที่42 ทศกัณฐ์หนีเพลิง : ในภาพทศกัณฐ์โอบนางมณโฑ ตามด้วยนางกาลอัคคี หนีเพลิง เมื่อทศกัณฐ์เห็นไฟไหม้ลุกลามไปทั่วปราสาทราชมณเฑียรก็หมดปัญญาจะดับไฟได้ จึงรีบคว้ามือนางมณโฑอัครมเหสี นางกาลอัคคีมเหสีรองและสาวสนม ทรงรถบทจรหนีไฟโกลาหลออกข้างทางฉนวน



.....

แผ่นที่43 พิเภกกับอินทรชิตหนีเพลิง : ในภาพ พิเภกประคองนางตรีชฎาเมียรัก อินทรชิตฉุดมือนางสุวรรณกรรณยุมา หนีเพลิง ทั้งสองอาหลานทนความร้อนจากไฟไม่ได้จึงรีบพาภรรยาออกจากวัง ปวงหมู่เหล่าสาวสนมวิ่งตามกันอลหม่าน



.....

แผ่นที่44 กุมภกรรณหนีเพลิง : ในภาพ นางจันทวดีและสนมเอกชื่อคันธมาลี ประคองกุมภกรรณออกจากวังหนีเพลิง กุมภกรรณ มหาอุปราชกรุงลงกาพี่ชายพิเภก เมียรักทั้งสองประคองหนีเพลิงออกจากวัง พนักงานเครื่องต้น วิ่งอลวน ทิ้งเข้าของรีบตามไปด้วย
ต้องขออภัยผู้ชมภาพถ่ายตอนนี้ผู้โพสต์ถ่ายมาไม่ชัด เหตด้วยเวลามีจำกัด มิได้มีการตรวจทานภาพก่อน เมื่อกลับมาแล้วจึงพบว่าภาพไม่ชัด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้



.....

แผ่นที่45 สามนางหนีเพลิง : ในภาพ นางกาลอัคคี พระสนม และสาวใช้ เมื่อความร้อนจากเปลวเพลิง ทำให้วิ่งเตลิดเปิดเปิงต่างร่ำต่างร้องเรียกไขว่คว้า แล้วพากันไปยังเชิงเขาสัตนา



..........

siamese
ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 08 ส.ค. 11, 10:49

เรียนคุณ Jean ครับ
ทำไมช่างไทยให้ความสำคัญกับภาพการหนีเพลิงมากเช่นนี้ อย่างน้อยมี ๕ ภาพเข้าไปแล้ว

..........

jean1966
ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 08 ส.ค. 11, 11:03

แผ่นที่46 ทศกัณฐ์และบริวารออกป่า : ในภาพ ทศกัณฐ์และนางมณโฑประทับอย่ที่เขาสัตนา ทศกัณฐ์มีความโศกศัลย์เสียใจมากกว่าใครทั้งหมด ได้พากันมาอยู่ที่เขาสัตนา ญาติวงศ์พงศาต่างร้องร่ำน้ำตานองหน้า
แปลกใจอยู่ว่ากรุงลงกาถูกเผาหมดแล้ว นางสีดาหายไปไหน ไม่วิ่งหนีกับเค้าหรือ งง!

ตอบคุณ Siamese ในความคิดของผมนะครับที่ตอนนี้มีหลายภาพ ให้สังเกตให้ดี มันจะมีตัวละครหลักอยู่หลายตัวทั้งพิเภก อินทรชิต กุมกรรณ ซึ่งจะมีบทบาทในตอนต่อไป ช่างคงเล็งเห็นแล้วเปิดตัวจากตอนสำคัญตอนนี้ เพื่อให้การลำดับเรื่องเข้าใจได้ง่าย ไม่ข้ามตอนกันมากนัก เพราะการจำหลักภาพมีเนื้อที่จำกัดนั่นเอง



.....

แผ่นที่47 เรียกประชุมด่วน : ในภาพเหล่าขุนยักษ์เข้าเฝ้า เหล่าเสนาข้าราชการทุกหมู่เหล่าเข้าเฝ้าอยู่พร้อมหน้า ตำรวจอารักขาระมัดระวังอย่างแข็งขัน กองรักษาการณ์จัดเวรยามรายล้อมเป็นชั้นๆ



.....

