Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
23 December 2024, 08:03:38

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618 Posts in 12,929 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  หมวดหมู่ทั่วไป  |  สาระน่ารู้ (Moderators: CYBERG, MIDORI)  |  มาตรา ชั่ง ตวง วัด (ภาคเครื่องวัด)
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: มาตรา ชั่ง ตวง วัด (ภาคเครื่องวัด)  (Read 555 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« on: 11 January 2022, 22:00:42 »

มาตรา ชั่ง ตวง วัด (ภาคเครื่องวัด)



๓. เครื่องวัด

เรื่องนี้ต้องการกล่าวถึงหน่วยการวัดและเครื่องมือวัดที่นอกเหนือจากการ “ชั่ง” และ “ตวง” ที่กล่าวมาแล้ว (ความจริงการชั่งคือการวัดมวลหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าน้ำหนัก ส่วนการตวงคือการวัดปริมาตรนั่นเอง)

ในการวัดปริมาณ (ปริมาณทางฟิสิกส์หรือแปลเป็นไทยว่าปริมาณทางกายภาพ) มีอยู่มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรม แต่สำหรับการวัดพื้นฐานที่มีมาไม่ว่าชาติใดข้าพเจ้าคิดว่าน่าจะเริ่มจากการวัดระยะทาง น้ำหนัก ปริมาตร และเวลาเพราะเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมนุษย์มากที่สุด


๑. วิวัฒนาการของหน่วยการวัด(๑)

หน่วยและระบบการวัดมีวิวัฒนาการดังนี้

๑.  ระบบอิมพีเรียล (Imperial System) : หน่วยอังกฤษ (English Units หรือ Imperial Units) เริ่มจากหน่วยในการวัดระยะทาง – น้ำหนัก – เวลา (ฟุต – ปอนด์ – วินาที) หลังจากนั้นจึงมีหน่วยตัน แกลลอน ไมล์และอื่นๆตามมา

๒.  ระบบเมตริก(Metric System) : หน่วยเมตริก เป็นหน่วยที่ใช้เลขทศนิยมเป็นฐานในการบอกค่าหน่วยความยาว  (เมตร) และมวล (กิโลกรัม) ใช้หน่วยไม่มากเหมือนกับของอังกฤษ (หน่วยระยะของอังกฤษจะมี ฟุต นิ้ว หลา และอื่นๆ) หน่วยเมตริกใช้วิธีการเลื่อนทศนิยม เช่น มิลลิเมตร (๑/๑,๐๐๐ เมตร) กิโลเมตร (๑,๐๐๐ เมตร) เป็นต้น

๓.  ระบบหน่วยมาตรฐานนานาชาติ (International System of Units)เป็นระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกในปัจจุบันนี้ พัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. ๑๙๖๐ จากหน่วย MKS (เมตร – กิโลกรัม – วินาที) แต่มีหน่วยอุณหภูมิ (คือ เคลวิน) เพิ่มเข้ามาอีกเป็น ๔ หน่วยพื้นฐานสำหรับการวัดปริมาณฟิสิกส์พื้นฐาน

ในที่นี้จะยกตัวอย่างหน่วยการวัดปริมาณเพียง ๒ อย่าง คือ หน่วยวัดระยะและหน่วยวัดพื้นที่


๒. หน่วยวัดระยะ

หน่วยการวัดระยะของไทยในอดีต(๒)

หน่วยวัดระยะ/ความยาวของไทยพัฒนาการมาจากการใช้สิ่งแวดล้อมและร่างกายในการวัด เช่น

๘ ปรมาณู       เป็น     ๑ อณู

๕ อณู            เป็น     ๑ ธุลี

๘ ธุลี             เป็น     ๑ เส้นผม

๘ เส้นผม       เป็น     ๑ ไข่เหา

๘ ไข่เหา        เป็น     ๑ ตัวเหา

๘ ตัวเหา        เป็น     ๑ เม็ดข้าว

๘ เม็ดข้าว      เป็น     ๑ นิ้ว

๑๒ นิ้ว           เป็น     ๑ คืบ

๒ คืบ             เป็น     ๑ ศอก

๔ ศอก                    เป็น     ๑ วา

๒๐ วา           เป็น     ๑ เส้น

๔๐๐ เส้น       เป็น     ๑ โยชน์


เปรียบเทียบหน่วยวัดระยะของไทยกับหน่วยต่างๆ

๒ ศอก         ประมาณ        ๑ เมตร

๒๔ เส้น       ประมาณ        ๑ กิโลเมตร

๔๐ เส้น       ประมาณ        ๑ ไมล์ (๑.๖ กม.)


