Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
22 December 2024, 17:12:19

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
26,618 Posts in 12,929 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  บุคคลต้นแบบ  |  บุคคลตัวอย่าง (Moderator: Smile Siam)  |  นายสง่า มยุระ ผู้ให้กำเนิดพู่กันของไทย โดย yutthana
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: นายสง่า มยุระ ผู้ให้กำเนิดพู่กันของไทย โดย yutthana  (Read 1064 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« on: 17 November 2021, 09:46:50 »

นายสง่า มยุระ ผู้ให้กำเนิดพู่กันของไทย  โดย yutthana


นายสง่า  มยุระ เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๒ ที่ อ. ศรีประจันต์ จ. สุพรรณบุรี ศึกษาวิชาสามัญที่โรงเรียนวัดสัปรสเทศ พร้อมกับฝึกวิชาวาดเขียนมาตั้งแต่เด็กกับอาจารย์อู๋  ที่วัดมะนาว อ. บางปลาม้า จ. สุพรรณบุรี ต่อมาได้มาอยู่กับอาจารย์ม้วนที่วัดสุวรรณาราม  คลองบางกอกน้อย ธนบุรี  จึงได้มีโอกาสเรียนวาดเขียนกับครูสอิ้งที่อยู่ข้างวัดนั้น  ครูสอิ้งพาไปช่วยเขียนลายรดน้ำที่หน้าต่างพระวิหารวัดพระเชตุพนฯ  ต่อมาได้ไปสมัครทำงานเขียนพานแว่นฟ้ากับคุณผิน และเขียนตู้พระมาลัยที่วัดมหาธาตุ

สง่า มยุระ ได้รู้จักกับหลวงเจนจิตรยง ช่างเขียนอันลือชื่อในสมัยนั้น  ท่านชวนให้ไปช่วยเขียนลายบนโถกะยาคู โดยเอาฟักทองมากลึงให้เหมือนโถและจะต้องให้เสร็จในวันเดียว  มิฉะนั้นฟักทองจะเหี่ยว ทั้งสองท่านช่วยกันเขียนจนเสร็จ หลวงเจนจิตรยงชมฝีมือว่าดี  จึงชวนให้ไปช่วยเขียนที่วัดสุวรรณคีรีในคลองบางกอกน้อย โดยมอบหมายให้เขียนลายรดน้ำที่บานประตูหน้าต่างโบสถ์  ตอนนั้นหลวงเจนฯ  ท่านชราภาพมาก เมื่อเห็นว่าเขางานแข็งดีจึงมอบหมายให้เขียนทั้งหมด  นายสง่าต้องใช้เวลาเขียนถึงสี่เดือนจึงเสร็จ

ต่อมา ได้รับเหมาเขียนพานแว่นฟ้าและตู้พระมาลัยให้นายอู๊ด  ช่างหล่อ  และส่งขายที่ร้านแถวเสาชิงช้า  ระยะนี้ต้องทำงานหนักมาก  โดยเริ่มลงมือทำการเขียนตั้งแต่เช้าตลอดไปจนดึกดื่นจึงวางมือ เมื่อเขาอายุครบบวช  มารดาจึงจัดการบวชให้  โดยจำพรรษาที่วัดสุวรรณาราม  ธนบุรี

ในระยะ ที่บวชสองพรรษานั้น นายสง่าได้มีโอกาสเข้าไปเขียนภาพรามเกียรติ์ที่พระระเบียงวัตพระศรีรัตน ศาสดารามโดยมีพระเทวาภินิมมิต (ฉาย เทียมศิลป์ไชย) เป็นผู้อำนวยการเขียนภาพที่นั่น เขาได้ฝากฝีมือไว้บนผนังพระระเบียงอันเป็นที่ยกย่องกันมาก หลังจากลาสิกขาแล้วก็มาตั้งร้านขายเครื่องดื่มที่หลังโรงพยาบาลศิริราช โดยให้บิดาเป็นผู้ขาย  ส่วนตนเองไปทำงานประจำที่ร้านคณะช่าง  อันเป็นร้านช่างเขียนรับงานเขียนต่าง ๆ และทำบล็อกด้วย  ทำงานอยู่ร้านคณะช่างได้สองปีก็ลาออก และไปทำงานที่โรงพิมพ์บุญครอง

สง่า สมรสเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๙ แล้วเลยคิดว่าจะตั้งตนด้วยการทำพู่กันขาย เขาพากเพียรแก้ไขดัดแปลงพู่กันจนดีได้ระดับมาตรฐาน  กิจการของเขาดำเนินมาด้วยดี นับวาเป็นโรงงานทำพู่กันแห่งแรกของเมืองไทย