แผ่นที่48 มโหทร นำสาส์น : ในภาพ เสนาและมโหทรรีบรุดไปเฝ้าพระอิศวร ทศกัณฐ์ใช้ให้มโหทร อสูรชั้นอำมาตย์ผู้ใหญ่ในกรุงลงกาผู้รอบรู้ราชกิจ นำพระราชสาส์นไปกราบทูลพระอิศวร และตีฆ้องร้องเป่าให้เทพเทวาทั้งหลาย จงทราบเหตุความเป็นไปด้วย



.....

แผ่นที่49 เทพยดามาเนรมิตเมือง : ในภาพเทวดาทั้งสองกำลังเสด็จลงมา เมื่อนั้นพระอิศวรมีบัญชาให้พาหมู่เทพเทวัญ ลงมานิรมิตสร้างเมืองใหม่ครบทุกสิ่งสารพันพร้อม ตรงที่ไฟไหม้ ทศกัณฐ์และบริวารญาติวงศ์พงศา พากันเสด็จกลับเข้าสู่ตำหนักในพระบรมมหาราชวังกรุงลงกาเช่นเดิม



.....

แผ่นที่50 ทศกัณฐ์ฝันร้าย : ในภาพทศกัณฐ์ชี้หัตถ์กระทืบบาท กุมภกรณจับเท้าห้ามไว้  เมื่อเสด็จกลับประทับในพระบรมมหาราชวังแล้ว ตกกลางคืนทศกัณฐ์ทรงฝันไปว่ามีพญาแร้งสองตัวรบกัน ตัวดำแพ้ตัวขาวชนะ ทรงตื่นบรรทมแล้วจึงเรียกให้พิเภกมาทำนายความฝัน



.....

แผ่นที่51 พิเภกทำนายฝัน : ในภาพพิเภกกำลังลงตัวเลขในกระดานชนวน พิเภกทำนายว่าเป็นนิมิตหมายบอกมรณสัญญาณ อันว่าแร้งดำคือทศกัณฐ์ แร้งขาวคือพระราม และเคราะห์ร้ายครั้งนี้จะหมดไป หากส่งคืนนางสีดาให้แก่พระราม ซึ่งเรื่องนี้กุมภกรรณมหาอุปราชทรงเห็นด้วยอย่างยิ่ง ทศกัณฐ์เมื่อได้ฟังกลับทรงกริ้วมากให้ขับพิเภกออกจากกรุงลงกา ส่งตัวนางตรีชฎาเมียพิเภกไปดูแลนางสีดา



.....

แผ่นที่ 52 พิเภกออกจากรุงลงกา : ในภาพ พิเภกมุ่งหน้าไปเฝ้าพระราม  พิเภกได้พินิจพิจารณาชะตาของตนเองแล้ว และรู้ว่าพระรามจะเป็นผู้ชูชุบอุปถัมภ์ จึงไม่เสียใจกระไรนัก ไปสั่งลาเมียและลูกให้อาศัยอยู่ในกรุงลงกาต่อไปก่อน หากไม่ตายพ่อคงจะได้ย้อนกลับมาใหม่



.....

แผ่นที่53 นิลขันพบพิเภก : ในภาพพิเภกร้องไห้เศร้าโศก นิลขันตรงเข้าจับ  พิเภกนั้นเมื่อเหาะจากกรุงลงกามาแต่ลำพังผู้เดียว ถึงกลางป่าเข้าคันธกาลาซึ่งพระรามไปตั้งพลับพลาอยู่ที่นั่น เพื่อเตรียมจะข้ามฟากไปยังกรุงลงกา เมื่อพลลิงกองลาดตระเวนไปพบพิเภกกำลังร้องไห้อยู่ก็เรียกหมู่ลิงมารายล้อม แล้วนิลขันก็ตรงเข้าจับกุมตัวพิเภก



.....