หน่วยการวัดระยะตามมาตรฐานอังกฤษและเมตริก(๓)

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หน่วยเมตริก (ไม่ใช่หน่วยเอสไอ)
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1 เมตร      ≈   1.0936   หลา      1 หลา      ≡   0.9144   เมตร

1 เมตร      ≈   39.37   นิ้ว      1 นิ้ว      ≡   0.0254   เมตร


1 เซนติเมตร   ≈   0.3937   นิ้ว      1 นิ้ว      ≡   2.54   เซนติเมตร


1 มิลลิเมตร   ≈   0.03937   นิ้ว      1 นิ้ว      ≡   25.4   มิลลิเมตร


1 เมตร      ≡   1×1010   Ångström      1 Ångström   ≡   1×10−10   เมตร


1 นาโนเมตร   ≡   10   Ångström      1 Ångström   ≡   100   พิโกเมตร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
(Ångström อ่านว่าแองสตรอม)


ขยายความหน่วยวัดแบบอังกฤษ

๑ นิ้ว              = ๒.๕๔ เซนติเมตร

๑ ฟุต             = ๑๒ นิ้ว

๑ หลา            = ๓ ฟุต

๑ ไมล์            = ๑,๗๖๐ หลา



๓. หน่วยวัดพื้นที่


หน่วยวัดพื้นที่ของไทยและเมตริก

๑ งาน = ๑๐๐ ตารางวา  = ๔๐๐ ตารางเมตร

๔ งาน = ๑ ไร่ = ๔๐๐ ตารางวา = ๑,๖๐๐ ตารางเมตร = ๐.๔ เอเคอร์

๑ ตร.กิโลเมตร = ๖๒๕ ไร่


หน่วยวัดพื้นที่ของเมตริก

๑ อาร์ (Are)           = ๑๐๐ ตร.เมตร

๑๐๐ อาร์               = ๑๐๐ แฮคทาร์ (Hectare)

๑ เอเคอร์ (Acre)     = ๔,๘๔๐ ตร.หลา



๔. การนับจำนวนตัวเลขในภาษาบาลี(๔)

วิธีนับปกติสังขยา (Cardinals) ตามภาษาบาลี คือ เมื่อตัวเลขหรือการนับมีจำนวนมากขึ้นก็จะนำจำนวนตัวเลขมาต่อกันโดยใช้ศัพท์คือ “อุตตร”และ “อธิก” เป็นตัวเชื่อม ที่สำคัญการนับหรือที่ภาษาบาลีเรียกว่าสังขยานั้นใช้ตัวอักษรแทนตัวเลขเช่นเลข 1 ภาษาบาลีใช้คำว่า "เอก"มีดังนี้

เอก                   ๑             
ทฺวิ                    ๒           
ติ                      ๓                                   
จตุ                    ๔                     
ปญฺจ                 ๕                         
ฉ                      ๖                 
สตฺต                  ๗         
อฏฺ                  ๘       
นว                    ๙                         
ทส                   ๑๐                             
สตํ                   ๑๐๐
สหสฺสํ               ๑,๐๐๐
ทสสหสฺสํ           ๑๐,๐๐๐
สตสหสฺสํ, ลกฺขํ   ๑๐๐,๐๐๐
ทสสตสหสฺสํ       ๑,๐๐๐,๐๐๐
โกฏิ                 โกฏิ


วิธีการนับตัวเลขดังกล่าวนี้ใช้กับการนับเวลา เช่น

๑๐ ปี เรียกว่า ๑ ทศวรรษ (Decade)

๑๐๐ ปี เรียกว่า ๑ ศตวรรษ (Century)

๑,๐๐๐ ปี = ๑ สหัสวรรษ (Millennium)

ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงความรู้อันน้อยนิดเกี่ยวกับเรื่องของการวัด เพราะการวัดตัวแปรต่างๆที่กล่าวมา มีเพียงแค่เรื่องของระยะและพื้นที่รวมถึงวิธีการนับเวลาโดยการนำภาษาบาลีมาเรียก ทั้งนี้ยังไม่ได้กล่าวถึงหน่วยและการวัดตัวแปรอื่นๆที่มีในโลกซึ่งมนุษย์สามารถวัดได้ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น ความเร็ว พลังงาน ความหนาแน่น ความเข้มของกรด-ด่าง ฯลฯ เป็นต้น



๕. ของสะสมที่มีอยู่

ตอนนี้ลองมาดูของสะสมที่ข้าพเจ้ามีเล็กน้อยครับ


รูปที่ ๑ ไม้บรรทัดช่างไม้ความยาว ๑ เมตร วัสดุเป็นอลูมิเนียม ยี่ห้อ T.T.C ผลิตจากประเทศเยอรมัน




รูปที่ ๒ ไม้บรรทัดไม้ ส่วนของข้อต่อเป็นทองเหลือง ความยาว ๒ ฟุต ยี่ห้อ RABBONE ผลิตจากประเทศอังกฤษ (แยกพับเป็น ๔ ส่วน ดังรูปบนและล่าง)






รูปที่ ๓ เทปวัดระยะ วัสดุเป็นเหล็ก ยาว ๕๐ เมตร ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น