เนื่อง จาก สง่า มยุระ ได้เคยร่วมงานเขียนภาพที่พระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดารามกับพระเทวาภินิมมิ ต  ซึ่งคุณพระก็ได้ช่วยแก้ไขติชมให้ตลอด เขาจึงมีความเคารพและนับถือคุณพระเป็นครูตลอดมา สมัยต่อมาเมื่อภาพเขียนที่วัดพระแก้วเกิดชำรุดเสียหายมาก  แม้ว่าเขาจะชราภาพมากก็ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยเขียนซ่อม บางห้องก็เขียนใหม่ทั้งหมดจนสำเร็จ

ผลงาน ของ สง่า มยุระ มีอยู่หลายแห่ง เช่น ออกแบบลวดลายตกแต่งหน้าบัน ซุ้มประตูหน้าต่างให้พระอุโบสถวัดราชบูรณะ เชิงสะพานพุทธ ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ และยังออกแบบให้วัดสัตหีบและวัดกอไผ่ที่อยุธยาเป็นต้น ระยะหลังนี้เขามีฐานะมั่นคงร่ำรวยจากกิจการค้าโรงงานทำพู่กัน เขาจึงช่วยทำงานแก่พระพุทธศาสนาโดยไม่รับเงินค่าจ้างเลย  บางครั้งถ้าทางวัดขาดแคลนเงินก็ยังช่วยทำบุญร่วมด้วย

สง่า มยุระ ถึงแก่กรรมวันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๑ นับว่าเขาเป็นจิตรกรรุ่นเก่าที่มีอาชีพเป็นจิตรกรมาตลอด และตั้งตัวได้ด้วยความพากเพียร ละด้วยฝีมือโดยแท้





Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #1 on: 17 November 2021, 09:48:39 »


เรื่องราวของศิลปินชั้นครูผู้ผลิตพู่กันสง่า มยุระ ที่เคยใช้กันเกือบทุกคนก็ว่าได้ ไปเจอบทความที่ อ.จักรพันธุ์  โปษยกฤต ท่านกล่าวถึงครูท่านนี้เอามาเล่าให้ฟังครับ
   
"เรื่องคุณลุงสง่า  มยุระกับการซ่อมพระระเบียงวัดพระแก้ว"

       คุณลุงสง่า  มยุระ  เป็นช่างเขียนรุ่นแรกๆที่ได้รับเชิญมาเขียนซ่อม ภาพระเบียงวัดพระแก้ว  ในการอนุรักษ์ครั้งใหญ่นี้ เนื่องจากช่างรุ่นแรกเป็นช่างที่เคยเขียนซ่อมมาแล้วเมื่อครั้งฉลองพระนครครบ ๑๕๐ ปี
 ในสมัยรัชกาลที่ ๗  จึงได้ถูกเชิญมาเขียนซ่อมอีกในรัชกาลที่๙  นี้ช่างเขียนรุ่นแรกเป็นช่างเขียนอาวุโสอยู่ในวัยหกสิบกว่าปีขึ้นไปทั้งนั้น  ส่วนช่างรุ่นสองคือรุ่นข้าพเจ้า  ต้องมีการสอบฝีมือดูความสามารถเสียก่อน   ก่อนที่จะไดรับความไว้วางใจเข้าไปซ่อม   การสอบฝีมือใช้เวลา ๓  วัน ณ  โรงเรียนช่างศิลปโดยคณะกรรมการกำหนดให้เขียนรูปกระบี่ลงสี  ปิดทองและมีฉากหลังในการสอบรุ่นสองมีผู้มาสมใคร๓๐คน คัดออกเหลือเพียง  ๙  คน   
ข้าพเจ้าได้พบกับคุณลุง สง่า  ในตอนนี้  เนื่องจากห้องที่เขียนอยู่ติดกัน  คือข้าพเจ้าเขียนห้อง ๑๕๙และ ๑๖๐  ลุงสง่าเขียนห้อง๑๖๑  เรื่องรามเกียรติ์มีกี่ร้อยห้องไม่ทราบแต่ห้องที่ข้าพเจ้าและคุณลุงสง่าเขียน  เป็นตอนปลายของเรื่องรามเกียรติ์แล้ว  คือข้าพเจ้าเขียนตอนนางสีดาถูกขับ  พระอินทร์แปลงเป็นควาย นำนางสีดาไปอยู่กับฤาษี   กระทั่งนางสีดากำเนิดพระบุตร  ส่วนคุณลุงสง่าเขียนตอนปล่อยม้าอุปการ    การซ่อมภาพเขียนแต่ละห้องมีวิธีการไม่เหมือนกัน   ห้องของคุณลุงสง่าและข้าพเจ้าเป็นห้องที่ทรุดโทรมมาก  ภาพเก่ากระเทาะหลุดหมดหาเค้าเดิมไม่พบ  จึงต้องเขียนขึ้นใหม่
จัดองค์ประกอบและตัวภาพใหม่ทั้งหมด   ไม่ใช่เขียนซ่อม  คณะกรรมการจะเป็นผู้กำหนดราคาในการเขียนซ่อมห้องแต่ละห้องซึ่งราคาไม่เท่ากัน  โดยกำหนดก่อนที่จะลงมือเขียน  เนื่องจากข้าพเจ้าเป็นผู้อ่อนอาวุโสที่สุด ที่สนิทคุ้นเคยกันนอกจากลุงสง่าแล้วยังมีลุงโหมด ว่องสวัสดิ์  คุณลุงสงวน  รักมิตร   คุณลุงด่วน  สังข์ทองเล็ก     ลุงสง่า มยุระจะใช้เวลาเขียนภาพๆหนึ่งนานมากคือเริ่มเขียนก่อนข้าพเจ้าเข้ามาหลายเดือนแต่เขียนเสร็จในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน   ช่างเขียนเมื่อมาทำงานต้องเซ็นชื่อไว้เป็นหลักฐานที่กองอนุรักษ์   ช่างเขียนมีสิทธิเบิกเครื่องเขียน  สีฝุ่น  กาว  ทองคำเปลว  ยางมะเดื่อที่ใช้ปิดทอง  พู่กันได้จากกองอนุรักษ์