แผ่นที่54 พิเภกถูกจับ : ในภาพพิเภกถูกเชือกคล้องคอแล้วถูกพลลิงเฆี่ยนตี  เมื่อนิลขันจับพิเภกได้แล้วให้เอาเชือกมัดสองมือ แล้วช่วยกันชักช่วยกันฉุด เหล่าลิงที่อยู่ข้างหลังก็ช่วยกันผลัก ช่วยกันดัน ผลัดกันเฆี่ยนบ้าง จนถึงพลับพลาที่ประทับ จึงเข้าไปกราบถวายบังคมทูลกับพระราม



.....

แผ่นที่55 ทรงพจารณาเรื่องพิเภก : ในภาพพระราม-พระลักษมณ์ ทรงปรึกษากัน พระรามเมื่อได้เห็นพิเภกน้องชายทศกัณฐ์ ซึ่งมีจริตผิดจากเผ่าพงษ์ ตนเป็นยักษ์แต่ใจมิใช่ยักษ์ มีลักษณะซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม(สงสัยเห็นเป็นเปาบุ้นจิ้น55555) จึงทรงมีพระเมตตา ปลอบประโลมให้กำลังใจหลังทราบเรื่องราวจากพิเภก



.....

แผ่นที่56 พิเภกสวามิภักดิ์ : ในภาพ สุครีพ หนุมานและพิเภกถวายบังคม พิเภกเมื่อได้ฟังกระแสพระราชดำรัสจากพระราม ก็ทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้กราบทูลว่าจะจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อพระราม ตราบเท่าชีวิตจะหาไม่



.....

แผ่นที่57 นำพิเภกไปสู่โรงราชพิธี  : ในภาพพิเภกได้รับการแวดล้อมจากเหล่าพญาวานร  เพื่อให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย จึงให้เตรียมจัดพิธีดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา นำพิเภกไปสู่ประรำพิธี



.....

แผ่นที่58 โรงราชพิธี : ในภาพพิเภกดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยาต่อหน้าสุครีพและหนุมาน เมื่อเชิญพระแสงราชศัตราวุธจุ่มลงในน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ สุครีพอ่านคำสาบาน พิเภกพนมมือถวายบังคม รับจอกน้ำพิพัฒน์สัตยา แล้วดื่มท่ามกลางหมู่ท้าวพญาวานรที่ร่วมเป็นสักขีพยาน



.....

แผ่นที่59 พลับพลา ณ เขาคันธกาลา พระราม พระลักษมณ์ เสด็จออกที่ประทับ โปรดเกล้าให้พิเภกชมการแสดงการแสดงประลองกำลังของเหล่าวานรในกองทัพ จะสังเกตว่าภาพจำหลักมีร่องรอยสีน้ำมันสีแดงเลอะเปรอะเปื้อนอยู่บนภาพเป็นส่วนๆ ซึ่งยังมิได้มีผู้ใดหาเอาใจใส่ มาลบออกไม่(คงมาจากครั้งทาสีพระอุโบสถเมื่อเร็วๆนี้) ไอ้เราจะไปดำเนินการก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่



.....

แผ่นที่60 รับสนองพระราชโองการ : ในภาพ สุครีพ หนุมาน พิเภก นิลพัท นิลนนท์ รับพระราชโองการ  พระรามตรัสสั่งให้สุครีพพาพิเภกไปชมเหล่าวานรประลองกำลังเมื่อรับคำสั่งแล้ว ถวายบังคมคลานออกจากที่ประทับไปยังหน้าพระลาน ดูลิงใหญ่น้อยต่างอวดอ้างฤทธี



.....

