|
ppsan
|
 |
« on: 21 November 2021, 21:54:59 » |
|
เรื่องเล่าเด็กบ้านนอก : 11 สาธารณสุข : เข็มฉีดยา ไมโล กับการถอนฟัน
เรื่องเล่าเด็กบ้านนอก : 11
สาธารณสุข : เข็มฉีดยา ไมโล กับการถอนฟัน
" นักเรียน พรุ่งนี้จะมีหมอมาฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้เรานะ ห้ามขาด ห้ามหยุดเรียนเด็ดขาด จะได้มารับวัคซีนพร้อมกันนะ " เสียงคุณครูสุวรรณี ครูประจำชั้นเรียนของน้อย ประกาศหน้าห้องในตอนเช้าก่อนเรียนวิชาแรก
" ปีที่แล้วก็ฉีดไปแล้วนี่คะครู " เพื่อนนักเรียนหญิงยกมือขึ้นก่อนถามอย่างสงสัย
"ใช่ครับ ทำไมปีนี้ต้องฉีดอีก " เพื่อนนักเรียนชายอีกคนถามเสริม
" วัคซีนป้องกันโรค มีหลายตัว เราต้องฉีดป้องกันไว้หลายๆแบบ เพราะเชื้อโรคมันมีเยอะ เราไม่รู้ว่าจะเจอกับโรคอะไรบ้าง ดังนั้น เราจึงต้องฉีดป้องกันไว้หลายๆตัว " คุณครูอธิบาย
" แต่ฉีดเสร็จแล้ว ก็จะมีไมโลแจกให้กินเหมือนเดิมนะ แถมปีนี้ได้ยินมาว่า จะมีกล่องดินสอมาแจกให้ด้วย ถ้าใครขาดเรียน ก็จะไม่ได้รับแจกนะ " คุณครูโน้มน้าวด้วยกลวิธี โฆษณาแจกของ เพราะกลัวเด็กจะขาดเรียนไม่มาฉีดวัคซีน
พอได้ยินว่ามีการแจกกล่องดินสอ เด็กๆยิ้มออก พร้อมกับลืมข้อสงสัยไปเลย เพราะสำหรับเด็กบ้านนอกแล้ว จะมีโอกาสเป็นเจ้าของกล่องดินสอสักอันนั้นยากมาก
อย่าว่าแต่กล่องดินสอเลย แม้แต่ดินสอ สมุด ไม้บรรทัด ยังต้องรอให้หลวงมาแจกให้ ที่จะหาซื้อเองนั้น เป็นเรื่องยาก เพราะเงินของผู้ปกครองที่มีอยู่น้อย จะถูกเก็บไว้ใช้ซื้อของ หรืออาหารที่จำเป็นเท่านั้น ยิ่งเรื่องชุดนักเรียนใหม่ๆ นี่ลืมไปได้เลย
.................
" กูกลัวเข็มวะ " น้อยบ่นเบาๆกับเพื่อน
" แล้วมึงจะไม่มาฉีดยาเหรอ " เพื่อนกระซิบถาม เพราะกลัวครูได้ยิน
น้อยไม่ตอบเพื่อน พร้อมกับทำท่าคิด วางแผนอะไรบางอย่างในหัว
.................
ปีที่แล้ว น้อยได้รับฉีดวัคซีน พร้อมกับมีอาการแพ้ยา เหมือนคนเป็นไข้ จึงกลัวการฉีดยามากขึ้นไปอีก ยิ่งเป็นคนที่กลัวเข็มอยู่แล้วด้วยเลยไม่อยากที่จะฉีดวัคซีนเท่าไร แต่ความกลัวที่จะไม่ได้กินไมโล กับได้รับแจกกล่องดินสอนั้นมีมากกว่า
.................
เช้าวันรุ่งขึ้นน้อยมาโรงเรียนแต่เช้า พร้อมกับอาการปวดฟัน ที่โยกเกิอบจะหลุด เลยเกิดอาการปวด พร้อมกับแปะกอเอี้ยะที่ข้างแก้มบริเวณที่ปวดฟัน
.................
โดยปกติเวลาจะถอนฟัน เด็กต่างจังหวัด จะให้พ่อ หรือแม่เป็นคนถอนให้ หรือหากใครที่กล้าพอหรือเคยถอนเองมาแล้ว ก็จะลงมือจัดการเองโดยไม่เคยถึงมือหมอ
น้อยเคยถอนฟันเองมาหลายครั้ง แต่ละครั้งก็จะผ่านไปด้วยดี ครั้งล่าสุดก็ถอนเองแต่มีวิธีตามแบบเด็กซน เพิ่มเข้ามา คือใช้มือโยกฟันจนคลอน แล้วใช้ด้ายเย็บผ้าเส้นเล็กๆ คล้องผูกกับฟัน แล้วอีกด้านผูกกับประตูบ้าน พอใจพร้อมก็ใช้เท้าถีบประตู ฟันที่โยกคลอนก็กระเด็นออกมาตามแรงถีบ เป็นอันจบภารกิจ
.................