คุณลุงสง่า จะมาที่ผนังตอนเช้าประมาณ ๙ โมง  เพราะบ้านท่านอยู่ใกล้วัดพระแก้วข้ามเรือที่ท่าวังหลังมาท่าช้าง  มีน้อยครั้งที่จะมาตอนบ่ายพอถึงเวลาพักเที่ยง คุณลุงสง่าจะเดินออกไปทานอาหารข้างนอกตกบ่ายก็จะมาเขียนรูปที่ฝนังต่อ ถ้าอากาศร้อนคุณลุงสง่าก็จะถอดเสื้อเชิ๊ตออก เหลือแต่เสื้อกล้ามนั่งทำงานอย่างกระปี้กระเปร่า  เพราะนั่งร้านอยู่ติดกับกับคุณลุงสง่าได้เห็นวิธีการทำงานอันปราณีต   ล้างพุ่กันอย่างพิถีพิถันทุกครั้งที่เสร็จงาน  ไม่ปล่อยพู่กันเลอะสีไว้จนแห้งเเข็ง ไม่แช่ผู้กันทิ้งไว้ค้างคืนจนปลายงอ   ช่างเขียนภาพผนังในสมัยรัตนโกสินทร์มักจะร่างภาพตัวละครทั้งหมดด้วยหมึกจีน แล้วลงพื้นฉากหลังกลบตัวละครทั้งฝืน  จึงค่อยเขียนสีและตัดเส้นตัวละครที่ร่างไว้  ตั้งแต่ตอนต้น โดยหมึกจีนที่ร่างไว้จะขึ้นมาให้เห็นพอลางๆ  แต่ลุงสง่าท่านร่างภาพด้วยดินสอดำบ้าง ชอล์กบ้าง  ลงไปบนผนังขาวๆ แล้วระบายสีเสร็จไปเป็นส่วนๆ  จากบนลงล่างตามลำดับโดยระบายสีท้องฟ้าจนเสร็จแล้วมาระบายสีราชวังเว้นตัวละครเป็นสีขาวของพื้นผนัง  ภาพร่างตัวละครนั้นลุงสง่าร่างไว้อย่างละเอียดทุกสัดส่วนโดยร่างบนกระดาษและลอกลงบนผนังอีกที เมื่อเขียนฉากหลังเรียบร้อยจึงเริ่มลงสีตัวละคร     ระบายสีตัวและเครื่องนุ่งห่มก่อน  แล้วใช้รงระบายส่วนที่เป็นชฎาและเครื่องประดับแล้วจึงทายางมะเดื่อทับรง เพื่อปิดทอง  ตัดเส้นในขั้นต่อไป  ในการเขียนภาพคุณลุงสง่าใช้ไม้ยาวเป็นสะพานรองมือทุกครั้งไม่เคยใช้มือทาบกับผิวผนังเลยด้วยเกรงว่าเส้นสีแดงที่ตัดลงไปบนทองจะติดเหงื่อมือขึ้นมา    ตลอดเวลาหลายเดือนที่ทำงานอยู่ใกล้กันที่วัดพระแก้วคุณลุงสง่า มักเล่าถึงชีวิตการทำงานเป็นช่างเขียน  การทำพู่กัน "สง่า  มยุระ "  อันลือชื่อของท่าน  เมื่อคุณลุงสง่า มยุระเขียนฝนังของท่านเสร็จ  ท่านนำเงินค่าเขียนภาพทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย


Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #2 on: 17 November 2021, 09:50:06 »