จำจบการโพสต์วันนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ ลาไปสวดมนต์ภาวนาให้หาเงินใช้หนี้ได้(6หลัก)ทันในวันพรุ่งนี้ก่อนได้จรลีไปอยู่ห้องกรง ไม่รู้เทพยดาองค์ใดจะช่วยได้ ลาไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถวัดโพธิ์ ฝาผนังด้านหน้าพระประธานซึ่งปัจจุบันบูรณะแล้ว(ชมได้อยู่ผนังเดียว)ด้านอื่นห้ามผ่าน ไม่รู้จะหวงไว้ให้ใคร ผิดวัตถุประสงค์ในการเรียนรู้ของบรรพชนเสียจริงๆ



..........

siamese
ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 08 ส.ค. 11, 14:33

ภาพจิตรกรรมสวยงามจังเลยครับ คุณ Jean ถ่ายภาพจิตรกรรมวัดโพธิ์ไว้เยอะไหมครับ ช่วยนำมาลงเป็นวิทยาทานให้ด้วยครับ
นำนางรำมาอวยพร ฟ้อน ร่าย ให้คุณ Jean ผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยดีครับ



.....

mrpzone
ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 09 ส.ค. 11, 01:31

สาเหตุที่ไม่มีภาพจำหลักตอนสีดาหนีไฟ
คาดว่า..ภาพตอนนางสีดาหอบผ้าหอบผ่อนหนีไฟไหม้เมืองลงกา จะมิงามตา
หรือท่านผู้แกะสลักเกรงว่า อาจจะเสียภาพลักษณ์นางเอกในท้องเรื่องน่ะครับ

ขอให้คุณ Jean ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ด้วยดีครับ
คุณหนุ่มสยามจัดนางรำมาฟ้อนอวยพรไปแล้ว ขอจัดชุดบวงสรวงชุดใหญ่ให้ก็แล้วกันครับ



..........

Berry
ความคิดเห็นที่ 91  เมื่อ 16 ก.พ. 12, 21:57

เป็นความรู้มากเลยค่ะ แล้วการสลักนี้เป็นช่างในสมัยรัชกาลที่๓หรอค่ะ การสลักมีอิทธิพลอื่นเข้ามาผสมมั้ยคะ อย่างเช่นอิทธิพลจีน การปะปนของอิทธิพลท้องถิ่นเป็นต้นอ่ะคะ

..........

บัวรัศมี สีทอง
ความคิดเห็นที่ 92  เมื่อ 17 ก.พ. 12, 18:24

อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ  ประสบเคราะห์กรรมแล้วสรุปได้ดี "กรรมเก่า" แล้วไม่ไปยึดติดให้ชีวิตต้องตกต่ำ
กลับกลายเป็นพบแสงสว่างทางปัญญา มาวัดพระเชตุพนฯ  ถ่ายภาพมาให้ชาวเรือนไทยได้ยลตา
ทำให้ "คนเกือบแก่" ต้องลุกขึ้นตั้งใจว่า  "ต้องไปวัดโพธิ์"   ไปยลความงามของโบราณสถานอย่างใจเย็นและเรียบง่าย
ไม่ต้องไปรบกวนผู้ใด  ไปเดินคนเดียวได้ออกกำลังกาย ได้พักผ่อน ได้ทั้งนั้น 
เอ๊า คนที่เบื่อๆๆ อะไรอยู่ อาบน้ำแต่งตัวไปวัดโพธิ์กันเถอะค่ะ   ไปเติมแต่งชีวิตให้มีคุณค่าค่ะ

..........

jean1966
ความคิดเห็นที่ 93  เมื่อ 18 ก.พ. 12, 01:10

กระทู้นี้ไม่มีเวลามาตอบให้จบจริงๆสักที การจำหลักชุดนี้เป็นช่างสมัยรัชกาลที่ ๓ ครับ ดูจากรูปศิลปะก็น่าจะไม่มีอิทธิพลใดๆปนอยู่ ถึงมีก็เพียงเล็กน้อยไม่อาจนับได้ครับคุณberry สำหรับคุณรัศมี สีทอง ถ้ายังมีกำลังพอจะท่องเที่ยวชมของงามก็เชิญที่ facebookผนังเก่าเล่าเรื่อง จัดทริปชมจิตรกรรมฝาผนังอยู่ทุกเดือนครับ อย่างรูปทริปล่าสุดที่สระบุรีครับ เดือนหน้าจะไปชลบุรีครับ




..........
ขอขอบคุณภาพและเรื่องจาก...คุณ jean1966
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4687.0



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.088 seconds with 21 queries.