พอได้เวลาที่จะต้องลงไปเข้าแถวรับวัคซีน ครูประจำชั้นก็นำนักเรียนลงไปเข้าแถวรอ น้อยเอ่ยปากกับเพื่อนสองคนที่นัดแนะกันไว้ แอบไปเข้าห้องน้ำ ในขณะที่เพื่อนร่วมห้องคนอื่นต่อแถวเตรียมรับวัคซีนจากหมอ
"เหน่ง ได้วิธียัง ทำยังงัยครูจะไม่รู้ว่าเราไม่ฉีดยา " น้อย ถามเหน่ง เพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่จะไม่ฉีดวัคซีน
"เอากำปั้นทุบต้นแขนให้มันบวมหรือใช้มือหยิก แล้วไปบอกครูว่าเราฉีดยามาแล้ว " เหน่งตอบ
แต่น้อยดูไม่ค่อยเห็นด้วยกับแผนนี้ของเพื่อนเท่าไร
"แล้วหนึ่งละ มีแผนยังงัย " น้อยถามเพื่อนร่วมอุดมการณ์อีกคน
" เดี๋ยวกูไปเอามดแดงมา แล้วให้มันกัดที่แขนเรา ตรงที่หมอจะฉีดยา มันจะเหมือนมากกว่าแผนของเหน่งอีก " หนึ่งตอบ พร้อมกับเดินไปจับมดแดงที่ต้นมะขามข้างห้องน้ำมาหลายตัว
แต่พอจะให้มดแดงกัดบริเวณต้นแขนที่ต้องฉีดวัคซีนแล้ว มดเจ้ากรรมก็ไม่ยอมกัด แถมยังไต่ตามตัว แล้วไปกัดที่อื่นอีก หนึ่งรีบบอกให้เพื่อนช่วยปัดมดแดงออกจากตัว หลังจากที่มันไต่ไปทั่ว เข้าไปในเสื้อผ้า กัดตามตัว จนต้องถอดเสื้อออกสะบัดเพื่อให้มันหลุดออกจากเสื้อ
เมื่อจนมุมจากแผนของเพื่อนและตัวเองที่น้อยคิดว่าไม่ได้ผลแล้ว จึงรวบรวมความกล้า พร้อมกับบอกเพื่อนให้ออกไปรับวัคซีนด้วยกัน ถึงแม้จะไม่ค่อยเต็มใจนักก็ตาม
.................
หลังจากต่อคิวรอรับวัคซีน พอถึงคิวของน้อย น้อยก็เดินออกจากแถว ไปต่อข้างหลัง ทำแบบนี้ จนอยู่เป็นคนสุดท้าย จนเพื่อนฉีดครบหมดทุกคน หมอเลยต้องเรียกให้เข้ามารับฉีดวัคซีนได้แล้ว
" เจ็บนิดเดียว เหมือนมดกัดเลย " หมอคนสวยบอกด้วยรอยยิ้ม
น้อยหันหน้าหนี พร้อมกับคิดในใจว่า" หมอรู้ได้ยังงัยว่าเหมือนกับมดกัด นี่มันตรงกับแผนของหนึ่งที่เสนอมาเลย แสดงว่าแผนของหนึ่งต้องได้ผล" ในขณะที่หมอกำลังใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาด บริเวณที่จะฉีดวัคซีน
" นี่หมอเปลี่ยนเข็มใหม่ มันจะทำให้ไม่เจ็บนะ " หมอสาวคนสวยชวนคุย
" เสร็จแล้ว เห็นไหมไม่เจ็บหรอก " หมอบอก พร้อมกับบอกให้ไปรับไมโล 1แก้ว กับกล่องดินสอไมโลสีเขียวใส ที่เหน่ง และหนึ่ง ยืนถือโชว์อยู่ข้างๆรถไมโล
.................
หลังจากฉีดวัคซีนเสร็จ เย็นวันนั้นน้อยทำการถอนฟันซี่ที่ปวด แต่คราวนี้เลือดกลับไหลไม่หยุด แม่บอกให้เอายาสีฟันมาโปะ พร้อมกับให้เอาสำลีมากัดเอาไว้ห้ามเลือด
.................
ตีสี่ น้อยตื่นมาพร้อมกับรู้สึกว่าหมอนที่นอนนั้นเปียก แฉะ จึงลุกขึ้นจุดตะเกียง พอมองดูที่หมอน น้อยตกใจรีบเรียกแม่ให้ตื่น เพราะที่หมอนนั้นเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลจากปาก มาจากการถอนฟันเมื่อตอนเย็น
แม่ตื่นมาเห็นเลือดที่หมอน และที่แก้มของน้อยแล้ว รีบจัดแจงบอกพ่อให้ไปตามรถสามล้อมา เพื่อที่จะพาน้อยไปหาหมอที่คลีนิคในตลาด
หมอสอบถามอาการแล้ว จัดยาให้เสร็จสรรพ พร้อมฉีดยาให้หนึ่งเข็มโดยที่น้อยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย
.................
หลังจากกลับมาที่บ้านไม่ถึงชั่วโมง เลือดที่หยุดไหลตอนที่อยู่กับหมอ กลับไหลออกมาอีก คราวนี้ แม่เริ่มวิตกกังวลมากกว่าเดิม เพราะน้อยเริ่มหน้าซีด เพราะเลือดออกเยอะ แม่ให้พ่อไปตามสามล้อ ปั่นไปส่งที่ตลาด แล้วต่อรถเข้าตัวเมืองเพื่อพาน้อยไปโรงพยาบาล
" ดีนะครับ ที่มาหาหมอเร็ว ไม่งั้น เลือดจะไหลมากกว่านี้ เพราะน้องถอนฟันเองแล้วไปโดนเส้นเลือดมันฉีกขาด ทำให้เลือดไหลไม่หยุด " หมอพูดให้ฟัง หลังจากฉีดยาให้อีกหนึ่งเข็ม พร้อมกับก้อนสีขาวคล้ายฟองน้ำ ที่หมอใช้ห้ามเลือด แค่สองก้อน เลือดหยุดไหลสนิท
.................
น้อยกลับบ้านพร้อมกับสำลีที่ยังต้องกัดเอาไว้ห้ามเลือด พร้อมกับการเดินที่ไม่ถนัดมากนัก เพราะโดนฉีดยาที่ก้น ทั้งสองข้างข้างละเข็ม ...
|
Author