ฟังเรื่องเล่าถึงการทำงานของครูสง่า มยุระแล้วคงต้องดูผลงานของท่านต้องยอมรับว่าท่านมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบมากลองดูผลงานของท่านทีละชิ้นครับ  บางภาพอาจไม่ชัดบ้าง  เนื่องจากระบบการพิมพ์ในสมัยก่อนครับ







ผลงานชิ้นต่อมาครับ





ผลงานชิ้นต่อมาครับ  บางงานผมเพิ่งเกิดได้ปีเดียวเอง  สังเกตพระจันทร์ด้านหลังเขียนได้ความรู้สึกจริงๆ








Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #3 on: 17 November 2021, 09:51:45 »


การออกแบบเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมไทยครับ






















































































Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 9,454


View Profile
« Reply #4 on: 17 November 2021, 09:54:26 »


งานออกแบบลวดลายทางสถาปัตยกรรมต่อ








ทิ้งท้ายไว้สำหรับผลงานของครูท่านนี้ครับถ้าเจอผลงานใหม่ๆของครูท่านนี้  จะนำมาลงให้ชมต่อครั้งต่อไปครับ








jean1966

ภาพทั้งหมดเหล่านี้ มาจากหนังสืออัตตชีวประวัติของท่าน ของผมเคยมี แต่ภายหลังหายสาปสูญสมัยเรียน เสียดายมาก เพราะเป็นหนังสือเล่มนึงที่สร้างแรงบันดาลใจให้มาเรียนจิตรกรรมไทยเลย ขอบคุณน้องยุทธที่นำมาให้ดู ปูชนียบุคคลบ้านเราล้มหายตายจากไปทีละคน อนาคตต่อจากนี้เราชาวชมรมฯจะสืบสานเจตนารมณ์ท่านเหล่านั้นให้ศิลปะไทยอยู่คงคู่เมืองไทยสืบต่อไป


.....
kui045

เห็นภาพจิตรกรรม ฝาผนัง
ตอนหนุมานอมพลับพลา
ใน คห.2 และ คห. 4
นี่เป็นงานของครูสง่าทั้ง 2 ภาพเลยใช่ไหมครับ
อารมณ์ภาพต่างกันจัง

ภาพ 4 นี่เป็นตาหนุมานแล้วได้อารมณ์ดีจริง

เคยอ่านบทความวิพากษ์(ในแง่ไม่ดีนัก)
งานซุ้มหน้าบันที่วัดราชบูรณะของครูสง่า
ที่เป็นภาพนูนลอยตัว ออกมาอยู่บนฐาน
แล้วมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างครับ


.....
yutthana

เป็นผลงานของครูสง่าทั้งสองห้องครับเพียงแต่หนุมานอมพลับนี่อ.สง่า  เขียนเมื่อ๒๔๗๓  และอ.โหมด  ว่องสวัสดิ์ มาซ่อมเมื่อ๒๕๑๗  ครับ    อีกห้องที่อ.สง่างามคือห้อง ๑๐๔  ตอนฤาษีโคบุตรพาหนุมานไปเฝ้าทศกัณฐ์  เขียนพระราชวังงามมากเขีนย๒๔๗๒   นายสวาท  ภมรจันทร์เขียนซ่อม   ๒๕๑๘    ห้องที่๑๖๑  ตอนปล่อยม้าอุปการ   ซึ่งอ.สง่าซ่อมเองในปี๒๕๑๕   อีกห้องคือห้อง๑๗๘เป็นตอนจบของเรื่องรามเกียรติ์ครับ ซ่อมโดยนายสวาทอีกเช่นกัน     ส่วนเรื่องการวิจารณ์บทความนั้นเป็นเรื่องธรรมดาครับ  ที่จะมีในทางลบบ้างทางบวกบ้างคงต้องดูเจตนาอาจจะผิดหลักของการทำประติมากรรม แต่ถ้าดูภาพรวมแล้วผลว่าเป็นงานที่ดีครับ  เหมือนตัวท่านอ.สง่าเองท่านเป็นครูคนหนึ่งที่เป็นส่วนเชื่อมโยงสืบทอดงานศิลปไทยมาสู่พวกเราในปัจจุบันท่านหนึ่ง ท่านมีคุณความดีมากมาย และถ้าไม่มีท่านผมจะหาพู่กันที่ไหนใช้เขียนรูปได้ได้ละครับ  ผลงานทุกชิ้นของครูในแต่ละช่วงเวลาถือว่าเป็นอัญมณีสีสรรค์ในแต่ละช่วงเวลาครับ  พวกเราคงเก็บสิ่งดีที่เป็นภูมิปัญญาของท่านไว้  ส่วนที่ไม่ดีบ้างก็เอามาปรับปรุงตัวเองต่อไปครับ



.....
เรื่องและภาพของ yutthana
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3311.0



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.091 seconds with 20 queries.