รูปที่ ๔ ตลับเมตรหรือเทปวัดระยะ วัสดุเป็นโลหะ ความยาว ๑๐ เมตร รูปบนแสดงกล่องใบรับรองและตัวตลับเมตร รูปล่างแสดงรายละเอียดของใบรับรอง






รูปที่ ๕ เข็มทิศพร้อมนาฬิกาแดด เข็มทิศคือเครื่องมือสำหรับการวัดขั้วแม่เหล็ก (สำหรับแม่เหล็กโลกขั้วใต้จะอยู่ทิศเหนือนั่นคือแถวประเทศแคนาดา ส่วนแม่เหล็กขั้วเหนือจะอยู่ทิศใต้บนทวีปแอนตาร์กติกา) รูปบนแสดงหน้าปัททั้งหมดหากจะวัดทิศให้ยกส่วนที่เป็นกลไกด้านหน้าออก รูปล่างเมื่อต้องการทำเป็นนาฬิกาแดดก็ให้ยกเฉพาะส่วนที่เป็นลูกศรขึ้น (ต้องตั้งเข็มทิศให้ถูกทิศก่อน) แล้วจึงอ่านเวลาจากเงาที่ไปชี้






รูปที่ ๖ เทอร์โมมิเตอร์ (วัดอุณหภูมิ แสดงทั้งหน่วยองศาฟาเรนไฮต์และเซลเซียส) ส่วนตัวล่างที่เป็นวงกลมคือบารอมิเตอร์ (วัดความกดดันอากาศ แสดงในหน่วยมิลลิเมตรปรอท) ยี่ห้อ GOLDTIME ไม่ตีตราประเทศผู้ผลิต




รูปที่ ๗ เข็มทิศเดินเรือ ตีตรา DAIKO KEIKI SEISAKOSHU ผลิตใน OSAKA JAPAN ภายในบรรจุน้ำเพื่อให้ส่วนของเข็มทิศลอยและป้องกันการกระแทกไปในตัว ตัวเรือนมีวงแหวนซึ่งมีจุดหมุนเพื่อให้มันสามารถเคลื่อนที่อิสระตามการโคลงตัวของเรือ




จากเรื่องนี้อาจจะกล่าวได้ว่าไม่ว่าเราจะวัดสิ่งต่างๆได้ละเอียดเพียงใดก็เป็นเพียงทางกายภาพและไม่ใช่ของจริงแท้ เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้ขึ้นอยู่กับนิยามที่ผู้สร้างตั้งขึ้น ในทางกลับกัน แม้ว่ามนุษย์จะสร้างเครื่องมือวัดที่สามารถวัดค่าต่างๆได้ละเอียดและเที่ยงตรงมากขึ้นเท่าใด แต่หากจิตใจของผู้สร้างและผู้ใช้หยาบลงและขาดความเที่ยงตรงทางคุณธรรมแล้วก็ไร้ความหมาย และสุดท้ายเราไม่ต้องทำการวัดสิ่งใด ให้ลองสังเกตมิติของตัวเรา มิติของตัวเราเองจะมีขนาดเพียง “กว้างศอก ยาววา หนาคืบ” เท่านั้นเองจริงๆครับ ๕๕๕

(ปล. สำหรับผม “สะสมเพื่อว่างเปล่า” ครับ)

ขอขอบคุณ

(๑) http://en.wikipedia.org/wiki/Measurement

(๒) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94

(๓) http://en.wikipedia.org/wiki/Metre

(๔) กรมการศาสนา.พระไตรปิฏกภาษาบาลีฉบับสยามรัฐ, เล่มที่ 7.กรุงเทพ ฯ : กรมการศาสนา, 2525.
พระพุทธโฆสาจารย์, สมนฺตปาสาทิกา, พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2548.
พระมหานิยม อุตฺตโม. หลักสูตรย่อบาลีไวยากรณ์. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์เลี่ยงเชียง, 2523.
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส. บาลีไวยากรณ์(สังขยา). พิมพ์ครั้งที่ 48, กรุงเทพฯ : มหามกุฏราชวิทยาลัย,2547. อ้างจาก http://cybervanaram.net/index.php?option=com_content&view= article&id=217:2010-07-30-09-31-21&catid=11:2010-06-17-02-44-14&Itemid=23 


ขอขอบคุณ เรื่องและภาพจาก
ครุตามพรลิงค์
สวัสดีผู้รักการเรียนรู้ และรู้ที่จะเรียน
Permalink : http://oknation.nationtv.tv/blog/kru-podjanard

อะกาฬิโกคลาสสิก : พิพิธภัณฑ์เล็กๆของข้าพเจ้า (ภาคเครื่องวัด)
Posted by บ้านชฎาเรือนปฏัก   

http://oknation.nationtv.tv/blog/kru-podjanard/2011/04/15/entry-1



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.061 seconds with 21 queries.